ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / ทรายพราวแสง
ทรายพราวแสง

ทรายพราวแสง

5.0
74 บท
1.1K ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

ทิฐิที่มีทำให้สองหัวใจเดินทางสวนกันทั้งที่พร่ำเพรียกอย่างโหยหา แต่เมื่อรู้ตัวเขาก็ยอมรับจากก้นบึ้งของหัวใจว่าหากครั้งนี้เขาปล่อยมือคู่นี้ไปหัวใจเขาคงต้องหยุดเต้นเป็นแน่. ‘เอานะ... คุณคิดชั่วโมงเท่าไหร่ละ’ ‘บ้า!ทะลึ่ง!ลามก! อย่าเอาความคิดสกปรกมาตีราคาฉันนะ’ ‘เอ้ย! คุณนั้นแหละคิดอกุศล ก็ผมบอกแล้วไงว่าจะจ่ายค่าลวงเวลาให้’ โยษิตา หญิงสาววัยยี่สิบสองปีบัณฑิตหมาดๆ ที่ตระเวนหางานทำจนรองเท้าแทบสึก ทว่าระหว่างที่ทำงานพิเศษเป็นพนักงานกรอกแบบสอบถาม ทำให้เธอได้พบกับ ฟีรูซ เรกิวลุส หนุ่มสุดฮอตเจ้าของใบหน้าคมเข้ม โดยที่เธอไม่รู้เลยว่าเขาคือนานแบบหนุ่มสุดฮอตที่แสนจะเจ้าอารมณ์และเอาแต่ใจตัวเอง ในชีวิตของฟีรูซ เรกิวลุส ชายหนุ่มที่ใครต่อใครอิจฉา แต่ชีวิตครอบครัวที่แท้จริงกลับเต็มไปด้วยรอยแตกร้าว เขามีพี่ชายต่างมารดา “ฮาคีม” ที่สมบูรณ์แบบทุกอย่างจนถูกจับเปรียบเทียบเสมอ แม้กระทั่งกับสิริมา-พี่สาวที่เกิดจากแม่ที่เป็นคนรับใช้ทำให้แม่ของเขาปวดใจไม่น้อย ฟีรูซถูกเลี้ยงด้วยความตามใจจากผู้เป็นแม่แท้ๆ แต่ความรักที่มากล้นนั้นทำให้เขาอึดอัดและกลายเป็นคนเจ้าอารมณ์อย่างไม่รู้ตัว แล้วชีวิตเรื่อยเปื่อยของเขาก็เปลี่ยนไปเมื่อเจอกับหญิงสาวดวงตากลมโตอย่างโยษิตา ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าสิ่งเหล่านั้นกลับผูกพันหัวใจสองดวงไว้อย่างไม่รู้ตัว แต่กว่าจะรู้ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นในใจเรียกว่า “ความรัก” พวกเขาก็เกือบจะสูญเสียมันไปตลอดกาล.

บทที่ 1 พี่ตามาแล้ว

แท็กซี่ยังไม่ทันจอดเทียบฟุตปาธหน้าสถานีหัวลำโพงได้สนิทดีนัก ร่างของหญิงสาวอายุประมาณยี่สิบสองปี ถลาออกจากรถทันทีโดยไม่รอรับเงินถอนจากคนขับรถ เธอวิ่งฝ่าฝูงชนมากมายที่ล้วนต่างที่มาและต่างจุดหมาย เธอเดินเร็วๆ จนเกือบจะเป็นวิ่งไปถึงห้องพิเศษที่มีเจ้าหน้าที่สถานีรถไฟโทรศัพท์ติดต่อเธอไว้เมื่อเกือบครึ่งชั่วโมงที่ผ่านมา

“พี่ตามาแล้ว!”

“ข้าวซอย!”

โยษิตาเผลอตะโกนเรียกชื่อเด็กหญิงวัยสิบขวบที่นั่งอยู่บนเก้าอี้สีฟ้าหม่น เด็กน้อยจอมยุ่งกระโดดลงจากเก้าอี้เข้ามาสวมกอดญาติผู้พี่อย่างคิดถึง เจ้าหน้าที่กระแอมไอสองสามครั้งก่อนเรียกโยษิตาไปตักเตือนที่ปล่อยให้เด็กหญิงวัยสิบขวบเดินทางมาคนเดียวเพียงลำพัง โดยการแอบซ่อนตัวในห้องน้ำของรถไฟตั้งแต่ลำปางจนมาถึงหัวลำโพง

“ค่ะ…ค่ะ…จะไม่ไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีกแน่นอน”

ข้าวซอยเงยหน้าขึ้นมายิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวตัดกับสีผิวที่ดำเป็นเหนี่ยง ช่างผิดกับคำพูดที่ว่าสาวเหนือจะผิวขาวสวย เมื่อเคลียร์ปัญหากับเจ้าหน้าที่เรียบร้อยโยษิตาก็ได้ยินเสียงท้องตัวเองร้องโครกครากจนเจ้าน้องสาวตัวแสบหัวเราะ

“พี่ตาเลี้ยงอะไรไว้ในท้องเหรอคะ”

“สัตว์ประหลาดมั้ง!”

หญิงสาวหันไปแยกเขี้ยวใส่ แต่ดูเหมือนเด็กจอมซนจะไร้ความกลัวเกรง ก็นั่นซินะ! ถ้าขี้ขลาดคงไม่กล้าหนีออกจากบ้านมาถึงนี่ได้ โยษิตาได้แต่ถอนหายใจก่อนเดินจูงมือหลานเข้าไปหาอะไรกินนอกสถานีรถไฟ เมื่อประมาณครึ่งชั่วโมงก่อนหน้านี้ เธอกำลังช่วยคุณยายละเอียดกวาดหยากไย่ตามมุมบ้าน จู่ๆ ก็ได้รับโทรศัพท์จากเจ้าหน้าที่ของสถานีรถไฟ ให้มารับเด็กหญิงข้าวซอยที่แอบขึ้นรถไฟมากรุงเทพฯเพียงลำพัง เธอต้องตาลีตาเหลือกออกจากบ้านมาทั้งสภาพมอมแมมแบบนี้เพราะความเป็นห่วงน้องสาวตัวซน แต่พอมาเห็นแววทโมนเหมือนลูกลิงน้อยและวีรกรรมที่สร้างขึ้นเธอก็ได้แต่ส่ายหน้าระอาใจ

“พี่ตาโกรธหนูหรือจ๊ะ” ข้าวซอยถามเบาๆ แววตาสำนึกผิด

“ไม่ได้โกรธแต่พี่ตาเป็นห่วง” โยษิตาใจอ่อนกับแววตาคู่นี้เสมอ เธอมองดูจานข้าวหมูแดงที่ว่างเปล่า เมื่อสัตว์ประหลาดในท้องไม่ส่งเสียงรบกวน เธอก็จ่ายเงินค่าอาหาร

“เรารีบกลับบ้านกันเถอะป่านนี้คุณยายคงรอแย่แล้ว”

“คุณยายจะโกรธหนูไหมคะพี่ตา” แววตาของเด็กหญิงวัยสิบขวบที่ดูเศร้าหม่นกว่าเด็กรุ่นราวคราวเดียวกัน

‘แววตาแบบนี้ใครจะโกรธได้ลงนะ’

หญิงสาวผ่อนลมหายใจเบาๆ แค่เห็นว่าน้องสาวตัวน้อยไม่มีร่องรอยบุบสลายตรงไหนก็โล่งใจแล้ว นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลูกสาวของ ‘ป้าอำภา’ ผู้เป็นพี่สาวของมารดาเธอหนีออกจากบ้าน กี่ครั้งกี่คราแล้วเธอก็ลืมนับมันไปแล้ว ข้าวซอยสะพายเป้สีชมพูขะมุกขะมอมเดินตามโยษิตาขึ้นรถแท็กซี่ ระหว่างทางเด็กน้อยมองทิวทัศน์รอบกายอย่างสนุกสนาน ไม่ได้มีแววสำนึกผิดเหลืออยู่เลย จนโยษิตาชักไม่แน่ใจว่า แววตาเศร้าๆ เมื่อครู่ของแท้หรือเทียม!

เพียงทั้งคู่ก้าวเท้าลงจากรถแท็กซี่ หญิงชราวัยหกสิบเจ็ดแทบจะถลาอ้าแขนรับขวัญหลานตัวน้อย บ้านไม้สองชั้นหลังเล็กอยู่เกือบท้ายซอยชุมชนสวนขวัญ ก็มีสมาชิกเพิ่มเป็นเด็กหญิงที่แสนจะกล้าหาญหนีออกจากบ้านขึ้นรถไฟมาคนเดียวจากลำปางจนถึงหัวลำโพงได้อย่างปลอดภัย แต่ก็ไม่รอดพ้นสายตาของเจ้าหน้าที่รถไฟที่ต้องโทรศัพท์มาหา ‘โยษิตา’ พี่สาวของเด็กหญิงวัยสิบขวบให้มารับตัวหนูน้อยเจ้าปัญหา

หญิงสาวรู้สึกเกียจคร้านเกินกว่าจะหยิบไม้กวาดมาทำความสะอาดบ้านต่อ ไม่รู้ว่าเป็นลางบอกเหตุหรืออย่างไรที่จู่ๆ คุณยายก็นึกอยากทำความสะอาดบ้านครั้งใหญ่ พอดีวันนี้เธอไม่ต้องไปทำงานพิเศษจึงได้อยู่ช่วยกวาดหยากไย่แต่ยังไม่ทันเสร็จดีบ้านหลังน้อยก็ได้ต้อนรับสมาชิกเพิ่ม

‘เด็กหญิงข้าวซอย’ กำลังเอร็ดอร่อยกับข้าวต้มผัดฝีมือคุณยายละเอียด ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็กินข้าวหมูแดงจานโตไปแล้ว โยษิตาเดินเลี่ยงเข้ามาโทรศัพท์ในบ้านต่อสายหาแม่ของข้าวซอย นานหลายนาทีกว่าจะมีคนรับสาย

“คุณป้าอำภาหรือคะ”

“เออ บ้านนี่ก็มีแต่ฉันนี่แหละ จะมาขายอะไร ประกันไม่ทำหรอกนะ ฉันไม่ยอมให้พวกแกเอาเงินฉันไปหมุนออกดอกกินสบายๆ หรอก”

“เอ่อ...คุณป้าคะ หนูตาเองค่ะ โยษิตา”

“อ้าว! ยัยตาเหรอ แม่เป็นไร ตอนนี้ฉันไม่มีเงินหรอกนะ”

โยษิตาอยากจะกรี๊ดใส่หูโทรศัพท์หรือไม่ก็ขว้างใส่ข้างฝาบ้านให้มันรู้แล้วรู้รอดไป ไม่มีสักประโยคที่จะถามหาลูกสาวตัวเองเลยหรือว่าป่านนี้ก็ยังไม่รู้ว่าข้าวซอยหายออกจากบ้านไป

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 74 จบ.   05-12 17:39
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY