หยุนซีแต่งงานกับกู้ซือเฉิน คุณชายที่สูญเสียสิทธิ์ที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลแทนน้องสาว ตอนแรก พวกเขาเพียงแค่ว่าที่สามีภรรยาในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม เมื่อเรื่องราวของหยุนซีถูกค่อย ๆ ถูกเปิดเผยออกมา สถานการณ์ก็เริ่มเปลี่ยนแปลงไปตาม ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคนธรรมดาอย่างที่คิดเลย ใครจะไปคิดว่าเธอเป็นทั้งแฮ็กเกอร์มืออาชีพ นักประพันธ์เพลงลึกลับ และทายาทคนเดียวของนักแกะสลักที่มีชื่อเสียงระดับชาติ.... มีทั้งนักร้องชื่อดัง นักแสดงที่เคยได้รับรังวัลมากมายและผู้สืบทอดของตระกูลที่ร่ำรวยมาตามจีบว่าที่ภรรยาของเขา กู้ซือเฉินควรทำอย่างไรดี?
รถยนต์บีเอ็มดับเบิลยู เอ็กส์ ซีรี่ส์ ระดับไฮเอนด์คันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนนอันทรุดโทรมในชนบทเล็ก ๆ
หญิงสาวสวมกางเกงยีนส์ที่ซักจนขาวซีด มือลากกระเป๋าเดินทางเก่า ๆ ใบหนึ่ง กำลังยืนอยู่หน้าประตูรถด้วยใบหน้าอันไร้ซึ่งอารมณ์ใด ๆ
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่เบาะคนขับรถปรายตามองหญิงสาวด้วยหางตาพลางขมวดคิ้ว ดูเหมือนว่าเขาไม่พอใจที่เธอสวมใส่เสื้อผ้าเชย ๆ
“ขึ้นรถซะ”
ใบหน้าของหญิงสาวยังคงไร้อารมณ์
เธอไม่ได้ตกตะลึงกับการที่เธอได้ขึ้นรถคันหรู และก็ไม่ได้ตกใจต่อท่าทีที่เฉยชาของชายคนนั้นอีกด้วย
เธอดึงประตูรถให้เปิดออก แล้วนั่งลงที่เบาะหลัง
หญิงสาวพบแต่แรกแล้วว่า ที่เบาะหน้าข้างคนขับรถ มีหญิงสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับเธอคนหนึ่งนั่งอยู่
หล่อนแตกต่างไปจากคนบ้าน ๆ อย่างเธอ เสื้อผ้าของหญิงสาวผู้นั้นดูงดงามเป็นประกาย เป็นชุดที่ไม่เคยพบเห็นในชนบทแห่งนี้มาก่อน
“เป็นเธอนี่เอง” หยุนซีคิดอยู่ในใจ
เธอเคยเห็นหล่อนในรายการวาไรตี้มาก่อน หล่อนเป็นนักแสดงหน้าใหม่นามว่า “หยุนเวยเวย” ซึ่งในตอนนี้ชื่อเสียงของหล่อนกำลังดังขึ้นเรื่อย ๆ นับได้ว่าค่อนข้างจะเป็นคนดังมีชื่อเสียงอยู่ไม่น้อย
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอก็ถือซะว่าตัวเองเป็นลูกสาวของฉัน หยุนหลงซาน ตอนนี้ฉันจะพาเธอกลับไปยังเมือง s เดี๋ยวฉันจะจัดคนมาสั่งสอนเธอ ให้เธอกลายเป็นคุณหนูแห่งตระกูลหยุนที่เพียบพร้อมในเร็ววัน”
“นอกจากนี้ ขอแนะนำเธอให้รู้จักสักหน่อย นี่คือหยุนเวยเวย เป็นลูกสาวของฉันเอง เธอคงจะเคยเห็นหยุนเวยเวยมาก่อนแล้วบนอินเทอร์เน็ตใช่ไหมล่ะ?”
พอหยุนหลงซานพูดจบ หญิงสาวที่นั่งอยู่เบาะข้างคนขับก็ส่งเสียงหัวเราะออกมาราวกับลั่นกระดิ่งเงินรัว ๆ
เมื่อสิ้นเสียงหัวเราะ หยุนเวยเวยก็พูดเป็นภาษาอังกฤษขึ้นว่า “แด๊ดดี้เคอะ ชียากจนขนาดนี้ ชีจะดูวาไรตี้โชว์ออนดิอินเทอร์เน็ตด้วยเหรอเคอะ?”
หยุนหลงซานตกตะลึงไปครู่หนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้าอย่างชื่นชม แล้วตอบเป็นภาษาอังกฤษเช่นกันว่า “ภาษาพูดของยูเวรี่พัฒนาเลยล่ะ ฟอร์ยัวคำถามอ่ะนะ ไอว่ามันโนแฮฟมารยาท”
หยุนเวยเวยได้ยินเช่นนั้น ก็หัวเราะคิกคักขึ้นมาอีกครั้ง และยังคงตอบกลับไปเป็นภาษาอังกฤษว่า “ไอกลัวว่ามายนิวโอลเดอร์ซิซเตอร์จะไม่แฮปปี้เท่าไร ไอเลยจงใจสปีคอิงลิชกับยูน่ะเค่อะ!”
หยุนหลงซานถูกลูกสาวของเขาพูดแหย่จนมีความสุขมาก จากนั้นจึงเอ่ยขึ้นมาสบาย ๆ ว่า “ถึงแม้ชีจะไม่เอคเซลเลนท์เท่ายู แต่ยังไงก็เป็นรีเลทีฟฟาร์ ๆ กับตระกูลหวินของพวกเราอยู่นะ ถ้าทีชชีให้มีแอดติจูดไฮ ๆ แล้วแมรี่เข้าไปยังตระกูลกู้แทนยูได้ แดทซ์อะกู้ดไอเดียเวรี่มัช”
“คิก ๆ ๆ ๆ แด๊ดดี้เคอะ ยูสปีคแบบนี้ ก็โนแฮฟมารยาทเหมือนกันนี่เคอะ”
สองพ่อลูกสนทนากันเป็นภาษาอังกฤษทั้งหมด โดยด่วนสรุปไปเองว่าหยุนซีที่นั่งอยู่เบาะหลังจะฟังไม่ออก
เนื่องจากพวกเขาได้ตรวจสอบมาล่วงหน้าแล้ว ชนบทอันห่างไกลแห่งนี้มีครูสอนภาษาอังกฤษเพียงสองท่านเท่านั้น อีกทั้งยังจบการศึกษาเพียงระดับปวช.
ขนาดครูยังอยู่แค่นี้ นับประสาอะไรกับหยุนซีที่ไม่เคยออกไปจากชนบทเลย เธอจะมีทักษะภาษาอังกฤษที่ดีไปได้อย่างไรกัน?
รถหรูติดเครื่องขึ้น แล้วค่อย ๆ ขับออกจากชนบทไป
ระหว่างทาง หยุนซีหยิบคอมพิวเตอร์พกพาเก่า ๆ โทรม ๆ ออกมาจากกระเป๋าเป้สะพายหลัง
เธอเหมือนกับว่าไม่ได้ยินบทสนทนาภาษาอังกฤษของสองพ่อลูกนั้นทั้งหมด เพียงแค่ก้มหัวเคาะแป้นพิมพ์เท่านั้น
“พี่หยุนซี พี่มีคอมพิวเตอร์พกพาด้วยเหรอ? แล้วพี่พิมพ์อักษรเป็นด้วยเหรอ?”
หยุนเวยเวยเห็นหยุนซีหยิบคอมพิวเตอร์พกพาออกมา ก็แสดงอาการตกใจขึ้นมาอย่างกะทันหัน!
เพราะเท่าที่เธอรู้มา ในชนบทแห่งนี้มีตระกูลหยุนอยู่ร้อยกว่าครัวเรือน แม้ว่าจะมีความเกี่ยวข้องกับพ่อของเธออย่างหยุนหลงซาน แต่ก็ล้วนเป็นเหล่าบรรดาญาติที่ยากจนทั้งสิ้น
อีกทั้งหยุนซียังไม่มีพ่อแม่ เธอใช้ชีวิตอยู่กับร้อยกว่าครัวเรือนนี้ตั้งแต่เด็ก ดูท่าทางจะเติบโตมาด้วยข้าวของร้อยครัวเรือนนี้
เธอไม่ได้อดตายเมื่อครั้งยังเป็นเด็ก ได้ยินว่าสามารถสำเร็จการศึกษาระดับมัธยมปลายได้อย่างอัศจรรย์
คนแบบหยุนซีเนี่ยนะ จะมีคอมพิวเตอร์พกพาด้วย?
“ไว้ใช้เล่นเกมน่ะ” เสียงของหยุนซีเบามาก
พอได้ฟังคำตอบของเธอแล้ว ดวงตาของหยุนเวยเวยพลันฉายแววดูถูกเหยียดหยาม
เกมคอมพิวเตอร์งั้นเหรอ?
เหมาะสมแล้วแหละที่จะเป็นกิจกรรมบันเทิงของพวกไพร่ชั้นต่ำ
หยุนเวยเวยค้นพบได้ในทันทีว่า เคสคอมพิวเตอร์พกพานั้นเก่าไม่ไหว ถึงกระทั่งแยกไม่ออกว่าเป็นของยี่ห้ออะไร
“พี่สาว พี่ซื้อคอมพิวเตอร์มาราคาเท่าไรเหรอ?” หยุนเวยเวยแกล้งทำเป็นถามด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“ไม่ได้เสียตังค์เลย” หยุนซีตอบ “ฉันไปทำงานที่ร้านเครื่องใช้ไฟฟ้าในชนบทน่ะ เจ้านายฉันไม่มีเงินจ่ายค่าจ้างให้ เลยให้เศษชิ้นส่วนมาเป็นค่าชดเชย ฉันประกอบมันขึ้นมาเอง”
เครื่องประกอบอย่างนั้นเหรอ?
นี่มันคือเครื่องอิเล็กทรอนิกส์เกรดต่ำที่ไม่ได้มาตราฐานเลยด้วยซ้ำ!?
ด้วยความรู้ทางด้านคอมพิวเตอร์ของหยุนเวยเวย ก็มองออกในทันทีว่าคอมพิวเตอร์ของหยุนซีนั้นเป็นขยะที่ขุดขึ้นมาจากถ้ำคนจนแน่ ๆ
“พี่สาว คอมพิวเตอร์เครื่องนี้เหมาะกับพี่มากเลย” หยุนเวยเวยพูดพลางยิ้มอย่างอ่อนโยน
ลูหว่านแต่งงานอย่างลับๆ มาสามปีแล้วและไม่เคยเห็นหน้าสามีมาก่อนเลย แต่แล้วสิ่งที่เธอได้รับในที่สุดกลับเป็นข้อตกลงารกย่าและข่าวที่เขาใช้เงินฟุ่มเฟือยเพื่อตามจีบสาวรักในใจของเขา ในที่สุดเธอก็ตื่นขึ้นมาและตัดสินใจหย่าร้าง หลังจากนั้น ลู่หว่านก็มุ่งหน้าที่พัฒนาในตัว โดยมีตัวตนหลายตัวตน เป็นหมอเทวดา สายลับระดับสูง แฮ็กเกอร์ชั้นนำ นักออกแบบชื่อดัง นักแข่งรถ และหัวหน้าฝ่ายวิจัยทางวิทยาศาสตร์ หลังจากเปิดเผยตัวตนมากมายของลู่หว่าน อดีตสามีของเธอก็รู้สึกเสียใจอย่างยิ่ง ชายคนนั้นร้องขอว่า "หว่านหว่าน ให้โอกาสผมอีกครั้ง ทรัพย์สินทั้งหมดของผมเป็นของคุณ และชีวิตของผมก็มอบให้คุณด้วย"
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
หลิวซือซือผู้หญิงธรรมดาคนหนึ่งที่นอกจากรูปร่างหน้าตาที่สวยหยดย้อยแล้ว แทบจะไม่มีความสามารถหรือความโดดเด่นในเรื่องอื่น และหากจะว่ากันไปหญิงสาวก็เป็นคนที่ค่อนข้างใสซื่อบริสุทธิ์อยู่ไม่น้อย เพราะได้รับการรับเลี้ยงประดุจไข่ในหินจากผู้เป็นพ่อและแม่ที่มีฐานะไม่ธรรมดา เธอรักในอาชีพนักแสดงแม้พ่อแม่จะคัดค้านแต่สุดท้ายก็ตามใจเธอเพราะไม่ต้องการให้ลูกสาวเสียใจ อยู่มาวันหนึ่งด้วยบทบาทที่ต้องแสดงในซีรีส์ย้อนยุค ทำให้พ่อของเธอหาขลุ่ยโบราณเล่มหนึ่งมาให้ ตั้งแต่ได้รับขลุ่ยมาหลิวซือซือก็มักฝันประหลาด ว่าเธอได้พบผู้ชายคนหนึ่งในเขาเป็นแม่ทัพอยู่ระหว่างสงครามอีกทั้งตนเองยังมีโอกาสช่วยเขาหลายครั้ง ที่น่าประหลาดใจคือ ฝันนั้นของเธอเหมือนจะเป็นความจริงไปแล้ว เขาคือใครและเกี่ยวข้องกับเธอด้วยเหตุใด ทำไมเธอจึงมักฝันประหลาดเช่นนี้???
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว