มะลิ หญิงสาวที่ต้องทำงานเป็นคนรับใช้อยู่ในคฤหาสน์หลังใหญ่เพื่อชดใช้หนี้ แต่ความโชคร้ายคือเธอดันตกเป็นทาสกามารมณ์ของ คุณตาม ลูกชายคนเล็ก ของคุณหญิงวงแหวน ที่คอยหาเรื่องแกล้งเธอ เพราะคุณหญิงเกลียดเธอยิ่งกว่าอะไรดี แต่อยู่ๆ คุณหญิงก็ปล่อยให้เธอเป็นอิสละ มะลิจึงรีบคว้าโอกาสนี้ไว้ หนีไปอยู่กับเพื่อนสาวและเพื่อนชายคนสนิท แต่เธอกลับมารู้ตัวว่าตั้งท้อง ถึงเธอจะเลือกเก็บลูกไว้ และเลือกจะใช้ชีวิตอย่างสงบ แต่ทุกอย่างมันกลับไม่เป็นไปตามที่เธอคิด คุณตามปล่อยนะคะ เดี๋ยวคุณหญิงจับได้ คุณก็รู้ว่าคุณหญิงเกลียดฉัน ก็อย่าให้ใครรู้สิ ถ้าเธอไม่พูด ฉันไม่พูด เรื่องของเรา มันก็จะเป็นแค่ความลับ แต่ว่า อย่ามัวแต่หาข้ออ้างยื้อเวลาฉันเลย เธอแค่อ้าขาก็พอ..
ตอนที่1
เริ่มต้นชีวิตใหม่
"เรื่องของเรา ขอให้มันจบลงแค่นี้นะคะ คุณตาม"
หญิงสาวร่างเล็ก ได้ยืนร่ำลาทั้งที่ในห้องไม่มีใคร แววตาของเธอปนเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตา ภายในห้องที่กว้างใหญ่และเต็มไปด้วยความทรงจำที่ทุกข์และสุข เธอได้มองไปรอบๆห้องอย่างใจหาย ก่อนจะวางมือถือรุ่นใหม่ล่าสุดลงบนโต๊ะข้างๆเตียงนอน นิ้วเรียวปาดไปที่แก้ม ที่เปื้อนไปด้วยน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด ก่อนจะหันหลังเดินออกมา ด้วยหัวใจที่บอบช้ำ
เธอกำเงินที่มีอยู่พันกว่าบาทและเดินออกมาจากบ้านหลังใหญ่ที่เธออาศัยอยู่ตั้งแต่เด็ก นี่เป็นครั้งแรกที่เธอได้ออกจากบ้านหลังนี้โดยที่ไม่มีคนอื่นคอยตามเธอและสั่งเธอให้ซื้อของนั่นนี่ เธอไม่เคยได้ไปไหนคนเดียว ทุกครั้งที่เธอจะไปไหน ต้องมีคนอื่นไปด้วย เพราะเธอนั้น เปรียบเสมือนทาสที่ต้องอยู่เพื่อชดใช้หนี้
เธอหันหลังมองประตูรั้วและคิดว่าเธอคงไม่ต้องกลับมาที่นี่อีก ในตอนนี้ถึงเธอจะเสียใจ แต่อีกใจนึง เธอกลับดีใจที่ตัวเธอนั้นได้เป็นอิสละ เธอนั่งยิ้มบนรถทัวร์ในขณะที่ที่มองวิวไปเรื่อยๆ จนมาถึงจุดหมาย หญิงสาวแต่งตัวบ้านๆได้เดินลงจากรถทัวร์และมองไปรอบๆด้วยความกลัวปนความตื่นเต้น ในตอนนี้เธอไม่มีมือถือที่จะติดต่อกับเพื่อนที่เธอนัดไว้ เธอพยายามมองหาตู้โทรศัพท์ แต่นี่มันสมัยไหนแล้ว เธอมานั่งลงบนเก้าอี้และมองไปยังผู้คนรอบๆ เพื่อหวังว่าจะเจอกับคนที่เธอนัดไว้
เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ท้องเริ่มร้องด้วยความหิว หญิงสาวเปิดดูกระเป๋าเงินของตัวเองที่ในตอนนี้เหลืออยู่ไม่กี่ร้อยบาท เธอใช้เงินไปกับการเดินทางมาที่นี่ และตอนนี้เธอเริ่มกังวลว่าเพื่อนเธอจะทิ้งเธอ ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้น เธอคงตายแน่ๆ เธอนั้นตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ เพื่อนคนนี้คือที่พึ่งเดียวที่เธอมีอยู่
"มะลิ" ในขณะที่ที่จิตใจเริ่มกะวนกะวาย ก็มีคนเรียกชื่อเธอ เสียงที่เธอรอคอย
หญิงสาวเงยหน้ามองที่ต้นเสียงทั้งๆที่น้ำตาคลอเบ้าด้วยความกลัว
"ใยไหม" เสียงได้ลอดออกจากลำคอที่พยายามจะกลั้นเอาไว้ น้ำตาที่กลั้นเอาไว้ได้ไหลลงมาอาบแก้มที่ไร้เครื่องสำอาง
"ขอโทษทีมะลิ" ไยไหมรีบโผกอดเพื่อนด้วยความรู้สึกผิด ที่เธอมาสายจนทำให้เพื่อนขวัญเสีย
"ฉันนึกว่าแกจะทิ้งฉันไปอีกคนแล้ว" หญิงสาวที่ร้องไห้ได้โผเข้ากอดกลับอีกฝ่าย
ทั้งสองปลอบใจกันอยู่สักพัก จนมะลิหันไปเห็นชายหนุ่มที่ยืนมองทั้งสองอยู่ เธอรีบเช็ดน้ำตาอย่างร้อนรน
"พี่กล้า อย่ามองแบบนั้นสิ มะลิเค้ากลัวหมด"
"รีบไปขึ้นรถกันเถอะ เดี่ยวจะมืดไปกว่านี้" ชายหนุ่มพูดพร้อมก้มไปหยิบกระเป๋าเก่าๆที่วางอยู่ข้างๆ
"ไม่เป็นไรค่ะพี่กล้า มะลิถือเองดีกว่า" มะลิรีบคว้ากระเป๋ามาถือไว้ด้วยความเกรงใจ
"ไม่เป็นไร เดี่ยวพี่ช่วย มะลิมีกระเป๋าใบเดียวหรอ" ชายหนุ่มยิ้มและถามกลับอย่างสุขุม
"ค่ะ "
......................................................
(ในรถ)
"ขอโทษทีนะมะลิ ที่พี่กับไยไหมมารับช้า " กล้าพูดและมองมะลิด้วยแววตาที่อ่อนโยน มะลิได้ยิ้มตอบโดยที่ไม่ได้ถามอะไรต่อ สำหรับเธอนั้น แค่พวกเขามารับตามนัดหมาย ก็ดีใจมากแล้ว
"แหมพี่กล้าพูดเพราะจังเลยนะ" ไยไหมอดแซวเพื่อนชายไม่ได้ที่มักจะพูดเพราะและอ่อนโยนกับมะลิเสมอ ทั้งสามเป็นเพื่อนกันตอนเรียนม.ปลาย โดยที่กล้ากับไยไหมนั้นบ้านไกล้กันและทั้งสองบ้านยังร่วมกันทำไร่และรีสร์อท ทั้งสองเลยสนิทกันและมักจะเทลาะกันอยู่เสมอ
"พี่ก็เป็นแบบนี้เป็นปรกติอยู่แล้ว "
ไยไหมได้แต่ทำหน้าล้อเลียนอีกฝ่าย จนชายหนุ่มนั้นส่ายหน้าหนี
"ว่าแต่ทำไมคนบ้านนั้นถึงปล่อยให้มะลิเป็นอิสละล่ะ " กล้าได้ถามขึ้น ไยไหมที่ได้ยินก็รีบตบไปที่ไหล่ของกล้าที่ถามอะไรแบบนี้
"คือ คุณหญิงบอกว่ามะลิชดใช้หนี้หมดแล้วค่ะ"
"ออ แบบนี้เอง คุณหญิงนี่ บทจะปล่อย ก็ปล่อยง่ายดีนะ"
"มะลิไม่มีใคร ไม่รู้จักใคร เลยลองโทรหาเบอร์ที่ไยไหมเคยให้ไว้ โชคดีที่ไยไหมยังใช้อยู่" มะลิพูดด้วยแววตาที่เศร้า ไยไหมได้แต่จับมือเพื่อนเพื่อให้กำลังใจ
"ไม่เป็นไร มะลิมาอยู่กับเราที่นี่ มาเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ มาช่วยเราทำรีสร์อท มะลิเรียนเก่ง เราเชื่อว่ามะลิทำได้"
"จริงหรอ ไยไหมจะให้เราอยู่ที่นี่จริงหรอ"
"อือ "
"ขอบใจนะ มะลิสัญญา มะลิจะตั้งใจทำงาน จะไม่ทำตัวให้เป็นภาระของไยไหมเลย"
มะลิขอบคุณไยไหมด้วยสีหน้าแววตาที่มีความสุข กล้าได้แต่มองมะลิจนเผลอยิ้มออกมา สายตาที่กล้ามองมะลินั้น มันไม่ใช่สายตาที่มองเพื่อน
...........,,,(สองเดือนผ่านไป)...................
มะลิได้มาทำงานที่รีสร์อท จากหญิงสาววัยรุ่นที่มีความโศกเศร้าจนส่งผ่านออกมาด้วยสีหน้าที่ไม่เคยยิ้มแย้ม ในตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความสุขหน้าตาที่ยิ้มแย้ม จากคนที่ไม่เคยมีความมั่นใจ ในตอนนี้กลับกลายเป็นหัวหน้าที่คอยดูแลลูกน้องและโชว์ศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่ จนทำให้รีสร์อทและสวนของครอบครัวกล้าและไยไหมไปได้ดีอย่างรวดเร็ว ทั้งสามร่วมด้วยช่วยกันทำงานด้วยกันอย่างเป็นระบบ จนทำให้เริ่มมีชื่อเสียง ทุกอย่างนั้นไปได้ดีอย่างก้าวกระโดด กล้ากับไยไหมมักจะพามะลิไปเที่ยวเปิดหูเปิดตา เพราะมะลินั้นบ้างานเป็นที่สุด กล้าเริ่มลุกจีบมะลิอย่างชัดเจนขึ้น แต่เจ้าตัวกลับไม่รู้ตัวเลย
"หัดดื่มบ้างสิมะลิ" ไยไหมได้ส่งซิกไปยังแก้วที่วางอยู่ตรงหน้ามะลิ
"ไม่เอา ขมจะตาย" มะลิตอบกลับด้วยความซื่อ ถึงเธอจะเป็นหญิงเก่ง แต่เรื่องของมึนเมานั้นเธอเข้าไม่ถึงจริงๆ
"พีกล้าไปไหนของเค้านะ "
"ทำไม คิดถึงหรอ" มะลิที่มองออกว่าเพื่อนสนิทของตนนั้นแอบมีใจให้กลับกล้า ถึงจะทำท่าทีรำคาญและชอบชวนเทลาะ แต่เธอนั้นรู้ใจเพื่อนตัวเองดี
"บ้าหรอ" ไยไหมรีบยกเหล้าขึ้นก่อนจะกระดกจนหมดแก้วแก้เขิน
.......................……............................
"ต้องเป็นพี่กล้าที่มารับและคอยพาเราสองคนกลับ ขอบคุณนะคะ" มะลิได้ขอบคุณพี่กล้าพี่ชายที่เธอนั้นเคารพ กล้าแบกไยไหมขึ้นหลังระหว่างเดินเข้าบ้าน เพราะทั้งสามแอบไปเที่ยวจนดึก เลยไม่กล้าที่จะขับรถเข้ามาในบ้าน กล้าเลยไม่มีทางเลือกอื่น นอกจากแบกคนเมาเข้าบ้านให้ได้เงียบที่สุด แต่ถึงอย่างนั้น กล้ากลับดีใจ ที่ระหว่างทางเดินเขาได้คุยกับมะลิหญิงสาวที่เขาแอบรักและพยายามพิชิตใจเธออยู่ถึงแม้เหมือนเธอนั้นจะมีกำแพงปิดกั้น แต่เขานั้นก็จะพยายาม
"ไม่เป็นไร พี่เต็มใจ พี่ชอบเวลาที่ได้อยู่กับมะลินะ"
"พี่กล้า" มะลิที่ได้ยินแบบนั้น เธอรู้ความหมายของเขาดี แต่ในตอนนี้ เธอยังไม่พร้อม
"ไม่ต้องทำหน้าแบบนั้น พี่แค่อยากให้เรารู้ไว้ "
"แต่มะลิ เคารพพี่กล้าเหมือนพี่ชายคนนึง ไม่ได้..."
"อย่าพึ่งรีบปฏิเสธพี่สิ ให้เวลาพี่หน่อย ให้พี่กับมะลิเราได้รู้จักกันมากขึ้น ถึงตอนนั้นค่อยปฏิเสธพี่ก็ไม่สาย"
มะลิไม่ได้ตอบกลับอะไร เธอนั้นไม่กล้าเปิดใจให้ใครในตอนนี้ เพราะความรักครั้งเก่า มันยังคงฝังใจเธออยู่
......................................................
(เช้าวันถัดมา)
มะลิตื่นแต่เช้าเหมือนทุกๆวัน ถึงแม้เธอนั้นจะไปเที่ยวจนดึกหรือทำงานจนดึกแค่ไหน แต่เธอมักจะตื่นเช้าและเข้างานก่อนคนงานอยู่เสมอ สำหรับคนอื่นอาจจะดูว่าเธอนั้นหักโหม แต่สำหรับเธอนั้นมันเป็นเรื่องปรกติ ก่อนที่เธอจะมาที่นี่ เธอทำงานเป็นคนใช้ เธอจะต้องตื่นไปตลาดตั้งแต่ตีสาม บางทีกว่าจะได้นอนก็ปาเข้าไปสี่ห้าทุ่ม เพราะคุณหญิงมักจะแกล้งใช้เธอทำงานจนดึกอยูเป็นประจำ
"เข้าไร่แต่เช้าเลยนะ" ไยไหมที่ยังมีสีหน้าเมาค้างได้ทักทายเพื่อนสาวในขณะที่ตัวเองยังหาวอยู่
"วันนี้เราต้องไปดูรีสร์อทพี่กล้าด้วย เลยต้องรีบเครียงาน แล้วสั่งงานคนงานไว้ "
"แกไปคนเดียวได้ไหม ขอฉันงีบอีกนิด"
"เดี่ยวพ่อกับแม่แกจับได้ แกจะโดนทำโทษให้ไปเก็บขี้วัวขี้ม้าในไร่เอานะ"
"มะลิ!!!!!!!"
ระหว่างที่พูดแซวเพื่อสาว มะลิได้วูบจนเป็นลมไป ไยไหมเลยต้องรีบพาส่งโรงพยาบาล
มะลิได้ลืมตาขึ้นก่อนมองไปรอบๆที่เต็มไปด้วยเตียง เธอรู้และเข้าใจได้ทันทีว่าตอนนี้เธออยู่ที่โรงพยาบาล
"สงสัยนอนน้อย" มะลิได้บ่นพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะพยายามลุกขึ้นจากเตียง พยาบาลเลยรีบวิ่งเข้ามาประคองอย่างร้อนรน
"อย่าพึ่งขยับค่ะคนไข้ นอนพักก่อนนะคะ เดี่ยวพยาบาลไปตามญาติให้"
"ค่ะ" มะลิได้แต่ตอบตกลงไปอย่างเลี่ยงไม่ได้
ผ่านไปไม่ถึงนาที ไยไหมได้เดินเข้ามาด้วยสีหน้าที่ดูไม่ดีเท่าไหร่
"มะลิแกเป็นไงบ้าง"
"ดีขึ้นแล้ว ขอบใจแกมากนะ"
"อือ วันหลังก็อย่าหักโหมอีกล่ะ"
"ไม่หรอก ฉันแค่นอนน้อย"
"คือตอนนี้แกต้องพักผ่อนเยอะๆแล้วนะ "
"จร้าา ไม่เห็นต้องทำหน้าแบบนั้นเลย แค่พักผ่อนไม่เพียงพอ นอนสักหน่อยเดี่ยวก็ดีขึ้น"
"คือหมอบอกว่าแกกำลังท้อง"
"ห๊ะ อะไรนะ!!!!!"
หลังจากที่ได้ยินคำพูดของเพื่อนสาว เหมือนโลกทั้งใบของเธอได้หยุดหมุน เธอนั้นไม่เคยคิดมาก่อนเลย ว่าตัวเองจะโชคร้ายซ้ำซ้อนแบบนี้
"ท้อง!!"
.................................................,
ถ้าชีวิตจริงมันง่าย คงไม่มีใครเจ็บปวดเพราะอดีตหรอก "เรารักกันมาตั้งนาน แล้วมันไม่รักกันตอนไหนวะ" เธอพร่ำพรรณาคร่ำครวญถึงวันวานที่แสนสุขตอนนี้กลับกลายเป็นความขมขื่น อดีต ปัจจุบัน และอนาคตของหญิงสาวดับมอด เธอกลายเป็นคนชั่วทั้งที่เธอทำมันไปเพราะความรัก แล้วทำไมถึงไม่ได้รักตอบกลับมา
แพน เด็กสาวที่ถูกแม่เลี้ยงขายให้กับเศรษฐี เพื่อแลกกับการปลดหนี้ในครอบครัว ในวันที่หลีกหนีความชิบหายไม่พ้นก็ยังมาซวยเจอเขา เขาที่ทำร้ายน้ำใจเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอ -เอากับเธอให้กูดูหน่อย- เนื้อเรื่องบางส่วน "เธอจะเรียกร้องสิทธิอะไร เธอลืมไปแล้วหรอ ว่าเราจ่ายค่าตัวเธอไปเท่าไหร่ แล้วเราซื้อตัวเธอมาเพื่ออะไร" น้ำเสียงถามกลับอย่างเย้ยหยัน ทำให้คนใต้ร่างน้ำตาคลอ -ชีวิตที่น่าสมเพช-
"ไล่ผู้หญิงคนนี้ออกไปซะ" "โยนผู้หญิงคนนี้ลงทะเลซะ" ขณะที่ไม่รู้จักตัวตนที่แท้จริงของเหนียนหย่าเสวียน โฮว่หลิงเฉินได้ปฏิบัติต่อเธออย่างไม่เป็นมิตร "คุณหลิงเฉินครับ เธอคือภรรยาของท่านครับ" ผู้ช่วยของหลิงเฉินกล่าวเตือนเขา เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลิงเฉินหยุดเพ่งมองไปที่เขาอย่างเย็นชาและบ่นขึ้นมาว่า "ทำไมไม่บอกผมให้เร็วกว่านี้?" นับจากนั้นเป็นต้นมา หลิงเฉินได้ตามใจและรักใคร่ทะนุถนอมหย่าเสวียนมาตลอด โดยไม่มีใครคาดคิดว่าพวกเขาจะหย่าร้างกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้