เว่ยเว่ย นักศึกษาฝึกงานทะลุมิติ เว่ยเว่ยขับเวสป้าตกเหว แต่ดันทะลุมิติตกน้ำอยู่ตรงหน้าชายหนุ่ม ที่กำลังหาปลาอยู่ที่บึงน้ำ ลู่เหวินเยียนอาศัยกับมารดาอยู่ที่กระท่อมเชิงเขา บิดาเสียชีวิตในสนามรบ เขามักจะออกไปล่าสัตว์ป่ามาขาย วันนี้เขามาดูกับดักปลาและบังเอิญเห็นบางสิ่งตกลงมาจากฟ้าต่อหน้าต่อตาเขา คำเตือน นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นตามจินตนาการของผู้แต่ง บุคคล สถาน องค์กรและเนื้อเรื่องทั้งหมดในนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องสมมติ ผู้อ่านโปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน ผู้เขียนขอสงวนลิขสิทธิ์ทางปัญญาตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์พ.ศ.2537และเพิ่มเติมพ.ศ.2538 ห้ามทำการคัดลอก หรือดัดแปลงเนื้อหาของนิยายโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของที่เป็นผู้แต่งเป็นลายลักษณ์อักษร
เว่ยเว่ย สาวนักศึกษาฝึกงานที่ฟาร์มแห่งหนึ่ง กำลังขับเวสป้าคันโปรดไปทำงานจู่ ๆก็มีรถยนต์พุ่งมาชนเธอตกเหวข้างทาง ร่างเธอและรถร่วงดิ่งลงเหวทันที
“ตู้มม”
ลู่เหวินเยียนกำลังหาปลาเพื่อเป็นอาหารเย็นให้ครอบครัวอยู่ จู่ ๆ ก็มีบางอย่างตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าเขา เห็นเป็นหญิงสาวแต่งตัวประหลาดนอนหมดสติอยู่ เขาจึงรีบช่วยเหลือแล้วอุ้มกลับบ้าน
“ท่านแม่ แม่นางคนนี้ตกน้ำหมดสติขอรับ”
นางลู่มารดาของลู่เหวินเยียนได้ยินเสียงร้องเรียกจึงออกมาดู
“เหยียนเหยียน ผู้ใดกันแต่งกายประหลาดนัก”
“ไม่ทราบขอรับ ข้าหาปลาอยู่ที่ลำคลองนางผู้นี้ตกลงมาจากฟ้าตรงหน้าข้า”
“แม่ดูแลนางเอง เจ้าไปอาบน้ำเถอะ”
“ท่านแม่ข้าได้ปลามา 4 ตัวข้าจะต้มชุปปลาตัวหนึ่ง อีก 3 ตัวข้าจะเอาไปขายนะขอรับ”
“ตามใจเจ้า อ่อ..เอาผ้าปักไปส่งให้เถ้าแก่เนี๊ยร้านผ้าด้วยนะ”
“ได้ขอรับ”
นางลู่อยู่กับบุตรชาย 2 คน สามีนางไปเป็นทหารแต่เสียชีวิตที่สนามรบหลายปีแล้ว ครอบครัวนางยากจนมาก มีลูกชายเพียงคนเดียวที่เป็นเสาหลัก หากนางไม่มีบุตรชายคนนี้นางคงตายตามสามีไปนานแล้ว ครอบครัวนางไม่มีรายได้มากมายลูกชายเข้าป่าล่าสัตว์ หาปลาไปขายในตลาด รับจ้างทั่วไป ส่วนนางลู่ปักผ้าให้ลูกชายนำไปขายที่ร้านขายผ้า พอได้ซื้อข้าวสารมาเก็บไว้
นางลู่เช็ดเนื้อเช็ดตัวและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้หญิงสาวแปลกหน้า โชคดีที่ใส่เสื้อผ้าของนางได้พอดี เสร็จแล้วไปเตรียมอาหารไว้รอบุตรชายกลับมาจากตลาด
เว่ยเว่ยหลับไป 3 วันเต็ม รู้สึกตัวว่าคอแห้งมาก
“แค่กแค่ก นะ..น้ำ…ขอน้ำหน่อย”
เพราะนอนนิ่งมาหลายวันทำให้นางลู่และบุตรชายร้อนใจ จึงไปตามหมอในเมืองมาดู หมอตรวจดูอาการแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไรมาก ที่นางยังไม่ฟื้นเขาก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกัน
เมื่อนางฟื้นทุกคนเลยดีใจ นางลู่ประคองเว่ยเว่ยลุกนั่ง ใช้ช้อนตักน้ำให้นางดื่ม เว่ยเว่ยได้ดื่มน้ำสักพักก็ดีขึ้น เหยียนเหยียนไปทำข้าวต้มง่าย ๆ มาให้คนป่วยกิน
“ข้าวต้มมาแล้วขอรับท่านแม่”
เว่ยเว่ยมองเห็นชายหญิงสองคนแต่งตัวโบราณ ๆ จึงถามเสียงเบาด้วยความสงส้ย
“ที่นี่ที่ไหนคะ”
“เจ้ากินข้าวเสียก่อนเถอะ แล้วค่อยคุยกัน”
เว่ยเว่ยยังมึน ๆ งง ๆ อยู่ กินข้าวเสร็จแล้วก็ตามด้วยยาต้มขม ๆ เว่ยเว่ยเป็นคนกินยาง่าย ขมแค่ไหนเธอก็กินได้
“แม่หนูเจ้าชื่ออะไรรึ”
“เว่ยเว่ย”
“ข้าแซ่ลู่ นี่เหยียนเหยียนลูกชายข้า เหยียนเหยียนบอกว่าเจ้าตกลงมาจากฟ้า”
เว่ยเว่ยมีอาการปวดหัวขึ้นมาทันที
“ขะ..ข้าจำไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น จำได้แต่ว่ากำลังจะออกไปทำงานเท่านั้น รู้สึกตัวก็อยู่ที่นี่แล้ว”
“เจ้าพักผ่อนเถอะ หายดีแล้วค่อยว่ากัน”
นางลู่เอ่ยขึ้น แม้ไม่รู้ที่มาทีไปของสตรีผู้นี้ แต่นางก็รู้สึกเอ็นดูอย่างบอกไม่ถูก
วันถัดมาอาการของเว่ยเว่ยดีขึ้นมากแล้ว จึงอยากลุกเดินออกกำลังกายยืดเส้นยืดสายบ้าง นอนติดเตียงมาหลายวันแล้วเธอรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวยิ่งนัก เว่ยเว่ยสังเกตุเห็นว่าบ้านหลังนี้เก่าทรุดโทรมมาก จะเรียกบ้านก็ไม่ถูกนัก กระท่อมหลังเล็กๆ เสียมากกว่า มีเพียง 2 ห้อง เธอนอนห้องหนึ่งท่านน้าลู่นอนอีกห้องหนึ่ง แล้วพี่เหยียนไปนอนที่ไหนล่ะ เธอเดินออกมาจากกระท่อมมองดูรอบ ๆก็มีแต่ป่า
“เรามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไรนะ”
เว่ยเว่ยยืนคิดอยู่คนเดียวสักพักก็นึกบางอย่างได้ เธอฝันว่าเธอเดินไปในป่าที่นี่แน่นอน เธอจึงตัดสินใจเดินไปตามทางที่เธอฝัน เธอเดินไปในป่าเรื่อย ๆ ช่วงที่เธอหลับอยู่หลายวันนั้นเธอฝันว่าเธอเดินมาทางนี้ เดินไปเรื่อยในฝันว่าเธอหยุดตรงนี้ คลับคล้ายว่าเธอเจออะไรสักอย่าง แต่ในฝันก็ไม่ชัดเจนว่าเธอเจอกับอะไรเธอจึงก้มมองหาจนทั่ว
“ในฝันเราหาอะไรนะที่ตรงนี้ โสมซานซีนี่นา ถังเช่า! เห็ดเป๋าฮื้อ (คล้ายเห็ดนางฟ้าแต่โคนอวบใหญ่) "
เธอตัดสินใจยังไม่ขุดโสมไป แต่เธอเก็บเห็ดกลับไปพอประมาณ เอาไปผัดทำอาหาร ส่วนโสมกับถังเช่าเดี๋ยวเธอจะชวนพี่เหยียนมาขุดให้เขานำไปขาย ตอบแทนครอบครัวลู่ที่ช่วยเหลือชิวิตเธอ
เธอกลับมาถึงบ้านก็เห็นน้าลู่และพี่เหยียนนั่งหน้าเครียดกันอยู่หน้าบ้าน เกิดอะไรขึ้นกันนะ
“ท่านแม่นั้นเว่ยเว่ยกลับมาแล้ว”
ลู่เหวินเหยียนเห็นเว่ยเว่ยเดินออกมาจากป่า ถือบางอย่างมาด้วยนางลู่เห็นเว่ยเว่ยกลับมาอย่างปลอดภัย ก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก
“เว่ยเว่ยเจ้าไปไหนมา ท่านแม่ตามหาเจ้าไปทั่วทั้งหมู่บ้าน”
เว่ยเว่ยยิ้มน่ารักประจบนางลู่
“ข้านอนหลายวันรู้สึกเมื่อยเนื้อเมื่อยตัว จึงลุกเดินออกกำลังกายน่ะ”
“เจ้าเดินเล่นในป่านั้นงั้นรึ มันใช่ที่เดินเล่นรึไง”
"อ๊ะ..ที่ไหนนี่มืดจัง อึดอัดจังเลย โอ้ย !!ใครถีบหัววะ" "ฮูหยินคลอดแล้วเป็นคุณชายน้อยเจ้าค่ะ ยังมีอีกคนเจ้าค่ะ เบ่งอีกเจ้าคะ " "อุ๊แว" "เป็นคุณหนูเจ้าค่ะฮูหยิน"
หนูน้อย"อ้ายหลาน"เกิดมาพร้อมกับพลังพิเศษไม่เหมือนใคร แม้นางจะเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ แต่นางก็มีพลังมหาศาลสามารถยกกระสอบข้าวด้วยมือเดียว ก้อนหินสิบคนโอบนางก็สามารถยกทุ่มได้อย่างง่ายดาย และจมูกนางไวต่อกลิ่นยิ่งนักแม้สิ่งนั้นจะอยู่ไกลเพียงใดโดยเฉพาะอาหาร นางมีจมูกที่พิเศษสามารถแยกแยะสิ่งมีพิษและไม่มีพิษได้
เขายังคงกระแทกกระทั้นอย่างเมามันส์ มือจับเอวรั้งรับแรงกระแทกจนหญิงสาวจุก เสียงเนื้อกระทบกันแข่งกับเสียงเตียงลั่นเป็นจังหวะ ธามจับพลิกคว่ำพลิกหงายเปลี่ยนท่าตามอารมณ์กาม มโนว่าสาวที่นอนดิ้นครางระงมอยู่ใต้ร่างนั้นเป็นรินรดา “อ่าา…ซีดด…เสียวจังรินจ๋า” กระแทกอีกสองสามทีร่างเขาก็กระตุกเกร็ง
ซูมู่หยูคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลที่พลัดพรากจากกันไปนาน หลังจากกลับมาสู่ครอบครัว เธอพยายามอย่างเต็มที่เพื่อเอาใจญาติๆ ไม่ว่าจะเป็นตัวตน เกียรติศักดิ์ หรือผลงานการออกแบบ เธอก็ถูกบังคับให้มอบสิ่งเหล่านี้ให้กับลูกสาวบุญธรรม อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้รับความรักและการดูแลจากครอบครัวแต่อย่างใด แต่กลับโดนเอาเปรียบตลอด นับแต่นั้นเป็นต้นมา มู่หยูไม่ยอมให้ใครอีกเลย และตัดความรู้สึกและความรักทั้งหมดออกไป ปัจจุบันเธอเป็นสายดำระดับเก้า เชี่ยวชาญภาษาถึงแปดภาษา เป็นผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ และนักออกแบบระดับโลก ซูมู่หยูกล่าวว่า "จากนี้ไป ฉันเป็นหนึ่งของตระกูลซู"
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
หวังฉีหลิน อายุ 25 ปีสาวเจ้าหน้าที่การเกษตรและพ่วงมาด้วยเจ้าของสวนสมุนไพรรายใหญ่ เสียชีวิตกระทันหันหลังจากกลับมาจากท่องเที่ยวพักผ่อนและเธอได้เก็บเอาก้อนหินสีรุ้งมาจากพระราชวังโปตาลามาได้เพียงสามเดือน ด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ หากตายไปแล้วก็ไม่เป็นไรเพราะเธอเองเติบโตมาอย่างโดดเดี่ยวในสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนกระทั่งมีอายุได้ 18ปี ถึงได้ออกไปใช้ชีวิตด้วยตัวเองตอนนี้เธอ ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงแล้ว เพียงแต่เสียดายที่เธอยังไม่ได้ทำตามความฝันของตัวเองเลย เฮ้อ ชีวิตคนเรานั้นมันแสนสั้น อายุ25 แฟนไม่เคยมี สามียังอยากได้ ไหนจะลูกๆที่ฝันอยากจะมีอีก คงต้องหยุดความหวังและความฝันเอาไว้เท่านี้ เหนือสิ่งอื่นใด ตายแล้วตายเลยจะไม่ว่า แต่ดันตื่นขึ้นมาในร่างหญิงชาวนายากจน ชื่อหวังฉีหลินเช่นเดียวกับเธอพ่วงมาด้วยภาระชิ้นใหญ่ อย่างสามีที่ป่วยติดเตียงและลูกชายฝาแฝดทั้งสอง แถมยังมีภาระชิ้นใหญ่ม๊ากกกมาก กอไกล่ล้านตัวอย่างพ่อแม่สามีและน้องๆของสามี ที่โดนบ้านสายหลักกดขี่ข่มเหงรังแก เอารัดเอาเปรียบและบังคับแยกบ้านหลังจากที่สามีของนางได้รับบาดเจ็บสาหัส สาเหตุที่หวังฉีหลินต้องมาตายไปนั้นเพราะโดนลูกสะใภ้บ้านสายหลักผลักตกเขาระหว่างที่กำลังยื้อแย่งโสมคนที่หวังฉีหลินขุดมาได้
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...