หญิงชั่วก็มีหัวใจ หากเลือกได้ ข้าคงไม่ทำ... หญิงชั่วก็มีหัวใจ หากเลือกได้ ข้าคงไม่ทำ...
เที่ยงคืน ณ เวลาปัจจุบัน
ในห้องชุดสุดหรูของท่านเฉิน มาเฟียวัยห้าสิบผู้ร่ำรวยและทรงอิทธิพลจากธุรกิจมืด
สามร่างบนเตียงหนานุ่มนัวเนียจนยากจะหารู้ได้ว่าใครเป็นใคร
หนึ่งเป็นร่างอวบอัดอรชรของหญิงสาววัยยี่สิบ หยางลี่จือ คือชื่อของเธอ
หนึ่งคือท่านเฉิน ซึ่งแม้ว่าจะมีวัยล่วงห้าสิบ แต่ก็ยังดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี รูปร่างท่านสันทัดและมีกล้ามเนื้อ และอีกหนึ่งคือร่างลำสันสูงใหญ่ของอาเฟย บอดี้การ์ดหนุ่มคนสนิท ทั้งคู่เปลือยเปล่าและกำลังเพลิดเพลินกับการสวิงกิ้ง
ท่านเฉินนอนถ่างขาอยู่บนเตียงที่มีลี่จือคลานสี่ขาที่ปลายเตียงแล้วก้มหน้าอยู่ตรงกลางหว่างขาของท่าน ปากสวย ๆ ของเธออ้าอมดุ้นลำอวบอ้วนของท่านเอาไว้ ศีรษะผงกรูดเข้ารูดออก พวงแก้มขยับตอบตามจังหวะดูดเร้า ผสานเคล้าเข้ากับเสียงครางราววัวถูกเชือดของท่านเฉินที่ถูกความซ่านเสียวโจมตี
“ โอว ซี้ด เธอนี่ดูดเก่งจริง ๆ ลี่จือ จะทำฉันแตกในปากอยู่แล้วนะ ”
เธอไม่ตอบเพราะมีดุ้นคาปาก แต่ครางอืออาเพราะตนเองที่คลานสี่ขาอยู่นั้นก็กำลังถูกโจมตีด้วยลิ้นและปาก ของบอดี้การ์ดหนุ่ม
เขาทั้งดูดทั้งเลียกลีบพูขาวอวบที่แลเห็นปลิ้นลอดจากทางเบื้องหลังดังจ๊วบจ๊าบ เธอกระตุกสะโพกยึก ๆ ตามแรงซ่านเสียว ก่อนจะต้องสะดุ้งเฮือกเพราะเขายัดลำเอ็นใหญ่ยาวกระทุ้งเข้ามาในร่องหอยอย่างไม่ทันตั้งตัว
ตั้บ !
ทีเดียวมิดลำ !
แล้วกระซวกแทงเข้าออกราวกับเขาและเธอมีเรื่องเคืองแค้นกันแต่ชาติภพก่อนเก่าอย่างไม่ปรานี ลี่จือต้องคายดุ้นของท่านเฉินออกไปแล้วใช้มือสาวให้แทน เพราะเธอหายใจไม่ทันและต้องการจะครวญครางระบายความซ่านเสียว
“ อ๊ายยย ใหญ่จังเลยค่ะ เสียวหอยหมดแล้ว ”
เธอว่า ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกอย่างแสนทรมานแต่เป็นความทรมานที่ช่างอภิรมย์เป็นยิ่งนัก
บอดี้การ์ดหนุ่มยิ่งได้ใจ สองมือใหญ่ยึดสะโพกของเธอไว้แล้วกระเด้ารัวแรง เรือนกายของหญิงสาวสั่นคลอนนมสองเต้าอันอวบใหญ่สั่นไหว ท่านเฉินรีบขยับไปขยำ ฟอนเฟ้นมันอย่างรุนแรงแล้วดูดเลียกินมันดังจ๊วบ ๆ
“ อู๊ยย ซี้ดดด ” หญิงสาวคร่ำครวญเมื่อโดนความซ่านเสียวโจมตีทวีคูณ
“ เสียวเหรอ ” ท่านเฉินถามอู้อี้เพราะเต้านมยัดปาก
“ เสียวสิคะ สุด ๆ ”
“ ฉันจะทำให้เธอเสียวมากขึ้น ” มาเฟียว่า พลางละปากจากเต้านมแล้วไปหยิบบางอย่างออกจากกระเป๋าบนโต๊ะ มันคือเข็มฉีดยานั่นเอง แล้วเขาก็หยิบขวดเล็ก ๆ ที่ภายในบรรจุของเหลวสีใสราวกับน้ำบริสุทธิ์แต่แท้จริงแล้วคือยาเสพติดชนิดใหม่ที่ทีมของท่านได้ผลิตขึ้นมา มันจะมีฤทธิ์ปลุกกำหนัดให้ยิ่งซาบซ่านและคึกคักอยู่ได้เป็นวัน ๆ โดยมิเหนื่อยอ่อน
ท่านเฉินใช้เข็มดูดมันเข้าไปในไซลิงก์ ก่อนจะเดินไปฉีดเข้าสิ่งนั้นให้หญิงสาวที่ข้อพับ เธอเองก็ยอมแต่โดยดี เพราะชีวิตของเธอพัวพันอยู่กับสิ่งนี้ตลอดมา
ยาเสพติด เซ็กส์ สิ่งมึนเมาและอบายมุขทุกชนิด...
“ อาาา ” เธอครางอย่างหฤหรรษ์ หลับตาพริ้มกำซาบซ่านกับตัวยาที่เดินเข้าไปในเส้นเลือด
“ อูว ดีจัง ”
ท่านเฉินยืนมองใบหน้าเปี่ยมสุขของหญิงสาวคู่ขาอย่างพึงพอใจ ก่อนจะออกคำสั่งลูกน้อง
“ อาเฟย จับเธอลุกขึ้นยืน เดี๋ยวแกเข้าข้างหลัง ฉันจะเข้าข้างหน้า ”
“ ครับท่าน ” อาเฟยกระชากดุ้นลำออกจากร่องหอยแล้วจับเธอลุกขึ้นยืนตามคำสั่งของผู้เป็นนาย หญิงสาวยังหลับตาพึมพำอะไรบางอย่าง ใบหน้าของเธอเปื้อนยิ้มราวคนมีความสุขเหลือเกิน
“ ชอบใช่ไหม ”
“ ค่ะ ดีจัง ดีสุด เสียวมาก ดีมาก เหมือนขึ้นสวรรค์ ” เธอคร่ำครวญทั้งที่ยังหลับตาในท่ายืน ท่านเฉินประกบด้านหน้า อาเฟยประกบด้านหลังก่อนใช้ท่อนแขนช้อนยกเรียวขาของเธอขึ้นข้างหนึ่งเพื่อให้รูเปิดอ้าสะดวกต่อการทิ่มแทง
แล้วลำเอ็นอันหนึ่งก็แทงเข้าไปในหอย อีกอันแทงเข้าไปในรูทวาร ก่อนทั้งคู่จะกระเด้าเข้าใส่ทั้งรูหน้าและรูหลังของหญิงสาวพร้อมกันอย่างไม่บันยะบันยัง
“ อา เสียวฉิบหาย ”
“ ซี้ดดดด ”
“ อู๊ยยย ”
ตั้บ ๆๆๆๆ
เสียงครวญครางด้วยแรงกระสันของคนทั้งหมดและเสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังสนั่นหวั่นไหว
แต่ฉับพลันหญิงสาวก็รู้สึกหายใจหายคอไม่ทันเส้นเลือดในกายเต้นตุบรุนแรง หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ
“ ดะ... เดี๋ยวแป๊บนึงนะคะ ลี่จือหายใจไม่ทัน ” เธอบอก แต่ชายทั้งคู่ไม่สนสี่สนแปดใด ๆ เพราะกำลังเมามันกับการรุมกระเด้ารูแน่น ๆ อย่างไม่ลืมหูลืมตา
“ ยะ... หยุดก่อน หยุดก่อนค่ะ ” ลี่จือเอ่ยปากวอนขอแต่เสียงนั้นมันเริ่มแผ่วเบาตามลมหายใจ เธอรู้สึกหัวสมองหมุนติ้ว แขนขาอ่อนแรง หัวใจที่เต้นเร็วเมื่อครู่มันค่อย ๆ ผ่อนแรงลงด้วย เธอเห็นจุดสีขาวเล็ก ๆ อยู่ไกล ๆ
“ เฮ้ย ๆ อาการแบบนี้เหมือนท่านหญิงหงหลันฮวาตอนที่โดนวางยาเลย ไม่นะ ๆ ฉันยังไม่อยากตาย ”
ลี่จือพึมพำ เมื่อนึกถึงนิยายย้อนยุคเรื่องล่าสุดที่ตนอ่านค้างไว้
เสียงสังวาสที่ดังก้องอยู่ในหูเริ่มจางหาย เธอได้ยินเพียงเสียงวี้ ๆ แว่วมาแต่ไกลก่อนจะค่อยขยายดังขึ้น จุดสีขาวนั้นก็เช่นกัน จากจุดเล็ก ๆ มันเริ่มขยับเข้ามาใกล้และขยายวงกว้างขึ้น ก่อนจะพุ่งวาบเข้าหาตัวเธออย่างรวดเร็ว
“ ฉันยังไม่อยากตาย ฉันยังไม่อยากตาย ! ” ลี่จือร้องออกมาก่อนที่ทุกสิ่งอย่างเบื้องหน้าจะดำมืดคล้ายท้องฟ้ายามรัตติกาลในคืนเดือนมืดที่ไม่มีแม้แสงดาว
ดับ... สนิท...
สองวันถัดมา ณ คอนโดมิเนียมของลี่จือ
“ โธ่ นังลี่จือ นังร่าน แกไม่น่าชิงหนีพวกฉันไปตายก่อนเลย ทำไมวะ แล้วใครจะพาฉันร่านวะอีบ้า ”
เสี่ยวอี้ หนึ่งในกลุ่มเพื่อนนักศึกษาที่สนิทของลี่จือพูดพลางสะอื้นไห้ ขณะที่กำลังเก็บข้าวของของลี่จือลงกล่อง
สองวันที่แล้วเธอได้รับแจ้งข่าวจากทางโรงพยาบาลที่โทรมาแจ้งว่าเพื่อนสนิทของเธอเสียชีวิตแล้วจากอาการหัวใจวายเฉียบพลัน
“ ฉันไม่เชื่อหรอกว่าอาจือจะหัวใจวายตาย มันแข็งแรงจะตายนะโว้ย ฟิตเนสมันก็เข้าตลอด อาหารเสริมวิตามินเสริมอะไรมันก็กิน ” สวี่เชียง อีกหนึ่งสาวว่า
“ แต่พวกแกอย่าลืมสิว่าลี่จือมันเล่นยาหนัก \ไม่ต่างจากพวกเรา ยิ่งเวลารับแขกมันก็ยิ่งชอบ จะแข็งแรงแค่ไหน ถ้าเสพยาเกินขนาดมันก็อาจเป็นได้ แล้วแกอย่าลืมนะว่ามันตายคาอกใคร นั่นท่านเฉิน มาเฟียตัวเป้งนะเว้ย ใครจะกล้าพูดว่ามันกำลังเอากับท่านเฉินแล้วขาดใจตาย ” เฟิงซิ่นสาวในกลุ่มคนสุดท้ายว่า
“ จะทำยังไงได้วะ เวลารับแขก ถ้าไม่เล่นยาแล้วจะมีอารมณ์ร่วมได้ยังไง บางคนอ้วนอย่างกับหมู บางคนแก่กว่าพ่อของพวกเราอีก ” เสี่ยวอี้ว่า ทั้งหมดนั่งนิ่ง ไม่พูดไม่จา เพราะสิ่งที่เสี่ยวอี้ว่านั้นมันถูกต้องทั้งหมด
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
ซ่งหยุนหยุนแต่งงานไปแล้ว แต่เจ้าบ่าวไม่เคยปรากฏตัวตั้งแต่ต้นจนจบเลย ด้วยความโกรธหนัก เธอจึงมอบกายให้กับชายแปลกหน้าคนหนึ่งแทนในคืนการแต่งงานนั้น หลังจากวันนั้น เธอก็ถูกชายคนนั้นจับตาเข้า...
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย