/0/10425/coverbig.jpg?v=b1856888b7c65b0e0428841cbd1b916a)
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
“หลินอวี้ลูกข้าล่ะ”
“ฮูหยินคุณหนูน้อยและคุณชายน้อยแข็งแรงดีเจ้าค่ะ”
“หลินอวี้ต่อไปเจ้าคือน้องสาวข้า เรียกข้าว่าท่านพี่ ข้าฝากลูกด้วย ดูแลเขาให้ดี ๆ”
หลิวหยาฉีพูดเสียงแผ่วเบา
“ท่านพี่ท่านพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้าจะไปทำอาหารให้ท่าน”
“หลินอวี้ ลูกสาวข้าชื่อหลิวลี่หลิน ลูกชายข้าชื่อหลิวลี่หยาง จะ..เจ้าจำไว้ดูแลเขาให้ดี…..อย่าให้คนพวกนั้นรู้…อย่าให้เขารู้ ...อย่า….”
เสียงของหลิวหยาฉีแผ่วเบาลงจนขาดหายไปในที่สุด แล้วก็แน่นิ่งไปสร้างความตกใจให้หลินอวี้ยิ่งนัก
“ท่านพี่….ท่านพี่..ฮือฮือ..ท่านอย่าทิ้งข้าไปนะ ท่านอย่าทิ้งคุณหนูทั้งสองไปนะ...ฮือฮือ...ท่านหมอช่วยท่านพี่ข้าด้วยเจ้าค่ะ ฮึก”
ไป๋เหยียนที่กำลังล้างเช็ดตัวห่อตัวให้ทารกทั้งสองอยู่ จึงอุ้มทารกทั้งสองไว้ด้วยมือคนละข้างรีบเดินมาดูยื่นทารกให้หลินอวี้ รีบจับชีพจรดู ไป๋เหยียนสายหน้า
“ร่างกายนางอ่อนแอนัก นางสู้ต่อไปไม่ไหวแล้วล่ะ”
หลิวหยาฉี นางถูกสามีหย่าขาดและถูกขับออกจากจวนอ๋องเพียงเพราะนางไม่สามารถตั้งครรภ์ได้ แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัดพอนางออกจากจวนอ๋องนางกลับตั้งครรภ์ นางเดินทางจากเมืองเป่ยจินรอนแรมมาถึงซานตงตั้งใจพาลูกมาตั้งรกรากที่นี่นางพอมีสมบัติติดตัวอยู่บ้างนางจึงไม่เดือดร้อนอะไรมากนัก ระหว่างทางนางแวะพักหลายที่เพื่อหาที่ทำกินเหมาะ ๆ เพื่อตั้งรกรากให้ลูกน้อย ตอนนี้นางท้องแก่ใกล้คลอดแล้วนางตั้งใจจะไปคลอดที่ซานตง ระหว่างเดินทางเกิดปวดท้องคลอดกระทันหัน ถึงแม้นางจะโชคร้ายมาโดยตลอดแต่ในความโชคร้ายก็ยังมีความโชคดีของนางอยู่ บังเอิญมีท่านหมอลงเขามาพอดีจึงช่วยนางทำคลอด
ท่านหมอไป๋เหยียนเป็นผู้เชียวชาญด้านปรุงโอสถและยาพิษมีวรยุทธ์สูง วันนี้ท่านหมอลงเขามาซื้อข้าวสารอาหารแห้งบังเอิญเจอคนเจ็บท้องคลอดจึงช่วยเหลือทำคลอดให้ แต่เมื่อเขามาถึงทารกคนแรกก็ออกมาแล้ว นางกำลังเบ่งคนที่สองอยู่เขาจึงช่วยอะไรไม่ได้ จึงไม่สามารถยื้อชีวิตของแม่เด็กได้ เด็กทารกคลอดออกมาเป็นแฝดชาย-หญิง แข็งแรงทั้งคู่แต่ร่างกายของมารดาอ่อนแอและเสียเลือดมาก มีอาการตกเลือดจึงช็อกและสิ้นใจลง
“เจ้าจะทำเช่นไรต่อไป”
หลินอวี้คิดอะไรไม่ออก ได้แต่ร้องไห้แล้วส่ายหน้า
“เจ้าชื่ออะไร”
“ข้าน้อยหลินอวี้เจ้าค่ะ”
“หลินอวี้ หากเจ้ายังไม่มีที่ไปก็ไปอยู่กับข้าก่อน เจ้าไม่ต้องกังวลเด็กทั้งสองนี้เขาลักษณะดีมาก เขาเป็นเด็กมีพรสวรรค์ข้าจะรับเลี้ยงเป็นลูกบุญธรรมก็แล้วกัน”
“ขอบคุณท่านหมอเจ้าค่ะ”
เขารู้สึกถูกชะตากับทารกน้อยทั้งสองอย่างประหลาด ทั้งคู่ทำตาแป๋วมองเขานิ่ง ๆ แล้วก็หลับไปไม่ร้องสักแอ่ะ
“เอาล่ะหาที่ดี ๆ ฝังศพนางไว้ที่นี่เถอะเด็กทั้งสองจะได้มากราบไหว้แม่ของเขาได้”
หลินอวี้พยักหน้าช้า ๆ ทั้งน้ำตาก็ยังไหลไม่หยุดแล้วก็เดินสำรวจหาที่ฝังนายหญิงของนาง เมื่อฝังเสร็จแล้วก็หาดอกไม้มาวางทำป้ายวิญญาณปักไว้หน้าหลุมศพคำนับศพ แล้วจึงหยิบห่อผ้าตามท่านหมอไป๋เหยียนขึ้นเขาไปส่วนรถม้านั้น ท่านหมอไป๋เหยียนเก็บใส่มิติเอาขึ้นเขาไปดวย
มี่ลี่ลืมตาตื่นขึ้นมา
‘ที่นี่ที่ไหนเนี้ย โอ้ยปวดหัวจังเลย อ๊ะ แขนเด็กที่ไหนเนียะ’
มี่ลี่ลองใช้มือหยิกแก้มตัวเอง
‘โอ้ยเจ็บ นี่แขนชั้นเหรอเนี้ย ห๊ะ! ระ…หรือว่า…ช้านกลายเป็นเด็กทารก กรี๊ด’
“แง๊แง๊”
“อ้าวหิวแล้วรึ คุณหนูลี่หลินอย่าข่วนหน้าตัวเองสิเจ้าคะ มา ๆ หิวแล้วใช่ไหม”
ไป๋เหยียนไปหาแม่นมมาได้ 2 คนจึงจ้างมาดูแลเด็กทั้งสอง ครบ 3 เดือนก็เปลี่ยนมากินนมแพะที่ไป๋เหยียนลงเขาไปซื้อมาเลี้ยงไว้หลายตัว ตอนนี้ก็สามารถรีดนมได้แล้ว หลินอวี้รีดนมแพะเอาไปอุ่นเล็กน้อยแล้วค่อยป้อนคุณหนูทั้งสอง
ตอนนี้เด็กทั้งสองก็อายุ 5 หนาวแล้ว ทั้งสองกำลังฝึกวรยุทธอยู่ หลินอวี้ก็ลงไปฝึกด้วยกันกับหลานทั้งสอง ไป๋เหยียนไม่หวงวิชาสอนให้ทั้งสามหมดทุกอย่าง วรยุทธ์ ปรุงโอสถ ปรุงยาพิษ
หลินอวี้ขอคำนับไป๋เหยียนเป็นอาจารย์ตั้งแต่ขึ้นเขามา นับตั้งแต่นั้นมาหลินอวี้ก็กลายเป็นศิษย์สายตรงของไป๋เหยียนเพียงคนเดียว เด็กทั้งสองเลี้ยงง่ายมาก หลังจากกินข้าวกินนมเสร็จก็มานั่งข้างพ่อบุญธรรมดูน้าหลินอวี้ฝึกวรยุทธ์บางทีก็ทำตามบ้าง เอาไม้มากวัดแกว่งฟาดฟันกันเล่นบ้าง
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
เขายังคงกระแทกกระทั้นอย่างเมามันส์ มือจับเอวรั้งรับแรงกระแทกจนหญิงสาวจุก เสียงเนื้อกระทบกันแข่งกับเสียงเตียงลั่นเป็นจังหวะ ธามจับพลิกคว่ำพลิกหงายเปลี่ยนท่าตามอารมณ์กาม มโนว่าสาวที่นอนดิ้นครางระงมอยู่ใต้ร่างนั้นเป็นรินรดา “อ่าา…ซีดด…เสียวจังรินจ๋า” กระแทกอีกสองสามทีร่างเขาก็กระตุกเกร็ง
ความเข้าใจผิดทำให้เขามีค่ำคืนอันเร่าร้อนกับเธอ..เขาจะถือว่าเธอเป็นของเขาอย่างสมบูรณ์ แม้ว่าเธอจะไม่เต็มใจก็ตาม และของที่เป็นของเขา จะไม่มีวันปล่อยให้ใครหน้าไหนได้เชยชมทั้งนั้น อย่าฝันจะเป็นอิสระ
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
ซุนเหยา เจ้าของร้านอาหารจีน ที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ เธอทำงานหนักจนหมกสติไป เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวแปดคนหาม สวมชุดแดงมงคล กำลังจะเข้าพิธีแต่งาน
เจียนเยว่ใช้ชีวิตอย่างยากลำบากจนกระทั่งพบอาของเธอ แต่เธอก็ตกหลุมรักอาของเธออย่างควบคุมตัวเองไม่ได้ น่าเสียดายที่อาคนนั้นกำลังจะแต่งงาน เลยจัดให้เธอไปต่างประเทศ เพื่อแก้แค้น เธอจึงเรียนวิชาบุรุษวิทยาและหลังจากกลับมาอีกครั้ง เธอก็กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านบุรุษวิทยาที่มีชื่อเสียงที่สุด เชี่ยวชาญการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ การหลั่งเร็ว ภาวะมีบุตรยาก... คราวนี้คุณอาดันเธอไว้ในห้องนอน "ถ้าอยากดูร่างกายของผู้ชายมาก ก็ช่วยตรวจให้ผมหน่อยสิ" เธอยิ้มอย่างชั่วร้าย และใช้มือปลดเข็มขัดของเขา "มิน่าเล่าขนาดอามีคู่หมั้นแล้ว แต่กลับไม่แต่งงานสักที ที่แท้มันใช้งานไม่ได้สินะ" "จะได้หรือไม่ได้ คุณก็ลองดูเองสิ" "ไม่เลย อาไปหาคนอื่นช่วยดูให้เถอะ"
เพื่อค่ารักษาของพ่อ ฟางจิ้งหร่านยอมแทนที่น้องสาว แต่งงานกับชายผู้เสื่อมเสียชื่อเสียงและหูหนวก คืนแรกของวันแต่งงาน เธอค่อยๆ ถอดชุดทีละชิ้น ด้วยความคาดหวัง... แต่กลับได้ยินเพียงคำเตือนเย็นชาจากเขา "การแต่งงานของเราเป็นแค่สัญญา" อยู่ข้างกายชายเจ้าอารมณ์คนนี้ ฟางจิ้งหร่านต้องระมัดระวังทุกเมื่อ โดยกลัวว่าจะทำเขาไม่พอใจเข้า ทุกคนรอคอยดูเธอเสียหน้า... แต่ใครจะไปคิดว่า สามีคนนี้กลับกลายเป็น"ที่พึ่งที่มั่นคงที่สุด"ของเธอ จนกระทั่งวันที่สัญญาครบกำหนด ฟางจิ้งหร่านถือกระเป๋าเตรียมตัวจะจากไป... ชายคนนั้นกลับมีดวงตาแดงก่ำ กระซิบขอร้องว่า "อย่าไป..."
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด