ดาวน์โหลดแอป ฮิต

สิบสี่กุมภาฯ

หนังสือที่ตีพิมพ์ 3 เล่ม

หนังสือของ สิบสี่กุมภาฯ

โซ่คล้องใจ

โซ่คล้องใจ

5.0

ความรักของฉันมันคงเหมือนนาฬิกาทราย.. .. เมื่อด้านหนึ่งถูกเติมเต็ม....อีกด้านกลับว่างเปล่า ..และสูญสิ้นไป..กับกาลเวลา........ "สำหรับฉันเธอมันก็แค่ผู้หญิงไร้ค่า อยู่บนที่สูงแต่ทำตัวต่ำ" "หึ....ขอบคุณค่ะที่ชม จะพูดแค่นี้ใช่มั้ย จะได้ไปอ่อยผู้ชายต่อ" "อ้อ...ถ้าสนใจ เชิญนะคะ พอดีชอบแบบ ทีเดียวหลายๆคนมันสนุกดี แต่คนดีๆอย่างพี่...."เธอมองเขาอย่างพิจารณา พร้อมยกยิ้มมุมปากอย่างเย้ยหยัน ก่อนจะเดินจากไป หมับ!! "มีอะไรอีกคะ หรือว่าสนใจอยากไปร่วมเตียงด้วย" "......" ชายหนุ่มเงียบ มองหน้าเธออย่างเอาเรื่อง และออกแรงบีบข้อมือเล็กอย่างแรง แต่คนตรงหน้ากลับไม่แสดงท่าทีว่าเจ็บ ถึงเธอจะเจ็บเหมือนกระดูกกำลังจะแหลกเป็นชิ้นๆ "ถ้าไม่ทำอะไรก็ปล่อย พี่ไม่อยากได้แต่คนอื่นเขาอยากได้!" พรึบ!! เธอสะบัดมือเขาอย่างแรงและเดินกลับเข้าไปในงานเลี้ยง หมับ! "ว้าย เป็นบ้าอะไรปล่อยนะ" แต่ไม่ทันจะเดินไปถึงไหนร่างบางก็ถูกกระชากจนตัวปลิว จนชนเข้ากับกำแพงห้องอย่างแรง "ถ้าเธอยังหาเรื่องอุ่นอีก ฉันจะไม่ปล่อยเธอไว้แน่!" เขามองเธออย่างเกรี้ยวกราด "หึ...ทำไมค่ะ จะแกล้งแล้วจะทำไม" เธอมองหน้าเขาอย่างไม่เกรง ยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้แล้วมันยิ่งรู้สึกเจ็บ ทำไมนะทำไมต้องรักคนที่ไม่มีใจ "ปล่อย!" "ทำไม จะรีบไปเสนอตัวให้ไอ้บ้านั่นรึไง!"ใบหน้าหล่อคม ยื่นเข้าใกล้ พร้อมตะเบ็งเสียงแข็งใส่หน้าเธอ มือหนาออกแรงบีบท่อนแขนราวกับจะให้มันแหลกละเอียด "ใช่แล้วจะทำไม คืนนี้เรามีนัดกัน จะไปทำอะไรกันคนไม่ต้องให้บอกนะ หรือว่าอยากรู้จะได้ถ่ายคลิปมาให้ดู!" "หึ...ร่าน! ถ้ามันคันมากเดี๋ยวฉันจะสังเคราะห์ให้เธอเอง" "นะ...ฺฮื่อ" ร่างเล็กดิ้นพยายามให้หลุดจากพันธนาการเมื่อ เขาประกบปากจูบดูดเม้มริมฝีปากบางสีแดงอย่างแรง เขาดูดเม้มมันอย่างหนักหน่วง มือหนาลูบบีบขย้ำหน้าอกอย่างแรงเหมือนจะให้มันแหละติดมือออกมา "ฮื่อ" เสียงหวานร้องท้วงในลำคอ เมื่อได้กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งเต็มปาก จนแทบจะอ้วก -ญี่ปุ่น ณิชาภัทร โชติฐิติเมธานนท์ ดีไซเนอร์สาวสวย เก่งฉลาดไม่ยอมใคร มั่นใจในตัวเอง ลูกสาวคนโตของแด๊ดดี้กันต์ อายุ 24 -แบงค์ นิธิภัทร์ พัชรกานต์กุล วิศวกรหนุ่มไฟแรง หล่อเก่งมีความสามารถทั้งศึกษาวิเคราะห์ คำนวณ ออกแบบ ตรวจสอบแก้ไขปัญหาและควบคุมการผลิต....วัย 27 ความผูกพันระหว่างคนเป็นสิ่งมีค่าและมีความหมาย เป็น เสมือนเรื่องราวและความทรงจำดี ๆ ที่คนทุก ๆ คนไขว่คว้า แต่กลับมีน้อยช่วงเวลา ที่สอนสิ่งดี ๆ ให้เราได้รับรู้ ที่มีค่าให้เรานึกถึง ทุกครั้งที่นึกถึงมัน จะคอยย้ำเตือนเราให้นึกถึงช่วงวันเก่าๆ ที่ดึงทุก ๆ คนไว้ให้อยู่ร่วมกัน สิ่ง ดี ๆ ที่ผ่านไปเป็นเสมือนเม็ดทรายในนาฬิกาที่ร่วงหล่น…… ทุกเม็ดทรายแทน ความหมายของ………………ความผูกพัน ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………ความห่วงใย ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………ความชิดใกล้ ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………การไขว่คว้า ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………ความคิดถึง ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………ความลึกซึ้ง ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………วันเวลา ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………สิ่งมีค่า ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………จิตใจ ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………ตัวตน ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………คำว่า “รัก” ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………คำว่า “เรา” ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………คำว่า “มิตรภาพ” ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………คำว่า “เพื่อน” ทุกเม็ดทรายแทนความหมาย ของ………………” ทุกสิ่งที่เต็มใจ ให้เพื่อเธอ” เม็ดทรายเหล่านี้แม้จะ ร่วงหล่น แต่ก็ยังคงรวมกันในนาฬิกาทราย คอยย้ำเตือนเราถึงช่วงเวลาดีๆ ที่ผ่านมา เป็นนาฬิกาที่มีค่าและมีความหมาย อยู่ในความทรงจำของกันและกันตลอดไป … ช่วงเวลาแห่งความสุข อาจไม่เคย อยู่กับเรานานในโลกของความเป็นจริง เป็นเหมือนสิ่งที่ผ่านเข้ามาและก็ผ่านเข้าไป ให้เราได้สัมผัส ให้เราได้รู้สึกดี ๆ ให้เราได้รู้สึกอบอุ่นและมีความสุข แต่ถึงแม้ช่วง เวลาเหล่านี้อาจจะไม่ยาวนาน แต่มันสร้างสิ่งดี ๆ ให้เรามากมาย มันมีค่าและยิ่งใหญ่ และจะเป็นกำลังใจให้เราตลอดไป มันจะแทนความหมายของความเป็น “เพื่อน” ตลอดไป…… “นาฬิกาทรายใบนี้ ขอให้แทนมิตรภาพของเราตลอดไป ไม่เคยมีช่วงเวลาไหนที่เราห่างไกล โดยไม่ผูกพัน” ขอบคุณบทความจาก คุณ นุชรัตน์ รักมาก คำเตือน ในทุกเรื่องทุกการกระทำของตัวละครเกิดจากจินตนาการ ไม่ใช่เรื่องจริงไม่ควรลอกเลียนแบบการกระทำที่ไม่เหมาะสม อันจะนำไปสู่ความสูญเสียความผิดบาปทั้งปวง ไม่ได้มีเจตนามุ่งร้ายต่อตัวบุคคลหรือวิชาชีพใดวิชาชีพหนึ่ง หากอ่านแล้วไม่มั่นใจว่าหรือไม่เลียนแบบได้หรือไม่แนะนำให้ปรึกษาผู้ปกครองค่ะ นิยายเรื่องนี้เหมาะสมสำหรับผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป เพราะอาจมีเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมด้านพฤติกรรม ความรุนแรง เพศ หรือการใช้ภาษาโปรดใช้วิจารณญาณและเสพเนื้อหาอย่างมีสตินิยายเรื่องนี้เกิดจากความต้องการจะเขียนของนักเขียนเท่านั้นไม่ได้มีเจตนาไม่ดีหรือสนับสนุนการใช้ความรุนแรงในชีวิตจริง รบกวนอ่านคำเตือนก่อนอ่านของนักเขียนแล้วค่อยตัดสินใจหากไม่ชอบไม่เป็นไรค่ะ ©ลิขสิทธิ์เป็นของผู้สร้างสรรค์ แต่เพียงผู้เดียวการเผยแพร่ทำซ้ำดัดแปลงโดยที่ไม่ได้รับอนุญาตผิดกฎหมายตาม พ. ร. บลิขสิทธิ์ 2537 มาตรา 1527 31 มีโทษทั้งจำทั้งปรับ ไม่อนุญาตให้คัดลอกทำซ้ำดัดแปลงตัดภาพหรือถ่ายภาพไปเผยแพร่ใด ๆ ทั้งสิ้นหากพบจะขอดำเนินคดีตามกฎหมาย❌❌❌ พึ่งหัดแต่งนิยายเป็นมือใหม่หัดแต่งคำบางคำอาจจะใช้ผิดไปต้องขออภัยด้วยนะ คำโปรยเนื้อหาการบรรยายอาจใช้คำได้ไม่สวยเท่ากับนักเขียนท่านอื่นๆ แต่ก็ตั้งใจเขียนออกมาให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ 14 กุมภาฯ 13/01/2022 ฝากติดตามผลงานด้วยนะคะ

อ่านเลย
แค้นรักทาสสวาท

แค้นรักทาสสวาท

4.8

"นอนกับพ่อก็นอนมาแล้วแค่นอนกับลูกอีกคนมันจะเป็นไรไป!ว่ามั้ย?" ชายหนุ่มกระตุกยิ้มมุมปากอย่าเย้ยหยัน มองสำรวจเรือนร่างเปลือยเปล่าของคนใต้ร่างที่นอนตัวสั่นน้ำตาไหลอาบสองแก้ม สไนเปอร์ ปรมะ โชติฐิติเมธานนท์ เจ้าของใบหน้าหล่อสังหาร ผู้จัด/ผู้กำกับ ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เขาเด็ดขาดไม่กลัวใครเวลางานคืองาน ใครที่ได้ร่วมงานด้วยต้องตั้งใจและจะประสบความสำเร็จทุกราย ถือว่าเป็นมาเฟียในวงการ เย็นชา เคร่งขรึมกับทุกคนยกเว้นคนในครอบครัว นับดาว หฤทย์ณิศา เอกอนันต์ เด็กสาวเจ้าของรอยยิ้มโลกละลาย ถึงฐานะทางบ้านจะไม่สู้ดี แต่รอยยิ้มของเธอทำให้พ่อและคนรอบข้างมีความสุข เธอสดใส อัธยาศัยดี ขี้เล่น ความฝันคือการได้โปรดิวเซอร์มือหนึ่ง แต่ด้วยเหตุไม่คาดคิดเธอตั้งรับไม่ทัน ด้วยความ ลำบากการแบ่งแยก การเอาเปรียบ เธอเป็นได้แค่เพียง เด็กกอง ที่ต้องทำงานหนักตื่นเช้าเข้างานก่อนทุกคนแต่ต้องกลับดึกทุกวัน แต่คนเราเลือกเกิดไม่ได้เธอได้แต่ก้มหน้ารับกรรม!แต่เพราะพลังบวกและคนที่รออยู่ข้างหลังทำให้เธอยิ้มรับ "ขอบคุณนะคะที่เมตตาดาว" "ที่ดาวมีกินมีใช้ทุกวันนี้ก็เพราะคุณ" สองร่างเปลือยเปล่านอนกอดคลอเคลียกันอยู่บนเตียง "เพราะหนูเอาใจเก่งแบบนี้ไงฉันถึงได้หลงจนโงหัวไม่ขึ้น" ชายวัยห้าสิบปลายๆ พูดเสียงอ่อนเสียงหวานมือสากลูบไล้คลอเคลียเนินอกอิ่มด้วยความเสน่หา "ดาวจะทำให้คุณมีความสุขทุกวันเลยค่ะ ขอแค่คุณเมตตาเด็กน้อยตาดำๆ คนนี้" มือเรียวไม่อยู่นิ่งลูบไล้แผงอกเลื่อนต่ำ ลงไปที่หน้าท้องล้วงลงไปใต้ผ้าห่ม กอบกุมความแข็งแกร่งชักรูดขึ้นลงอย่างชำนาญมือ "อ่าส์~~ ฉะ....ฉันจะไปไหนได้ในเมื่อหนูเด็ดขนาดนี้!" ชายวัยห้าสิบ ยกยิ้มอย่างพอใจเมื่อเด็กสาวรุ่นลูกใช้ปากปรนเปรอความใคร่มอบความสุขที่เขาปรารถนามาตลอด หลายปีที่ภรรยาคู่ใจไม่สามารถมอบความสุขกับเรื่องบนเตียงให้ตนได้ตั้งแต่เธอแท้งลูกและป่วยออด ๆ แอดๆ และไม่สามารถร่วมรักกับสามี ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ผู้เป็นสามีมีบ้านเล็กบ้านน้อยแต่เธอก็ไม่ได้ต่อว่าเพราะเธอรู้ตัวว่าให้ในสิ่งที่สามีต้องการไม่ได้ แต่ผู้ชายมันกลับไม่เคยพอเมื่อสามีพาเด็กสาวรุ่นราวคราวเดียวกันกับลูกชายเข้าบ้าน ทำเรื่องน่าอายโดยไม่สนใจว่าคนเป็นเมียจะรู้สึกยังไง และวันนี้สาวเจ้าก็ออดอ้อนเอาใจผัวแก่ให้พาเข้าบ้าน และยังยุยงส่งเสริมให้เขาหย่าขาดจากภรรยาเพื่อที่ตัวเองจะได้เป็นคุณผู้หญิงและมีชีวิตสุขสบายอย่างที่ฝันมาตั้งแต่เด็ก ๆ "อ๊ะ อ๊ะ อ๊างง ดาวเสียวจังค่ะ" "ของคุณมันใหญ่ทำเอาดาวทั้งจุกทั้งเสียว~~" ร่างบางนั่งควบม้าขย่มอยู่บนตัวชายรุ่นพ่ออย่างเมามัน สองมือบีบขย้ำสองเต้าอวบอิ่ม กัดปากยั่วยวนอารมณ์ของอีกฝ่ายได้เป็นอย่างดี ปัง!! "ป๊า!!!" "ออกมาเรามีเรื่องต้องคุยกัน!!" แต่ระหว่างสองร่างเปลือยเปล่ากำลังสนุกกับรสสวาทอันเร่าร้อน เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมเสียงเข้มดุดันตะโกนอย่างเกรี้ยวกราด "มีอะไร!ไว้คุยกันฉันไม่ว่าง!" แต่ผู้เป็นพ่อกลับไม่สนใจสองมือยังคงบีบจับอยู่กับเต้าอวบอิ่ม "ถ้าไม่ออกมาผมจะพังเข้าไป!" ชายหนุ่มพูดอย่างข่มอารมณ์ สองมือกำหมัดแน่นด้วยตาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขาที่กำลังสอบคัดเลือกการประกวดภาพยนตร์สั้นรอบชิงชนะเลิศต้องทิ้งทุกอย่างเมื่อได้รับข้อความจากแฟนสาวว่าแม่พยายามกินยาฆ่าตัวตาย แต่ตัวต้นเหตุกลับไม่สนใจ กลับพาเมียน้อยเข้าบ้าน ปัง!! "อร้าย!!!" หญิงสาวร้องเสียงหลงด้วยความตกใจเมื่ออยู่ๆ ประตูห้องก็ถูกเปิดโดยที่เธอยังนั่งแก้ผ้าล่อนจ้อน นั่งทับอยู่บนตัวของอีกฝ่าย "จะมากเกินไปแล้วนะสไนเปอร์!!" ผู้เป็นพ่อสถบลูกชายอย่างหัวเสีย "....." แต่หญิงสาวกลับไม่สนใจมองหน้าชายหนุ่มด้วยความเสน่หา เพราะรูปร่างหน้าตาเขามันชั่งถูกใจหล่อนเสียจริง "หึ...ไม่ต้องมาอ่อยกู!ผู้หญิงแรดๆ ร่านๆ แบบมึง!ให้พรีกูก็ไม่เอา!" "จะออกไปจากบ้านกูดี ๆหรือให้กูเอาคนมาลากมึงออกไป!!" แต่ทว่าชายหนุ่มกลับด่าเธออย่างไม่สนใจผู้เป็นพ่อที่จ้องหน้าลูกชายอย่างโมโห เพียะ!! "มันจะมากเกินไปแล้วนะ!" "ยังไงหนูนับดาว เขาก็มีศักดิ์เป็นเมียกู!" ผู้เป็นพ่อลุกขึ้นหยิบผ้าขนหนูพันช่วงล่าง เดินเข้าไปตบลูกชายด้วยความโมโห "หึ...เมีย?" สายตาแข็งกร้าวเกรี้ยวกราดมองไปที่หญิงไร้ยางอายที่ตอนนี้เธอก็ยังคงเปลือยกายเพื่อยั่วยวนเขา "อีตัวสิไม่ว่า!" "ป๊ารู้มั้ย ม๊าเกือบตายก็เพราะมัน!!!" เขาตะโกนใส่หน้าพ่อเสียงแข็งและขี้หน้าหญิงไร้ยางอายที่ยกยิ้มมุมปากอย่างพอใจเมื่อได้ยินอย่างนั้น!

อ่านเลย
เมียเด็กของคุณป๋า

เมียเด็กของคุณป๋า

4.9

“ฮึ ผู้หญิงอย่างเธอไม่มีสิทธิ์เป็นแม่ของลูกฉันจำใส่หัวเธอไว้!” “ค่ะ หนูรู้ตัวดีว่าตัวเองก็แค่ของเล่นชิ้นหนึ่งที่คุณใช้เงินซื้อมา” “รู้ตัวก็ดี จะได้ไม่ต้องพูดซ้ำ!” น้ำเสียงราบเรียบท่าทีนิ่งเฉยสายตาเย็นชาของ ปรเมศวร์ จ้องหน้า พิชญา เด็กสาวด้วยความหงุดหงิดรำคาญใจ เพราะไม่มีทางเลือกเธอต้องยอมเป็นของเล่นให้เขาจนกว่าเขาจะเบื่อเพื่อแลกกับความสุขสบายของครอบครัว เธอต้องอดทนนะ แนนนี่ “หนูเจ็บ!” เด็กสาวในชุดนักเรียน มองหน้าชายหนุ่มด้วยความหวาดกลัว เมื่อเธอขัดขืนไม่ยอมทำตามคำสั่ง "อย่ามาลีลา" เขาพ่นลมหายใจแรงๆ อย่างหงุดหงิด ยิ่งดวงตากลมโตคู่นั้นสั่นระริกมันยิ่งสร้างรำคาญใจให้แก่เขา “ไม่ทำได้มั้ย” เด็กสาวมองหน้าชายหนุ่มที่นั่งขาไขว่ห้างหลังพิงโซฟาจ้องหน้าเธออย่างเบื่อหน่าย ทั้ง ๆ ที่รู้ว่าคำขอของเธอไม่เป็นผลแต่เธอก็อยากจะลองดูอีกสักครั้ง พรึบ! “ฮึ...ไม่อยากให้พ่อแม่และน้อง ๆ เธอสบายรึไง!” ใบหน้าหล่อคมคายที่นิ่งเรียบ ไร้ซึ่งอารมณ์ยากจะคาดเดา เดินตรงเข้าไปประชิดตัวสาวน้อยที่อยู่ตรงหน้า สายตาเกรี้ยวกราดเลือดเย็นมองเธออย่างดูถูกเหยียดหยาม “แคก ๆ ๆ” เด็กสาวสำลักควันบุหรี่ที่เขาตั้งใจพ่นใส่ “อย่ามาทำเป็นลีลาแค่นอนอ้าขาให้ฉันเอามันจะตายรึไง!” เขาทิ้งมวนบุหรี่ลงพื้นแล้วใช่เท้าเหยียบ พรึบ! ร่างบางถูกผลักล้มหงายหลังนอนราบกับเตียงอย่างแรง “อย่าทำอะไรหนูเลย” สองมือยกขึ้นไหวพร้อมดันตัวรูดถอยหนีเมื่อชายหนุ่มค่อยๆ เอามือค้ำยันที่นอนคลานเข่าเข้ามาประชิดตัว “อย่าทำเหมือนไม่เคย!” น้ำเสียงราบเรียบแววตาดุดันทำเอาคนฟังถึงกับจิตใจวูบหาย สาวน้อยมองเขาอย่างหวาดกลัวเพราะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเธอบางเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอเจอเทพบุตรในคราบซาตานอย่างเขา ที่ภายนอกเป็นนักธุรกิจหนุ่มเจ้าพ่อเหมืองเพชรพันล้านที่ทุกคนในแวดวงไฮโซรู้จักเขาดี แต่น้อยคนนักที่จะรู้จักตัวตนที่แท้จริงและด้านมืดของเขา ที่ดุร้าย ป่าเถื่อนเหมือนสัตว์ป่า “ขอแค่เรียนจบอดทนไว้” สาวน้อยได้แค่นึกคิดพูดปลอบใจตัวเอง เพียงแค่เธอเรียนจบมีงานทำเธอก็จะไม่ต้องตกเป็นทาสอารมณ์ของคนใจร้ายอย่างเขา ที่เห็นเธอเป็นเพียงสินค้าตัวหนึ่ง แต่เธอจะรู้มั้ยว่าสินค้าทุกอย่างที่ตกต้องอยู่ในมือเขาแล้วนั้น ถ้าเขาไม่เบื่อเธอจะไม่ได้อิสรภาพและชีวิตของเธอคืน แควก!! “กรี๊ด!!!” “หนูเจ็บ!” ชุดนักเรียน ถูกฉีกออกเป็นชิ้นๆ อย่างไม่ไยดี “ฮึ...น่ารำคาญ!” “ทำเป็นเล่นตัว เล่นตัวยังไงราคาค่าตัวเธอมันก็ไม่ได้ขึ้นไปกว่านี้หรอก” นิ้วเรียวยาวปลดกระดุมเสื้ออย่างเร่งรีบ สายตาคมกริบจดจ้องไปยังร่างเปลือยเปล่า ดวงตาสาวน้อยยังคงสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว ถึงนี่จะเป็นครั้งที่สองที่เขาจะทำเรื่องน่าอายกับเธอแต่ด้วยความที่ยังเด็ก เธอทั้งสับสนและไม่เข้าใจทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องมาแบกรับทุกอย่างไว้แต่เพียงคนเดียว แค่เพราะพ่อเธอต้องการเงินไปใช้หนี้การพนัน เพื่อให้น้อง ๆ ได้ทีที่ซุกหัวนอน เพื่อให้แม่ได้มีหน้ามีตาอยู่ในสังคมจอมปลอมทำไมต้องเป็นเธอที่ต้องมาแบกรับทุกอย่างไว้แค่คนเดียว ทั้งหมดนี่มันก็ไม่ต่างอะไรกับผู้หญิงขายตัวตามช่อง ผิดก็แต่ชายหนุ่มบินไปๆ มาๆ เพื่อติดต่อธุรกิจทำให้เธอไม่ต้องประเชิญหน้ากับเขาทุกวัน แต่ในเวลาเดียวกันถ้าเขากลับมาเขาจะส่งลูกน้องคนสนิทมารับตัวเธอเพื่อไปสนองอารมณ์ของเขา “อ้าขาออก!” น้ำเสียงราบเรียบที่เขาเอ่ยออกมาพร้อมฝ่ามือใหญ่จับที่ขา ทำให้คนตัวเล็กถึงกับสะดุ้ง พรึบ! ร่างบางถูกดึงให้มาอยู่ใต้ร่างหนา “ฉันไม่อยู่...แอบไปร่านที่ไหนรึเปล่า” ปลายนิ้วโป้งเกลี่ยริมฝีปากบางชมพูระเรื่อ ผิวขาวใสเรียบเนียนอมชมพูทำให้สายตาคู่ดุดันค่อยๆ แปรเปลี่ยนเป็นเร่าร้อนมองร่างบางด้วยความปรารถนา “ฉันลงทุนซื้อเธอมาด้วยเม็ดเงินก้อนโต เธอคงจะรู้ดีว่าต้องทำยังไงฉันถึงจะพอใจและครอบครัวเธอถึงจะสบาย” ใบหน้าหล่อเหลา ก้มลง...มอบจุมพิตให้แก่เธออย่างอ่อนโยน แต่นั้นมันก็ไม่ได้ช่วยให้คนตัวเล็กใต้ร่างรู้สึกดีขึ้นสักนิด แต่ทว่าเธอกลับรู้ดีว่านี่มันแค่เริ่มต้น “ฮื้อ!” สาวน้อยนิ่วหน้าเมื่อสัมผัสถึงของแข็งบางอย่างค่อย ๆ ถูกสอดใส่ดันเข้ามาในตัวเธอโดยไร้ซึ่งเกาะป้องกัน “รู้ใช่มั้ยฉันไม่ชอบเสียง มันน่ารำคาญ!” เด็กสาวเม้มริมฝีปากแน่นเป็นเสียตรง เมื่อแก่นกายขนาดใหญ่สอดดันเข้ามาในตัวเธอทีเดียวจนมิดลำ ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวด เมื่อแก่นกายขนาดใหญ่สับเอวสอบถาโถมเข้าใส่ร่องแคบเธออย่างเร่าร้อน รุนแรง แต่เธอก็ต้องเก็บกลั่นไม่ให้มีเสียงใดๆ เล็ดลอดออกมาเพราะฉะนั้นมันจะยิ่งเป็นการทำให้เขาหงุดหงิดและกระทำกับเธอรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

อ่านเลย

คุณอาจชอบ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาตัวน้อยของสามีพิการ

4.8

เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที

อ่านเลย
ชายาร้าย ที่ไม่ได้รัก NC18+

ชายาร้าย ที่ไม่ได้รัก NC18+

4.9

นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"

อ่านเลย
บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

บุตรีอนุผู้ถูกทอดทิ้ง

4.7

หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง

อ่านเลย
ลิขิตรักนายสุดหื่น

ลิขิตรักนายสุดหื่น

5.0

เมื่อเธอโดนนอกใจจากคนที่รัก จึงหนีไปเริ่มต้อนชีวิตใหม่ที่ดูไบ และเธอก็ได้เจอกับหนุ่มอาหรับสุดแซ่บ ที่มายั่วยวนหลอกล่อให้เธอมีเซ็กส์ที่เร่าร้อนกับเขา และเขายังต้องการให้เธอท้องลูกของเขาอีก.... เรื่องย่อ.... “คุณอัสลาน… คุณออกไปห่างๆฉันหน่อยได้ไหม…ห้องครัวนี่มันก็กว้างมากเลยนะคุณ ทำไมคุณต้องมาใกล้ฉันขนาดนี้ด้วย…” “ก็ผมอยากจะดูว่าคุณใส่ยาเสน่ห์อะไรลงไปในอาหารหรือเปล่า เพราะช่วงนี้ผมรู้สึกโหยหาคุณตลอดเลย…” “ใครจะบ้ามาใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกินล่ะ แค่นี้ฉันก็แทบไม่ได้นอนแล้ว… ขืนใส่ยาเสน่ห์ให้คุณกิน ฉันไม่นอนแกผ้าให้คุณเอาทั้งวันเลยเหรอ…” “หึๆ…ก็คุณมันน่ามั่นเขี้ยวนิ จะจับจะตบตรงไหนก็แน่นไปหมดเลย…แถมกลิ่นตัวก็หอมไปยันหอยเลย…อืม…พูดไปแล้วขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยสิ วันนี้ทำงานมาโคตรเหนื่อยเลย…” “อื้อ…คุณจะทำอะไรน่ะคุณฮัสลาน นี่มันในห้องครัวนะคุณ…เดี๋ยวพวกแม่บ้านเดินเข้ามาจะทำยังไงคะ…ลุกขึ้นมาเดี๋ยวนี้เลยค่ะ จะมาดมอะไรตรงนี้” “ก็ผมอยากดมตอนนี้ไงคุณ…เห็นหน้าคุณแล้วผมก็รู้สึกเสี้ยนจนทนไม่ไหวแล้วเนี่ย…ขอผมดมให้ชื่นใจหน่อยเถอะ” “อ้ะ….คุณอัสลาน….อื้อ….ทำไมคุณมันหื่นแบบนี้เนี่ย….เอามือของคุณออกไปนะ เดี๋ยวคนมาเห็น….อ้ะ…ซี๊ด…อ่าส์….” อัสลาน ราเชด บรูฮัมนี อายุ 37 ปี “อัสลาน...” หนุ่มนักธุรกิจชาวอาหรับที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตรในนิยาย แต่ต้องมาคัดสรรหาเมียเพื่อจะมีลูกสืบทอดวงตระกูลตามคำสั่งของพ่อแม่ ทำให้เขานั้นเลี่ยงไม่ได้กับการที่จะหาเมียสักคนมารับหน้าที่นี้ แต่เขาดันไปถูกใจแม่สาวไทยใจแข็งเข้านี่สิ ไม่ว่าเขาจะเสนออะไรไปเธอก็ไม่ยอมที่จะมาเป็นเมียของเขาเลย เพียงเพราะว่าเขานั้นแก่กว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น ทำให้เขาต้องใช้เล่ห์กลหลอกล่อเธอให้มาทำงานกับเขา ก่อนจะค่อยๆอ่อยแล้วก็รุกจัดการตะครุบเหยื่ออย่างเธอให้กลายมาเป็นนกน้อยในกรงทองของเขา…. มารียา เวทติวัตร อายุ 27 ปี “มีน มารียา…” สาวไทยหน้าคมที่มีหุ่นอวบอัดเป็นที่ยั่วน้ำลายของพวกหนุ่มนั้น กลับไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรักเอาซะเลย เธอจึงหนีจากความเสียใจแล้วมาหางานทำอยู่ที่ดูไบ...เพื่อจะลืมทุกอย่างที่เกิดขึ้นกับเธอ และเธอก็ได้เจอกับเจ้านายขี้อ่อย ขี้ยั่ว ที่ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือไปไหน เขาก็มักจะมายั่วน้ำลายทำให้หัวใจที่บอบช้ำของเธอนั้นปั่นป่วนอยู่เสมอ จนเธอถลำตัวมีอะไรกับเขาอย่างห้ามใจไม่อยู่ และเธอก็ได้รู้ว่าเขานั้นเป็นผู้ชายแก่ที่หื่นสุดๆเลย…แต่จะหื่นแค่ไหนต้องไปตามอ่านในนิยายนะคะ

อ่านเลย
ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

ขย่มรักอาจารย์ฮอตเนิร์ด

5.0

หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...

อ่านเลย
คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

คุณพ่อของหนูเป็นท่านประธาน

4.9

หลังจากถูกแฟนหนุ่มและเพื่อนสนิทของเธอจัดฉาก เฉี่ยนซีก็จบลงด้วยการใช้เวลาทั้งคืนกับชายแปลกหน้าลึกลับคนนั้น เธอมีความสุขมาก แต่พอเธอตื่นขึ้นมาในเช้าวันรุ่งขึ้น เธอก็รู้สึกแย่กับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน อย่างไรก็ตาม ความรู้สึกผิดทั้งหมดของเธอถูกชะล้างออกไป เมื่อเธอเห็นใบหน้าของชายที่นอนอยู่ข้างเธอ เธอจึงเอ่ยด้วยเสียงเบา ๆ ที่ว่า  "ผู้ชายอะไร ทำไมหล่อจัง" และเธอก็ต้องตกใจกับสิ่งที่เห็น ความผิดของเธอกลายเป็นความละอายใจโดยทันที และมันทำให้เธอตัดสินใจทิ้งเงินจำนวนหนึ่งไว้ให้ชายผู้นั้นก่อนที่เธอจะจากไป "เจ๋อข่าย"  รู้สึกประหลาดใจเมื่อเห็นเงินดังกล่าว พร้อมกับคิดว่า 'ผู้หญิงคนนั้นพยายามจะจ่ายเงินให้ฉัน ราวกับว่า ฉันเป็นผู้ชายขายบริการอย่างนั้นหรอ? ' เขารู้สึกโกรธ จึงต้องการดูภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม เขาสั่งผู้ช่วยของเขาด้วยใบหน้าที่จริงจังพร้อมขมวดคิ้ว "ผมอยากรู้ว่า ใครอยู่ในห้องของผมเมื่อคืนนี้" 'อย่าให้เจอนะ ถ้าเจอเมื่อไหร่จะสั่งสอนให้เข็ดเลย! ' เรื่องราวของพวกเขาจะเป็นอย่างไรต่อไปนะ

อ่านเลย
ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด

ย้อนเวลามาเป็นพระชายาของท่านอ๋องตาบอด

5.0

เมื่อย้อนเวลามาอยู่ในยุคโบราณที่ผู้ชายล้วนมีสามภรรยาสี่อนุ จื่อรั่วอิงจึงมองหาบุรุษที่จะทำให้นางใช้ชีวิตอย่างสงบสุขและได้รู้ว่ามีอ๋องผู้หนึ่งไร้ภรรยาและตาบอดเขาคือคนไม่มีใครเอา"สวรรค์ให้ทางรอดข้าแล้ว" นิยายเรื่องนี้เป็นแนวสุขนิยม ปมเบา ๆ ไม่หนัก นะคะ พระเอกมีเมียเดียว พระเอกสายซึนคลั่งรักนางเอกแต่ไม่รู้ตัว นางเองจอมตื๊อเพื่อทำให้สามีรักสามีหลงขนความฮามาพร้อม ๆ กับบ่าวรับใช้และครอบครัว แนวขบขัน สายฮา สายตลกไม่ควรพลาดค่ะ ซีไซต์ นักเขียน

อ่านเลย
ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

ทวงสวาท ทายาทเมียเก็บ

5.0

+++++++++++++ “อือ... พริบีนา... จะ...เจ็บค่ะ” “ฉันชอบ... เวลาเธอเจ็บเพราะฉัน” สิ้นคำเขาก็ขบอีกครั้ง จนร่างของเธอเต็มไปด้วยรอยแดงๆ เหมือนกลีบกุหลาบช้ำๆ “คนบ้า!” “ฉันดูดเธอได้ทั้งคืน... ดูดแรงๆ ตลอดทั้งเนื้อทั้งตัว...” ‘รวิสรา’ ต้องตกใจจนแทบสิ้นสติ เมื่อจู่ๆ ‘พริบีนา เอล เชสตัค’ มกุฎราชกุมารผู้หล่อเหลาแห่งเอล มอร์เรเวีย ก็ปรากฏตัวขึ้นตรงหน้า และบอกว่าเขาคือเจ้าของที่แท้จริงของเพนต์เฮาส์หรูใจกลางปารีส ที่แม่ของเธอทิ้งเอาไว้ให้ ก่อนจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย หากเรื่องกลับวุ่นวายยิ่งกว่าเดิม... เมื่อรู้ว่าน้องชายวัยขวบเศษของเธอ คือทายาทที่เกิดจากการขโมยสเปิร์มของเขา หญิงสาวจึงจำใจสุ่มเสี่ยงต่อความหวั่นไหว แล้วยอมใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกัน กับเจ้าชายหนุ่มผู้เร่าร้อนตลอดหนึ่งสัปดาห์ เพื่อแย่งกรรมสิทธิ์ในตัวเด็กน้อย โดยไม่ให้สูญเสียพรหมจรรย์ของตัวเอง

อ่านเลย
ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต

ทาสรัก ท่านอ๋องอำมหิต

5.0

แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร

อ่านเลย
หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

หลินซือเยว่ผู้นี้ มีสามชะตาในคราเดียว

5.0

หลังผ่าตัดนักพรตเฒ่าผู้หนึ่งนั้น นางวูบหมดสติและเสียชีวิตลงไป ลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที ก็อยู่ในร่างของคุณหนูปัญญาอ่อนที่มีชื่อเดียวกันผู้นี้เสียแล้วทั้งยังจำอดีตชาติยามเป็นปรมาจารย์เต๋าได้อีกด้วย +++ 1 : ไล่ออกจากอารามไท่ผิงกวน แคว้นจิ้น ราชวงศ์เซวียน อารามไท่ผิงกวน “ไป ๆ อาจารย์ขับไล่พวกท่านออกจากอารามแล้ว อย่าได้มาเหยียบที่นี่อีก” “ศิษย์พี่รองรีบปิดประตูเร็วเข้า !” ตุบ ! ห่อผ้าสองห่อถูกโยนออกมาจากประตูอาราม ปัง ! ตามด้วยเสียงปิดประตูลงสลักอย่างหนาแน่น สตรีนางหนึ่งยืนตัวตรงเป็นสง่า เสื้อผ้ากับเส้นผมของนางปลิวไสวดั่งไผ่ลู่ลม หลินซือเยว่เงยหน้าขึ้นมองป้ายชื่ออารามไท่ผิงกวนด้วยสายตาเลื่อนลอย อาศัยอยู่ที่นี่มานานเท่าใดแล้วนะ บางครั้งนางเองก็ลืมเลือนวันเวลาไปเหมือนกัน “คุณหนูเจ้าคะ ศิษย์น้องทั้งสองของท่านทำเกินไปแล้วนะเจ้าคะ เหตุใดถึงไล่พวกเราสองคนออกจากอารามได้เล่า” เผิงฉือกระทืบเท้าเบา ๆ ตรงไปฉวยห่อผ้าทั้งสองบนพื้น ขึ้นมาคล้องแขนตัวเองไว้ “หากไม่ได้รับคำสั่งจากอาจารย์ ศิษย์น้องทั้งสองคงไม่กล้าขับไล่ข้าออกจากอารามหรอก” น้ำเสียงของนางสงบนิ่งฟังแล้วสบายหูยิ่งนัก หาได้มีความโกรธเกลียดแต่อย่างใด “นั่นรถม้า” นิ้วเรียวสวยชี้ไปยังรถม้าคันที่มีคนนั่งเฝ้าอยู่ “ป้าเผิงไปถามดูว่าใช่รถม้าของเราหรือไม่” เผิงฉือไม่รอช้ารีบตรงไปหาคนเฝ้ารถม้าที่อยู่ใต้ต้นไผ่ในทันที ไม่ช้านางก็กลับมาพร้อมกับรอยยิ้มนิด ๆ “เป็นรถม้าของเราจริง ๆ เจ้าคะคุณหนู คนขับบอกว่าเป็นคนของตระกูลหลินเจ้าค่ะ ได้รับคำสั่งจากท่านพ่อของคุณหนู ให้มารับคุณหนูกลับตระกูลหลินเพื่อไปแต่งงานเจ้าค่ะ” “กลับไปแต่งงานนี่เอง” นางเอ่ยเหมือนไม่ใช่เรื่องใหญ่ หันหลังกลับไปทางประตูอาราม ประสานมือค้อมตัวคำนับลาอาจารย์ เผิงฉือเห็นเช่นนั้นก็อดที่จะคำนับตามนางไม่ได้ ภายในอารามไท่ผิงกวน “อาจารย์เหตุใดถึงไม่บอกลากับศิษย์พี่ใหญ่ไปตรง ๆ ล่ะ ทำเช่นนี้นางไม่โกรธท่านไปจนวันตายเลยรึ” เหอกุ้ยแม้มีอายุยี่สิบแปดปีแล้ว ทว่าเขากราบเป็นศิษย์เจ้าอาวาสชุนหวังเหล่ยหลังสตรีผู้นั้น จึงได้เป็นเพียงแค่ศิษย์พี่รองเท่านั้น “นั่นสิอาจารย์ ศิษย์พี่ใหญ่นางไม่เคยออกจากอารามไปไหนไกล ท่านทำเช่นนี้ไม่ใช่ขับไล่นางไปสู่ความตายหรอกรึ” จางเจียเฟิ่งเห็นด้วยกับศิษย์พี่รองของเขา “ให้มันน้อย ๆ หน่อยเจ้าศิษย์โง่ทั้งสอง พวกเจ้าคิดว่าอารามไท่ผิงกวนแห่งนี้ สามารถอยู่รอดมาได้เพราะใครกัน หากไม่ใช่เพราะฝีมือของศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้า เห็นนางเงียบ ๆ แบบนั้น ความคิดนางกว้างไกลยิ่งนัก อาจารย์อย่างข้ายังเทียบนางไม่ติดด้วยซ้ำไป” เจ้าอาวาสชุนปีนี้อายุอานามปาเข้าไปหกสิบห้าปีแล้ว ทว่าร่างกายยังแข็งแรง อารามเต๋าแห่งนี้มีวิถีแบบไม่เคร่งครัด ใช้ชีวิตเยี่ยงฆราวาสผู้หนึ่ง สามารถแต่งงานมีครอบครัวได้ “อาจารย์นางอยู่ในอารามวาดยันต์กันภัยให้ชาวบ้านที่มากราบไหว้ ตั้งโต๊ะรักษาโรคภัยให้ผู้คนในตัวอำเภอฝู แต่หนนี้นางต้องกลับบ้านไปเพื่อแต่งงาน นางบริสุทธิ์ถึงเพียงนั้นมิถูกสามีจับกลืนกินจนไม่เหลือกระดูกหรอกรึ” เหอกุ้ยนึกภาพเทพเซียนผู้สูงส่งอย่างหลินซือเยว่ หากต้องร่วมเตียงกับบุรุษหยาบกระด้าง เพียงเท่านั้นเขาก็ทำใจไม่ได้จริง ๆ แทบอยากจะไปแย่งตัวศิษย์พี่ใหญ่ของตัวเองกลับคืนมา “เลิกคร่ำครวญได้แล้ว กลับไปกวาดลานอารามกับตรวจดูน้ำมันตะเกียงให้เรียบร้อย ศิษย์พี่ใหญ่ของพวกเจ้าไม่อยู่ เจ้าทั้งสองต้องรีบร่ำเรียนศึกษาหาความรู้ อารามไท่ผิงกวนจะได้เจริญรุ่งเรืองในภายภาคหน้าต่อไปได้” เจ้าอาวาสชุนทำเสียงดังใส่ลูกศิษย์ทั้งสอง “ไป ๆ ข้าจะสวดมนต์” โบกมือไล่ทั้งคู่ให้ออกจากห้องสวดมนต์ไป เจ้าอาวาสชุนรีบลุกไปปิดประตูลั่นกลอน ท่าทางลุกลี้ลุกลนจนผิดปกติ ย่องเบา ๆ ไปที่ใต้เตียงนอน ดึงหีบไม้เก่าเก็บออกมา ครั้นกดสลักเปิดออก ก็พบตั๋วเงินจำนวนสามพันตำลึงอยู่ในนั้น ตระกูลหลินที่ไม่ได้บริจาคน้ำมันตะเกียงมาหลายปี จู่ ๆ ก็ส่งตั๋วเงินมาให้ พร้อมกับขอรับคนกลับไปเพื่อแต่งงาน ช่วงนี้ชาวบ้านมาทำบุญที่อารามน้อยลง หลินซือเยว่ก็ไม่รู้ว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง ถึงไม่ยอมลงจากอารามไปรักษาผู้คน รายได้เลยหายหดแทบจ่ายอาหารการกิน(สุรานารี)ไม่พอ ตั๋วเงินสามพันตำลึงนี่มาได้ทันเวลาพอดี ! แครก ๆ ๆ ๆ เสียงกวาดลานหน้าอารามดังขึ้นพร้อมกับเสียงบ่นของเหอกุ้ย “ข้ารู้ว่านางเก่งเอาตัวรอดได้ ข้าเพียงไม่อยากให้นางไปก็เท่านั้น” “ศิษย์พี่รองท่านอย่าได้เสียใจไปเลย ไม่ใช่ว่ามีแต่นางที่ต้องแต่งงานมีครอบครัว ท่านเองก็เถอะที่บ้านส่งคนมารับทุกปีไม่ใช่รึ” จางเจียเฟิ่งรู้ดีว่าตนและเหอกุ้ย ถูกครอบครัวลงโทษด้วยการส่งมาอยู่ยังอารามแห่งนี้ ทว่าเพียงชั่วคราวเท่านั้น “ตัวข้านั้นไม่เป็นไรหรอก เจ้านั่นแหละศิษย์น้องสาม ข้าได้ยินว่าที่บ้านของเจ้า เพิ่งหาคู่หมั้นหมายคนใหม่ให้เจ้าอีกคนแล้วไม่ใช่รึ” สองศิษย์พี่น้องหยุดกวาดลานอาราม แล้วหันหน้าไปมองตากัน จากนั้นพวกเขาก็ถอนหายใจดัง ๆ พร้อมกัน ไม่มีศิษย์พี่ใหญ่อยู่ด้วย นับจากนี้ไปยามทำความผิดใครจะออกหน้าคอยช่วยเหลือ ยามเงินหมดใครจะให้หยิบยืม ยิ่งคิดพวกเขาก็ยิ่งไม่สบายใจเป็นอย่างมาก บนถนนมุ่งหน้าสู่เมืองหลวง รถม้าไม้ธรรมดาไม่เล็กไม่ใหญ่ ไร้ป้ายชื่อตระกูลบอกกล่าว คล้ายไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงรู้ว่าคนที่นั่งอยู่ด้านในเป็นใคร เผิงฉือพยายามหลอกถามคนขับรถม้าอยู่หลายหน ถึงสถานการณ์ของตระกูลหลินในยามนี้ นางไม่เคยไปที่นั่นมาก่อนไม่รู้จักใครสักคน คนขับรถม้าตอบว่า เขามีหน้าที่มารับคุณหนูรองกลับบ้านเท่านั้น เรื่องอื่นนั้นเขาไม่รู้จริง ๆ “ได้ถามหรือไม่ ใช้เวลากี่วันในการเดินทาง” หลินซือเยว่เอ่ยเสียงเนิบ ๆ “ถามแล้วเจ้าค่ะ เขาบอกว่าราว ๆ สิบวันก็ถึงเมืองหลวงแล้ว” “สิบวันเชียวรึ” หลินซือเยว่มองห่อผ้าที่วางอยู่ด้านข้าง มีเพียงของใช้จำเป็นของนางไม่กี่ชิ้น พร้อมกับก้อนเงินจำนวนห้าสิบตำลึง “คงต้องแวะซื้อของในอำเภอฝูเสียก่อน” เผิงฉือรีบเปิดม่านบอกกับคนขับรถม้า แต่เขากลับทำเสียงฮึดฮัดคล้ายไม่พอใจ “เสียเวลาเดินทางเปล่า ๆ” น้ำเสียงเขากระด้างกระเดื่อง

อ่านเลย