" ผมใหญ่ครับ " " ใหญ่นี่ ชื่อหรือสรรพคุณคะ " " ก็... ทั้งสองอย่างครับ " +++++++++++++++++++++++++++ " ผมอยากเอาคุณเป็นบ้าเลย " ดวงตาของมิถุนาเบิกกว้างเมื่อได้ยินประโยคนั้น ไม่คิดไม่ฝันว่าเขาจะพูดมันออกมาตรง ๆ อย่างไม่ให้เกียรติเธอแม้แต่นิด " ไอ้โรคจิต หยาบคาย ! " เธอผรุสวาทออกมาทั้งยังพยายามดิ้นรนผลักไสให้ตัวเองหลุดพ้นพันธนาการอันเป็นอ้อมแขนเหนียวแน่นนั้น และแน่นอนว่านอกจากไม่หลุดแล้วเขายังรัดเธอแน่นเข้าไปอีก " ปล่อยฉันนะ ! " " ก็คุณบอกให้ผมพูดเอง " " ใครจะไปรู้ว่าความคิดคุณจะทุเรศลามกขนาดนั้น " " มันเป็นเรื่องปกติของมนุษย์ ธรรมชาติสร้างให้สัตว์เพศผู้เพศเมียสมสู่กันเพื่อดำรงเผ่าพันธุ์ ความต้องการทางเพศมันเป็นเรื่องปกติ หรือว่าคุณไม่เคยมีมัน " " ฉันมีคู่หมั้นแล้วและไม่ได้อยากดำรงเผ่าพันธุ์อะไรกับคนแบบคุณ ! " เขาหัวเราะเบา ๆ ต่างกับเธอที่ตาเขียวปั้ด อยากจะยกมือขึ้นตะกายหน้าหล่อ ๆ นั่นแทบบ้า ไอ้คนไร้มารยาท ! " เราไม่ต้องดำรงเผ่าพันธุ์อะไรทั้งนั้น " เขาเริ่มบทสนทนาต่อก่อนโน้มตัวไปกระซิบที่ข้างหูเธอเบา ๆ " แค่เอากันก็พอ " ++++++++++++++++++++++++++++++++++++ " ...แค่อยากจะมาทักทายคนคุ้นเคยเป็นการส่วนตัว " " ฉันไม่ใช่คนคุ้นเคยของนาย " " งั้นคุณเป็นคนคุ้นเคยของผมฝ่ายเดียวก็ได้ " " อย่ามากวนนะ ระวังจะโดนเอาคืน " " ก็เอาสิ จะเอาคืน เอาวัน หรือเอาทั้งวันทั้งคืนเลยก็ได้นะ ผมไม่ติด "
เย็นวันศุกร์
เวลาทุ่มสิบนาที รถเก๋งสัญชาติญี่ปุ่นสีขาวแล่นเข้าไปหมู่บ้านจัดสรรในจังหวัดหนึ่งไม่ไกลจากเมืองหลวงนัก ผ่านทั้งสามซอยแรกที่เป็นบ้านแบบทาวน์เฮาส์ ตรงดิ่งไปยังท้ายซอยอันเป็นบ้านสองชั้น มีรั้วรอบขอบชิด มีพื้นที่จัดสวนให้พอได้หายใจหายคอ เป็นซอยเดียวที่บ้านแปดหลังในซอยนั้นราคาสูงที่สุดในโครงการแต่เพราะความเก่าของโครงการที่เนิ่นนานกว่ายี่สิบปีจึงทำให้บ้านสีขาวมันหม่นลง รั้วคอนกรีตมีรอยกระดำกระด่างตามกาลเวลา
รถยนต์คันนั้นจอดหน้ารั้วของบ้านหลังสุดซอย กดเลื่อนกระจกรถลง หยิบรีโมตประตูรั้วขึ้นมากดและมันค่อย ๆ เลื่อนเปิดอย่างเชื่องช้า เธอกดย้ำ ๆ ราวกับว่ามันจะเลื่อนไวขึ้นหากทำอย่างนั้น แต่ก็ไม่
คิ้วสวยได้รูปเหนือดวงตากลมโตสีน้ำตาลเข้มขมวดมุ่นอย่างหงุดหงิด ไม่ใช่แค่เรื่องประตูเลื่อนช้าหรอก แต่เพราะเรื่องอื่นสุมรุมอัดแน่นราวกับเธอเป็นถังขยะใบโตที่เทศบาลลืมมาเก็บ
เธอจอดรถในโรงรถด้านข้างรถยนต์เจ็ดที่นั่งที่พ่อของเธอพึ่งเอาคันเก่าที่พึ่งออกมายังไม่ทันถึงสองปีและแน่นอนว่ายังผ่อนไม่หมดแล้วนำไปเทิร์นคันใหม่มาเมื่อต้นปี ถัดไปเป็นรถยุโรปของแม่ที่ผ่อนไม่หมดเช่นเดียวกัน ถัดไปอีกเป็นรถ SUV สัญชาติญี่ปุ่นที่เสียแล้วไม่ยอมนำไปซ่อม จอดทิ้งไว้แบบนั้น
ส่วนเธอผู้เป็นลูกสาวนั้นโดยปกติจะพักที่คอนโดมิเนียมใกล้ที่ทำงานแล้วกลับบ้านเฉพาะวันหยุดเท่านั้น แต่ทั้งพ่อทั้งแม่ก็ยังดึงดันจะซื้อรถคนละคัน ทั้ง ๆ ที่ที่ทำงานก็อยู่โรงเรียนมัธยมประจำจังหวัดเดียวกันแท้ ๆ และไอ้รถเจ็ดที่นั่งนั่นก็กินน้ำมันเหลือเกิน แต่ก็อย่างที่พ่อกับแม่พูดเสมอแหละ
“ รถยนต์ทรัพย์สินมันเป็นหน้าเป็นตาให้เราได้นะ แกก็รู้จักซื้อรถยุโรปมาขับบ้าง ไม่งั้นก็เจ็ดที่นั่งก็ได้ นี่อะไร ขับรถเก๋งญี่ปุ่นคันเล็ก ๆ ไม่สมฐานะหัวหน้าฝ่ายเลย ลูกครูทองเปลวน่ะเขาพึ่งออกปาเจโร่ตัวใหม่มา สวยเชียว ”
เป็นหน้าเป็นตา สมฐานะ มีเกียรติ คำคำนี้ที่เธอมักจะได้ยินพ่อกับแม่พูดอยู่เสมอ จนบางครั้งต้องเดินหนีเพราะกลัวจะอ้วกเกียรติและศักดิ์ศรีออกมาเสียก่อน
เธอลงจากรถแล้วเปิดประตูรถด้านหลัง หอบกระเป๋าถือและกระเป๋าแล็ปท็อปไว้ในมือก่อนสาวเท้าผ่านต้นมะม่วงอกร่องที่ทั้งดอกทั้งใบร่วงเกลื่อนอยู่เต็มพื้นโดยปราศจากการกวาดเก็บ ต้นไม้ดอกไม้ที่ปลูกไว้รอบบริเวณบ้างก็เหี่ยวเฉา บ้างก็ยืนต้นตายเพราะขาดน้ำขาดการดูแล
เครื่องหน้าจิ้มลิ้ม ตาโต ปากนิด จมูกหน่อยภายใต้ใบหน้ารูปไข่ ผิวใสอมชมพูตามธรรมชาติ มันควรจะสดใสตามวัยยี่สิบเก้าขวบปีกำลังเป็นวัยเริ่มต้นชีวิต เป็นวัยผลิบานสู่ผู้ใหญ่ เป็นวัยสร้างอนาคตไฟแรงเจิดจ้า แต่ยามนี้มันกลับหม่นหมองเครียดขึ้ง ดวงตาหม่นแสง ไฟในกายที่มันควรจะโชติช่วงกลับริบหรี่ เธอรู้สึกว่าตัวเองแก่เกินอายุไปเป็นสิบ ๆ ปี
มิถุนา ศญารัตน์ หรือจูน คือหญิงสาวแบกทุกข์วัยยี่สิบเก้าผู้นี้
เธอสาวเท้าเข้าไปในประตูบ้านไม้สักแกะสลักรูปมังกรราคาเกินครึ่งแสนที่ ท่าน ผอ.ประชา ศญารัตน์ พ่อของเธอพึ่งจะสั่งมาเปลี่ยนเป็นครั้งที่สี่ทั้งที่ประตูเดิมก็ไม่ได้พังเสียหาย เหตุผลก็เพราะว่ารองผู้อำนวยการโรงเรียนพึ่งเปลี่ยนเพื่อฮวงจุ้ยบ้านที่ดี ตัวพ่อของเธอเองที่มีตำแหน่งเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนก็เลยน้อยหน้าไม่ได้ ต้องสั่งที่ใหญ่กว่าและแพงกว่ามาเปลี่ยนบ้างจึงจะสมฐานะและตำแหน่งอันมีเกียรติ
ไอ้ประตูรีโมตหน้าบ้านนั่นก็เหมือนกัน เธอรู้สึกไม่ชอบใจเลยทั้งราคาที่แพงจนไม่สมเหตุสมผล ทั้งสภาพสินค้าที่ดูมะล้องก๊องแก๊ง ติดตั้งมาสามเดือนแต่ซ่อมไปแล้วสี่ครั้ง เหตุผลแค่เพราะแม่ของเธอต้องการอุดหนุนลูกศิษย์ที่พึ่งเปิดร้านทำประตูรีโมต ลูกศิษย์คนนั้นทั้งชมทั้งสรรเสริญยกยอให้ อาจารย์มนีญา ศญารัตน์ คนสวยและใจดีของศิษย์ลองติดตั้งดู เขาจะลดราคาให้เป็นพิเศษ แม้คนเป็นลูกสาวจะลองสืบค้นในอินเทอร์เน็ตดูแล้วว่าร้านอื่นในย่านจังหวัดที่อาศัยอยู่รวมทั้งจังหวัดใกล้เคียง พบว่าราคาเบากว่าลูกศิษย์แม่เกือบจะครึ่ง แต่ท่านก็ยืนยันว่าจะติดตั้งกับคนนั้นเพราะเขาบอกว่าสินค้าของเขาคุณภาพดีกว่าที่อื่น
ทั้งพ่อและแม่เป็นแบบนี้มาตลอด ใครจะมาขายอะไรให้ ขอแค่สรรเสริญเยินยอ แค่ป้อนคำหวานให้ถูกจิตถูกใจ ทั้งคู่ก็พร้อมจะทำได้ทุกอย่าง
ซึ่งอันที่จริงแล้วมิถุนารู้ดีว่าเหตุผลหลักที่ทั้งพ่อทั้งแม่เป็นแบบนี้ก็เพราะแค่ต้องการรักษาภาพลักษณ์ สร้างภาพให้ชาวบ้านชาวช่องเห็นว่าตัวเองดี ร่ำรวย น่านับถือ มีเกียรติอะไรก็ว่ากันไป
หรือที่เรียกง่าย ๆ ประสาชาวบ้านว่า หน้าใหญ่ นั่นแหละ
คนเดียวที่รู้ถึงความข้างนอกสุกใสข้างในเป็นโพรงของบุพการีก็มีแต่เธอเท่านั้น
เงินเดือนผู้อำนวยการชำนาญการพิเศษและอาจารย์ชำนาญการพิเศษที่อีกสองปีจะเกษียณอายุนั้นถือว่าไม่ได้น้อย รวมสองคนก็แสนกว่าบาท แต่ใบรับรองเงินเดือนของทั้งคู่เหลือรับจริงไม่ถึงเดือนละสามพันบาทด้วยซ้ำไป
เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็เพราะกู้ยืมจนหมดทุกสถาบันการเงิน อย่างเดียวที่ไม่ได้กู้ก็เห็นจะมีแต่ระเบิด
ถามว่าเหลือแค่นั้นแล้วพอใช้ไหม คำตอบคือมันจะพอได้ยังไงล่ะในเมื่อทั้งคู่จมไม่ลง หน้าใหญ่ ออกงานสังคมบ่อย ชุดก็ใส่ซ้ำไม่ได้ โดยเฉพาะแม่ที่ต้องตัดผ้าไหมแพง ๆ ใหม่ทุกงาน ไหนจะค่ากินค่าอยู่ค่าน้ำค่าไฟค่าน้ำมัน ค่าอื่น ๆ อีกจิปาถะ เลยเกิดการกู้หนี้นอกระบบมาหมุนใช้ เอารถเข้าไฟแนนซ์ เอาที่ไปจำนองหรือไม่ก็ขายกินจนมรดกตกทอดจากปู่ย่าตายายไม่เหลือแล้ว
ภาระทั้งหมดก็เลยตกมาที่เธอ ลูกสาวคนเดียวที่โดนกรอกหูมาตั้งแต่จำความได้ว่าเกิดเป็นลูกต้องกตัญญูกตเวทีต่อบิดามารดา ไม่อย่างนั้นจะเป็นบาป ตกนรกหมกไหม้ชั่วกัปกัลป์ ทำงานได้เงินแล้วก็ต้องเอามาจุนเจือครอบครัวบำรุงดูแลพ่อแม่
มิถุนาไม่ติดใจเลยที่จะต้องกตัญญูดูแลพ่อแม่ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นคือแม้จะลำบาก แม้รู้ดีว่าหนี้ท่วมหัว เงินเดือนไม่พอใช้แต่ทั้งคู่ก็ยังจมไม่ลง ใช้จ่ายเงินฟุ้งเฟ้อเกินตัว หาเงินมาให้เท่าไหร่ก็ถมไม่เต็ม เหมือนเทน้ำลงบนผืนทรายละลายหายไปในชั่วพริบตา แต่ถ้าไม่มีให้ก็จะหาว่าเป็นลูกทรพี
คำถามในใจของมิถุนาที่มีมาตลอด คือคนเป็นลูกต้องกตัญญูต่อพ่อแม่ แม้ว่าทั้งคู่จะทำเรื่องแย่กับคนเป็นลูกอย่างไรก็ตามงั้นหรือ ?
ตั้งแต่จำความได้ตั้งแต่อนุบาล มิถุนาต้องทำงานบ้านทุกอย่าง ตื่นเช้ามาต้องกวาดถูบ้านก่อนไปโรงเรียน เย็นกลับมาต้องรดน้ำต้นไม้ หุงข้าว ล้างจาน โตขึ้นมาอีกนิดเข้าชั้นประถมพอที่จะใช้ไฟได้ก็ต้องรับหน้าที่หัดทำกับข้าวด้วย เสาร์อาทิตย์อย่าหวังจะได้ไปเล่นกับเพื่อนในหมู่บ้านเหมือนเด็กทั่วไป เพราะเธอต้องซักรีดเสื้อผ้าของคนทั้งครอบครัว ทำความสะอาดบ้านขนานใหญ่ทั้งนอกและในบ้าน ตัดต้นไม้ ตัดรั้ว และอีกจิปาถะ
และอีกเหตุผลที่พ่อแม่ไม่ให้เธอไปเล่นกับเพื่อน ๆ ก็เพราะว่า เธอเป็นลูกใคร จะไปเล่นกับลูกชาวบ้านสกปรกมอมแมมได้ยังไง มันไม่สมเกียรติลูกสาวอาจารย์และท่าน ผอ.
ซึ่งมิถุนาเองก็ไม่เข้าใจว่าชาวบ้านชาวช่องเขาไม่มีเกียรติตรงไหน เกียรติไม่ได้ขึ้นอยู่แค่หน้าที่การงานหรือตำแหน่ง เกียรติไม่อยู่ที่อายุหรือผมหงอกบนศีรษะ แต่เกียรติขึ้นอยู่กับการกระทำของคนคนนั้นต่างหาก
บ่อยครั้งที่เด็กหญิงมิถุนาตัวน้อยนั่งกอดเข่าเจ่าจุกอยู่ลำพังเพราะพ่อแม่ไปออกงานกลับบ้านดึก เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่อยู่ติดบ้าน ทิ้งเงินไว้ให้เธอร้อยสองร้อยให้ใช้จ่ายทั้งอาทิตย์ก็มี ขอเพิ่มก็โดนด่าหาว่าใช้จ่ายไม่ประหยัด พ่อแม่มีหนี้มีสินกว่าจะสร้างตัวมาได้ขนาดนี้
เด็กหญิงมิถุนาเรียนรู้ที่จะประหยัดอดออม เมนูประจำบ้านคือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปกับไข่ เรียนรู้ที่จะปลูกผักสวนครัวไว้หลังบ้านเพื่อที่จะนำมาผัดใส่ไข่ราดข้าวกินบ้าง ขนมขบเคี้ยวอย่าไปใฝ่ฝันถึง
เพราะความไม่ค่อยมีเพื่อนทำให้มิถุนาชอบขลุกอยู่ในห้องสมุด อ่านหนังสือเล่มแล้วเล่มเล่า เจอสูตรผักชุบแป้งทอดกรอบก็ลองเอามาทำดูบ้าง รู้สึกว่ามันอร่อยแทนขนมขบเคี้ยวได้ ก็เริ่มประยุกต์เอาโน่นเอานี่มาชุบแป้งทอด หัดทำอาหารจากสูตรในหนังสือที่พอจะหาวัตถุดิบง่าย ๆ ได้ พอได้คลายความอยากและความเหงาของเด็กน้อยได้บ้าง
แต่ก็นั่นแหละ มันช่วยได้เพียงชั่วครู่ชั่วยาม สุดท้ายเธอก็เป็นแค่เด็กที่ต้องการความรักความอบอุ่นในครอบครัวเหมือนคนอื่นเขา
โปรย : " ขออีกครั้งได้ไหม " " หมายถึงโอกาสเหรอคะ " " ก็ โอกาสด้วย อย่างอื่นด้วย " เธอยิ้ม ขยับเข้าไปหาแล้วกระซิบข้างหูเขาเบา ๆ " อย่างอื่นนี่คืออะไรเหรอคะ " ลมหายใจอุ่น ๆ เป่าลงที่ซอกคอ และเธอตั้งใจแตะริมฝีปากให้ถากบนใบหูของเขา เพียงเท่านั้นเลือดหนุ่มก็เดือดพล่านเหลือเกินแล้ว " พูดได้เหรอ " " ถ้าไม่อยากพูด ทำเลยก็ได้ " ++++++++++++ มาเซ้ นางเอกเราสู้คนค่ะคุณขา หมายเหตุ : แมธธิว พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง คุณแสนร้าย , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
เธอไม่ได้ชอบเบา ๆ หรอก ฉันรู้ดี... โปรย : จากเด็กในบ้านที่มีสัมพันธ์กันลับ ๆ วันหนึ่งเธอตัดสินใจโบยบินไปจากอ้อมอก ตอนนั้นเขาพึ่งรู้หัวใจตัวเอง เขาหวง เขาหึง เขาคิดถึง เขาคลั่งแทบบ้า และจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้เธอคืนมา ! ตัวอย่าง : " คุณแสนมีธุระอะไรคะ " ใบหน้าหล่อเหลาที่เรียบเฉยยกยิ้มมุมปากทันทีที่ได้ยินคำถามนั้น " พูดจาดูห่างเหินจังนะ " " คุณทราบได้ยังไงคะว่าหนึ่งอยู่ที่นี่ " " ก็แค่บังเอิญผ่านมา " " บังเอิญแน่เหรอคะ " " แน่สิ ทำไมล่ะ ที่นี่มันร้านกาแฟที่ลูกค้าที่ไหนจะมาซื้อก็ได้ทั้งนั้น รวมถึงฉันด้วย " " หนึ่งจะปิดร้านแล้วค่ะ " " ใจดำจังนะ ออกมาไม่บอกไม่กล่าว รีบอะไรขนาดนั้น " คราวนี้เธอเงียบ เขาจึงยิงคำถามต่อ " เห็นน้าละมุนบอกว่าวันที่ขนของมีหนุ่มไปรับ " คำพูดนั้นทำให้เธอเชิดหน้าขึ้น " ค่ะ แฟนหนึ่งเอง หนึ่งย้ายมาอยู่กับเขาที่นี่ " เธอเน้นย้ำคำว่า ที่นี่ ให้เขาได้ยินชัด ๆ เขานิ่งไปชั่วขณะก่อนจะยิ้มออกมา " แต่ตอนนี้ร้านดูเงียบ ๆ แฟนไม่อยู่เหรอ " " คุณแสนจะสั่งอะไรไหมคะ ถ้าไม่สั่งหนึ่งขออนุญาตเชิญกลับ เพราะหนึ่งต้องปิดร้าน " " นี่เป็นแม่ค้ายังไงจะไล่ลูกค้าออกจากร้าน ใจร้ายจังนะ " เธอยืนจ้องเขาเขม็ง คิ้วได้รูปขมวดนิด ๆ อย่างหงุดหงิด แสนสราญนึกสนุกที่ได้เห็นท่าทีแข็งกร้าวต่อต้าน และคนสันดานเสียอย่างเขาก็ชอบที่จะเอาชนะเสียด้วยสิ " อยากได้เครื่องดื่ม " " รับอะไรดีคะ " " นมสด " " นมสดไม่มีค่ะ เมนูตามนี้เลย " เธอผายมือไปยังป้ายเมนูไม้แบบมินิมอลน่ารักที่มีรายชื่อเครื่องดื่มอยู่บนนั้น แต่เขาไม่ได้มองตามไปที่นั่น สายตากรุ้มกริ่มจ้องอยู่ที่อกอวบ แม้มีเสื้อยืดสีขาวสกรีนชื่อร้านห่อหุ้มอีกทั้งผ้ากันเปื้อนทับอีกชั้น แต่เธอก็ยังรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่เกิดขึ้นภายในทรวงเพียงถูกเขาจ้อง " มีสิ เต็มปากเต็มคำดีเสียด้วย " หมายเหตุ : คุณแสน พระเอกของเรื่องนี้ เป็นตัวละครหนึ่งในกลุ่มเพื่อนสนิทจากเรื่อง ขออีกครั้ง , น้องนุ่ง , เล่ห์ร้อน ทุกเรื่องจะมีตัวละครทั้งสี่ปรากฏในเรื่อง แต่เนื้อเรื่องไม่เกี่ยวข้อง สามารถอ่านแยกกันได้ แต่ถ้าจะให้ม่วนจอยครบสูตรก็ฝากทั้งสี่ไว้ในอ้อมอกอ้อมใจด้วยนะคะ ++++++++++++++++++++++++ 4 เรื่อง 4 รส 4 หนุ่ม ดังนี้ 1. คุณแสนร้าย (แสนสราญ + หนึ่งฤทัย) 2. ขออีกครั้ง (แมธธิว + พราวด์ ) 3. น้องนุ่ง (เอกบุรุษ + เขมิรา) 4. เล่ห์ร้อน (เขมมะ + ขนม)
จะผิดไหม ถ้าอยากมีอะไรกับเพื่อนรัก เขาอยากสอดเสยลำใหญ่เข้าไปในกายเธอเหลือเกิน..เช่นเดียวกับเธอที่อยากให้เขาเข้ามาลึกๆ แรงๆ
พี่สาวครับ ตอนนี้ผมเป็นหนุ่มแล้วครับ ผมอยากกอด อยากหอม อยากจับ อยากเหลือเกินครับ อยากจะจับพี่ทำเมีย...
ถูกพ่อแท้ ๆ ขายให้กับชายแก่คราวพ่อเพื่อไปเป็น 'เมียน้อย' เธอไม่อยากเสียซิงให้ชายแก่คราวพ่อ จึงเลือกเสียมันให้กับหนุ่มหล่อที่ 'ขายตัว' แต่เธอดันตกใจจนหมดสติทั้งที่เขาเสียบเข้าไปได้แค่ส่วนหัว บ้าบอฉิบ ! เมื่อได้สติ ขวัญเอยอับอายเป็นอย่างมาก สบถสาบานเอาไว้ว่าจะไม่ทำอะไรไร้สติเช่นนี้อีกแล้ว และภาวนาอย่าได้พบได้เจอเขาอีกเลย แต่ดูเหมือนเทวดาไม่เป็นใจ เพราะหนุ่มเจนรักคนนั้น กลับกลายมาเป็นนักศึกษาในคลาสที่เธอสอน แถมบ้านอยู่ติดกับเธออีกด้วย เวรล่ะสิ !
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!
ซินหยาน นักฆ่าสาวที่ใช้นามแฝงว่า สืออี เธอถูกพาตัวมาจากสถานสงเคราะห์ตั้งแต่อายุเพียงเจ็ดปี เพื่อฝึกให้เป็นนักฆ่าขององค์การใต้ดิน เพราะความสามารถของเธอ รวมถึงความเฉลียวฉลาดจากการเอาตัวรอด ทำให้เธอได้รับภารกิจเสี่ยงอันตรายอยู่เสมอ จนวันหนึ่งที่องค์กรยื่นข้อเสมอสุดพิเศษให้ หากทำภารกิจครั้งนี้เสร็จสิ้นเธอจะสามารถไปใช้ชีวิตตามที่เธอต้องการได้ แต่เรื่องมันจะง่ายถึงเพียงนั้นได้อย่างไร ซินหยาน แม้จะรู้ดีว่านี้เป็นภารกิจสุดท้ายก่อนที่เธอจะถูกสั่งเก็บแต่ก็รับงานมาอย่างเต็มใจ แต่ที่องค์การคิดไม่ถึงคือ ซินหยานเลือกที่จะจบชีวิตลงพร้อมกับภารกิจสุดท้ายที่สูญหายไปพร้อมกับเธอด้วย ซินหยานเมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้งก็พบว่าเธออยู่ในร่างของเด็กสาววัยสิบสองหนาว จางซินหยาน ชื่อนี้ช่างคุ้นหูนัก และยิ่งคุ้นมากขึ้นเมื่อชื่อของบิดามารดาของซินหยานก็คือนิยายเรื่องหนึ่งที่เธอได้เคยอ่านเมื่ออยู่ภพที่แล้ว หลังจากที่จางซินหยานอายุได้สิบหกหนาว นางตกหลุมรักท่านแม่ทัพจ้าว ที่ได้รับบาดเจ็บและจางซินหยานเป็นผู้ช่วยไว้ ถ้าหากท่านแม่ทัพจ้าวมิได้มีสตรีที่ตบแต่งไปแล้วเรื่องนี้ก็คงจบอย่างสวยงาม แต่เพราะเขารับจางซินหยานไปเป็นได้เพียงอนุเท่านั้น จางซินหยานก็ยังคิดว่าถึงจะเป็นเพียงอนุนางก็ยังหวังว่าท่านแม่ทัพจะรักนางเช่นกัน แต่เปล่าเลย ในสายตาของท่านแม่ทัพมีเพียงฮูหยินเอกเท่านั้น จนตายจางซินหยานก็ไม่เคยได้ยินคำว่ารักจากปากของท่านแม่ทัพ ซินหยานเมื่อมาอยู่ในร่างของจางซินหยานแล้วนางจะยอมให้เกิดเหตุการณ์นี้ได้อย่างไร แต่เหมือนโชคชะตาชอบเล่นตลก เพราะเรื่องที่นางไม่อยากยุ่งเกี่ยวดันเข้าไปยุ่งเต็มๆ
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้