เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
เพื่อรักษาเกียรติท่านอาจารย์ ไป๋เหม่ยหลานยอมรับโทษทัณฑ์ของสำนักเซียวเหยา ถูกทรมานจนตาย ภพชาติใหม่นี้นางขอเป็นเพียงมนุษย์เดินดิน มิขอเกี่ยวข้องกับท่านอาจารย์อีก ไยท่านจึงกลับมาพัวพันวาสนาชะตาชีวิตนาง...
‘ไป๋เหม่ยหลาน ศิษย์ทรยศ!’
น้ำเสียงเกรี้ยวกราดของเหล่าศิษยานุศิษย์ดังกึกก้อง แสงจัดจ้าของโซ่แห่งหยางรั้งตรึงข้อมือโชกชุ่มโลหิตของร่างผอมบางในอาภรณ์สง่า ถักทอด้วยลายปักท้องนทีสีคราม ใต้ผ้ารัดเอวห้อยหยกดาราเปล่งประกาย สัญลักษณ์เซียนสตรีผู้บำเพ็ญตน นางมิได้ขัดขืนการจับกุมเพื่อสำเร็จโทษ
‘ไป๋เหม่ยหลาน’ ขยับยิ้ม หวนคิดถึงความทรงจำเมื่อครั้งนางยังคงอยู่สำนักเซียวเหยา
ครั้งหนึ่งท่านอาจารย์สั่งสอนนางว่า ‘เมื่อกระทำความดี ย่อมได้รับความเคารพนับถือ’
ทว่าหากประพฤติชั่ว เหล่าเซียนมิอาจละวางความรู้สึกชิงชัง พวกเขาต่อต้านความชั่วร้ายและจะรุมประณามนาง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องการผิดประเวณี
ถึงแม้ว่าสหายผู้ยึดมั่นในความดีของไป๋เหม่ยหลาน ออกความเห็นว่าสมควรขับไล่นางไปสถานที่อันห่างไกล เพื่อเห็นแก่ความดีของนาง ในเมื่อนางเคยช่วยเหลือภพภูมิสวรรค์ นางรักษาความสงบสุขให้ผู้บำเพ็ญเพียรอยู่เสมอ ผู้นำสำนักเซียวเหยาไม่เพียงไม่เห็นด้วยเท่านั้น ความผิดอันใหญ่หลวงของนางมิได้รับการละเว้นโทษทัณฑ์ นางถูกทรมานในหุบเหว ให้มารร้ายกัดกินดวงวิญญาณ ตราบจนกว่าร่างทิพย์จะสูญสิ้น
ยามเซินในฤดูวสันต์ใบไม้หลากสีผลิบาน แตกต่างจากเมืองเทพซึ่งนางเคยขยับปลายเท้าวาดวิชากระบี่เคียงข้างท่านอาจารย์ ท่ามกลางพรรณพฤกษาหลากสีสะท้อนแสงระยิบระยับ วิจิตรตระการตา ต้นไม้ทิพย์ไม่มีวันสิ้นสลายหากไม่ถูกทำลาย พวกมันล้วนเป็นวัตถุมีชีวิตอันถาวรนานบนเทวโลก
ใบหน้างดงามอ่อนหวานเศร้าหมอง เฝ้ามองการเจริญเติบโตของผลส้มงอกเงยเต็มสวนผ่านหน้าต่างไม้เปิดอ้ากว้าง ร่างผอมบางในชุดฮั่นฝู งดงามถีบทะยานขึ้นสู่ยอดไม้สูงใหญ่ สะบัดมือเก็บผลส้มลงตะกร้าในอ้อมแขน
“ไยเจ้าออกตัวแทนพวกเขาอีกแล้ว ลูกสาวข้า...”
บิดาเงยหน้าขึ้นถาม ขณะปลายเท้าของบุตรสาวเหยียบย่างลงบนพสุธาด้วยท่วงท่าสง่างาม
“ระวังเถิด พวกชาวนาชาวไร่จะเคยตัว”
ไป๋เหม่ยหลานยกมือประสานกันอย่างนอบน้อม “ขออภัยท่านพ่อ ข้าเป็นผู้มีเมตตาธรรมสม่ำเสมอ เกรงว่าข้าจะไม่ทำให้พวกเขาแค่เคยตัว ป่านนี้ชาวนาชาวไร่คงยกย่องข้าเป็นเทพธิดา”
“อืม... ลูกสาวข้างดงามปานเทพธิดา จิตใจเปี่ยมด้วยคุณธรรม วิทยายุทธล้ำเลิศไม่เป็นรองใคร สำหรับข้าฉางผิง ลูกสาวเป็นหนึ่งในใต้หล้า”
“ท่านพ่อเยินยอข้ามากไป จะอย่างไรก็ดี ข้าขอน้อมรับไว้” เสียงหวานเอ่ยสุภาพ รอยยิ้มบนใบหน้าปรากฏขึ้น กระทั่งในดวงตาเรียวรี
ผู้คนรอบกายไป๋เหม่ยหลานมองว่าใบหน้าขาวผ่องงามหมดจดของนางแลดูเศร้าหมอง บางครั้งนางก็หาได้แสดงอารมณ์ใด ๆ นางเป็นผู้สุขุมเยือกเย็น เฉลียวฉลาดมีความรู้ราวบัณฑิต ผิดจากบุตรสาวผู้สูงศักดิ์คนอื่น
คืนวานนี้เกิดเรื่องราวที่ยังไม่ได้สืบสวนเรื่องราวให้แน่ชัด หากคาดเดาว่าเป็นการทะเลาะวิวาทอันเนื่องมาจากชายพเนจรขี้เมามารบกวนสวนส้ม ไป๋เหม่ยหลานออกตัวรับผิดแทนชาวสวนว่าพวกเขาไม่เกี่ยวข้อง ราวกับสองตาเห็นด้วยตน นางไม่ยอมให้ใครถูกเจ้าของที่นาลงโทษแม้สักคนหนึ่ง
“แม่เฒ่าอาวุโสกล่าวกับข้าว่าคำเชยชมของบิดามารดาเปรียบดังสารประกาศิต พวกท่านเอ่ยอย่างไร บุตรมักเป็นเช่นนั้น”
“จริงอย่างเจ้าว่า ข้าถึงได้ชื่นชมบุตรสาวคนเก่งทุกวัน เจ้าจะได้เป็นไปตามคำของบิดา”
“ขอบคุณท่านพ่อ”
บิดาลูบศีรษะน้อยด้วยแววตาเอ็นดู มิได้เอ่ยว่าบุตรสาวเรื่องการรับผิดชอบแทนผู้อื่น
ธรรมดานางเป็นผู้ชอบทำเรื่องเล็กให้กลายเป็นเรื่องใหญ่ ชอบออกตัวรับผิดแทนผู้น้อยกว่า แถมพูดเรื่องไม่เป็นเรื่องให้บิดาหันมาสนใจความพูดของนางได้
‘ฉางผิงโหว’ เคยเอ็ดว่าไป๋เหม่ยหลานไยชอบพูดจาเหลวไหล กระทั่งวันหนึ่งจึงตระหนักได้ว่าบุตรสาวตนอาจเป็นเซียนผู้หวนคืนสู่วัฏสงสาร เมื่อนางมักเล่าเรื่องประหลาด ๆ เกี่ยวกับเทวโลก คติธรรม ไม่มีผู้ใดเคยได้ยิน นางเข้าใจในคำสอนในลัทธิขงจื่อ สามารถอธิบายให้ผู้ใหญ่ฟังได้ว่าคืออะไร ทว่าสตรีไม่มีโอกาสได้เล่าเรียนปรัชญา แม้กระทั่งวันที่นางสูญเสียมารดาไป เด็กหญิงวัยห้าขวบจะมีความรู้เรื่องโรคร้ายได้อย่างไร
ในวัยเด็กของไป๋เหม่ยหลาน มีสติปัญญาฉลาดเฉลียวเกินเด็ก นางสุขุมเยือกเย็น กิริยาสง่างามดังผู้บำเพ็ญตน นางไม่มีนิสัยซุกซนเหมือนเด็กทั่วไป
“ข้ามีเรื่องพูดคุยกับเจ้ามากมายทีเดียว ข้าจะเข้าเมืองหลวงไปทำธุระเสียก่อน ค่อยกลับมาพูดคุยกับเจ้าทีหลัง”
“เดินทางปลอดภัยท่านพ่อ มีเรื่องใดให้ข้าช่วยเหลือ ขอให้บอกข้าจะตามไปคุ้มกันท่านพ่อ”
“ข้าไปไม่ไกล อีกเดี๋ยวก็กลับ เจ้าควรใช้เวลาพักผ่อนของเจ้า ลูกสาว”
เสียงหัวเราะเริงร่าของบิดาในวัยสี่สิบลับหายไป พร้อมคำว่าไม่เป็นไร ๆ ลูกสาวไม่ต้องตามมา
--------------------------------
บิดาจากไร่ส้มไปสักเค่อหนึ่งกับทหารองครักษ์สามนาย ไป๋เหม่ยหลานยังคงนั่งอยู่บนยอดไม้ต้นที่สูงที่สุด เอนแผ่นหลังพิงพฤกษาพรรณสูงตระหง่าน หลังขจัดความฟุ้งซ่านจากนิมิตในวันวานด้วยการนั่งกินผลส้ม
ชาวนาชาวไร่ไม่ได้รับความเป็นอยู่ที่ดีเช่นนาง บุตรสาวท่านโหวผู้ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ชั้น ‘โหว ’
ชาวนาส่วนใหญ่ไม่ได้เป็นเจ้าของที่นา พวกเขารับจ้างทำนา นำเงินไปจุนเจือครอบครัว ด้วยความเป็นชนชั้นล่างของสังคมที่ยากจนข้นแค้น ถึงแม้ว่าจะมีฮ่องเต้รวบรวมดินแดนแว่นแคว้นให้กลายเป็นหนึ่งแผ่นดิน ชนชั้นแรงงานกลับมีความเป็นอยู่ย่ำแย่กว่าขุนนางและเหล่าชนชั้นสูงหลายเท่า
แม้ในยามที่บ้านเมืองแบ่งแยกอีกครั้งหนึ่ง ก็ยังไม่ต่างไปจากเดิม นางได้ยินว่าชาวบ้านที่อดอยากยากจนต่างพากันหนีลงใต้ หลังจากที่ฮ่องเต้ทำการอวยยศให้แม่ทัพผู้ร่วมกันก่อตั้งราชวงศ์ ให้ครองแคว้นรอบนอกเรียกท่าน ‘อ๋อง ’
โชคดีของไป๋เหม่ยหลานได้เกิดเป็นสตรีสูงศักดิ์ ถึงนางจำต้องอยู่เงียบ ๆ ในเรือนบิดา ไม่ทำตัวโดดเด่น นางเก็บตัวพอสมควรไม่เข้าสังคมกับบุตรสาวขุนนางทั้งหลาย นางแทบไม่เดินทางไปที่ไหนไกลจากไร่ส้ม อย่างมากนางก็ไปซื้อของในตลาดบ้าง เพราะถึงนางไม่คบหาใครมากนักนางชื่นชอบหลงใหลในความงาม นางสวมผ้าแพรต่วน ซึ่งสวยงามเป็นอย่างมาก หญิงสาวผู้ดีมีเงินต่างสวมใส่มัน นางดูแลคนงานของบิดา ไม่เช่นนั้นก็อยู่แต่ในเรือนบิดา
“ไป๋เหม่ยหลาน ๆ ข้ามีของมาฝากเจ้า!” เสียงตะโกนปลุกร่างบางในชุดฮั่นฝูถักด้วยลวดลายนภาสีคราม ไป๋เหม่ยหลานสะดุ้ง มองตามปีกสีขาวสะอาดโผลงมา ยื่นมือออกไปรับหยกเปล่งแสงจากจะงอยปากนกนางนวล
“ขอบใจเจ้าสำหรับของฝาก อี้เจ๋อ ถึงข้าจะไม่ต้องการมันอีกก็ตาม”
‘มิตรรักลวงใจ’ เรื่องราวของเพื่อนสนิท คิดคดกับเธอมานานแล้ว ดันมาโพล๊ะเข้าได้ในวันเมามายไร้สติ ได้ลองกินเพื่อนสักคำหนึ่งแล้วก็ต้องมีคำที่สองคำที่สาม คำเดียวจะอิ่มพอได้ไง ----------------------- ‘เรือนใจนายอคิน’ เมื่อหนุ่มนักเฝ้าหนังสือ มาเฝ้ามองหาความรักจากครูสาวทุกวัน หลายคนคงเห็นเขาเอาแต่มองคุณครูสาวมาเป็นปี ๆ ได้ขับรถผ่านไปดูประตูรั้วโรงเรียนหน่อยก็ยังดี...
‘แม่แก้ว’ ลูกสาวเศรษฐีโรงฝิ่นมีความจำเป็นต้องแต่งงานกับ ‘คุณหลวงจัน’ เพื่อรักษาหน้าตาวงศ์ตระกูลและชื่อเสียงของหล่อน ทว่าหลังแต่งงานไปกลับต้องพบกับเรื่องแปลกประหลาด ความลับบางอย่างของคุณหลวงและคุณพระบ้านนี้ ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
Arachné Tailors ‘เพราะบุคลิกภาพที่ดีเริ่มต้นจากเสื้อผ้า’ เป้าหมายสายตาเสื้อผ้าหน้าผมโดนใจ เข้าสโลแกนหน้าร้านบนป้ายตัวเบ้อเริ่ม หลายคนยังได้ยิน ‘ตรึงใจ’ ถูกหัวหน้างานเรียก ตามด้วยเจ้านายหนุ่ม ภายใต้รูปลักษณ์หล่อเหลา เอาการเอางาน ไม่มีใครรู้ว่าเจ้าของห้องเสื้อสูทชื่อดัง แท้จริงแล้วคือปีศาจแมงมุม! ผู้มาพร้อมสัญญาแห่งความปรารถนา ซึ่งเธอจะต้องเสียสละวิญญาณเข้าแลก และกฎแรงดึงดูดเที่ยงตรงเสมอ... “อ่านก่อนเซ็นนะครับ คุณดาว...” “ด้วยความหวังดี...” คำเตือนถึงสองครั้งสองครา! หญิงสาวก็ยังพลาด จนเกิดแต่เรื่องประหลาด ๆ ยิ่งสัมผัสจากเจ้านายหนุ่มช่างแตกต่างจากใคร เขาแสนอ่อนโยนกับเธอที่เผลอใจเต้นตึกตัก แต่นั่น... ก็จนกระทั่งเรียวปากหนาหยักได้รูปอ้ากว้าง คายเจ้าแมงมุมตัวสีดำออกมา... ให้ตายเหอะ นี่มันยิ่งกว่าหนังสยองขวัญ! อีกหนึ่งผลงานโรมานซ์ทริลเลอร์ แฟนตาซี 18+ ของพันพราย ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน - ภพคุณหลวง - (พีเรียด) พันวาเสน่หา
ชายหนุ่มนามว่า ‘จัน’ ผู้ต้องคำสาปมนตร์ตาละวัน นั่นก็คือเขาจะต้องกลายเป็นจระเข้ในเวลากลางคืน เป็นบุรุษรูปงามผู้โดดเดี่ยวเดียวดายในเวลากลางวัน เจ้าสาวจระเข้เท่านั้นที่จะทำให้หลุดพ้นจากคำสาป แน่นอนว่าความปรารถนาเพียงหนึ่งเดียวของเขาไม่ใช่ความตาย ตัวเขาและบ่าวคนสนิทจึงใช้ชีวิตหลบ ๆ ซ่อน ๆ มาตลอดหลายร้อยปี จนได้พบเจ้าของพรหมลิขิตผู้ชี้ชะตาชีวิตอย่าง ‘กัญญาวีร์’ ทว่าเธอดันเป็นถึงพนักงานขายอันดับหนึ่งของโรงงานผลิตหนังจระเข้! เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป... จระเข้หน้ามึนอย่างนายจันจะต้องตายหรือไม่? ฤาจะโดนกุดหาง ถลกหนังไปเป็นกระเป๋าให้แม่แก้วตาดวงใจ ร้ายที่สุดคงได้กลายเป็นสเต๊กจระเข้ในยุคข้าวยากหมากแพง “เนื้ออิ่มอวบแนบเนื้อ นวลนาง ขยับถอดสอดแท่งกาม เข้าไซร้ เคลื่อนอีกท่าคว้าดารา ได้ต่อ หนอแม่ กี่ราตรีควบขี่ข้าง พี่นี้ ดุร้าย นำพา” “ลามกจกเปรต! ผู้ชายที่ไหนเขาแต่งกลอนแนว Sexual Harassment จีบสาวกัน” กระแทกเสียงบริภาษว่า ทั่วทั้งวงหน้าหวานเต็มไปด้วยอารมณ์เกรี้ยวกราด แก้มแดงก่ำเพราะโกรธและอับอาย หนุ่มใหญ่กลับยิ้มกรุ้มกริ่ม “แล้วน้องต้องการเยี่ยงไร?” “สายเปย์ค่ะ พ่อบุญทุ่มหมดตัวหมดใจ กลับบ้านตรงเวลา ไปไหนกับใครส่งข้อความบอก สำคัญที่สุดคือไม่เจ้าชู้มีหลายเมีย กันไม่ชอบ ไม่เอาเด็ดขาด กลัวโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ไม่ใช้ผัวร่วมกับใคร มีไม่ดีไม่มีดีกว่า...” กัญญาวีร์หน้าบึ้งตึงใส่คนข้างกายที่อยู่ในชุดโบราณ นุ่งโจงกระเบนสีดำ อกกว้างกำยำเปลือยเปล่าเต็มไปด้วยมัดกล้าม ผิวเหลืองนวลทอประกายสีทองอ่อนราวสีสันของแสงอรุณยามเช้า สตรีนางไหนได้เห็นคงต้องตาต้องใจทันทีเว้นเพียงเธอ ซึ่งพรั่งพร้อมด้วยสติสำนึกรู้ตน ไม่สบตา ไม่แม้แต่จะสนใจเส้นผมดำขลับมัดเกล้าแซมสีขาวเทาเป็นปอย ขนานไปกับกรามแกร่งราวม่านน้ำ บุรุษรูปงามราวกับว่าเป็นเทวดาบนสรวงสวรรค์ ทว่าคงไม่ใช่... ซีรีส์สาปอสุรา มนตร์ตาละวัน มนตร์ตาละวัน ภพคุณหลวง (ภาคพิเศษ) พันวาเสน่หา
ไม่รู้โชคช่วยหรือดวงซวย! เลขาฯ หนุ่มลูกครึ่งไทย-ฝรั่งเศส ‘André Bernard’ เลยได้มาเป็นเลขาฯ คนที่แปดของเจ้านายสาวเรื่องเยอะ ลูกสาวคนเดียวของบ้านคุณหญิงวริศรา ทายาทไฮโซ ร่ำรวยลำดับต้น ๆ ของเมืองไทย
โปรย : สภาวะของโลกที่เปลี่ยนไปเนื่องมาจากโรคระบาด Covid ทำให้หนุ่มเกียร์ขี้หลีอย่าง เตชิน ต้องดิ้นรนมาแลนดิ้งดิ่งตรงลงสุวรรณภูมิแอร์พอร์ตกลับสู่อ้อมอกเมืองไทย สถานที่กักตัว ASQ โรงแรมระดับห้าดาวด้วยฝีมือแม่ชักแม่สื่ออย่าง ขวัญฤดี ที่อยากได้ลูกสะใภ้นักหนา จึงไปเที่ยวปล่อยเงินกู้ด้วยดอกเบี้ยแสนถูก ยื่นข้อเสนอออฟชั่นพร้อมให้เลือกลูกชายได้ทั้งสามคน! เขาจึงได้พบน้องพิมพ์สาวงามสมญานาม สวยทะลุแมสก์! สายรุกบุกอ่อย คอยส่งงานยั่วอย่างหนัก สมิงหนุ่มผู้หิวกระหายเคยโลดโผนอยู่ในป่าดงดิบ ไม่ได้ออกล่าเหยื่อมามาแรมปี ตั้งแต่สาวน้อยนามว่าโคโรน่าถือกำเนิดบนโลกนี้ จะจับเธอขย้ำเสียก็ได้ ถ้าไม่ติดว่าน้องพิมพ์... เด็กแม่! คือของต้องห้าม ++++++++++++++++++++++++ "น้อง... หมดเวลาไปกับการย้อมสีผมเหรอ? โรงแรมนี้มีบริการกักตัวซาลอนด้วยหรือยังไงกัน?" "กวนนะคะพี่เต... ถ้าไม่ใช่เพราะพี่หน้าตาดี พิมพ์คงไม่ให้อภัยอย่างแน่นอน" เธอพูดผ่านรอยยิ้มใต้แมสก์ดำ ยิ้มอันแฝงไปด้วยจุดประสงค์บางอย่าง "มีอะไรล่ะครับ? กักตัวไม่สบาย หรือว่าเหงาเลยอยากมาเจอคนหล่ออย่างพี่เต" เตชินยังหลงตัวเองเหมือนเดิมไม่เปลี่ยน หญิงสาวแค่เงียบไป มองคนในฝั่งตรงข้ามกันด้วยแววตาแน่วแน่ ในสิ่งที่เธอคิดว่าตัวเองตัดสินใจมาดีแล้ว "พิมพ์อยากมีหลานให้ป้าขวัญค่ะ" เธอรู้ตัวว่าตัวเองพูดอะไรออกไปตรงข้ามกับอีกคนที่นั่งนิ่งอึ้ง เตชินเห็นอยู่ก่อนหน้านี้ว่าเธอไม่ชอบให้เขาจีบ พูดจาหยอด หรือแสดงกริยาว่าชอบพอต้องการได้เธอมาเป็นคู่ควงจะชั่วคราวหรือตลอดไปก็ตาม พิมพ์ลภัสเป็นคนประหลาด... กว่าที่เขาคิดเอาไว้... พันพรายขอฝากอีกหนึ่งผลงานไว้ในใจด้วยนะคะ และอย่าลืม... การ์ดอย่าตก!
สิบปีเต็มที่ฉันแอบรักภาคิน วงศ์วรานนท์ ผู้ปกครองของฉัน หลังจากครอบครัวของฉันล้มละลาย เขาก็รับฉันไปดูแลและเลี้ยงดูฉันจนโต เขาคือโลกทั้งใบของฉัน ในวันเกิดอายุสิบแปดปี ฉันรวบรวมความกล้าทั้งหมดเพื่อสารภาพรักกับเขา แต่ปฏิกิริยาของเขากลับเป็นความเกรี้ยวกราดอย่างที่ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน เขาปัดเค้กวันเกิดของฉันตกพื้นแล้วคำรามลั่น “สติแตกไปแล้วเหรอ? ฉันเป็นผู้ปกครองเธอนะ!” จากนั้นเขาก็ฉีกภาพวาดที่ฉันใช้เวลาวาดเป็นปีเพื่อเป็นคำสารภาพรักของฉันจนไม่เหลือชิ้นดี เพียงไม่กี่วันต่อมา เขาก็พาโคลอี้ คู่หมั้นของเขากลับมาบ้าน ผู้ชายที่เคยสัญญาว่าจะรอฉันโต ที่เคยเรียกฉันว่าดวงดาวที่สว่างไสวที่สุดของเขา ได้หายไปแล้ว ความรักที่ร้อนแรงและสิ้นหวังตลอดสิบปีของฉันทำได้เพียงแผดเผาตัวเอง คนที่ควรจะปกป้องฉันกลับกลายเป็นคนที่ทำร้ายฉันเจ็บปวดที่สุด ฉันก้มมองจดหมายตอบรับจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยในมือ ฉันต้องไปจากที่นี่ ฉันต้องถอนรากถอนโคนเขาออกจากหัวใจ ไม่ว่าจะเจ็บปวดแค่ไหนก็ตาม ฉันยกโทรศัพท์ขึ้นมากดเบอร์ของพ่อ “พ่อคะ” ฉันพูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า “เอวาตัดสินใจแล้ว เอวาอยากไปอยู่กับพ่อที่กรุงเทพฯ ค่ะ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY