/0/16159/coverbig.jpg?v=b008581077a035f51981711e682d1b7d)
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
แนะนำตัวละคร
ไป๋เซ่อ-ฟู่เหยียนอวี้ : มีฐานะเป็นน้องสาวของประมุขฟู่อวิ๋นเชิง
มู่ลี่หยาง : นายพรานหนุ่มเป็นเด็กกำพร้าที่หมอมู่จางหมิ่นอุปการะ
มู่จางหมิ่น : หมอชาวบ้านที่รับเลี้ยงเด็กกำพร้าหลายสิบชีวิต
ฟู่อวิ๋นเซิง : ประมุขพรรคมาร
หลิวชิง : มือขวาฟู่อวิ๋นเชิง
หญิงสาวขยับข้อมือที่เจ็บไปมาราวกับไม่เคยเห็นมันมาก่อน ยังไม่ทันที่สมองจะลำดับเหตุการณ์ต่างๆนานา เสียงฝีเท้าคนเข้ามาใกล้เรียกดวงตาสีนิลให้หันขวับไปมองทันที ร่างเพรียวขยับลุกขึ้นนั่งในท่าเตรียมพร้อมป้องกันตัว ดวงตาหรี่มองไปทางประตูห้องที่เปิดออกพร้อมกับร่างของเด็กหญิง เด็กน้อยอ้าปากกว้างแล้วหันไปส่งเสียงดังนอกประตู
“ฟื้นแล้ว! ฟื้นแล้ว! พี่ลี่หยางมาดูเร็ว พี่สาวฟื้นแล้ว!”
เสียงของ ‘หงเซ่อ’ เด็กหญิงวัยสิบสองตะโกนเรียกพี่ชายที่ลานบ้าน ร่างเล็กของเด็กสาวประคองถาดอาหารที่มีชามข้าวต้มกับผักดองใกล้ฟูกนอน โดยไม่สนใจท่าทางของอีกฝ่ายที่มองด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“ฟื้นแล้ว...”
‘มู่ลี่หยาง’ ได้ยินเสียงเด็กน้อยชัดเจน เขาโยนฟื้นบนบ่าลงแล้ววิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้อง ร่างของชายหนุ่มวัยยี่สิบชุ่มโชกไปด้วยเหงื่อ ดวงตาคมจ้องมองไปที่หญิงสาวลุกขึ้นนั่งฟูกนอนในท่าที่เตรียมจะพุ่งกระโจนออกไปทั้งที่สวมเสื้อคลุมเนื้อหยาบและหลวมโพรก เขาเผลอกลืนน้ำลายที่เห็นไหล่เสื้อเลื่อนหล่นเผยผิวกายขาวผุดผ่องดุจหยกใส
“ใจเย็นๆ ไม่มีผู้ใดทำอันตรายเจ้า”
มู่ลี่หยางชูมือสองข้างขึ้นเพื่อแสดงเจตนาว่าไม่มีอาวุธในมือ แต่เด็กหญิงที่เกล้าผมเป็นมวยก้อนกลมๆ สองข้างนั้นกลับทิ้งตัวนั่งข้างหญิงสาวที่ยังมีแววตาตื่นตระหนก หงเซ่อชะโงกหน้าไปใกล้ๆเพื่อจ้องมองดวงตาสีนิล
“หรือนางฟังภาษาเราไม่รู้เรื่อง” หงเซ่อเอียงคอมองอย่างสงสัย เด็กหญิงเป็นคนดูแลหญิงสาวแปลกหน้าด้วยตนเอง นางไม่เคยเห็นสตรีงดงามอย่างนี้มาก่อน “หรือนางอาจเป็นเทพเซียนก็เป็นได้”
“เหลวไหล” มู่ลี่หย่างส่ายหน้าไปมา แต่เขาต้องยอมรับว่านาง ‘งดงาม’ กว่าสตรีใดที่เขาเคยพานพบมา
หญิงสาวบาดเจ็บได้ยินก็ข่มใจหลับตาชั่วครู่ แต่เหมือนสมองกำลังจะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ ร่างที่นั่งอยู่เกิดซวนเซหมดเรี่ยวแรงทรงตัว มู่ลี่หยางรีบเข้ามาประคองร่างบางก่อนที่จะล้มลงหัวฟาดพื้น เขาประคองร่างอ่อนนุ่มให้นอนอีกครั้ง หงเซ่อรีบวิ่งไปเอาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตามใบหน้าและเนื้อตัวที่พ้นเสื้อผ้าซึ่งเป็นเสื้อของชายหนุ่ม เด็กหญิงร่างเล็ก เสื้อผ้าที่นางมีไม่สามารถให้พี่สาวคนสวยใส่ได้ และที่สำคัญ ฐานะของพวกเขาค่อนข้างยากจน จะซื้อเสื้อผ้าสักคราก็ต้องรอปีใหม่ จึงต้องใช้เสื้อผ้ามู่ลี่ หยางให้อีกฝ่ายใส่แทนไปก่อน
“ใจเย็นๆ ที่นี่ไม่มีใครทำร้ายเจ้า เอ่อ…เจ้าฟังรู้เข้าใจหรือไม่?” มู่ลี่หย่างบ่นก่อนถอนหายใจหนักๆ ผิวขาวเหมือนราวกับหิมะกับดวงตาสีนิลลึกลับทำให้เขาเริ่มหวั่นๆ ที่จะสนทนากับอีกฝ่าย
“ทำอย่างไรดี พ่อบุญธรรมก็ยังไม่กลับ” หงเซ่อพึมพำขณะยื่นผ้าไปเช็ดหน้าให้อีกฝ่าย แล้วหงเซ่อก็สะดุ้งสุดตัวเมื่อถูกคว้าข้อมือไว้
“ที่-นี่-ที่-ใด” เสียงตะกุกตะกักของหญิงออกมา น้ำเสียงค่อนข้างแหบแห้งจนคนฟังรู้สึกเวทนา
“นางพูดได้!” หงเซ่อดีใจ แต่ต้องนิ่วหน้าเพราะความเจ็บ “พี่สาว ปล่อยแขนข้าก่อน กระดูกข้าจะหักแล้วนะ”
“อ๊ะ!” หญิงสาวรีบปล่อยมือทันที นางกวาดตามองอย่างตื่นตระหนกแต่ลดความระแวงลง
“ดีจริง เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง ” มู่ลี่หยางยิ้มดีใจไม่แพ้กัน
“เจ็บ-มือ-ปวด-หัว” หญิงสาวนัยน์ตาสีนิลค่อยพูดที่ละคำ เหมือนพยายามค้นหาคำพูดให้ได้ตามใจคิด
“พ่อบุญธรรมตรวจแล้ว บาดแผลไม่หนักหนาแต่เจ้าหมดสติไปถึงสามวันสามคืน”
ชายหนุ่มยิ้มให้ เขาเห็นนางเพิ่งฟื้นจึงไม่อยากเล่าเรื่องทั้งหมดที่ได้พบนางในสภาพชุ่มโชกไปด้วยโลหิต
“บ้านเจ้าอยู่ที่ใดหรือจะให้พวกเราติดต่อญาติให้เจ้า” หงเซ่อชะโงกหน้าเข้ามาถาม
“บ้าน-ญาติ-หมด-สติ-สาม-วัน”
ดวงตาคู่สวยกลอกไปมาอย่างงุนงง ยิ่งพยายามคิดระลอกคลื่นแห่งความเจ็บปวดก็ถามโถมเข้ามาอย่างรุนแรงจนต้องยกมือขึ้นนกุมศีรษะและร้องครางออกมา
“พี่ใหญ่” หงเซ่อหันไปทางมู่ลี่หยางอย่างร้อนรน “อย่าถามอะไรพี่สาวเลย ท่าทางนางเจ็บปวดมาก”
มู่ลี่หยางพยักหน้าอย่างเข้าใจ เขาเห็นพ้องกับน้องสาว ประคองให้หญิงสาวแปลกหน้าลงนอน
“เจ้าพักผ่อนก่อน อย่าเพิ่งคิดอะไรเลย”
ดวงตาคู่นั้นจ้องมองเขาจนชายหนุ่มหายใจลำบาก นางไม่เหมือนหญิงสาวชาวบ้านเลยสักนิด แววตาหยิ่งทะนงและแม้อยู่ในเสื้อผ้ามอซอแต่กลับไม่อาจปกปิดความงามของนางได้เลย
“ไม่ต้องห่วงนะ ที่ผ่านมาข้าเป็นคนดูแลพี่สาวเอง”
หงเซ่อลูบผมหญิงสาวเบาๆ ท่าทางของนางเหมือนมารดาที่ปลอบโยนลูก แต่นางคงลืมไปว่าตนเองอายุเพียงสิบสองขวบเท่านั้น อาจเพราะนางต้องดูแลเด็กๆ ในบ้านอีกหลายคน จึงทำตัวเป็นผู้ใหญ่เช่นนี้
“ที่นี่เป็นบ้านของท่านหมอมู่จางหมิ่น นี่พี่ชายข้าชื่อมู่ลี่ หยาง ส่วนข้ามู่หงเซ่อ ในบ้านยังมีเด็กๆอีกหลายคน แต่พี่สาวไม่ต้องกลัวนะ พวกเราเป็นเด็กกำพร้าที่ท่านหมอมู่เก็บมาเลี้ยง คนในบ้านนี้จึงแซ่มู่กันหมด เพราะฉะนั้นพี่สาวพักผ่อนให้สบายใจเถิด” หงเซ่อยิ้มจนดวงตาหยีเล็ก
“พี่สาวชื่ออะไร”
“ชื่อ?”
“ใช่!ชื่อที่คนอื่นเรียกเจ้านะ” ทั้งที่บอกว่าจะไม่ถาม แต่เด็กหญิงก็อดไม่ได้
“ชื่อ?” นางนิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนเอ่ย “ไม่-รู้”
“หา!”
มู่หงเซ่อหันไปทางพี่ใหญ่ เขายืนนิ่งมองด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจบางอย่างหงเซ่อนึกได้รีบยกมือขึ้นปิดปาก นางเผลอส่งเสียงดังเกินไป คนป่วยเองก็ตกใจไม่น้อย พี่ชายใช้สายตามองอย่างปรามน้องสาว
“ค่อยๆคิดไม่ต้องรีบร้อน”
เสียงทุ้มเอ่ยให้กำลังใจ ยิ่งเห็นนาง ยกมือกุมศีรษะไปมาร่างบางดิ้นทุรนทุรายได้ความเจ็บปวดเหมือนถูกโบยตีด้วยแส้ที่มองไม่เห็น ชายหนุ่มเห็นท่าไม่ดีรีบเข้ามากดไหล่สองข้างให้นอนแนบบนฟูกนอน เขาออกจะประหลาดใจที่รู้สึกถึงเรียวแรงที่มากมายกว่าที่คิดไว้ นางพยายามขืนตัวให้หลุดพ้นจากการควบคุมของอีกฝ่าย หญิงสาวตกใจจนกระโดดหนีไปยืนอีกมุมหนึ่งของห้อง หญิงสาวสะบัดศีรษะไปมาจนเส้นผมยาวสยายสะบัดไปมา ชายหนุ่มรวบมือสองข้างของหญิงสาวไว้ด้านหลังก่อนใช้วงแขนรัดเธอไว้ ริมฝีปากเขากระซิบคำปลอบโยนที่ริมหูจนอีกฝ่ายสงบลง เขารู้สึกได้ถึงชีพจรที่เริ่มเต้นสม่ำเสมออีกครั้ง
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980 เหตุการณ์บางอย่างทำให้ 'กั๋วคังเหริน' หายสาบสูญ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมีลูกฝาแฝดวัยสามขวบ และผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจำสามีตัวเองไม่ได้! “คุณต้องการพูดอะไรกันแน่” “เอ่อ...ก็...ก็...เผื่อคุณอยากจะหย่า...อุ๊บ!” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็ปิดปากเธอไว้สนิท มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้หลบหนี “ห้ามพูดเรื่องหย่าอีก” เขาทำตาดุใส่แต่สายตามองที่ริมฝีปากหวานที่เพิ่งลิ้มรส “ระหว่างคุณกับผมจะไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
เซี่ยถิงถิง ย้อนเวลากลับมาในวันที่แฟนหนุ่มได้บอกเลิกกับเธอ เด็กสาวที่มากความสามารถจากหมู่บ้านเชิงเขาเล็กๆ ครอบครัวของเธอเป็นเกษตรกรมา 13 ชั่วอายุคน เซี่ยถิงถิงถือว่าเป็นปัญญาชนคนแรกของหมู่บ้าน ตลอดเวลาเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยและเรียนดีผู้นี้ เป็นคนที่เชื่อฟังคำสั่งสอนของครอบครัวและค่อนข้างจะหัวโบราณอยู่บ้าง นี่จึงเป็นสาเหตุให้แฟนหนุ่มของเธอมีอันต้องเลิกรากันไปเพราะถิงถิงไม่เคยหลับนอนกับเขา นั่นถือว่าเป็นการหมื่นเกียรติของตัวเธอเอง แต่สาเหตุที่แท้จริงแล้วแฟนหนุ่มของเธอเพียงต้องการเกาะกิ่งไม้สูงเพื่อความก้าวหน้าเพียงเท่านั้น เพียงเพราะถิงถิงมาจากครอบครัวชาวนาในชนบทไม่มีแรงสนับสนุนเขาให้ปีนป่ายขึ้นไปอยู่บนกิ่งไม้สูงได้ตามที่เขาต้องการ เขาจึงต้องหันหลังให้กับถิงถิงเพื่อไปเกาะขาลูกสาวนายทหารยศใหญ่ที่มีฐานะร่ำรวยและพร้อมสนับสนุนเขาในสิ่งที่เขาต้องการ ถิงถิงเองถึงแม้จะเสียใจมาก แต่สำหรับเธอแล้ว ชาวนาแล้วอย่างไร ชาวนาก็ถือว่ามีเกียรติ คุณรังเกียจชาวนาก็อย่ากินข้าวที่ชาวนาปลูกก็แล้วกัน ในเวลาชั่วข้ามคืนจากความรักที่เธอมีให้แฟนหนุ่มแต่ตอนนี้เธอมีเพียงความรังเกียจและเสียใจที่มองคนผิดไปเท่านั้น ถิงถิงตัดสินใจลาออกจากงานและเก็บกระเป๋ากลับบ้านเกิด เธอจะพลิกภูเขาแห้งแล้งที่บ้านเกิดให้เป็นแหล่งอาหาร อันอุดมสมบูรณ์ เธอจะทำให้คนที่ดูถูกเธอได้เห็นว่า เกษตรกรนั้นหาได้ต่ำต้อยไม่ เธอจะต้องร่ำรวยเพราะอาชีพของเธอให้ได้ในสักวันและจะตอกหน้าคนพวกนั้นคืนให้สาสม แต่ที่น่าอับอายที่สุดไม่ใช่ถูกแฟนหนุ่มบอกเลิกในที่สาธารณะ แต่เป็นเธอที่เดินเหยียบเปลือกกล้วยแล้วลื่นล้มหัวฟาดต่างหาก เพราะความโมโหทำให้ไม่ทันได้มองทาง นี่ถือว่าตายด้วยความอับอายและคับแค้นใจมากที่สุด ขอบคุณพระเจ้าที่ให้โอกาสเธอได้กลับมา
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เหอหลันฮวา คุณหนูใหญ่ตระกูลเหอ ชาติที่แล้วตกตายเพราะความริษยาของน้องสาวต่างมารดา แต่ที่นางกลับมา ไม่ได้อยากล้างแค้นใคร ขอให้ข้าได้ใช้ชีวิตกับสามีอย่างสงบสุขได้หรือไม่