เสิ่นหยวูแต่งงานกับเหอซวี่ที่เป็นสูติแพทย์ตอนอายุยี่สิบสี่ปี สองปีต่อมา เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ห้าเดือนแล้ว เหอซวี่ก็วางแผนแท้งลูกเธอด้วยมือตัวเอง และหย่าร้างกับเธอ ระหว่างช่วงเวลาที่มืดมนเหล่านี้ ตู้หยวุนปรากฏตัวเข้าในชีวิตของเสิ่นหยวู เขาทำดีต่อเธออย่างอ่อนโยน และให้ความอบอุ่นแก่เธออย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ในขณะเดียวกัน เขาก็ทำให้เธอต้องเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนเช่นกัน สุดท้าย เสิ่นหยวูจึงเข้มแข็งขึ้นหลังผ่านพ้นไปกับทุกอย่างแล้ว แต่เมื่อความจริงก็ถูกเปิดเผยในที่สุด เธอจะยอมรับและอดทนได้ไหม? อยู่เบื้องหลังตู้หยวุนผู้ที่หล่อเหลาดูมีเสน่ห์นั้นเป็นใคร?และเมื่อพบคำตอบแล้ว เสิ่นหยวูจะรับมือยังไง ?
ฉันกลอกตามองบนใส่ตัวเองในกระจก ฉันไม่อยากเชื่อเลยว่าตัวเองจะแต่งตัวเปิดเผยยั่วยวนได้ขนาดนี้ แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกนี่นา
ฉันแต่งงานกับเหอซวี่มาได้สองปีแล้ว วันนี้ ก็เป็นวันฉลองครบรอบวันแต่งงานของเราทั้งคู่ ตลอดสองปีมานี้ เขาไม่ค่อยมีอารมณ์ที่จะมีอะไรกับฉันเท่าไหร่นัก ถ้าฉันไม่เป็นฝ่ายเข้าหาเขาก่อน ฉันกลัวว่า สักวันนึง ฉันจะต้องเสียเขาไป คืนนี้ฉันจึงตัดสินใจที่จะลงทุนทำทุกอย่างเพื่อเอาชนะใจของเขาให้ได้
วินาทีต่อมา ฉันก็ได้ยินเสียงดับเครื่องยนต์รถดังมาจากหน้าต่าง
ฉันจึงถอดเสื้อคลุมออก แล้วเดินออกจากห้องในชุดกระโปรงสลิปสีแดง
“ฉันคิดถึงคุณมากเลยค่ะ ที่รัก” ฉันเอื้อมมือไปโอบรอบคอของเขาแล้วบรรจงจูบที่ริมฝีปากของเขา
เหอซวี่กลับผลักฉันออก ก่อนจะเหลือบมองมาทีฉัน ฉันรู้สึกได้ว่า เขาเคลิบเคลิ้มไปชั่วครู่
ฉันเลยแอบดีใจขึ้นมา ที่ฉันทำแบบนี้ เขาคงชอบสินะ
“ทำไมต้องแต่งตัวแบบนี้ล่ะ?”
เขาถามขึ้นขณะที่กำลังเดินไปนั่งที่โซฟา
“ที่รัก คุณจำได้ไหมคะว่า วันนี้วันอะไร?” ฉันถามแบบลองชิง หลังจากที่นั่งลงข้าง ๆ เขา
เหอซวี่อึ้งไปครู่นึง ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเฉยเมยว่า “วันอะไรเหรอ?“
ความผิดหวังแวบเข้ามาในใจของฉัน แต่ฉันก็ยังฝืนยิ้ม
“ไม่มีอะไรเป็นพิเศษหรอกค่ะ ฉันแค่ล้อเล่นน่ะ“ ฉันเอนตัวเข้าไปซบในอ้อมแขนของเขา สอดมือเข้าไปในเสื้อ ลูบไล้หน้าอกของเขา “คุณอยากจะไปอาบน้ำมั้ยคะ ที่รัก ฉันจะไปเตรียมน้ำให้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกจ้ะ ถ้าไม่มีอะไร ผมขอไปพักสักก่อนนะ”
จากนั้นเขาก็ผลักฉันออกไปแล้วเดินไปยังห้องหนังสือ
ฉันได้แต่นั่งนิ่ง ๆ อยู่บนโซฟา พลางกำหมัดแน่นจนรู้สึกเจ็บจากเล็บกำลังจิกฝ่ามือ
เขาย้ายไปนอนห้องหนังสือตั้งแต่ฉันท้อง โดยบอกว่า ไม่อยากให้ลูกในท้องได้รับบาดเจ็บหรือกระทบกระเทือน
ฉันเพิ่งจะอายุครบยี่สิบหกปีเท่านั้นเอง ฉันแต่งงานแล้วและกำลังตั้งท้องอยู่ และฉันต้องนอนโดดเดี่ยวคนเดียวทุกคืน ทุกวันนี้ฉันรู้สึกเหงามาก
ครั้งหนึ่ง ฉันเคยแอบหาคำตอบทางออนไลน์ แล้วก็เจอความคิดเห็นหนึ่งที่กระตุ้นความสนใจของฉัน มีคนบอกว่าที่สามีฉันไม่มีอารมณ์กับฉันอาจเป็นเพราะว่า เขาได้เห็นเรือนร่างของผู้หญิงมามากแล้ว
ซึ่งมันก็เป็นไปได้ เพราะเหอซวี่ทำงานเป็นสูติแพทย์
แต่มันก็มีอะไรบางอย่างกวนใจฉันมาตลอด
ทุกครั้งที่เขาอยู่ในห้องหนังสือ เขามักจะล็อคประตูห้องเสมอ ในบ้านหลังนี้ มีเราแค่สองคนเท่านั้น ทำไมต้องล็อกประตูห้องด้วยล่ะ? มันช่างดูไร้สาระสิ้นดี มันทำให้ฉันอดสงสัยไม่ได้ว่าเขาอาจจะซ่อนอะไรบางอย่างไว้ในนั้นหรือเปล่า
ฉันครุ่นคิดอย่างหนักเกี่ยวกับเรื่องนี้มาหลายวันจนกระทั่งกลายเป็นคนวิตกจริตไปเลย ฉันคิดมากจนมันเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันของฉันแล้ว
บ่ายนี้ ฉันจึงแอบติดเครื่องดักฟังไว้ใต้เตียงของเขาแล้วจะได้เลิกสงสัยไปต่าง ๆ นา ๆ สักที
ทันทีที่กลับถึงห้อง ฉันก็รีบใส่หูฟังเลย
พอเชื่อมต่อสัญญาณได้ ฉันก็ได้ยินเสียงหอบและเสียงครางอย่างชัดเจน ทันทีนั้น ฉันรู้สึกลำคอตีบตันน้ำตาไหลปริ่ม
เขาเลือกที่จะช่วยตัวเองแทนที่จะมีเพศสัมพันธ์กับฉันงั้นเหรอ?
ทว่าสิ่งที่ฉันได้ยินตามมาทำให้ฉันถึงกับช็อค
“รู้สึกดีใช่ไหม หืม?”
“ไม่…ไม่เอา ไม่เอา“
“นี่ ที่รัก เธอบอกว่าไม่เอา แต่น้องสาวของเธอเปียกชุ่มแล้วนะ”
“ในเมื่อตัวเองก็รู้อยู่แล้ว…จะถามทำไมล่ะ? อย่านะ อย่าทำแบบนี้สิจ๊ะ เราไม่ชอบแบบนี้หน่ะ โอ๊ย ฉันอดใจไม่ไหวแล้วค่ะ ที่รัก เข้าในตัวฉันเถอะค่ะ ที่รัก“
“มาถอดกางเกงในของผมออกซะ เร็วเข้า! ถอดมันออกไปซะ แล้วผมจะให้ตัวเองได้กินอะไรดี ๆ สักอย่าง”
ฉันช็อคไปกับสิ่งที่ได้ยิน
คำพูดเร้าอารมณ์ของพวกเขานั้นดังก้องอยู่ในหูของฉัน ฉันรู้สึกเหมือนกำลังมีคนราดน้ำเย็นจัดทั้งถังลงบนหัวของฉัน ทั้งแขนและขาของฉันชาจนแข็งยะเยือกเข้าไปถึงกระดูก
“อีม นุ่มนวลหน่อยค่ะ เหอซวี่ เบา ๆ หน่อยค่ะ“
“โอ๊ย เธอบีบผมแน่นจริง ๆ เก็บเสียงครางให้มันเบา ๆ หน่อย เดี๋ยวคนข้างนอกก็ได้ยินหรอก”เขาบอก
“คุณคงกลัวว่าภรรยาของคุณจะมาได้ยินเราเข้าใช่ไหม เหอซวี่”
“เปล่าสักหน่อย ผมจะไปกลัวเธอทำไม? เมื่ออยู่บนเตียง เธอเป็นแค่ร่างที่ไร้วิญญาณทุกที น่าเบื่อจะตายไป เวลามีอะไรกับเธอ ไม่มีความสุขเลยสักนิด! ผมล่ะอยากจะให้เธอรู้จริง ๆ ว่าตอนนี้ผมมีความสุขมากแค่ไหน! ร้องครางให้ดัง ๆ ไปเลย เธอจะได้รู้ว่าผมกำลังทำให้เธอรู้สึกดีมากแค่ไหน!“ แล้วเหอซวี่ก็ส่งเสียงครวญครางออกมา
สุดท้ายฉันก็รุ้ว่า ที่แท้เขารังเกียจฉันมาตลอดเลย
“อุ๊ย ไม่เอาหน่ะ ตัวเองนี่ น่าเกลียดจริง ๆ เลย ตอนนี้เธอกำลังท้องอยู่นะ ถ้าเธอโกรธหรือเครียดขึ้นมา เธออาจแท้งได้นะ คุณไม่กลัวเหรอ?”
“แท้งน่ะเหรอ อืม…ก็ฟังดูจะเป็นความคิดที่ดีนะ” เหอซวี่ตอบ
“คุณนี่มันเหลวไหลจริง ๆ เลย เหอซวี่ โอ๊ย เบา ๆ หน่อยนา”
พวกเขาต่างดื่มด่ำกับร่างกายของกันและกันโดยไม่คิดซ่อนเร้นแรงปรารถนา จนฉันสามารถรู้สึกได้เลยว่าเซ็กส์ของพวกเขากำลังดำเนินต่อไปอย่างเร่าร้อนแค่ไหน
ฉันต้องเอามือปิดปากไว้แน่นเพื่อกั้นไม่ให้ร้องสะอื้นออกมาดัง ๆ แต่ฉันไม่อาจหยุดน้ำตาตัวเองได้เลย
ทุกคำพูดของสามีฉันและเสียงหอบกระหายด้วยไฟปรารถนาของเขาเหมือนมีดสั้นทิ่มแทงเข้าหัวใจของฉันให้แตกสลาย ฉันเจ็บปวดมากจนเกินบรรยาย ได้แต่ร้องไห้คร่ำครวญในความเงียบ แล้วหมอนของฉันก็เปียกชุ่มอย่างรวดเร็วด้วยน้ำตาของฉันเอง
ฉันไม่อาจทนฟังการพร่ำพรอดทรยศของพวกเขาได้อีกต่อไปเลยถอดหูฟังออก กอดขาตัวเองแล้วขดตัวกลม
ในคืนนั้น ฉันต้องเสียน้ำตาไปมากมาย มันเป็นค่ำคืนที่เจ็บปวดทรมาณที่สุดในชีวิตของฉัน
ฉันได้แต่คิดคร่ำครวญวนไปวนมาตลอดทั้งคืน
แม้ว่าหลักฐานทั้งหมดจะชี้ให้เห็นถึงความจริงเรื่องนี้ แต่ฉันก็ไม่เชื่อว่ามีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่ในห้องหนังสือ เพราะว่ามันไม่มีที่ไหนในนั้นที่จะซ่อนใครไว้ได้ ดังนั้น ความเป็นไปได้เพียงอย่างเดียวที่ฉันคิดได้ก็คือ เขาอาจกำลังช่วยตัวเองไปพร้อมกับคุยทางวิดีโอกับผู้หญิงอีกคนหนึ่ง
แล้วฉันก็นึกเสียใจที่ติดตั้งแค่เครื่องดักฟังไม่ได้ติดกล้องขนาดเล็กไว้ด้วย ฉันน่าเอากล้องวงจรไปติดไว้ด้วย
หลังจากครุ่นคิดด้วยความแค้นใจมาตลอดทั้งคืน ฉันก็ค่อย ๆ สงบลงจากความตกใจนั้น หลังจากนั้น ฉันก็ตัดสินใจไปที่ห้องหนังสือเพื่อสืบหาเบาะแสเพิ่มเติม
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น “กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?” เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
ชีวิตเธอกำลังมีความสุข แต่แล้วก็ประสบอุบัติเหตุมาอยู่ในยุคโบราณ อยู่โบราณไม่ว่าถ้ามาอยู่ในร่างเด็กที่แม่ป่วย พ่อพิการ แถมตัวเองก็เป็นคนเดียวที่พอจะหาอาหารให้พวกเขาได้!!
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
ปลายฟ้าอยากมีแฟนเแต่กลัวกระทบการเรียนเธอจึงเลือกที่จะมี ONS เพราะอยากรู้ว่าความสุขบนเตียงมันเป็นแบบไหน แต่คนที่เธอมีแต่คนที่เธอมีค่ำคืนพิเศษด้วยกับกลายเป็นกลายเป็นอาจารย์คนใหม่ที่เพิ่งย้ายมา