ชิงซานปฏิเสธการแต่งงานกับหญิงสาวที่บิดาหาให้ และโกรธมากเมื่อรู้ว่าบิดาจะแต่งงานกับเธอ แต่เขากลับพิศวาสในตัวเธอตั้งแต่แรกเห็น ความโกรธทำให้เขาครอบครองเธอ และไม่สามารถหยุดเสนห่าในตัวเธอได้
ชิงซานปฏิเสธการแต่งงานกับหญิงสาวที่บิดาหาให้ และโกรธมากเมื่อรู้ว่าบิดาจะแต่งงานกับเธอ แต่เขากลับพิศวาสในตัวเธอตั้งแต่แรกเห็น ความโกรธทำให้เขาครอบครองเธอ และไม่สามารถหยุดเสนห่าในตัวเธอได้
ในพื้นที่กว้างหลายร้อยตารางวาเป็นที่ตั้งของคฤหาสน์สี่หลังที่สร้างด้วยอิฐสีแดงฉาบปูนทาสีขาวรูปทรงเหมือนกันปลูกเป็นตึกสามชั้นในพื้นที่กว้างขวางท่ามกลางสนามหญ้าเขียวขจีมีน้ำพุขนาดใหญ่อยู่ตรงกลางเชื่อมต่อถึงบ้านลูกชายลูกสาวกันด้วยแผ่นหินอ่อนสีขาวสะอาดตาโดยมีบ้านบิดาอยู่ด้านในสุด
ลูกชายคนสุดท้องยังอยู่บ้านเดียวกับบิดามารดาเพราะยังไม่ได้แต่งงานมีครอบครัวเหมือนพี่สาวพี่ชายทั้งสามคน แต่บิดามารดาบอกความตั้งใจแก่ลูกทุกคนแล้วว่าจะยกบ้านหลังนี้ให้ลูกชายคนเล็ก เมื่อมารดาถึงแก่กรรมเขาจึงอยู่บ้านกับบิดาเพียงสองคน
ชิงซานเป็นลูกชายคนเล็กที่เติบโตมาจากความรักตามใจของมารดามากกว่าลูกคนอื่น เขาจึงเป็นลูกคนเดียวที่ไม่เป็นโล้เป็นพายในสายตาของบิดา เพราะเรียนจบมาก็ยังไม่ยอมเข้าทำงานในบริษัทเหมือนพี่สาวพี่ชายและใช้ชีวิตอิสระสนุกกับการกินเที่ยวแบบที่ทุกคนในครอบครัวเห็นว่า...ไร้สาระ...แต่หลังจากวันเกิดอายุครบยี่สิบห้าบิดาก็ยื่นคำขาด
“ป๊าให้เวลาแกหนึ่งเดือน เลิกยุ่งเกี่ยวกับจื่อรั่ว อย่างเด็ดขาด และแต่งงานกับผู้หญิงที่ป๊าเลือกให้”
คำพูดของบิดากระชากแรงโกรธจากชิงซานออกมาเป็นคำปฏิเสธไม่มีเยื่อใย เขาถือความอิสระเป็นใหญ่และไม่ต้องการให้บิดามาบงการชีวิตทุกอย่าง เขาอาจจะยอมบิดาเรื่องงานของบริษัทที่เขาต้องเรียนรู้เพื่อสืบต่อธุรกิจเหมือนกับพี่สาวพี่ชาย แต่เขาจะไม่ยอมเรื่องการคลุมถุงชนหรือการแต่งงานโดยบิดาจัดหาให้เหมือนอย่างพี่ทุกคน
“ผมโตแล้วนะป๊า ไม่ใช่เด็กที่ป๊าต้องมาตัดสินใจแทนทุกอย่าง และถ้าจะมีเมีย ผมจะเลือกเมียของผมเอง” เขามองสบตาบิดาอย่างท้าทาย
“ใช่ แกโตแล้ว ปีนี้ก็อายุยี่สิบห้าปีเต็ม ป๊าจึงเห็นว่าแกควรมีครอบครัวได้แล้ว ถึงจื่อรั่วจะไม่ใช่ผู้หญิงเลวร้ายอะไร แต่ผู้หญิงอย่างจื่อรั่วไม่เหมาะสมกับแกหรอก เชื่อป๊าเถอะ" ห่าวซินนิ่วหน้าใส่ลูกชาย เมื่อคิดว่าเขาจะจริงจังกับเพื่อนสาวคนปัจจุบัน
“จะเหมาะสมหรือไม่ผมจะเป็นคนตัดสินใจเองครับ" ชิงซานไม่ยอม
“ผู้หญิงที่แกคบหาเป็นคู่รัก ไม่มีใครมีประวัติเหมาะสมที่จะเป็นสะใภ้สกุลฟ่านของเราสักคน ล่าสุดนี่ก็เป็นแม่ม่ายเลิกกับผัวและเป็นแค่พนักงานระดับล่างของบริษัทขายมือถือของฝรั่งเท่านั้น" ห่าวซินติดตามเช็กประวัติหญิงสาวที่ลูกชายคนเล็กคบหามาทุกคน และพบว่าถ้าไม่เป็นม่ายก็เป็นผู้หญิงรักอิสระมีสัมพันธ์รักกับผู้ชายโดยไม่ผ่านการแต่งงานมาแล้วทั้งสิ้น
“จะสำคัญอะไรล่ะป๊า ยุคสมัยนี้เขาเลิกสนใจเรื่องฐานะสูงต่ำหรือเลิกใส่ใจเรื่องความบริสุทธิ์ผุดผ่องของผู้หญิงกันแล้ว และผมก็ไม่ถือสาเรื่องนี้ด้วย” ชิงซานบอกบิดาน้ำเสียงหนักแน่น อยากให้บิดาเลิกใส่ใจเรื่องนี้เสียที
“แต่ป๊าถือสา แกต้องได้ผู้หญิงดีๆมาเป็นแม่ของลูก และป๊าก็หาคนเหมาะสมไว้ให้แกแล้ว แกจำลูกสาวอาซีฮันญาติห่างๆของหม่าม๊าแกได้ไหม ป๊าว่าเหมาะสมกับแกมากที่สุดเลยละ”
“ไม่เอาหรอก ผมไม่ชอบสาวไซต์ไหกิมจิอย่างเด็กคนนั้น โตขึ้นน้ำหนักคงเพิ่มขึ้นอีกเยอะ” ชิงซานนึกเห็นภาพเด็กสาวที่เคยเจอเมื่อสามปีก่อน หล่อนมีรูปร่างอวบอ้วนเหมือนไหกระเทียมต่อขา
“ผู้หญิงอ้วนหรือผอมจะสำคัญอะไร เธอเรียนจบปริญญาตรี เฉลียวฉลาด มีน้ำใจ เรียบร้อยอ่อนหวาน ขยันขันแข็ง และทำงานเก่ง ป๊าว่าดีก็ต้องดีสิ แกอย่าเพิ่งปฏิเสธเลย" ห่าวซินบรรยายคุณสมบัติดีงามของหญิงสาวสวยที่เลือกให้ลูกชายด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“จะดีจะเก่งแค่ไหน แต่อ้วนเป็นโอ่งเป็นไหกิมจิไม่ใช่สเป็กผมหรอกนะ”ชิงซานอดยิ้มไม่ได้เมื่อนึกถึงเด็กสาวตัวอวบอ้วนคนนั้น
“ป๊าเชื่อว่าได้เจอฮุยยินคราวนี้แกจะไม่ปฏิเสธแน่ ที่สำคัญป๊ากับหม่าม๊าทาบทามไว้ให้แกนานแล้ว" ห่าวซินไม่ได้บอกรายละเอียดกับลูกชายคนเล็กถึงเหตุผลที่เขากับภรรยาและมารดาของฮุยยินเคยตกลงกันว่าจะให้ลูกชายบุตรสาวสองครอบครัวแต่งงานกัน และฮุยยินกับชิงซานก็เป็นคู่ที่อยู่ในช่วงวัยเหมาะสมกัน
“โห...นี่มันยุค 2022 นะป๊า หมดยุคสมัยจับคู่ให้ลูกหลานกันแล้ว ผมไม่รับรู้เรื่องของป๊ากับหม่าม๊าด้วยนะ และตอนนี้ผมก็ยังมีจื่อรั่วเป็นคู่รักอยู่ ป๊าไม่ต้องมาเร่งรัดผมหรอก" ชิงซานทำหน้าเบื่อหน่าย
“อุวะ...อายุยี่สิบห้าปีแล้ว แกจะรออะไร เดี๋ยวก็มีลูกไม่ทันใช้หรอก แต่งเร็วก็มีลูกเร็วทันใช้แกไม่ชอบหรือ” ห่าวซินถามลูกชาย
“ผมยังไม่อยากมีลูก ถ้าหล่อนดีนักหนาป๊าก็แต่งกับหล่อนเสียเองสิ หม่าม๊าก็ตายไปสองสามปีแล้ว คงไม่มีใครว่าหรอก” ชิงซานประชดบิดาโดยไม่รู้ว่า...คำประชดของเขาจะทำให้เขาต้องเจ็บปวดภายหลัง...
“ไอ้บ้า...ป๊าขอเธอมาเป็นเมียแกไม่ใช่เมียป๊า ที่หามาให้เพราะเห็นว่าแกยังไม่มีใคร ป๊ารู้ว่าแกไม่ได้จริงจังกับจื่อรั่ว และแกก็ถึงวัยควรแต่งงานมีลูกได้แล้ว” ห่าวซิน พยายามชี้ให้เห็นถึงความจริงว่าชิงซานถึงวัยสร้างครอบครัวได้แล้ว แต่ลูกชายกลับมองไม่เห็นความหวังดีที่เขาเข้ามาจัดการเรื่องคู่ครองให้
“สมัยนี้เขาไม่รีบร้อนกันแล้วป๊า”
“แกไม่รีบแล้วผู้หญิงที่แกควงอยู่ล่ะ แกไม่รักก็ควรปล่อยหล่อนไปเจอผู้ชายที่รักหล่อนไม่ดีกว่าหรือ" ห่าวซินจ้องหน้าลูกชาย
“จื่อรั่วอยู่กับผมอย่างเต็มใจ ผมไม่เคยรั้งเธอไว้ เธออยากอยู่กับผมเอง” ชิงซานแก้ตัว
“เพราะแกไม่ได้บอกหล่อนว่าแกไม่คิดจะแต่งงานกับหล่อน ปล่อยหล่อนไปซะ ป๊าจะให้ทนายจัดการเรื่อง ค่าเสียเวลาของหล่อนเอง”ห่าวซินต้องการให้จื่อรั่วออกไปจากชีวิตลูกชายอย่างถาวร
“อย่านะป๊า ผมขอเวลาอีกสักพัก ถ้าพร้อมเมื่อไรผมบอกป๊าเอง” ชิงซานต้องการเวลาใช้ความหนุ่มอย่างอิสระอีกสักสองสามปี
“ขืนรอแกป๊าตายก่อนแน่" ห่าวซินว่า
“ป๊าเพิ่งหกสิบแปดเองนะ จะรีบตายทำไม”ชิงซานขบขันความคิดของบิดา
“อุวะ...ใครจะรู้วันตายได้ล่ะ”
“ป๊าแข็งแรงไม่ตายง่ายๆหรอก”
“แกจะไม่ให้ฉันได้เห็นหน้าลูกแกสักคนเลยหรือ”
“หลานป๊าก็มีตั้งสี่ห้าคนแล้วนะ”
“แล้วมันใช่ลูกแกหรือเปล่าล่ะ”
“โอ๊ยป๊า จะอยากเห็นลูกผมทำไม เมียผมยังหาไม่ได้เลย ถ้าจะรอก็อีกสองสามปีแหละป๊า”
“เออ...แล้วอย่ามาเสียดายทีหลังนะ”ห่าวซินถอนใจเฮือกกับความดื้อรั้นของลูกชายคนเล็ก
ห่าวซินกลัดกลุ้มใจที่ลูกชายคนเล็กปฏิเสธขันแข็งที่จะรับเจ้าสาวที่เขาเลือกให้แต่งงาน ห่าวซินคิดว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่างให้ลูกชายคนเล็กได้รับบทเรียนบ้าง และคิดวางแผนอยู่ในใจว่าเขาจะพาฮุยยินมาเจอชิงซานในรูปแบบที่ลูกชายคาดไม่ถึง เจ้าลูกชายผู้ดื้อรั้นสมควรได้รับบทลงโทษจากเขาเสียบ้าง
การปลอมตัวเป็นญาติผู้พี่ ทำให้เธอต้องตกกระไดพลอยโจน รับงานกับเงื่อนไขพิเศษที่ไม่รู้มาก่อน ความจำเป็นต้องใช้เงินจำนวนมากเร่งด่วน เธอจึงไม่ปฏิเสธและขอเพิ่ม จากความสาวบริสุทธิ์ของตัวเอง แต่ความเผอเรอทำให้เธอตั้งครรภ์ ที่มารู้ภายหลังการถูกจ้างออกจากงาน โดยหญิงสาวที่แต่งงานเป็นภรรยาเขา เธอตั้งใจจะเลี้ยงลูกด้วยตัวเอง แต่เขากลับตามมาจะพาเธอกลับไป เธอไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับคนมีภรรยาแล้ว จึงขู่จะฟ้องร้องโดยไม่รู้ว่าเขาเป็นอิสระ จากพันธะการแต่งงานครั้งนั้นแล้ว
เธอเดินทางกลับจากเยี่ยมน้องชายกระทันหันจากการถูกเรียกตัวมาเข้าร่วมสัมมนาที่วิชาการพิเศษจากต่างประเทศมาให้ความรู้ แต่เข้านอนยังไม่ทันหลับดีก็มีวัตถุหนักอืึ้งล้มทับลงกลางตัว และจากที่นอนปิดไฟมืดเธอต้องตกใจสุดขีดเมื่อรู้ว่ามีผู้บุกรุกและคว้าปืนขึ้นมาป้องกันตัว แต่กลายกลับว่า...บุรุษผู้นั้นเป็นแขกพิเศษของโรงแรม...และจากวันนี้ชีวิตเธอเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง **************************************** เขาคือผู้บุกรุก ที่เธอคิดว่าเป็นโจรย่ามใจเข้ามาปล้นสวาท เธอคือสาวงาม ที่เขาคิดว่าเป็นของแถมเข้ามานอนรออยู่ในห้อง เขาคือจอมโอหัง ที่บังอาจกอดจูบเธอโดยไม่ไถ่ถามความสมัครใจ เธอคือสาวสวย ที่สามารถปลุกความรู้สึกด้านชาของหัวใจให้เต้นระทึก เขาวางแผน พาเธอมายังบ้านเมืองเพื่อพิสูจน์รักแท้ในหัวใจ เธอถูกลักพาตัว เพื่อฆ่าทิ้งกลางทะเลทราย มาลุ้นกันว่า...เจ้าชายคริสตินกับมินทราภา จะผ่านพ้นภัยร้ายน่าระทึกใจได้ครองรักกันหรือไม่... **************************
เขาจำยอมจดทะเบียนกับเด็กกะโปโลตามใจบิดาที่กำลังจะสิ้นลม และทิ้งร้างจากเธอไปนานนับปี แต่เมื่อกลับมาเจอเธออีกครั้ง เขาถึงรู้ว่า...เธอสวยและน่าพิศวาสนักหนา...แต่ที่คิดว่าจะได้เธอมาครอบครองเธอตามสิทธิ์สามีถูกต้องตามกฎหมายกลับมีเรื่องเข้าใจผิดคิดว่าเธอทำให้มารดาเขาตายก่อนเวลาอันควร ฯลฯ นิยายรักแนวโรมานซ์(18+)อีกเรื่องหนึ่งที่ขอแนะนำให้เพื่อนมาอ่านด้วยกัน
เขาไม่สนใจว่าที่คู่หมั้นที่หนีตามหนุ่มต่างชาติไปก่อนวันหมั้นหมายเพียงวันเดียว แต่พอมาเจอสาวสวยเชื้อสายไทยที่มีหน้าตาละม้ายเหมือนว่าที่คู่หมั้น เขาพึงพอใจในตัวเธอและสืบประวัติจนรู้ว่า...เธอเป็นน้องสาวคู่แฝดของว่าที่คู่หมั้น...และลักพาตัวมาไว้ในพระตำหนักสวนกุหลาบของพระมารดาที่ไม่เคยมีหญิงสาวคนใดได้เยี่ยมกรายเข้ามาและครอบครองเธอด้วยความรักพิศวาส แต่เกิดปัญหาเมื่อบิดามารดาของเธอมาตามบุตรสาวและพี่สาวคู่แฝดมาอดีตว่าที่คู่หมั้นปรากฏตัวก่อนวันอภิเษกสมรส
นิยายแนวทะเลทรายเรื่องนี้ เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เชิญชวนให้อ่าน เพราะเป็นนิยายที่มีหลากหลายอารมณ์ในเรื่องเดียวกัน นักเขียนได้พาผู้อ่านไปสัมผัสกับชีวิตนางเอกที่ต้องเผชิญภัยจากผู้ปองร้ายโดยมีพระสวามีคอยปกป้องด้วยความรักห่วงใยต่างจากนิยายแนวทะเลทรายอื่นๆที่ให้ความสุขใจกับผู้อ่านอีกรูปแบบหนึ่ง *****...มกุฎราชกุมารีพระธิดาสุลต่านองค์ประมุขแห่งสหราชอาณาจักรต้องเข้าพิธีอภิเษกโดยไม่รู้ตัวและเดินทางสู่พระราชวังของพระสวามีเพื่อลี้ภัยจากผู้ปองร้าย แต่กลับต้องมาเจอศึกรักจากความริษยาของเหล่านางห้ามในพระราชวังและแผนร้ายของพระญาติฝ่ายพระสวามีกับผู้ปองร้ายหมายชิงบัลลังก์ร่วมมือกันวางแผนปลิดชีวิต...ชีวิตรักของพระ-นางคู่นี้จะเป็นอย่างไรไปติดตามด้วยกัน ...**** **********************
นิยายแนว...ทะเลทรายสวีต...ที่ยิ่งอ่านยิ่งสนุกของนักเขียนเล่มนี้ ได้พานางเอกไปผจญภัยร้ายท่ามกลางทะเลทรายร้อนระอุจากโจรทะเลทรายตัวปลอมและโจรทะเลทรายตัวจริงที่กักขฬะด้วยการเอาคืนของพระเอกที่ถูกนางเอกใส่ร้ายให้เสื่อมเสียชื่อเสียงและทำให้รู้ความจริงว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการกระทำด้วยความเข้าใจผิด แต่การเดินทางที่ใกล้ชิดทำให้ความรู้สึกของทั้งสองเปลี่ยนจากคู่กัดเป็นคู่ที่ถูกตาต้องใจกัน เกล็ดทรายอันร้อนระอุจากแสงแดดแผดเผาจึงกลายเป็นเกล็ดน้ำตาล ...***...“นายก็พูดได้สิ ลองมาเป็นฉันดูบ้าง จะได้รู้ว่าต้องกระตือรือร้นไปทำไม" เธอย้อนอย่างโมโห “เลิกอยากรู้อยากเห็นเสียที แล้วฟังฉัน ระหว่างพักอยู่ที่นี่ทุกคนต้องมีหน้าที่ หล่อนก็ต้องทำงานเหมือนกัน" เขาพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงปกติที่เธอไม่ค่อยจะได้ยินนัก “นี่นายโจร ฉันไม่ใช่ลูกน้องหรือคนรับใช้ของนายนะ นายเป็นคนจับตัวฉันมา ก็ต้องเลี้ยงดูให้ฉันอยู่สุขสบาย จะมาใช้งานกินแรงกันไม่ได้นะ" เธอโวยลั่น “ฉันไม่สน ถ้าไม่ทำก็ไม่ต้องกิน อาหารมีไว้ให้คนที่ต้องออกแรงทำงานเท่านั้น" เขาข่มขวัญ คงคิดว่าเธอกลัวอดตายแล้วจะยอมทำตามทุกอย่างละสิ...ฝันไปเถอะ...เธอเชิดหน้าใส่ “แต่ไม่ใช่ฉัน ดูปากฉันนะ..." เธอชี้ที่ปากตัวเองอย่างที่น้องณัชชาลูกสาวพี่บ๊อบชอบทำ “ฉัน...ไม่...ทำงาน...อะไร...ทั้งนั้น..." เธอเน้นทุกถ้อยคำให้เขาฟังก่อนจะหันหลังเดินจากมาพร้อมไฟโกรธลุกท่วมตัว ...ตาบ๊องเอ๊ย...จิตสำนึกเข่นเขี้ยวเหมือนอยากจะเคี้ยวเขาให้แหลกคาปาก เธอไม่ได้เป็นฝ่ายร้องตามเขามาถึงจะต้องยอมทำทุกอย่างที่เขา...สั่ง...สั่ง...สั่ง... โดยเฉพาะการทำงานแลกข้าวน้ำประทังชีวิต...เขาสิต้องรับผิดชอบหาข้าวหาปลามาเลี้ยงดูให้อิ่มหนำสำราญ หากเขาต้องการใช้ประโยชน์จาก ตัวเธอ... “งานแรก..." เขาพูดต่ออย่างไม่สนใจ “หล่อนต้องซักเสื้อผ้าให้ฉัน งานอย่างที่สอง-ต้องทำความสะอาดกระโจมที่เราพักด้วยกันทุกเช้ากลางวันเย็น เก็บที่นอน ปูที่นอน กวาดพื้น ถูพื้น และปัดฝุ่นทำความสะอาดตากเครื่องนอนทุกชิ้นทุกวัน อย่างที่ สาม-ต้องนำอาหารมาเสิร์ฟให้ฉันทุกมื้อ เสร็จงานแล้วหล่อนจึงจะได้อาหารกิน ถ้าไม่ทำก็ไม่ได้กิน เข้าใจไหม” มิลินยืนอ้าปากค้าง อยากจะกรี๊ดให้ลั่น เขามันจอมบงการสิ้นดี แล้วถือดีอย่างไรมาใช้งานเธอเยี่ยงนางทาสีประจำตัวแบบนี้ เธอยืนกำหมัดแน่น อยากจะแล่นเข้าข่วนหน้ารกเคราของเขาให้สาสมกับความโกรธที่ถูกโยนตำแหน่งทาสรับใช้ใส่แล้วเดินหนีไปซึ่งๆหน้า ...ตาบ้า...ตาบ๊อง...ตาบื้อ...ตา...ขี้เก๊ก...เธอก่นว่าเป็นชุด สุดจะทนพฤติการณ์แบบเจ้าใหญ่นายโต...สั่ง...สั่ง...สั่ง...โดยไม่ฟังเสียงใคร คิดว่าตัวเองเป็นใหญ่มาจากไหนกัน...ฮึ...***... **************************************************** นิยายเรื่องนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ของนักเขียนอย่างแท้จริง สงวนลิขสิทธิ์โดย : ศิรารัย-ศิรารัยนิยายรัก ตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์คอมพิวเตอร์และสิ่งพิมพ์ ห้ามลอกเลียนทุกส่วนของหนังสือเล่มนี้ ห้ามเผยแพร่-จำหน่าย-ดัดแปลง-ทำซ้ำ-จัดพิมพ์ หรือห้ามกระทำการใดๆทุกประการกับนิยายเรื่องนี้ ก่อนได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจากผู้เขียน **************************************************
“สวิงของต้นกับอ้อ” ถูกเขียนขึ้นในวันที่ 10 เดือนมิถุนายน ปี พ.ศ. 2555 โดยลงในเว็บไซต์ Sudswing ที่ปัจจุบันปิดตัวถาวรไปนานแล้ว แต่เชื่อว่ายังอยู่ในความทรงจำของใครหลาย ๆ คน ซึ่งหากนับเวลาแล้วก็ครบรอบ 13 ปี พอดี ณ วันที่กำลังเริ่มต้นลงฉบับพิเศษของนิยายเรื่องนี้ โดยมีการปรับปรุงเนื้อหาในแต่ละตอนให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น รวมถึงการรวมตอนพิเศษและตอนที่หายไปเอามาไว้ในเรื่องนี้ สำหรับไรต์แล้ว “สวิงของต้นกับอ้อ” คือลูกคนโตและลูกรักที่นำพาให้ไรต์ก้าวมาเป็นนักเขียนอย่างเต็มตัวในนิยายสายอีโรติกแนวสวิงกิ้ง NTR, Cuckold, 3P, นิยายแนวเมียสาวเหงารัก รวมถึงแนวที่สามีอยากเห็นภรรยาของตัวเองไปมีอะไรกับชายอื่น ยังไงขอฝากนิยาย “สวิงของต้นกับอ้อ” ฉบับครบรอบ 13 ปีนี้ เอาไว้ให้นักอ่านได้ติดตามกันด้วย ขอบคุณสำหรับทุกการสนับสนุนที่ทำให้ไรต์ยังคงเดินต่อไปได้บนถนนสายตัวอักษรนี้ครับ
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
ซูหลีพยายามทำทุกอย่างเพื่อเอาใจตระกูลซูมาตลอดห้าปี แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ต่อคำใส่ร้ายของน้องสาวเพียงคำเดียว เรื่องที่ซูหลีเป็นคุณหนูปลอมก็ถูกเปิดเผย ทำให้คู่หมั้นทิ้งเธอ เพื่อนๆ ก็ห่างเหิน และพี่ชายขับไล่เธอออกจากบ้าน บอกให้เธอกลับไปหาพ่อแม่ชาวนาของเธอ ในที่สุดซูหลีก็สิ้นหวังและตัดสินใจตัดขาดความสัมพันธ์กับตระกูลซู ยึดความช่วยเหลือทุกอย่างคืนและไม่อดทนอีกต่อไป แต่เธอไม่คาดคิดเลยว่าชาวนาที่พี่ชายพูดถึงนั้นกลับกลายเป็นตระกูลลั่วผู้มั่งคั่งที่สุดในประเทศ ในคืนเดียวเธอเปลี่ยนจากคุณหนูตัวปลอมที่ถูกทุกคนรังเกียจเป็นลูกสาวของมหาเศรษฐีที่มีพี่ชายสามคนที่รักเธอ พี่ชายคนโตที่เป็นผู้บริหารใหญ่“เลิกประชุม จองตั๋วเครื่องบินกลับประเทศ ฉันอยากดูสิว่าใครกล้าแกล้งน้องสาวฉัน” พี่ชายคนที่สองที่เป็นนักวิทยาศาสตร์ยอดเยี่ยมระดับโลก“หยุดการวิจัย ฉันจะไปรับน้องสาวกลับบ้านเดี๋ยวนี้ ” พี่ชายคนที่สามที่เป็นนักดนตรีระดับโลก “เลื่อนคอนเสิร์ต ไม่มีอะไรสำคัญเท่าน้องสาวของฉัน” จู่ๆ คนทั้งเมืองจิงก็ต้องตกใจช็อก ตระกูลซูเสียใจจนสุดขีด คู่หมั้นก็กลับมาขอคืนดี ผู้คนที่มาขอจีบเธอก็แห่กันมาถึงหน้าบ้าน ไม่ทันที่ซูหลีจะตอบสนอง ตระกูลชือซึ่งเป็นตระกูลสูงสุดในเมืองจิงและมีตำแหน่งสูงสุดในกองทัพเรือ ก็เสนอใบสมรสให้เธอ ทำให้เธอกลายเป็นคนดังในสังคมชั้นสูง!
เพราะเพื่อน..เธอจึงต้องทำอะไรลับๆ ล่อๆ เป็นเหตุให้เขาเข้าใจผิดคิดว่าเธอแอบชอบ ในขณะเดียวกัน เธอเองก็คิดว่าเขาเป็นเกย์ เพราะสถานการณ์บางอย่างเช่นกัน แล้วความวุ่นวายก็บังเกิด เมื่อเธอดัน…หลงรักเกย์ ‘ฮื่อ! เป็นเกย์นะเว้ยไม่ได้เป็นหวัด รักษาวันเดียวจะหายได้ไง สู้ต่อไปศิศิรา ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น อย่างน้อยตอนนี้เขาก็ยังไม่มีผัวเป็นตัวเป็นตน เพราะงั้นฉันก็ยังมีหวัง เฮ้อ! อย่างมากก็แค่ผิดหวังล่ะน่า’ ***“สาบานได้ว่าครั้งนี้ผมจะไม่หยุด จนกว่าเรา…จะเป็นของกันและกัน” เขาบอกก่อนจะผละลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ขณะที่สองมือค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อ สองตาก็ยังไม่ยอมเลื่อนไปจากเรือนร่างขาวโพลนตรงหน้า และไอ้สายตาคมกล้าประหนึ่งเสือรอตะครุบเหยื่อของเขาก็ทำให้เธอหนาวๆ ร้อนๆ บอกไม่ถูก “ไม่! เราพวกเดียวกัน เรากินกันไม่ได้” เธอพยายามเตือนสติ เพราะคิดว่าเขาอาจจะกำลังขาดสติ “แต่ผมเคยกินคุณแล้ว แล้วผมก็ชอบกินคุณ” เขาพูดพลางหลุบตามองไปที่แพนตี้ของเธอ ทำเอาเจ้าของแพนตี้ทำตาโต ไม่แน่ใจในคำว่ากินของเขา ที่สำคัญ…กะๆ กินอะไร “มะหมายความว่าไง”
ในระยะเวลาสองปีที่แต่งงานกัน เนี่ยเหยียนเซินจู่ๆ ก็เสนอขอหย่า เขาพูดว่า "เธอกลับมาแล้ว เราหย่ากันเถอะ คุณอยากได้อะไรบอกมาได้เลย" ชีวิตการแต่งงานสองปีสู้อีกคนที่หันหลังกลับมาไม่ได้ ตามอย่างที่คนเขาว่ากัน "คนรักเก่าแค่ร้องไห้สักหน่อย คนรักปัจจุบันก็ย่อมแพ้แน่นอน" เหยียนซีไม่ได้โวยวายอะไร เลือกที่จะตอบตกลงและเสนอเงื่อนไขว่า "ฉันต้องการรถซูเปอร์คาร์ที่แพงที่สุดของคุณ" "ได้" "วิลล่าสุดหรูชานเมือง" "ตกลง" "กำไรหลายพันล้านที่หามาในช่วงสองปีนี้ แบ่งคนละครึ่ง" "อะไรนะ"
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY