คนเหงาที่ใช้ชีวิตโสดโดดเดี่ยวมานาน พลาดพลั้งพบกับสาวสวยขี้อ้อน ที่มาพร้อมกับความสดใส ถึงการพบกันครั้งแรกไม่สวยงามนัก แต่เป็นจุดเริ่มต้นของความรัก... ............................... “ดึกแล้วเรารีบขึ้นข้างบนกันดีกว่า” เขาบอกพร้อมกับรอยยิ้มร้ายที่ผุดออกจากมุมปาก “จะพาดาวไปไหนคะ” “ไปนอนไงครับ” “แต่นี่เลยห้องดาวแล้วค่ะ” “คืนนี้นอนห้องพี่” “แต่...” ยังไม่ทันได้ทัดทานริมฝีปากบางอวบอิ่มก็ถูกเขากดจูบอย่างดูดดื่ม...
อากาศยามเช้าที่ควรจะสดใส ถูกปกคลุมด้วยเหล่าก้อนเมฆสีดำ ที่มืดครึ้มตั้งเค้าว่าฝนจะตกมาแต่ไกล เช้านี้เลยทำให้อากาศเย็นสบายกว่าทุกวัน
“ออเดอร์ A045 รายการของลูกค้าเรียบร้อยแล้วค่ะ”
“ขอบคุณค่ะ” นิศรายิ้มหวานรับแก้วกาแฟและถุงขนมจากพนักงาน ก่อนเดินไปเปิดประตูเพื่อออกจากร้าน
“ขอบคุณที่ใช้บริการ ทานให้อร่อยนะคะ” เสียงพนักงานกล่าวลาลูกค้า
..ติ๊ง ต่อง..เสียงเปิดประตูดังขึ้น
“ว้าย.ย....ขอโทษค่ะ”
นิศราร้องอุทานด้วยความตกใจ เธอชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ของคนที่พึ่งเปิดประตูเข้ามา ทำให้กาแฟหกใส่เสื้อนักศึกษาสีขาวเป็นคราบสีน้ำตาลเข้มเลอะเต็มเสื้อ โชคดีที่เธอสั่งเป็นกาแฟเย็น หากเป็นกาแฟร้อนเธอคงถูกลวกอย่างหลบไม่ได้
“เดินประสาอะไร ทำไมถึงไม่ดูตาม้าตาเรือ” เสียงดุเข้มของคนที่เปิดประตูมาชนเธอเอ่ยขึ้น
“อ้าวนี่...คุณมั้ย!ที่เปิดประตูไม่ระวัง ไม่เห็นคนหรือไง พุ่งเข้ามาได้...แล้วดูนี่ป้าย” เธอชี้ไปที่ป้ายที่ติดด้านหน้าประตูอย่างเอาเรื่อง “อ่านออกมั้ย ดึงอะดึง ผลักมาได้ ขอโทษสักคำก็ไม่มี ยังจะมาว่าคนอื่นอีก”
เสียงใสโวยวายอย่างไม่พอใจ เมื่อเห็นอีกฝ่ายไม่สำนึกผิดแถมยังมากล่าวโทษว่าเป็นความผิดเธออีกต่างหาก -ไอ้ขยะเปียก- ประโยคนี้เธอด่าเขาในใจ
“เธอรู้มั้ย ว่าเสื้อตัวนี้มันราคาเท่าไหร่” ชายหนุ่มบ่นอย่างหัวเสีย ไม่สนใจคำพูดของเธอด้วยซ้ำ วันนี้เขามีประชุมสำคัญกับต้องมาเจอเหตุการณ์นี้
“ให้ตายสิ! จะราคาเท่าไหร่มันก็เรื่องของคุณมั้ย ตอนจ่ายเงินซื้อไม่ได้ดูราคารึไง ถึงต้องมาถามจากคนอื่นเนี่ย”เธอก็เริ่มจะหัวเสียกับคำพูดของเขาเช่นกัน
“พูดแบบนี้คือจะไม่รับผิดชอบ” แววตาคมกริบตวัดมอง อย่างไม่ยอมเช่นกัน
“จะให้ฉันรับผิดชอบอะไร ในเมื่อคุณเป็นคนผิด คุณนั่นแหละที่ต้องรับผิดชอบ ชุดฉันเลอะเนี่ยถ่างตาดูด้วย สติค่ะสติ! หน้าตาก็ดี แต่งตัวก็ดูดี ไม่น่าเป็นคนนิสัยไม่ดีเลย วันซวยของฉันจริง ๆ เลย”
หญิงสาวตะเบ็งเสียงต่อว่า ชี้ให้เขาดูสภาพเธอ ด้วยความไม่พอใจ เสียงเริ่มดังขึ้นเรื่อย ๆ ใบหน้าจิ้มลิ้ม ถลึงตามองอย่างไม่พอใจ วินาทีนั้นเองที่เขาได้เห็นใบหน้าของเธอชัดเจน
คิ้วบางเลิกสูงขมวดเข้าหากัน ดวงตาโตกลมถลึงตามองอย่างไม่พอใจ ใบหน้าหวานมีสีแดงระรื่นเพราะความโกรธ ปากน้อย ๆ ขยับบ่นเขาไม่หยุด ดวงตาคู่คมจ้องมองหญิงสาวตรงหน้าตาไม่กะพริบ แล้วต้องชะงักเมื่อเสียงแจ๋ว ๆ ของเธอเงียบลง เปลี่ยนเป็นตะโกนเรียกเขาแทน
“นี่ นี่คุณ ฟังอยู่รึเปล่าเนี่ย”
“งั้นถือว่าหายกัน ก็แล้วกัน” เมื่อได้สติชายหนุ่มจึงปรับน้ำเสียงให้นุ่มลง
“อะไรนะ หายกัน” นิศราถามย้ำเสียงดังก่อนบ่นต่อ
“ชุดฉันเลอะนะ ฉันต้องรีบไปส่งงานอาจารย์ด้วย”
“แล้วคุณต้องการเท่าไหร่”
“อะไร” เธอได้ยินชัดแหละแต่ถามย้ำเพื่อให้แน่ใจ
“ที่พูดมาทั้งหมด คืออยากได้เงินไม่ใช่หรือไง จะเอาเท่าไหร่” เขาเน้นเสียงพร้อมส่งสายตาเหยียดใส่เธอ มันยิ่งทำให้หญิงสาวไม่พอใจมากขึ้นไปอีก
“เท่าไหร่เหรอ พูดแบบนี้หมายความว่าไง”
“ก็อยากได้เงิน ผมก็จะรับผิดชอบให้นี่ไงอยากได้เท่าไหร่จะได้แยกย้ายกัน ผมมีธุระสำคัญรออยู่”
“ธุระของคุณมันสำคัญมากกว่าธุระของคนอื่นสินะ จะบอกให้นะ ว่าเงินของคุณน่ะ มันไม่สามารถแก้ปัญหาได้ทุกอย่างหรอก”
“อ่าว! เฮ้อ ...แล้วจะเอายังไงล่ะครับคุณผู้หญิง”
ธีรวัฒน์ถอนหายใจยาว รู้สึกเริ่มเหนื่อยหน่ายที่เรื่องนี้จะไม่จบง่ายๆ เสียแล้ว
ไม่ต่างกันหญิงสาวตรงหน้า เธอสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดทำสมาธิ พร้อมทำท่าทางจริงจัง
“ฉัน ไม่ ต้อง การ เงิน ของ คุณ! แต่ขอให้คุณรับผิดชอบแบบนี้แล้วกัน”
นิศราเน้นคำพูดช้า ๆ ชัด ๆ เมื่อพูดจบหญิงสาวก็สาดกาแฟในแก้วที่เหลือ ใส่กลางลำตัวของคนตรงหน้าทันที
“เฮ้ยย! ทำอะไร เด็กบ้านี่”
ธีรวัฒน์อุทานออกมาด้วยความตกใจ ในการกระทำของเธอ ไม่คิดว่าคนตรงหน้าจะทำเช่นนี้ มือหยาบปัดกาแฟออกจากเสื้อพร้อมเงยหน้ามองคนที่ยืนยิ้มเยาะกับผลงานของตัวเอง
“โอเค แบบนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย หายกันแล้วนะ ถือว่าไม่มีอะไรติดค้างกันแล้ว อีกอย่างถ้ารวยมากนักก็ช่วยเคลียร์ที่ทำร้านเขาเลอะเทอะด้วยก็แล้วกัน หวังว่าเราคงจะไม่ต้องเจอกันอีกนะ เพราะคุณมันเฮงซวย!”
‘ขอโทษสักคำก็ไม่มีไอ้ขยะเปียกนี่ โตมาแบบไหนกันนะ’
เธอบ่นในใจ พร้อมมองเขาด้วยสายตาเหยียดกลับ ก่อนจะเดินออกจากร้านไปเลย ปล่อยให้ชายหนุ่มยืนอึ้งกับการกระทำของเธออยู่อย่างนั้น ไม่นึกเลยว่าเธอจะกล้าทำถึงขนาดนี้
'เหนือความคาดหมายจริง ๆ' เขาคิดในใจ ก่อนจะสบถออกมาอย่างหัวเสีย
ธีร์ ธีรวัฒน์ เลิศกิจเจริญ นักธุรกิจหนุ่มหล่อไฟแรง ประธานบริษัทธีรวัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดำเนินธุรกิจด้านอสังหาริมทรัพย์ ประเภทหมู่บ้านจัดสรร ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีแผนขยายโครงการไปตามจังหวัดอื่น ๆ ด้วย เป็นบริษัทที่มีรายได้มากที่สุดอันดับต้น ๆ ของประเทศ
เขาเป็นคนที่ทำงานเก่ง เด็ดขาด จริงจังกับการทำงาน พูดได้ว่าชีวิตของเขามีแต่งาน สนใจแต่เรื่องงาน เป็นคนหล่อและรวยมาก ทำให้มีสาว ๆ เข้าแถวมาขายขนมจีบไม่ขาดสาย
แต่ที่เข้ามาก็เพื่อหวังเงินและผลประโยชน์จากเขาทั้งนั้น ทำให้เขามีกำแพงต่อผู้หญิงทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต ปัจจุบันสถานะจึงยังโสดสนิท
“เกิดอะไรขึ้นครับ ทำไมมาสภาพนี้” วรวิทย์เลขาคนสนิทถามด้วยความตกใจ เมื่อเห็นสภาพเจ้านายหนุ่มที่เลอะเทอะ หรือเรียกได้ว่าเละไปทั้งตัวก็ว่าได้ เปิดประตูเข้ามาในห้องทำงานสภาพที่ไม่เหลือมาดประธานบริษัทเลย
“เฮ่อ! อุบัติเหตุนะ จะไปซื้อกาแฟ เปิดประตูร้านผิดฝั่งป้ายให้ดึง แต่ฉันผลักเปิดเข้าไปด้วยความเคยชินอะนะ เลยไปชนเข้ากับนักศึกษาที่กำลังเดินออกจากร้านพอดี กาแฟเลยหกใส่เสื้อเธอ”
ธีรวัฒน์เล่าถึงเหตุการณ์เมื่อสักครู่ ก่อนถอนลมหายใจยาวออกมา อย่างรู้สึกเหนื่อยใจ
“กาแฟร้อนหรือเย็นครับ”
“เฮ้อ โชคดีที่เป็นกาแฟเย็น” เขาถอนหายใจอีกครั้ง ก่อนจะตอบ
“ว่าแต่ กาแฟหกใส่เสื้อเธอคนนั้นแล้วทำไม ท่านถึง..”
วรวิทย์ถามเพราะสงสัยในสภาพของเจ้านายหนุ่ม ก่อนชี้ไปที่เสื้อของเขา
“เถียงกันไม่ลงตัวนะ ฉันเองก็ไม่ยอมรับผิด เธอคงโกรธมากเลยสาดกาแฟที่เหลือใส่” เขาเอ่ยพร้อมถอดสูท โยนพาดไปที่พนักพิงเก้าอี้
“แล้วไปทำอีท่าไหนครับ ถึงโดนสาดกาแฟใส่เนี่ย”
คนอยากรู้ยังคงถามต่อเพราะไม่เคยเห็นเจ้านายตัวเองอยู่ในสภาพนี้มาก่อน ตั้งแต่ทำงานด้วยกันมา เห็นแต่งตัวเป๊ะตลอดเวลา
“ก็..เถียงกันไปมานั่นแหละ ฉันคิดว่าเธอคงอยากให้รับผิดชอบเป็นเงิน เลยถามไปว่าจะเอาเท่าไหร่..”
“เธอ...โกรธ”
“อืม โกรธ ไม่พอใจมากด้วย บอกไม่ต้องการเงินของฉัน เสียงดังฟังชัดเชียวแหละ ก่อนจะต่อด้วยประโยคที่ว่า ‘ขอให้คุณรับผิดชอบแบบนี้แล้วกัน’ แล้วกาแฟก็ลอยมาใส่ สภาพก็อย่างที่เห็น แถมบอกอีกว่า ‘แบบนี้ค่อยยุติธรรมหน่อย หายกันแล้วนะ’ จากนั้นก็เดินสะบัดก้นออกจากร้านไปเลย”
เขาเล่าซะละเอียดจนคนฟังนึกภาพตามออก เหมือนอยู่ในเหตุการณ์ด้วย
“ฮ่าๆๆ” วรวิทย์หลุดหัวเราะเสียงดังเมื่อฟังจนจบ
“หัวเราะอะไรวะ” คนถูกหัวเราะขึงตามองอย่างคาดโทษเพราะเรื่องที่เขาเล่ามันไม่ตลกเลยสักนิด
“ขอโทษครับท่าน มันตลกท่านเจอคนจริงเข้าให้แล้ว ผมเดาว่าท่านคงไม่ได้พูดขอโทษเธอด้วย”
“อืม”
“เธอคงแค่อยากได้ยินคำว่าขอโทษมากกว่าอยากได้เงินของท่านน่ะครับ แค่ชุดเลอะเธอก็คงรู้สึกแย่มากแล้ว ยังต้องมาเจอคนไม่ยอมใครแบบท่านด้วย เลยทำให้อารมณ์เสียไปอีก แล้วมีใครได้รับบาดเจ็บมั้ยครับ”
“ไม่มี แค่สภาพเละดูไม่ได้ด้วยกันทั้งคู่ แต่ร้านเขานะสิ พื้นเลอะไปหมด”
“ไปล้างตัวก่อนเถอะครับ ผมจะเตรียมชุดใหม่ให้สิบโมง เรามีคุยสรุปแบบโครงการบ้านเดี่ยวที่จะสร้างที่สมุทรสาครครับ”
“อืม” ว่าแล้วเขาก็ไปจัดการกับตัวเองให้พร้อมสำหรับการประชุมในวันนี้
ญารินหญิงสาวผู้มีความฝันอยากมีพื้นที่เปิดนิทรรศการแสดงผลงานเซรามิกของตนเอง เธอมีบ้านที่อยากได้มากที่สุดและใช้เวลาขอเช่าพื้นที่กับเจ้าของบ้านนานนับปีกว่าเจ้าของจะยอมปล่อยให้เช่า ทว่าวันที่นัดเซ็นสัญญาเช่า กับเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ทำให้ไปเซ็นสัญญาไม่ทัน โดยเขาเตชินทายาทมหาเศรษฐีเจ้าของห้างดัง ที่เป็นต้นเหตุทำให้เธอไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอ เพื่อรอเวลานัดเซ็นสัญญาครั้งใหม่ ในอีกหกเดือนข้างหน้า ญารินจำเป็นต้องเช่าพื้นที่ชั่วคราวไปก่อน โดยมารู้ทีหลังว่าเป็นห้างของเขา จึงจะขอยกเลิกสัญญาแต่ชายหนุ่มไม่ยอม ขู่ว่าหากยกเลิกสัญญาต้องจ่ายค่าปรับ แล้วมันเรื่องอะไรที่เธอจะต้องมาเสียเงินให้กับเขาฟรีๆ จึงจำใจต้องทนอยู่ให้ครบสัญญา แต่การมาเปิดหน้าร้านที่ห้างของเขาไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ญารินทั้งโกรธและไม่ชอบขี้หน้าเตชินเอามากๆ แต่ชายหนุ่มก็ชอบเอาหน้าหล่อๆมาให้เห็นบ่อยๆ มิหนำซ้ำยังตามตื๊อเธอไม่เลิก แล้วโชคชะตายิ่งทำให้พวกเขาได้ใกล้ชิดกันมากขึ้น กลายเป็นจุดเริ่มต้นความสัมพันธ์ของทั้งสอง
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง