‘เณศรา’ สาวโสดไม่สนิทวัยย่างเข้ายี่สิบหกปี ยืนหนึ่ง! เรื่องกิริยามารยาทงาม นานถึงสามปีที่เธอมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับพี่ชายเพื่อนสาว ทว่าเขากลับทำให้เธอผิดหวังและไม่กล้ารักใครจนบุพเพอาละวาดอีกครั้ง
‘เณศรา’ สาวโสดไม่สนิทวัยย่างเข้ายี่สิบหกปี ยืนหนึ่ง! เรื่องกิริยามารยาทงาม นานถึงสามปีที่เธอมีความสัมพันธ์สนิทสนมกับพี่ชายเพื่อนสาว ทว่าเขากลับทำให้เธอผิดหวังและไม่กล้ารักใครจนบุพเพอาละวาดอีกครั้ง
บทนำ
“เนยว่าตัวนี้สวยไหม?” เสียงทุ้มถามพลางลอบมองแก้มสีซับเลือด เมื่อสองสายตาสบประสานกันโดยบังเอิญ คนหนึ่งนิ่งอึ้งไปเพราะมัวแต่ให้ความสนใจขนตาเป็นแพสวยเหนือดวงตาคู่คม มากกว่าเสื้อผ้าชุดสวยในมือถือของชายหนุ่มในฝั่งตรงข้ามกันจนเขาต้องย้ำถาม
“ว่าไงครับ... เนยชอบไหม?”
“เนยก็ชอบ... เอ้อ... เนยว่าระบายลูกไม้ดีเหมือนกันค่ะ”
“พี่ว่าระบายลูกไม้ชายยาวลากพื้น สม็อกเอวรัดช่วงกลางตัวทำให้ดูผอมขึ้นเนอะ เนยว่ามันควรมีถุงมือด้วยมั้ยอะ?”
“เนยว่ามีถุงมือด้วยคงหรูหราไปอีกแบบเหมือนนางเอกเรื่อง... อะไรนะ? ที่เนยไปดูกับพี่”
“แวมไพร์...”
“ใช่ ๆ นั่นแหละ แต่ว่าชุดนั้นเปิดหลังเดินบนพรมแดงเข้าโบสถ์ เนยว่าเก๋ดีนะคะแต่เอ...” คิ้วเรียวสวยเหนือดวงตาคู่กลมโตชนชิดติดกันเกือบจะเป็นเส้นตรง “พี่ปัดอารมณ์ไหนคะ มาชวนเนยดูชุดแต่งงานเนี่ยนะ?”
“ไม่แต่งงานดูไม่ได้รึไงครับ? พี่แค่ดูเพราะอยากดูเฉย ๆ พี่ว่าเนยน่าจะชอบชุดเดียวกับที่พี่ชอบ...” คนพูดเลิกคิ้วเลียนแบบกิริยาของหญิงสาวที่มีสีหน้างุนงงสงสัยแม้รู้ดีว่าเขาคงหยอกล้อเธอเล่นเหมือนทุกครั้ง
“หรือว่าเนยคิดอะไร?”
“เปล่านี่คะ ใครบอกว่าเนยคิด...”
ใบหน้าแดงซ่านเลื่อนมองผ่านกระจกบานสูงจรดเพดานออกไปด้านนอกซึ่งถนนเต็มไปด้วยรถยนต์ในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อกลบเกลื่อนอาการประหม่าอาย ค่อยหันกลับมาพูดกับเขาใหม่
“เนยว่า... แปลก วันนี้พี่ปัดทำตัวแปลกมากเลยค่ะ โทรมาปลุกตั้งแต่เช้าเอาดอกไม้มาใส่แจกันในร้านให้ สงสัยต้องแอบถามยัยวิละว่าพี่ชายมีลับลมคมในอะไร”
“ถามไปก็ไม่รู้ครับ ยัยวิน่ะวัน ๆ ทำแต่งาน กลับมาจากออฟฟิศก็สี่ห้าทุ่มแล้วพี่เคยเจอหน้าน้องสาวที่ไหน ขนาดคนในบ้านยังเห็นนางนับวันได้”
“แต่เนยแช็ตคุยกับนางทุกวันนะจะบอกให้ วันก่อนยัยวิยังมานอนห้องเนยเลยค่ะ”
พูดถึง ‘ปวิมล’ เพื่อนสาวป่านนี้ได้ดิบได้ดี ทำงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ นาน ๆ ครั้งถึงว่างมาหา แต่เณศราก็โทรหาเพื่อนตลอดไม่เคยขาดการติดต่อ
คนเป็นพี่ชายถึงกับหน้าเจื่อน เก็บมือถือลงกระเป๋าหนังสะพายใบโปรดที่เธอซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิด ประสานมือทั้งสองไว้บนโต๊ะพร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
“พี่ปัดก็น่ารักเหมือนทุกวันอะ... จะไปมีเรื่องอะไรล่ะครับ?” แล้วเลื่อนมือไปหยิกแก้มนุ่มอย่างมันเขี้ยว จนคนทำแก้มป่องต้องยกมือลูบตามรอยแดงที่ค่อย ๆ จางหายไป มันคงไม่เจ็บแต่ให้ความรู้สึกแสนซาบซ่านหวั่นไหว
ยากจะจำได้ว่าเจอหน้ากันบ่อยเท่าไร ปัถฐพลขยันมาหาเธอเป็นกิจวัตร เช้าถึงเย็นถึงด้วยเหตุผลว่าเขาต้องไปรับไปส่งน้องสาวและบ้านของเธอก็อยู่ละแวกเดียวกัน ทางผ่านไปมหาวิทยาลัย ถึงมันจะเป็นข้ออ้างเพียงฝ่ายเดียวเพราะจนกระทั่งเรียนจบแล้ว ทั้งเธอและปวิมลมีรถยนต์เป็นของตัวเอง เขาก็ยังมาช่วยยกขนมปังขึ้นรถตอนเช้า มาขับรถให้บ้างถ้าหากว่าวันไหนเธอทำงานเหนื่อยจนหมดเรี่ยวหมดแรง
ใช่เท่านั้น หากว่ามีหนุ่ม ๆ มาจีบหยอดทอดสะพานเมื่อไร พี่ชายเพื่อนคนนี้แหละ! ออกตัวเป็นไม้กันหมาไล่เตลิดเปิดเปิงเสียทุกราย เณศราจึงต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากกับการทำความเข้าใจในความสัมพันธ์ที่ไม่มีใครพูดกล่าว... ว่าควรเป็นแฟนหรือเปล่า
เธอแค่วางตัวดีในแบบของเธอที่ไม่ได้เหมาะสมกับเขานัก
“แล้ววันนี้จะรับอะไรดีคะ?”
“พี่ปัดคนแปลกขอสตรอว์เบอร์รีชีสเค้กเหมือนเดิมครับ”
“ค่ะ... รอสักครู่นะคะคุณลูกค้า” พูดพลันเลื่อนมือลงลูบกระโปรงบานฟูฟ่องสีชมพูให้เรียบลงค่อยลุกขึ้นอย่างระวัง ด้วยท่าทางเรียบร้อยสมเป็นกุลสตรี
Bakery By Ne’Sara ตัวหนังสือใหญ่โตบนป้ายสีชมพูบอกถึงความเป็นสาวสายละมุน โลโก้สัญลักษณ์ลายตุ๊กตาผมหยิกหยอย ดวงตากลมโตเหมือนตุ๊กตาบลายธ์มากกว่าที่จะเหมือนเจ้าของร้านซึ่งนั่นทำให้เธอหัวเราะกับมันอยู่บ่อย ๆ กระโปรงฟูฟ่องบนสติ๊กเกอร์ที่แปะหน้าสินค้าทุกชิ้นหน้าตาน่ารักเหมาะสำหรับเป็นของฝาก เหมาะสมกับเณศรา
ด้วยสไตล์การแต่งตัวสุดมุ้งมิ้งตามเทรนด์แฟชั่น เสื้อยืดเอวลอยออกแนวสวยซ่อนแซ่บไม่น่าเกลียดจนเกินไปธีมเดียวกับร้านเบเกอรี่ กระเป๋าสะพายพาดบ่าหนังสีขาว รองเท้าส้นสูงสองนิ้วก็มักจะประดับประดาด้วยงานแฮนด์เมดที่เต็มไปด้วยดอกไม้
เป็นอันรู้กันว่านอกเหนือจากเรื่องเจ้าของร้านสวยน่ารัก! เบเกอรี่ร้านนี้ยังสดใหม่ อบร้อนจากเตาทุกวัน
“สตรอว์เบอร์รีชีสเค้กหนึ่งที่ค่ะน้องพลอย อย่าลืมลูกค้าโต๊ะนู้นด้วยนะคะ คิดเงินออเดอร์นี้แล้วเราจะกลับไปอ่านหนังสือกลับได้เลยนะ พี่ปิดร้านเองค่ะ”
“ค่ะพี่เนย”
พอนักศึกษาตอบรับพยักหน้า หญิงสาวดันสังเกตเห็นบางคนยกปลายนิ้วชี้ปากอ้ากว้างทำหน้าทะเล้น เขานั่งคอยอยู่บริเวณโต๊ะแรกใกล้เคาน์เตอร์คิดเงิน เธอยิ้มอ่อนมองอย่างนึกขัน อมแก้มกลมตุ่ยขณะก้มตัวลงกวาดสายตามองขนมในตู้กระจกใสเพื่อดูสินค้าที่เหลือ
ครึ่งก้อนเป็นสตรอว์เบอร์รี สองก้อนที่เหลือเป็นวานิลลากับพายอีกไม่กี่ชิ้น...
“เค้กหน้าช็อกกะสตรอว์เบอร์รีขายดีค่ะพี่ มีอาจารย์เหมาไปสามก้อนเลยค่ะ”
“จ้ะ งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เช้าพี่ทำเพิ่มเนอะ เราว่างมาช่วยก็มานะ... มาทำเค้กอร่อย ๆ ให้ลูกค้าทานกัน”
“พวกหนูจะมาแต่เช้าเลยค่ะพี่เนย!”
นักศึกษาสาวร่างท้วมยิ้มหน้าระรื่นหากว่าจะได้เป็นลูกมือเรียนการทำเค้กโดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย คนสอนเองก็น่ารักใจเย็นไม่หวงวิชา ไม่เคยดุว่าน้อง ๆ คนไหน
เมื่อลูกค้าเดินมาสั่งซื้ออาหารว่างไปทานทั้งสองคนรีบช่วยกันคิดเงิน ยกถาดขนมเค้กและกาแฟไปบริการให้ถึงโต๊ะ สำหรับคนพิเศษอย่างปัถฐพล เธอใช้ที่คีบตักเค้กทีละชิ้นวางลงบนจานใบเล็กแซมขอบสีทองอย่างเอาใจใส่ เสิร์ฟอาหารให้เขาด้วยตัวเอง
“ครีมคัสตาร์ดหนึ่ง เค้กสตรอว์เบอร์รีหนึ่ง หนึ่งแถมหนึ่งเพราะว่าก้อนนี้เนยทำ ทานให้อร่อยนะคะคุณลูกค้า”
จานสีขาวน่ารักตกแต่งด้วยตุ๊กตาไอซิ่งรูปหญิงสาวในกระโปรงพองสีขาว รู้เลยว่าหน้าเหมือนใคร
เณศราหย่อนก้นนั่งลงที่เดิม ขณะใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มเศร้าหมอง
“เป็นวันสุดท้ายหรือเปล่า? จะได้กินเค้กอร่อย ๆ ของเนย...”
“คะ?” เธอเลิกคิ้วขึ้นมองสงสัย ชายหนุ่มจึงฉีกยิ้มกลบเกลื่อน
“เอ่อ... ไม่มีอะไร พี่กินเสร็จพี่ไปเลยนะ ไม่อยู่ช่วยเก็บร้านนะครับ”
“ค่ะไม่เป็นไร เนยเก็บร้านคนเดียวได้ พี่ปัดมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?”
“ไม่มี...” เขาตอบก่อนเลื่อนสายตาลงมองเค้กครีมหนาฟูแต่งแต้มด้วยผลไม้ ใช้ซ้อมตักทานมันอย่างช้า ๆ ซึมซับรสชาติกลมกล่อมพอดี ไม่หวานเลี่ยนจนเกินไป
ตลอดระยะเวลาหลายปีที่หญิงสาวสร้างเนื้อสร้างตัวเปิดร้านเบเกอรี่ สร้างแบรนด์เป็นของตัวเองสำเร็จ ปัถฐพลรู้ดีว่าเขาไม่ต่างจากเพื่อนร่วมเดินทางฝัน
“พี่ภูมิใจในตัวเนยนะ... ถึงพ่อแม่พี่จะไม่ชอบเนยเพราะว่าเนยไม่รวย พี่ขอให้เนยมีความสุขกับการทำเค้กอร่อยแบบนี้ไปเรื่อย ๆ”
“เนยมีความสุขกับการทำอาหารทุกอย่างค่ะ เนยชอบเบเกอรี่เป็นพิเศษ มันฟูฟ่อง นุ่มนิ่ม เด้งดึ๋ง ๆ เวลาเห็นมันออกจากเตาแล้วคนกินยิ้มเพราะว่าเค้กอร่อย เนยหายเหนื่อย เนยรู้สึกภูมิใจค่ะ”
คำพูดนั้นทำคนฟังใจชื้นไม่น้อย ปัถฐพลก้มหน้าทานขนมในจานจนเกลี้ยง ในสายตาของเจ้าของร้านที่นั่งยิ้มอย่างเอ็นดู น้องนักศึกษาเดินผ่านมาแซวสองสามคำ จนกลับบ้านกันไปหมดเหลืออยู่แค่สองโต๊ะคือกลุ่มอาจารย์ นักศึกษาและโต๊ะของเจ้าของร้าน
“อิ่มละพี่ไปก่อนนะ ตังค์จ่ายแล้วนะครับ” คนพูดหัวเราะอย่างไม่ลืมว่าไม่ทอนด้วย! สำหรับฐานะระดับเขาคงมาทิปน้อง ๆ ได้ทุกวัน ช่วยอุดหนุนกันไป มือหนาวางส้อมเล็กลงบนจานเบา ๆ เลื่อนมือไปกุมมือของเธอเอาไว้
“พี่... ชอบ... เค้กเนยมากนะ อร่อยมาก ๆ อร่อยสุดยอด”
“ขอบคุณค่ะ ไว้ค่อยคุยกันนะคะ ขับรถดี ๆ”
หญิงสาวพยักหน้ารับคำชมที่ได้ยินอยู่บ่อยครั้งด้วยใจเป็นสุข ขณะที่เขาค่อย ๆ ปล่อยมือของเธอ
มันให้ความรู้สึกอบอุ่นเหมือนกับว่าเขายังคงกุมมือของเธอเอาไว้ คอยให้กำลังใจเหมือนทุกครั้ง ทว่าพอร่างสูงลุกขึ้นยืนและเดินจากไป หัวใจดวงน้อยกลับสั่นไหวประหลาด
เณศราแน่ใจว่าเขาทำตัวแปลก ๆ และด้วยความไม่แน่ใจว่าอีกคนมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าถึงได้พูดจาไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอพลอยเป็นกังวลขนาดว่านำจานไปล้างทางด้านหลังร้าน ยังเผลอพึมพำหน้าอ่างล้างมือคนเดียว กระทั่งเสียงโทรศัพท์สั่นดังจากกระเป๋าสะพายใบน่ารักลายตุ๊กตาหมี และเป็นเพราะว่าห้อยพวงกุญแจรถยนต์ไว้ด้วยกันมันเลยสั่นไปทั้งกระเป๋า
บางคนไม่ยอมขึ้นรถกลับบ้านไปสักที โทรมาทำอึก ๆ อัก ๆ ผิดวิสัยของปัถฐพลที่ไม่ใช่คนทำตัวมีความลับมากมาย เธอคุยกับเขาไม่กี่คำก็จำเป็นต้องวางสายเพราะปวิมลโทรสวนเข้ามาพอดี
[เนย... พี่ชายฉันไปร้านแกปะ?]
“มานั่งเล่นอยู่สักพักแล้วล่ะ นี่พี่เขาเพิ่งออกไปเอง... โทรมาจะพูดอะไรก็ไม่พูด มีอะไรเปล่าแก?”
ความเป็นคนซื่อไร้พิษภัยมาแต่ไหนแต่ไร เณศราคงนึกไม่ออกจริง ๆ คิ้วเรียวสวยขมวดมุ่นมองกำแพงสีขาวครีมในร้านเงียบเชียบ ซึ่งเธอต้องตกใจอีกครั้งเพียงได้ยิน...
[คือ... งี้นะเนย... พี่ปัดจะแต่งงานอาทิตย์หน้านี้แล้ว ฉันสงสัยว่าเขายังไม่เอาการ์ดแต่งงานไปให้แกอีกเหรอ?]
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
ไม่รู้โชคช่วยหรือดวงซวย! เลขาฯ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ‘André Bernard’ เลยได้มาเป็นเลขาฯ คนที่แปดของเจ้านายสาวเรื่องเยอะ ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศรา ทายาทไฮโซ ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
จากอดีตนักล่าซอมบี้ในวันสิ้นโลกต้องผันตัวเป็นสาวน้อยชาวไร่สุดแกร่งที่ต้องช่วยแม่และน้องสาวให้รอดพ้นจากญาติพี่น้องมหาภัยและความยากจน เปิดธุรกิจร่ำรวยใหญ่โตเอาให้เหลือกินเหลือใช้ไปทั้งชาติ!
เรื่องของอารียาคุณครูสาวใหญ่วัย35กับหนุ่มน้อยลูกติดผัววัย19ที่ชื่อโจ โจเป็นเด็กช่างอาชีวะสายโหดและหื่นกาม เธอมักจะโดนลูกชายแอบลวนลามอยู่บ่อยๆ ทว่าเธอกลับเป็นสาวหัวโบราณที่ไม่กล้าแม้ปริปากบอกสามี ด้วยความกลัวว่าบ้านจะแตกสาแหรกขาดอารียาเลยปล่อยเลยตามเลย แค่คำพูดห้ามปรามทำให้คุณแม่พลาดท่าเสียทีให้ลูกเลี้ยงไปจนได้ เธอโดนโจจับกดจนเสร็จสมอารมณ์หมายไปหลายหนจนตัวเองก็ติดใจเสียดื้อๆ ในที่สุดอารียาก็ต้องจำใจมีผัวถึงสองคนอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน คนแรกคือผัวที่ถูกต้องตามกฏหมาย อีกคนคือลูกติดผัวที่หื่นเสียเหลือเกิน
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
เมื่อความเสียใจมันทำให้เธออยากลอง!!! "เรามาลอง...กันไหมค่ะ" ประโยคบ้าระห่ำที่ฉันพูดกับคนแปลกหน้าในคืนนั้น ฉันไม่นึกว่ามันจะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของชีวิต... เส้นทางชะตาชีวิตที่เล่นตลก เพราะคำพูดเพียงประโยคเดียว... การโดนทรยศ และ การเจอกันโดยบัญเอิญ จนทำให้เกิดการเดิมพันท้าทายเล่นเกมบ้าๆ กันขึ้นมา โดยที่สาวเจ้าไม่รู้ตัวเลยว่า...มันจะนำพาให้ชีวิตเธอเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล!!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ ...เธอจำต้องอยู่ต่อไป หรือ ตายเพื่อชดใช้เวรกรรม...ที่ตัวเองเป็นคนสร้างขึ้น ------------------------------------------------------------------------------------------------ เรื่องย่อ: เอลิซ : หญิงสาวแสนสวยที่แสนซื่อจนถูกคนที่รัก "หักหลัง" จนทำให้ชีวิตของเธอปัดเป๋ และเพียงเพราะเธอแค่ต้องการที่จะประชดชีวิตเท่านั้น แต่การกระทำนั้นก็ดันพาเธอหลงเข้าไปยังเกมสวาทที่เธอเป็นผู้เดิมพัน เซฟ : ชายหนุ่มผู้มั่งคั่งร่ำรวยติดอันดับต้นๆ ของประเทศ เจ้าของธุรกิจทั้งขาวและเทา เบื้องหลังเขาคือมาเฟียอันดับหนึ่ง เขาที่โชคชะตานำพามาให้เจอกับหญิงสาวคนนั้นแถมยังถูกท้าทายจากเกมเดิมพันอันล่อแหลม และมีหรือที่ผู้ชายอย่างเขาจะยอมปฏิเสธ ฝากกดติดตามและเป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ ⚠️คำเตือน⚠️ เนื้อเรื่องนี้เหมาะสำหรับคนที่อายุ 18 ปีขึ้นไป มีฉากติดเรท เนื้อหาไม่เหมาะสม ความรุนแรงเพศ และการใช้ภาษา ซึ่งต้องใช้วิจารณญาณในการอ่าน ที่สำคัญเรื่องนี้เป็นเพียงจินตนาการของผู้แต่งเท่านั้น!!!
นางขอสมรสพระราชทานเพราะรัก แต่คืนแต่งงาน เขารังเกียจนางและทิ้งไป ห้าปีผ่านไปพระชายาที่ถูกลืม กลับเป็นสตรีที่เขาต้องตามจีบ และศัตรูที่ร้ายกาจที่สุดของเขาก็คือลูกชายของตนเอง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด