พันดาว สตั๊นท์เกิร์ลสาววัยยี่สิบหกปี เธอเข้าวงการบันเทิงตั้งแต่อายุสิบแปดปี แต่ก่อนหน้านี้เธอใช้ชีวิตในค่ายมวยเล็กๆ เธอเป็นเด็กที่ถูกแม่เอามาทิ้งให้ลุงทองดีช่วยเลี้ยง แล้วหายไปไม่ส่งข่าว ด้วยความสงสารลุงทองดีจึงเลี้ยงเหมือนลูก แต่เนื่องจากสภาพร่างกายบอบช้ำ จึงผันตัวเองมาครูมวยแทน ประจวบกับรุ่นน้องเปิดโรงเรียนสตั๊นท์แมนให้ลุงทองดีเป็นครูสอนเทคนิกการป้องกันตัว เบื้องหน้าพันดาวจะเป็นสาวห้าญไม่มีใครกล้าเข้าใกล้ แต่เธอมีคนรักที่คบหาตั้งแต่อยู่โรงเรียนสอนสตั๊นท์แมนด้วยกัน แต่ตอนนี้เขากลายเป็นพระเอกละครสุด Hot ในวันที่ทั้งคู่เดินทางไปเข้าฉากสำคัญที่ประเทศจีน พันดาวได้เห็นภาพบาดตาที่คนรักนอกใจ และวันนั้นเกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝัน ระเบิดทำงานผิดพลาดพาให้ดวงจิตของพันดาวทะลุมิติมายังดินแดนที่ไม่มีบันทึกไว้ในประวัติศาตร์ พันดาวฟื้นตื่นมาอยู่ในร่างเด็กสาวอายุสิบหกนามว่า เหมยซิง เมืองที่พันดาวไม่รู้จัก ทุกอย่างประหลาดไปหมด ราวกับตัวเองอยู่ในภาพยนตร์จีนกำลังภายใน พล็อตละครแนวย้อนยุคทะลุมิติเคยเห็นมาเยอะแล้ว แต่ทำไมหญิงสาวอย่างเธอต้องมาดูแลชายร่าง ‘ผัก’ อย่างเขา! รับภารกิจส่งร่างผักกลับเมืองหลวง! บุรุษคนหนึ่งแต่งงานมีภรรยาได้หลายคนเป็นที่ยอมรับได้ แต่สตรีนางหนึ่งจะรักใคร่ชายสองคนไม่ได้ คิดถึงเรื่องนี้นางก็อยากเอาหัวโขกต้นไม้ใหญ่ให้ได้สติ นางไม่ใช่หญิงมากรักสองใจนะ! นางแค่...แค่ไม่รู้ว่าตนเองคิดอย่างไรกันแน่.
ภาพที่เห็นเบื้องหน้าทำให้หญิงสาวในชุดสาวจีนโบราณสีชมพูอ่อนหวานถึงกับก้าวเท้าไม่ออก ราวกับเท้าทั้งสองถูกตะปูตอกตรึงไว้ ชายหนุ่มที่เธอรักและเชื่อใจกำลังจูบดูดดื่มกับหญิงสาวอีกคน!
“ดาว ได้เวลาเข้าฉากแล้ว”
หญิงสาวเจ้าของชื่อได้สติ แม้มีแต่เสียงตะโกนเรียกแต่คนเรียกอยู่ไกลนักจึงไม่มีใครรู้ว่าในที่ลับตาคนมีพระเอกหนุ่มที่กำลังเป็นที่กล่าวถึงกับนางเอกสาวบุคลิกชวนให้คนทะนุถนอมกอดจูบดูดดื่มไม่สนใจฟ้าสนใจฟ้าดิน
เป็นชายหนุ่มที่ได้ยินเสียงตะโกนนั้น ทำให้เขาชะงักและผละจากนางเอกสาวที่อ่อนระทวยในวงแขน เสี้ยววินาทีสั้น ๆ ‘พันดาว’ สบตากับ ‘ศรัณย์’ มีบางอย่างในดวงตาของเขาที่ทำให้เธอสะบัดหน้าหนีหันหลังเดินตัวตรงจากมาอย่างไม่คิดจะหันกลับไปมองอีก
ร่างเพรียวเดินมารับกระบี่ปลอม นักแสดงตัวประกอบหลายคนอยู่ในชุดจีนโบราณ และหลายคนที่เป็นทีมงานกองถ่ายภาพยนตร์ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสบาย ๆ ช่างเมคอัพเข้ามาแต่งหน้าให้พันดาวอีกเล็กน้อย อีกคนจูงม้าสีน้ำตาลสวยเข้ามาอย่างรู้คิวงาน ผู้ช่วยอีกคนเข้ามาซักซ้อมคิวการแสดง พันดาวมองเลยไปยังคู่พระเอกนางเอกที่เดินออกมาจากด้านหลังพร้อมกัน โดยไม่มีใครรู้ว่าสองคนนี้ไปทำอะไรกันมา แต่ดวงตาของพันดาวอดมองริมฝีปากที่เจ่อบวมเล็กน้อย เธอไม่ได้สนใจนางเอกสาวที่แต่งกายชุดเดียวกับเธอนัก ถ้าจะพูดให้ถูกคือเธอแต่งกายแบบเดียวกับนางเอกคนนั้น เพราะเธอกำลังเล่นเป็นนางเอก
“ดาวพร้อมไหม!”
“พร้อมค่ะ”
เธอตอบแล้วตวัดสายตากลับ ตั้งสมาธิกับงานตรงหน้า เธอจะพลาดไม่ได้ เพราะนั้นหมายถึงชีวิตของเธอเอง
“เอาเทคเดียวผ่านเลยนะ”
พันดาวตอบด้วยรอยยิ้มเป็นรอยยิ้มของคนที่มั่นใจตัวเอง เธอเป็นสตั๊นต์เกิร์ลมาตั้งแต่อายุสิบแปด ตอนนี้อายุยี่สิบหก ประสบการณ์ล้นเหลือ เคยร่วมงานกับทีมภาพยนตร์ต่างประเทศหลายครั้ง เหมือนเช่นที่ครั้งนี้เดินทางมาไกลถึงประเทศจีน แต่กระนั้นหญิงสาวก็รวบรวมสมาธิไม่อยู่ในความประมาท
หญิงสาวมองสัญญาณจากผู้กำกับ แสงไฟ กล้องถ่ายภาพยนตร์กำลังทำงาน มันควรจะเป็นแค่ฉากง่าย ๆ แค่ควบม้าผ่านระเบิด และเปลวไฟเหล่านั้น พันดาวจดจำจุดที่วางระเบิดได้แม่นยำ ก่อนถ่ายทำยังเดินสำรวจดูด้วยตนเองหลายรอบ ด้วยความที่ทำงานด้านนี้มานาน สนิทสนมกับฝ่ายเอฟเฟกต์อย่างดี และด้วยความอยากรู้อยากเห็นที่มีมาตั้งแต่เด็ก หากมีเวลาว่างก็มักจะเข้าไปคลุกคลีกับฝ่ายนี้ กลิ่นน้ำมัน กลิ่นดินปืน เทคนิกการระเบิดให้ปลอดภัย ทำให้เธอมั่นใจว่าตัวเองปลอดภัย
ความจริงมันควรเป็นฉากอันแสนสง่างาม นางเอกควบม้าไปช่วยพระเอกที่ติดพันศึกอยู่ทัพหน้า นั้นเป็นเรื่องราวในอดีตภพที่ทำให้ทั้งสองให้คำมั่นสัญญาจะรักกันไปทุกชาติ มันเป็นเพียงฉากหนึ่งในภาพยนตร์ แต่บางเรื่องราวที่เข้ามากระทบใจมันกรีดลึกลงเนื้อหัวใจของเธอ แผลที่มองไม่เห็น แต่กระนั้นก็ไม่แน่ใจว่าที่ตัวเองเจ็บนั้น เจ็บเพราะตัวเองโง่งมกับคำรักหวานหูหรือเพราะถูกหักหลัง
หญิงสาวบนหลังอาชาสีน้ำตาลแสนงามสง่า ม้าตัวนี้เป็นม้าสำหรับการแสดงจึงไม่ตื่นตกใจง่าย ๆ และถูกฝึกซ้อมมาอย่างดี พันดาวควบม้าด้วยความชำนาญผ่านจุดระเบิดต่าง ๆ อย่างสวยงาม และคาดว่าจะได้มุมภาพที่ออกมาดูดีไม่ต้องมาถ่ายซ่อมอีก เหลือเพียงแค่กระโดดข้ามเพลิงกองนั้น ก่อนที่ม้าจะกระโดดข้ามกองเพลิง หางตาเห็นความเคลื่อนไหวบางอย่าง แม้บังคับใจให้ไม่วอกแวก ทว่าสิ่งนั้นกลับกระโจนผ่านมาหยุดหน้าม้าของเธอ
สุนัขจิ้งจอกสีขาวพิสุทธิ์
ดวงตางามเบิกกว้างอย่างตกใจ กลับมีเสียงระเบิดจากด้านข้าง ม้าตื่นตกใจเสียจังหวะ เสียงระเบิดดังขึ้นซ้อนกันอีกหลายครั้งจนหญิงสาวหูอื้อ รู้สึกเพียงแค่ว่าร่างตัวเองกระเด็นออกจากหลังม้า
นั้นเป็นความรู้สึกสุดท้ายที่หญิงสาวจดจำได้.
.....
ดวงตาที่ปิดสนิทลืมขึ้นทันที คนผวาตื่นทำท่าเหมือนหายใจไม่ออก จ้องมองม่านมุ้งจนแน่ใจว่าตนเองนอนอยู่ที่ใดแล้วจึงระบายลมหายใจยาว เมื่อปรับลมหายใจของตนเองได้เป็นปกติแล้ว ร่างผอมบางก็ยันตัวเองลุกขึ้นจากที่นอน เพราะฝันซ้ำเรื่องเดิมทำให้ผวาตื่น เจ้าของร่างยกหลังมือปาดเหงื่อที่ชื้นเต็มใบหน้าก่อนผลักม่านมุ้งออก
เสียงนกร้อง เสียงไก่ขัน และท้องฟ้าที่เริ่มระเรื่อด้วยแสงแห่งรุ่งอรุณ หญิงสาวเริ่มชินกับสถานที่แห่งใหม่นี่แล้ว ครบเดือนพอดีที่ ‘พันดาว’ ตื่นมาแล้วพบว่าตัวเองอยู่ในร่างของหญิงสาวผอมบางวัยสิบหกปีนาม ‘เหมยซิง’ หญิงสาวยังจำได้ดีว่าตอนที่ได้สตินั้น ยังคิดไปว่าเป็นการหยอกเล่นกันสนุก ๆ ของทีมงานในกองถ่ายภาพยนตร์ แต่เมื่อกวาดตามองไปรอบ ๆ หากล้องที่อาจหลบซ่อนอยู่แล้วพบเพียงความว่างเปล่า อาการมึนงงเหมือนศีรษะถูกกระทบกระเทือนเป็นเรื่องจริง และยังมีรอยช้ำตามเนื้อตัวเอีก นางก้มมองสภาพตัวเอง จัดฉากหรือสถานที่ได้ เสื้อผ้าย่อมเปลี่ยนได้ แต่รูปร่างหน้าตาเปลี่ยนไม่ได้ นางก้มมองสภาพตัวเองอย่างไม่อยากเชื่อ ถามหากระจกเหมือนคนโง่ แต่ใครจะรู้ว่าบ้านนี้ยากจนกระทั้งกระจกยังไม่มี ฉับพลันนึกถึงน้ำจึงวิ่งไปส่องเงาตัวเองในอ่างน้ำ ลูบคลำใบหน้าตนเองอย่างแน่ใจแล้วว่าไม่มีอะไรแปะทับใบหน้าตนเอง
ใบหน้านี้ละม้ายคล้ายกับใบหน้าของ ‘พันดาว’ ในวัยสิบหกปีจริง ๆ เพียงแต่เมื่อครั้งที่นางอายุสิบหกนั้นเป็นนักเรียนมัธยมไว้ผมยาวประบ่า แต่เจ้าของร่างนี้ผมยาวถึงกลางหลังซ้ำยังผอมแห้งจนแทบจะปลิวลมอีกต่างหาก
‘เหมยซิง’
พันดาวได้ยินเสียงชายวัยสี่สิบเรียกอย่างเป็นห่วง เมื่อเห็นใบหน้าคนเรียกที่ท่าทางเหมือนคนป่วย และยังเดินลากขาซ้ายอีก หัวใจที่ตื่นตระหนกก็ยิ่งหดเกร็ง
นางเป็นฮูหยินที่ถูกต้อง แต่เขากลับเฉยชาใส่ มีเพียงบนเตียงเท่านั้นที่เขาเร่าร้อนจนนางแทบมอดไหม้ จ้าวจื่อรั่วอายุเพียงสิบหกปีเป็นลูกอนุของเสนาบดีสกุลจ้าว ถูกสับเปลี่ยนตัวมาเป็นเจ้าสาวมาแต่งงานกับแม่ทัพที่ชายแดนใต้ กู้ตงหยางบุรุษหนุ่มอายุยี่สิบสี่ปีฉายาแม่ทัพปีศาจที่แสนเหี้ยมโหด "เจ้าติดค้างข้า ไม่ว่าจะเล่นลิ้นอย่างไร เจ้าย่อมรู้ดีว่าสกุลจ้าวปลิ้นปล้อน เจ้าอย่าได้หวังว่าจะได้อยู่อย่างสุขสบายเลย" พูดจบชายหนุ่มก็ผุดลุกขึ้นเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้หญิงสาวได้แต่นั่งเพียงลำพัง แม้จะเตรียมใจไว้แล้ว แต่ก็อดเศร้าใจไม่ได้ ชีวิตนางจะได้พบความสุขเช่นคนอื่นบ้างไหม.
มันควรเป็นOne night stand แต่เขากลับไม่ยอมให้จบลงแค่นั้น “ก็บอกแล้วไง ถ้าอยากกัดก็กัดผมนี่ อื้ม” ไรอันพูดเสียงพร่าเร่งขยับเอวสอบถี่รัว ร่องรักคับแน่นดูดรัดลำเอ็นจนทำให้เขาอดกลั้นไม่ไหว กระแทกแก่นกายเข้าไปจนสุดปลดปล่อยน้ำรักในกายสาวพร้อมแหงนหน้าคำรามอย่างสุขสม อยากจะบ้า! ไรอันอดสถบไม่ได้ ยัยพนักงานเวอร์จิ้นทำเขาเสียผู้เสียคนจริงๆ จากที่เคยตั้งกฎให้ตัวเองจะไม่ยุ่งกับพนักงาน ไม่มีเซ็กส์ในที่ทำงาน. 4เรื่องสั้น แนวPWP > >หลงสวาท boss คลั่งรัก / คลั่งรัก น้องเมียแสนหวาน/ เมียเด็กของคุณป๋า / เล่นกับไฟ
หมอสาวสู้ชีวิตแต่อกหักทั้งที่ยังไม่ได้บอกรัก เผลอOne Night Standกับผู้ชายคนหนึ่ง ใครเลยจะรู้ว่าเป็นพรหมลิขิตหรือเวรกรรม ทำให้เธอมาเจอกับมาเฟียหนุ่มที่ไม่ยอมปล่อยให้เรื่องของคืนนั้นผ่านเลยไป . . . . "คุณนี่นะเอาใจผู้หญิงไม่เก่ง" เธอทำจมูกย่นใส่เขา "ผิดแล้วผมเอาใจไม่เก่งแต่เอาเก่งนะ เรื่องนี้ผมมั่นใจ" "อีริค!" เธอขึงตาใส่ด้วยใบหน้าแดงเรื่อ "ให้ตายสิ" เขาพึมพำ "ผมเองก็ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน ทำไมถึงกลายเป็นแบบนี้ไปได้นะ คุณร่ายมนตร์ใส่ผมหรือเปล่า" "คุณเชื่อเรื่องไร้สาระพวกนั้นด้วยหรือคะ?" "แต่ก่อนผมไม่เคยเชื่อเรื่องdestiny แต่การได้พบคุณมันอยู่นอกเหนือความคาดหมาย บางทีพรหมลิขิตอาจมีจริงก็ได้" หญิงสาวได้แต่อมยิ้ม นั้นสิ ผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอได้เจอกับผู้ชายสุดเพอร์เฟกต์อย่างเขาได้ ถ้าวันนั้นก้องภพไม่ประกาศตัวคนรัก เธอคงไม่อกหักจนเสียการควบคุมแล้วได้เจอเขาที่หน้าลิฟต์พอดีอย่างนั้น แถมเจอกันด้วยความบังเอิญอีกด้วย
“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'
มู่ลี่หยางใช้ชีวิตเป็นพรานป่าหาของป่าไปขายอยู่หลายปี แต่เข้าป่าครั้งนี้เขาได้พบหญิงสาวผู้หนึ่งหมดสติอยู่จึงช่วยนางไว้ ทว่าทันทีที่นางลืมตา นางกลับจำอะไรไม่ได้แม้แต่ชื่อของตัวเอง เขาจึงจำเป็นต้องดูแลนาง แต่ที่ทำให้เขาหนักใจ ก็คือนิสัยนอนละเมอของนาง เหตุใดทุกครั้งที่นางละเมอต้องมาอยู่บนเตียงเขาด้วยเล่า! “พี่ลี่หยาง!” “นอนดีๆ อย่าฟุ้งซ่าน คืนนี้เจ้าต้องพักผ่อน” “ข้ารู้ แต่ไม่ต้องมัดข้าขนาดนี้ก็ได้”" “ไม่ได้” เขาสะบัดมือเพียงคราวเดียว เปลวเทียนในห้องก็ดับลง “หากจะนอนเตียงเดียวกับข้าก็อย่าดื้อ อย่าซุกซน” “พี่ลี่หยาง” เสียงหวานเอ่ยขึ้น “นอนเสีย!” เขาตวาดทีเดียวหญิงสาวก็เงียบเสียงไป แม้ได้เห็นเพียงแผ่นหลังของเขา นางก็มีความสุข ขอเพียงได้ใช้ชีวิตร่วมกัน ไม่ว่าอย่างไร นางก็ยอมทำทุกอย่าง แม้จะถูกมัดเป็นบะจ่างก็ยอม.
เธอคือ ‘หลินเหยาซื่อ’ ที่มีชีวิตอยู่ในปีค.ศ.2023 แต่เพราะอุบัติเหตุรถบัสตกเขาลงไปในแม่น้ำ ทำให้เธอลืมตาอีกครั้งและพบว่าตัวเองอยู่ในร่าง ‘หลินเหยาซื่อ’ อายุยี่สิบสอง และยังเป็นคุณแม่ลูกแฝดที่ใช้ชีวิตอยู่ในปี ค.ศ.1980 เหตุการณ์บางอย่างทำให้ 'กั๋วคังเหริน' หายสาบสูญ เมื่อกลับมาอีกครั้งก็พบว่าตัวเองมีลูกฝาแฝดวัยสามขวบ และผู้หญิงที่เขาแต่งงานด้วยจำสามีตัวเองไม่ได้! “คุณต้องการพูดอะไรกันแน่” “เอ่อ...ก็...ก็...เผื่อคุณอยากจะหย่า...อุ๊บ!” ยังไม่ทันพูดจบประโยค ริมฝีปากของเขาก็ปิดปากเธอไว้สนิท มือข้างหนึ่งประคองท้ายทอยเธอไว้ไม่ให้หลบหนี “ห้ามพูดเรื่องหย่าอีก” เขาทำตาดุใส่แต่สายตามองที่ริมฝีปากหวานที่เพิ่งลิ้มรส “ระหว่างคุณกับผมจะไม่มีเรื่องนั้นเกิดขึ้นอย่างแน่นอน”
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
จากอลิส เจนี่ ร็อกส์ กลายมาเป็นหลิวตานผู้สู้ชีวิตกับระบบทำฟาร์มแสนห่วย ครอบครัวปู่ย่าไม่เหลียวแล กดขี่ข่มเหงทั้งยังทำเหมือนว่าบ้านรองเป็นแค่คนรับใช้เท่านั้น ในฐานะคนที่ไม่เคยได้รับความรักจากบิดามาก่อน ชาตินี้หลิวตานจึงหาหนทางเพื่อพาบ้านรองไปจุดสูงสุด หลิวตานใช้ความสามารถที่เธอมีพลังธาตุเร่งการเจริญเติบโตของผัก ทำฟาร์มผัก และยังมีตัวช่วยอย่างระบบทำฟาร์มแสนห่วยอยู่ในมือ เธอจะต้องพาครอบครัวมั่งคั่งร่ำรวยให้ได้! แต่ระบบที่มีทำให้เธอชักไม่แน่ใจแล้วว่ามันช่วยเหลือเธอได้จริง ๆ - -
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
หลัวเจิง ผู้ตกจากที่สูงกลายเป็นทาสที่ต่ำต้อย มีอยู่ครั้งหนึ่ง เขาพบวิธีฝึกในตัวเองให้กลายเป็นอาวุธโดยบังเอิญ สงครามการต่อสู้เริ่มขึ้นทันที และพึ่งพาความเชื่ออันแรงกล้าในการไม่ยอมจำนน เขาพยายามแก้แค้นและไล่ตามความฝันอันยิ่งใหญ่ นักรบจากชาติพันธุ์ต่าง ๆ ต่อสู้เพื่อความเป็นเจ้าโลกและโลกก็ปั่นป่วน อาศัยร่างกายที่เปรียบได้กับอาวุธวิเศษ หลัวเจิงเอาชนะศัตรูจำนวนมากบนเส้นทางสู่ความเป็นอมตะ ในที่สุดเขาจะทำสำเร็จหรือไม่?
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"