ความรักเป็นอะไรที่คาดเดาได้ยาก... ฉันหลงรักผู้ชายคนหนึ่งมาตลอดสามปี... ฉันทำได้แค่แอบมองเขา และแอบเก็บเขาไว้ในใจ คงทำได้แค่นั้นแหละสำหรับฉันกับเขา เขาผู้ซึ่งนั่งอยู่บนยอดดอย...และฉันที่มองเขาจากก้นเหว เขาควรเป็นแค่ความทรงจำแสนดีสำหรับฉัน…หากไม่มีเรื่องตลกเกิดขึ้น…ก็คงเป็นได้แค่ความลับในใจเท่านั้นแหละ เราสองคนเดินผ่านจุดอันตรายนั่นมาด้วยกัน และมีความทรงจำแบบใหม่ที่ฉันไม่อาจลืมได้....เขาโยนความผิดนั้นให้ฉันแบกรับไว้คนเดียว ซึ่งฉันก็ไม่ได้ปฏิเสธ เขาเกลียดฉันเป็นทุนเดิมอยู่แล้วนี่ จะเพิ่มอีกสักเรื่องให้เขาเกลียดฉันมากขึ้นก็ไม่เห็นเป็นไร...ฉันทำใจไว้นานแล้ว แต่แล้วทำไมล่ะ คนที่บอกว่าเกลียดฉันนักหนา...ถึงวนเวียนอยู่ใกล้ๆ ฉัน ทำตัวเป็นหมาหวงรางข้าว ไม่ยอมให้ฉันเริ่มต้นใหม่สักที...ทำไม???
บทที่1.ความลับของฉัน
โรม อิตาลี...
นักศึกษาทุนรัฐบาลอย่างฉันใช้เวลาทุกนาทีคุ้มค่าเสมอ เลยไม่เคยมีเวลาว่างคิดเรื่องไร้สาระ ในขณะที่คนรอบตัวฉันใช้ชีวิตนักศึกษากันอย่างสนุกสนาน ฉันกลับต้องดิ้นรนเพื่อมีชีวิตรอดให้ได้ เพราะฉันไม่ได้ร่ำรวยเหมือนคนอื่นไง แต่ฉันมีความฝัน และความฝันนั่นแหละที่ทำให้ฉันมายืนอยู่ตรงนี้
เกือบสามปีในมหานครแห่งประวัติศาสตร์ ในที่สุดวันแห่งความสำเร็จก็แวะเวียนใกล้เข้ามาทุกขณะ
คนอื่นอาจจะดีใจรีบส่งข่าวกลับบ้าน เพื่อให้คนในครอบครัวรู้สึกภาคภูมิใจ
แต่...ฉัน ไม่มีคนรออยู่ที่บ้านเกิดไง ในหัวฉันเลยมีแต่เรื่องทำมาหากิน ก่อนกลับ ฉันควรมีเงินสักก้อน เพื่อใช้สำหรับการตั้งตัว
วันนี้ฉันเลยอยู่ตรงนี้ กับงานที่ฉันรัก วิชาความรู้ที่ฉันร่ำเรียนมา จะได้ใช้ประโยชน์เต็มที่ก็วันนี้แหละ
“ธาร...ขายรูปได้บ้างหรือยังล่ะ” เสียงใครบางคนถามอยู่ข้างหลัง ฉันหันกลับไปมอง แล้วก็เผลอยิ้มตาม
เพื่อนนักศึกษาคนเดียวที่ยอมลดตัวมาเป็นเพื่อนฉัน ท่ามกลางผู้คนที่พยายามอยู่ห่างฉันไว้ให้ได้มากที่สุด ฉันไม่รู้ปูมหลังของปุณิกามากนักหรอก เท่าที่รู้ก็ฟังมาจากคำบอกเล่าของคนอื่นๆ เพื่อนของฉันคนนี้ค่อนข้างมีฐานะ แต่ก็ไม่ถึงกับร่ำรวยเป็นคุณหนูไฮโซ เหมือนแฟนของเธอหรอก หมอนั่น เป็นลูกหลานคนดัง มีฐานะร่ำรวยมาก มากเสียจนบางครั้งฉันก็แอบอิจฉาความมั่งมีของเขา
ฉันไม่ใคร่ใส่ใจคนรอบตัวเท่าไหร่หรอกนะ เพียงแต่สองคนนี้ เป็นคนที่มาจากประเทศที่ฉันนั่นแหละ มันเลยเป็นความจำเป็นที่ทำให้ฉันต้องรู้โดยปริยาย
นักศึกษาจากต่างแดนมักจะเกาะกลุ่มกันอยู่ เพื่อไม่ให้รู้สึกเหงา และคิดถึงบ้านเกิดมากนัก
ซึ่งฉันไม่ได้อยู่ในกลุ่มของพวกเขาหรอก ฉันไม่ค่อยมีเวลาว่าง ทุกนาทีของฉันต้องใช้ให้คุ้มค่า ไม่อย่างนั้น แม้แต่ที่ซุกหัวนอนฉันก็คงไม่มี
ฉันวิ่งรอกทำงานหลายที่ เพื่อให้มีสตางค์พอสำหรับค่าใช้จ่าย
ฉันสอบชิงทุนมาก็จริง แต่จำนวนเงินที่รัฐบาลช่วยพอแค่ค่าเทอมกับค่ากินอยู่นิดหน่อย ต่อให้ประหยัดมากแค่ไหนก็ไม่มีทางพอ ฉันไม่มีใครสนับสนุนไง ไม่มีครอบครัว โชคดีที่ยังมีบ้านคุ้มหัว แม้จะไม่ต่างจากคนรับใช้สักเท่าไหร่ในบ้านที่ฉันเติบโตมา
ครั้งแรกที่ฉันบอกลุงกับป้า ทั้งสองท่านคัดค้านหัวชนฝา
ฉันเตรียมใจไว้แล้ว เลยหาเหตุผลที่มีมากพอ เพื่อโน้มน้าวญาติผู้ใหญ่
และฉันก็ทำสำเร็จเลยได้มายืนอยู่ตรงจุดนี้ไง วันนี้ ฉันถึงปลายทางที่ฝันไว้แล้ว แต่ไหนๆ ฉันก็มาไกลถึงอีกซีกของโลก ฉันควรมีอะไรติดมือกลับไปบ้างไม่ใช่เหรอ...
“พอได้อะณิกา” ฉันตอบ ขยับเก้าอี้เตี้ยๆ ที่เตรียมไว้ให้ลูกค้านั่งให้เพื่อนของฉัน “นั่งก่อนไหมล่ะ”
ปุณิกาส่ายหน้าแล้วก็ยิ้มหวาน “ณิกานัดเติร์กไว้น่ะธาร วันนี้เรานัดมาเดตกัน”
ฉันเม้มปาก เสก้มหน้าหลบ หัวใจเต้นช้าลงหน่อยๆ เพราะผู้ชายที่ปุณิกามาออกเดตด้วย คือคนบางคนที่ฉันแอบซุกไว้ในใจ ฉันไม่กล้าเผยอหน้าหรือทำให้ชายผู้นั้นสนใจตัวเองหรอก ฉันกับเขา ยิ่งกว่าก้นเหวกับท้องฟ้าเสียอีก ฉันโชคดีที่ได้รู้จักเขาที่นี่ แต่หากกลับบ้านเกิดเมื่อไหร่...ความโชคดีของฉันคงหมดลงด้วย
คงทำไม่ได้แม้แต่จะแอบมองเขา เหมือนทุกวันนี้หรอก
น่าจะได้เห็นเขาผ่านสื่อเพราะเขาเป็นคนดังนั่นแหละ...ทายาทนิธิกิจไพศาล ตระกูลดังที่เป็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ในประเทศที่ฉันเกิด
“ขอให้สนุกนะ” ฉันพึมพำตอบ ไม่กล้าแม้แต่จะเงยหน้า ฉันกลัวว่าตัวเองจะหลุดพิรุธให้เพื่อนจับได้ หัวใจของฉันมันเจ็บแปล๊บๆ พิกล
ฉันเจียมตัวมาตลอดนั่นแหละ แต่ฉันก็แค่มนุษย์คนหนึ่ง
ฉันมีความรู้สึกเหมือนชาวบ้านชาวช่อง ที่ฉันสงสัยคือ ฉันประทับใจอะไรในตัวผู้ชายคนนั้น และลุ่มหลงเขาได้ถึงเพียงนี้
“แหงล่ะ ฉันสนุกแน่ๆ แต่เธอ คงไม่มีความสุขหรอก...น่าจะนั่งรากงอกอยู่ตรงนี้อีกนาน กว่าจะขายผลงานเห่ยๆ นั่นหมด” เสียงห้าวๆ คุ้นหู กับกลิ่นประจำตัวของเขา ฉันก้มหน้าลงมากกว่าเก่า พยายามรั้งสายตาตัวเองไว้ที่พู่กันในมือ
“ณิกาขอนะคะเติร์ก” เสียงหวานๆ ของเพื่อนปรามความปากเสียของชายผู้นั้นไว้
ยี่หวาไม่เคยคิดว่าปลายทางชีวิตของเธอจะจบลงแบบนี้ ก่อนที่เธอจะทิ้งอนาคตที่เหลือไปอย่างไร้ค่า เนื่องจากสุดที่จะทนกับความชอกช้ำที่ได้รับมาจากสามีคนเดียว เธอตัดสินใจฝากดวงใจของตัวเองไว้กับน้องสาวฝาแฝด น้องสาวที่ไม่มีคนรอบตัวรู้จัก มันคือความลับที่เธอปิดบังพวกเขาไว้ สมัยเด็กๆ พ่อกับแม่แยกทางกัน ทั้งสองท่านเลยแบ่งลูกไปเลี้ยงดูคนละคน ยี่หวาอยู่กับแม่ ส่วนญาดาไปอยู่กับบิดา สองสาวที่เหมือนกันทุกกระบิ แตกต่างที่นิสัย คนหนึ่งเรียบร้อย พูดน้อย น่ารัก ส่วนอีกคนตรงข้ามทุกอย่าง แกร่ง และกล้าท้าชน… และเพราะแค้นใจแทนพี่สาว ญาดาเลยรับปากก่อนยี่หวาสิ้นลม เธอจะเอาคืนทั้งสองคนนั้นให้สาสม ไม่ว่าจะเป็นปกป้องสามีสุดที่รักของยี่หวา หรือแม้แต่...ฉันทา ว่าที่ภรรยาคนใหม่แสนผยองคนนั้น สองคนนี้ต้องหาความสุขไม่ได้ เธอจะรังควานพวกเขา ให้เหมือนตกนรกทั้งเป็น...การจองเวรคืองานที่เธอควรทำ…ถ้าเป็นดั่งที่ตั้งใจไว้ ญาดาคงไม่กลุ้มใจหนัก ‘ความรัก’ บทจะมาก็มาประชิด เธออยากแก้แค้น แต่ดันไปหลงรัก ผู้ชายเลวคนนั้นเสียอีก หลังจากเฉดหัวฉันทา คงต้องหาทางมัดใจปกป้อง อย่างน้อยก็ทำเพื่อหลาน ถ้าเธอตกนรก เธอจะลากปกป้องตามไปด้วย...
คงไม่มีความซวยไหนเลวร้ายเท่ากับการถูกตราหน้าว่าเป็น ‘เด็กดริ้ง’ ความตั้งใจของณิรินคือไปจับผิดว่าที่พี่เขย แต่กลับกลายเป็นว่าเธอถูกเข้าใจผิดเสียเอง แถมผู้ชายคนนั้นดันเป็นคนสำคัญที่เธอต้องคอยดูแลระหว่างที่เขามาเจรจา เพื่อเป็นคู่ค้ากับบริษัทของลุงกับป้า หน้าที่นั้นเลยถูกโยนมาให้ณิรินรับผิดชอบ ผู้ชายปากร้ายเอาแต่ใจตัวเอง ค่อนข้างงี่เง่าคนนั้น เขาคิดว่าเธอมีอาชีพเสริม และพยายามเกาะแกะจนณิรินโมโห บางครั้งณิรินก็อดคิดไม่ได้ มันเป็นเพราะช่วงเบญจเพศของเธอหรือเปล่า เรื่องซวยๆ เลยเกิดขึ้นกับเธอไม่หยุดหย่อน
เสียงของเขาดังก้องอยู่ในหู ฉันไม่สามารถสลัดเสียงแหบๆ ของเขาออกไปจากความทรงจำได้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกับฉันนะ สิ่งที่ฉันคิดอยู่นี่คือ...ความผิด แม้จะเป็นแค่ความคิด แต่มันเป็นก้าวแรกที่ฉันตั้งใจทำผิดศีลธรรม กับผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว!! ฉันกำลังเป็นคนเลว และอีกไม่ช้า ฉันคงโดนคนทั้งโลกประณามหากฉันไม่หยุดความคิดทุเรศๆ นั่นเสียตั้งแต่ตอนนี้ จะทำยังไงดีล่ะ? ฉันคิดอะไรไม่ออกเลย มีเพียงเสียงแหบๆ ของคน คนนั้นดังก้องอยู่ในหูเท่านั้น “สามีของเธอเดินทางไปทำธุรกิจ” “เธอบอกว่าสามีของเธอจะไม่อยู่ประมาณหนึ่งอาทิตย์!!” “มันจะดีแค่ไหนนะ หากฉันเปลี่ยนสิ่งที่ได้ยินได้ เขาน่าจะไปซัก7ปี” ผมพยายามข่มใจให้รู้สึกเศร้าตาม แต่หัวใจของผมกลับเต้นระรัวเกินกว่าจะควบคุมได้ “คุณอยู่ที่ไหน?
รัชศกปีที่สิบ มันเป็นช่วงเวลาแสนสุขที่ลืมไม่ลง แม้เวลาจะผ่านมาเนิ่นนาน ครั้งหนึ่ง ข้าเคยเป็น ‘สาวงาม’ ที่ผู้คนทั้งเมืองหลงใหล เมืองหลวงกว้างใหญ่ใต้แผ่นฟ้าเดียว ข้าผู้มาก่อนกาล เดิมทีข้าคิดว่าเป็นแค่ความฝันหนึ่งตื่น แต่ที่ไหนได้ ทุกเหตุการณ์ที่ข้าพบเจอ คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริง ความสุขที่ท่วมท้นอยู่ในใจ เป็นความทรงจำเดียวที่ทำให้ข้าอยากมีชีวิตอยู่ต่อ เพื่อ...รอ...ใครบางคน
เมื่อสามีตะโกนใส่หน้า “ผมต้องการหย่ากับเธอ!! คนที่ผมรักเขากลับมาหาผมแล้ว” เมษาเซ็นจำใจชื่อบนใบหย่าพร้อมทั้งน้ำตาที่ไหลพรู เธอตัดสินใจเก็บงำความลับไว้กับตัว พร้อมกับจากไปโดยไม่ปริปากบอกคีรินเลยสักคำ ผ่านไป 5 ปี เด็กชายคนหนึ่งมาตามหาพ่อ... “ผมจะไปหาพ่อผม ปล่อยผมนะ!!” เสียงแผดก้องบริเวณหน้า ล็อบบี้ แม้แต่คีรินเองยังอดสนใจไม่ได้ เด็กชายคนหนึ่งถูก รปภ. รั้งตัวไว้ เขาดิ้นกระแด๋วๆ ตะโกนลั่น ผิวทั้งหน้าแดงก่ำ มีเม็ดเหงื่อผุดเต็มไปหน้า และเมื่อเด็กชายวิ่งตรงมาหาเขา “พ่อคร๊าฟฟฟฟฟ” คิรินเข่าอ่อน สัญชาตญาณบางอย่างเตือน เด็กชายตรงหน้าเขานี่ เป็นเลือดเนื้อส่วนหนึ่งของเขาร้อยเปอร์เซ็นต์
เป็นข้อเสนอที่น่าสนใจไม่หยอก หากสามารถปราบพยศผู้ชายเจ้าอารมณ์ได้ ดานันจะเป็นอิสระจากข้อผูกมัดของบิดา ทว่า...ในความโชคร้าย มีความโชคดีแอบแฝงอยู่ ว่าที่สามีของเธอ เป็นบุตรชายผู้มั่งคั่งของตระกูลใหญ่ แต่เขาเพิ่งสูญเสียดวงตาไปจากอุบัติเหตุ ดานันต้องรองรับความเกรี้ยวกราดเช่นนี้ จนกว่าจะเปลี่ยนความคิดของเขาได้ ครามไม่ได้พิกลพิการมาตั้งแต่กำเนิด เขามีหนทางรักษาได้ ขึ้นอยู่กับว่า...ดานันจะโน้มน้าวว่าที่สามีของเธอได้หรือเปล่า
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
หลังจากแต่งงานกันสามปี เจียงหยุนถังพยายามสุดความสามารถเพื่อช่วยชีวิตสามีที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่คาดคิด ว่าเขาได้ละทิ้งเธอเหมือนกับขยะ รับรักแรกของเขากลับประเทศและตามใจเธอทุกอย่าง เจียงหยุนถังที่ท้อใจตัดสินใจหย่า และทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอที่กลายเป็นภรรยาที่ถูกทอดทิ้งจากตระกูลเศรษฐี อย่างไรก็ตาม เธอกลับเปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างกะทันหันเป็นหมอเทวดาที่พบเจอยาก "Lillian"แชมป์แข่งรถที่มีฐานแฟนคลับจำนวนมาก และยังเป็นนักออกแบบสถาปัตยกรรมระดับโลกอีกด้วย ชายร้ายหญิงชั่วคู่นั้นเยาะเย้ยเธอว่า เธอจะไม่มีวันหาคู่รักได้ใ แต่ไม่คาดคิดว่าลุงของอดีตสามีของเธอ ซึ่งเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทำกแงทัพกลับมาเพียงเพื่อขอแต่งงานกับเธอ
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้