"ท่านครับ คนยังไม่ตาย ต้องการชนอีกทีไหมครับ" "จัดการเลย" เสิ่นอันหยูซึ่งกำลังจมอยู่ในกองเลือด ได้ยินคำสั่งของสามีกับหู เธอกับเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยาที่แท้จริง และด้วยเหตุนี้พวกเขาจึงไม่เคยมีลูก อย่างไรก็ตาม การแต่งงานที่ไม่มีบุตรทำให้แม่สามีกล่าวหาว่าเสิ่นอันหยูมีบุตรยาก ตอนนี้ สามีของเธอไม่เพียงนอกใจเธอเท่านั้น แต่เขาต้องการให้เธอตายด้วย! เขาก็หย่ากับเธอได้ แต่นี่เขาพยายามจะฆ่าเธอ... ในวันที่หย่ากัน เสิ่นอันหยูที่เคยรอดตายมาได้อย่างหวุดหวิดนั้นก็แต่งงานกับชายอีกคนหนึ่งทันที สามีคนที่สองของเธอเป็นคนที่โดดเด่นที่สุดในเมือง เธอสาบานว่าจะใช้อำนาจของเขาให้เป็นประโยชน์และแก้แค้นคนที่เคยทำร้ายเธอ! เดิมทีการแต่งงานของพวกเขาในครั้งนี้ควรเป็นเพียงข้อตกลงที่หาประโยชน์สำหรับทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แต่สุดท้าย เธอกลับถูกชายที่ดื้อรั้นคนนี้ตรึงไว้กับกำแพง "เอาจริงเลยได้ไหม ผมอยากอยู่กับคุณตลอดไป"
“ไม่งั้นเราก็ขอหย่ากับเธอโดยอ้างว่าเธอเป็นหมันดีไหม”
เสิ่นอันหยูยืนตัวสั่นอยู่นอกประตู เธอไม่เคยคิดเลยว่า แม่สามีที่ปกติแล้วจะรักเธอมากจะพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้
เธอเป็นหมันงั้นเหรอ
เธอกับซ่งโยว่เฉินนั้นแต่งงานกันเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ทางธุรกิจ หนึ่งเดือนก่อนงานแต่งงาน ซ่งโยว่เฉินประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์และได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ขา แทบจะต้องถูกตัดขาทิ้ง ทุกคนแนะนำว่าอย่าแต่งงานเลย แต่เขาคิดว่าคนเราต้องรักษาคำพูดก็เลยแต่งงานไปโดยไม่คิดอะไร
หลังจากแต่งงานกันมานานกว่าหนึ่งปี ซ่งโยว่เฉินได้รักษาอาการบาดเจ็บและทำกายภาพบำบัดมาโดยตลอด ทั้งคู่ไม่เคยมีอะไรกันเลย แต่ตอนนี้กลับมาบอกว่าเธอเป็นหมันงั้นเหรอ
“เสิ่นซื่อ กรุ๊ปเกิดเรื่องใหญ่แบบนี้ขึ้นมา บริษัทนั้นขาดทุนไปมากกว่าห้าพันล้าน เสิ่นเทียนหมิงที่ออกไปจัดการเรื่องนี้ก็ดันเสียชีวิตกะทันหันขึ้นมา หนี้ที่เเสนน่ากลัวก้อนนี้ อาจจะต้องตกเป็นชื่อของเสิ่นอันหยู ถ้าไม่รีบหย่าล่ะก็ จะต้องส่งผลกระทบต่อตระกูลซ่งของเราแน่ ๆ ”
“เราแต่งงานกับเสิ่นอันหยู ก็เพื่อให้สองตระกูลสนับสนุนซึ่งกันและกันให้เจริญยิ่งขึ้น ไม่ใช่มาทำให้พวกเราต้องซวยกันไปด้วย”
“โยว่เฉิน ลูกคิดว่าไง”
เสิ่นอันหยูกัดฟันแน่น ตัวสั่นสะท้านไปทั้งร่าง ซ่งโยว่เฉินคงจะปฏิเสธใช่ไหม เธออยู่ในตระกูลซ่งมาหนึ่งปีกว่าแล้ว และเธอก็ดูแลเขาอย่างดี
“ไม่รีบ”
ตอนที่เสิ่นอันหยูกำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เธอก็ได้ยินเสียงทุ้ม ๆ ของซ่งโยว่เฉินดังขึ้นมา เธอยังไม่ทันได้รู้สึกโล่งอก ก็ได้ยินเขาพูดต่อ “แม้ว่าตระกูลเสิ่นจะเกิดเรื่องขึ้น แต่เสิ่นเทียนหมิงนั้นเหลืออะไรไว้ให้เสิ่นอันหยูไม่น้อยเลยทีเดียว”
“ฉันจะพยายามหาวิธีเพื่อใช้ข้ออ้างว่าเราอยากจะช่วยเธอ ให้เธอเอาของที่มีทั้งหมดไปขายซะ พอได้เงินมาแล้วเราค่อยหย่า”
ซ่งโยว่เฉิน! พวกคุณทุกคนนี่โหดร้ายจริง ๆ
ในหัวของเสิ่นอันหยูมีแต่ความว่างเปล่า เธอถอยออกไปหนึ่งก้าว แต่เธอลืมไปว่ามีธรณีประตูอยู่ข้างหลังเธอ เธอเลยเหยียบพลาดและล้มลงกับพื้น
“ใครน่ะ”
เสิ่นอันหยูรีบลุกขึ้นยืนและวิ่งหนีไปทันที
“เสิ่นอันหยู เธอได้ยินหมดแล้ว ปล่อยให้เธอหนีไปไม่ได้”
คืนนั้นมืดมากและฝนก็เริ่มตกหนักขึ้นเรื่อย ๆ
ในคืนที่ฝนตก ถนนที่ปกติมักจะมีการจราจรหนาแน่นนั้น ตอนนี้มองไม่เห็นรถยนต์เลยแม้แต่คันเดียว
ในหัวของเสิ่นอันหยูมีแต่ความว่างเปล่า ฝนตกทำให้เธอมองเห็นอะไรได้ไม่ชัดเจน และเธอก็ไม่รู้ว่าตอนนี้เธออยู่ที่ไหน เธอแค่วิ่งออกมาอย่างหมดหนทาง
ทันใดนั้น ก็มีแสงส่องมาตรงหน้าเธอ แสงนั้นแสบตามาก เสิ่นอันหยูหยุดวิ่งและยกมือขึ้นมาบังตาไว้
จู่ ๆ รถคนนั้นก็เพิ่มความเร็วและพุ่งเข้าชนเสิ่นอันหยู
“ปัง” เสิ่นอันหยูที่โดนชนกระเด็นออกไปห้าหกเมตรเห็นจะได้ ร่างกายของเธอเหมือนจะแหลกออกเป็นชิ้น ๆ มันเจ็บปวดมากจนเธอไม่สามารถร้องออกมาได้
รถหยุด มีคนลงมาจากรถและเดินมาหาเธอเพื่อตรวจสอบอาการของเธอ
“คุณซ่ง ยังไม่ตายครับ ต้องชนซ้ำอีกรอบไหมครับ”
หลังจากนั้น เสียงที่เย็นชาของซ่งโยว่เฉินก็ดังขึ้นมา “ชน”
ซ่งโยว่เฉินเดินเข้ามาหาเธอทีละก้าว
ดวงตาของเสิ่นอันหยูเบิกกว้าง เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่า ซ่งโยว่เฉินนั้นเดินได้แล้ว!
“ทีแรกฉันไม่ได้กะจะเอาชีวิตเธอ แต่เธอได้ยินที่ฉันพูดหมดแล้ว”
“ฉันจะต้องหย่าให้ได้ แต่ตอนนี้ฉันคิดว่าการที่ภรรยาตายนั้นก็ไม่เลวเลย”
“แบบนี้ ของที่เธอมีอยู่ตอนนี้ก็จะตกเป็นของฉันทั้งหมด ฉันจะปล่อยให้เสิ่นซื่อ กรุ๊ปล้มละลายไป แบบนี้หนี้ของเสิ่นซื่อ กรุ๊ปก็จะไม่ใช่ของฉัน และฉันก็จะได้กำไรด้วย”
ซ่งโยว่เฉินยกยิ้มมุมปาก “ยังไงซะเธอก็จะตายอยู่แล้ว ฉันจะบอกความลับอีกอย่างให้เธอฟัง”
“จริง ๆ แล้ว หลังจากที่ตระกูลเสิ่นเกิดเรื่องขึ้น ฉันเจอคนที่จะมาแทนที่เธอแล้ว คน ๆ นั้นก็คือเย่หลานชี เพื่อนสนิทของเธอไง ก่อนที่เราจะแต่งงานกัน เธอชอบฉันมากและเคยมายั่วยวนฉัน”
“ก่อนหน้านี้ที่เธอมักจะมาที่บ้านของเราเพื่อปลอบเธอ เราก็แอบอยู่ด้วยกันแล้ว ตอนนี้เธอท้องแล้ว”
“ถ้าเธอตายเมื่อไหร่ ฉันจะแต่งงานกับเธอ”
ซ่งโยว่เฉินก้มลงมองหน้าของเสิ่นอันหยูและอดไม่ได้ที่จะเลียริมฝีปากของเขาขึ้นมา “เธอสวยมาก แต่น่าเสียดายที่บ้านของเธอดันเกิดเหตุการณ์แบบนั้นขึ้นมา เลยไม่ทันได้มีอะไรกับเธอเลย”
ตอนที่ซ่งโยว่เฉินพูดนั้น เขาก็ขยับและเอื้อมมือไปบีบคางของเธอไว้ “ให้ฉันเปิดซิงเธอก่อน แล้วค่อยปล่อยให้เธอตายเป็นไง?”
“เธอจะได้ไม่ตายทั้ง ๆ ที่ยังซิงและไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผู้ชายนั้นรสชาติเป็นยังไง”
ไอ้สารเลว!
ดวงตาของเสิ่นอันหยูแดงก่ำ ใจของเธอนั้นรู้สึกเจ็บปวดถึงสุดขีด
มือของซ่งโยว่เฉินนั้นยังคิดจะเลื่อนลงไปข้างล่าง เธอพยายามต่อต้านเเละเหลือบเห็นมีรถกำลังเเล่นเข้ามา
เธอเอาหน้าผากกระแทกซ่งโยว่เฉินอย่างแรงและเขาก็รีบหลบไปทันที
เสิ่นอันหยูพยายามอย่างเต็มที่เพื่อลุกขึ้นและรีบวิ่งไปที่รถที่กำลังเเล่นมา!
เสียงเบรกที่แสบแก้วหูดังขึ้น เสิ่นอันหยูก็รีบพุ่งเข้าเปิดประตูและขึ้นรถไปทันที
“ช่วยฉันด้วย!”
“รีบไปเร็ว! มีคนกำลังจะฆ่าฉัน! พวกเขาจะชนฉันให้ตาย!”
ไม่มีใครพูดอะไรในรถ เสิ่นอันหยูถึงได้หันเข้าไปมองภายในรถ
ที่กั้นระหว่างเบาะหน้ากับเบาะหลังนั้นเลื่อนขึ้น เบาะหลังอีกด้านนั้นมีผู้ชายคนนึงนั่งอยู่
ผู้ชายคนนั้นก้มหน้าลง ในคืนที่มืดมิด มีแค่ดาวบนท้องฟ้าที่สว่างไสวเท่านั้น เธอมองไม่เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนั้น เธอเห็นแค่เส้นเลือดบนหน้าผากของผู้ชายคนนั้น มือที่วางอยู่บนเข่านั้นก็มีเส้นเลือดปูดขึ้นอย่างชัดเจน
“คุณผู้ชาย คุณ... เป็นอะไรหรือเปล่าคะ? คุณไม่สบายใช่ไหม”
ทันใดนั้น เสียงที่ดูเหมือนจะหมดความอดทนก็ดังขึ้นมา “ทีแรกฉันไม่อยากทำร้ายใคร”
“แต่เธอ... กลับทำให้ฉันปะทุขึ้นมา”
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"