ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / ประวัติศาสตร์ / ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์
ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์

ลิขิตรัก จอมใจพยัคฆ์

5.0
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

“เมื่อชะตากำหนดมาให้ทั้งสองครองคู่ ไม่ว่าจะพลัดหลงกันไปทางใดก็ย่อมได้กลับมาพบกันอีกครา” เรื่องราวความรักของหลัวเสี้ยวเวยและหยางเหลาหู่ คู่หมั้นคู่หมายที่มิเคยได้พบหน้า แม้เดิมทีหยางเหลาหู่คิดว่านางตายไปแล้ว แต่ไม่รู้เลยว่า ‘สาวใช้’ ที่เขารับเข้ามาทำงานนั้นจะเป็นคู่หมั้นของเขาเอง เมื่อชะตากำหนดให้ทั้งสองได้เป็นคู่ชีวิต แต่กว่าจะถึงจุดนั้นได้ต้องมาคอยลุ้นกันว่า สาวใช้ตัวจิ๋วกับคุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬจะลงเอยอย่างไร ....... “นั้นของข้ามิใช่รึ” เขาปลดสายจูงม้า เห็นนางกินพุทราเชื่อมท่าทางเอร็ดอร่อยจึงอดหยอกล้อนางไม่ได้ “แค่พุทราเชื่อม ท่านจะแย่งข้ารึ” นางทำท่าหวงขึ้นมา มันก็แค่พุทราเชื่อม แต่นางไม่ได้กินนานแล้วนี่ “แต่นั้นมันของๆ ข้า เจ้าควรให้ข้ากินก่อน” เขาไม่ชอบกินขนมของหวาน แต่เห็นนางหวงแบบนี้แล้วนึกอย่างแย่งชิง หลัวเสี้ยวเวยส่ายหน้าไปมา กลัวถูกแย่งของกินจึงอ้าปากงับพุทราเชื่อมลูกสุดท้ายไว้ในปาก เหลือเพียงไม้เสียบเปล่าๆ ในมือ คิดว่าอย่างไรของอยู่ในปากนางแล้วเขาไม่มีทางแย่งชิงเอาไปแน่ ทว่านางกลับคาดไม่ถึงว่าเขาจะยื่นมือมารั้งท้ายทอยของนางไว้ โน้มหน้าลงมาประกบปากที่เผยอขึ้นอย่าตกใจของนาง เรียวลิ้นหนาตวัดเอาพุทราเชื่อมในปากของนางมาสู่ปากของเขา 'หวานล้ำเกินคาดคิดจริงๆ'

บทที่ 1 Chapter 1. บทนำ

เสียงคมกระบี่ปะทะกันผสานกับเสียงร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวด เด็กหญิงวัยสิบสามถูกมือของมารดากำแน่นฉุดกระชากให้รีบวิ่งไปนอกคฤหาสน์ เด็กหญิงเหลียวมองไปด้านหลังในยามมืดมิดเช่นนี้กลับมีเปลวไฟโหมไหม้

“ไฟไหม้! ท่านแม่! ไฟไหม้บ้านของเรา!”

เด็กหญิงยื้อแขนตัวเองหวังจะกลับไปช่วยผู้อื่นดับไฟที่โหมลุกไหม้

“ไม่ได้! เจ้ากลับไปไม่ได้!”

“แล้วท่านพ่อล่ะ ทำไมท่านพ่อไม่มากับเรา”

เด็กหญิงจำอะไรได้ไม่มากนัก นางสะดุ้งตื่นกลางดึกเพราะเสียงดังคล้ายฟ้าผ่า นางสะดุ้งผวาลุกขึ้นนั่งบนเตียง พลันประตูห้องเปิดออกอย่างรวดเร็ว ท่านพ่อกับท่านแม่วิ่งเข้ามาคว้าข้อมือเล็กให้วิ่งตามออกมาทั้งที่นางยังสวมแค่ชุดนอน กระทั้งรองเท้าก็ไม่ได้สวมให้เรียบร้อย นางจึงกอดรองเท้าไว้แนบอกในขณะที่มืออีกข้างถูกลากจูงออกมาด้านนอกอย่างทุลักทุเล

ร่างเล็กงุนงงและสับสน มารดาชะงักไปเมื่อมีคนมาขวางทาง เสียงระเบิดดังจากด้านหลังทำให้เด็กหญิงหวีดร้อง นางหันไปกลับไปมองเห็นเปลวเพลิงเหนือหลังคฤหสาน์ บัดนี้ท้องฟ้าถูกย้อมสีแดงฉานน่ากลัวยิ่งนัก

“ท่านพ่อ” เด็กหญิงร้องเรียกด้วยความกังวล นางผวาเฮือกเมื่อได้ยินเสียงกรีดร้องของมารดา นางหันกลับมาเห็นชายในชุดดำวาดกระบี่ฟาดลงใส่ร่างมารดาจนร่างนั้นร่วงลงไปกองกับพื้น แต่กระนั้นมารดาก็ยังเป็นห่วงนาง

“เวยเอ๋อร์ หนีไป” มารดาผลักห่อผ้าในมือใส่บุตรสาว ใช้เรี่ยวแรงที่เหลือดันร่างเล็กออกไปสุดมือ “ไปหาลุงจางฉวน อย่าคิดแก้แค้น รักษาชีวิตไว้ จงมีชีวิตอยู่ต่อไป”

“ท่านแม่”

นางเซถลาไปด้านหลัง เห็นเพียงมารดาใช้ร่างตัวเองปกป้องนาง เนื้อตัวของเด็กหญิงเปื้อนเปรอะโลหิตของมารดา

ยังไม่ทันทีเด็กสาวจะตั้งสติได้ คอเสื้อถูกหิ้วขึ้นจนเท้าลอยเหนือพื้น เท้าเล็กเตะเปะปะไปมาก่อน ถูกเหวี่ยงไปที่ตลิ่ง ศีรษะแหงนหงายจมไปในน้ำ นางยื่นมือไปไขว่คว้าหาที่ยึดเหนี่ยวแม้ลืมตาในน้ำแต่นางเห็นมือใหญ่ยื่นมากดใบหน้าของนางให้จมลงไปใต้ผิวน้ำที่แสนเยียบเย็น นางดิ้นรนแต่ไร้ผลไม่อาจสู้แรงชายชุดดำได้ นี่คงเป็นความปราณีที่ชายผู้นี้มอบให้เช่นนั้นหรือ? ให้นางได้ตายอย่างไร้บาดแผล ร่างบอบบางหยุดดิ้นรนรอรับความตายเพื่อจะได้ติดตามมารดาและบิดาไป

เพราะเห็นว่าร่างเล็กหยุดนิ่งไปแล้ว ชายชุดดำจึงปล่อยมือจากศีรษะแล้วผลุบหายไปในความมืด เด็กหญิงผวาเฮือกเงยตัวขึ้นแล้วสำลักน้ำออกมา นางกวาดตามองไปรอบตัวแต่ไม่เห็นผู้ใดแล้ว นางตั้งสติได้รีบคลานไปหาร่างมารดา

“ท่านแม่...ท่านแม่”

เด็กหญิงพยายามเขย่าตัวเรียกมารดา ทว่ากลับพบเพียงร่างแต่ไร้ลมหายใจ กลิ่นเหม็นไหม้ยังลอยคลุ้งในอากาศและเสียงโหวกเหวกทิศทางบ้านของนาง

‘รักษาชีวิตไว้’

เด็กหญิงได้ยินประโยคสุดท้ายของมารดาลอยวนในสมองน้อยๆ นางมองไปยังห่อผ้าที่ถูกทิ้งไว้ ซึ่งถูกรื้อค้นกระจัดกระจาย เหลือก้อนเงินไม่กี่ก้อนที่ดูเหมือนมันจะหล่นเพราะความรีบร้อนของโจรชั่ว นางเก็บก้อนเงินที่หล่นด้วยมือที่สั่นเทา ก้มลงคำนับมารดาไม่อาจจะฝั่งศพนางได้

เด็กหญิงรีบวิ่งออกมาก่อนที่คนร้ายจะรู้ว่านางยังหายใจ!

...

“อยากได้หญิงรับใช้ทำงานบ้าน ไม่ใช่หญิงบำเรอ”

บุรุษหนุ่มโวยวายอยู่ในห้องพักของโรงเตี้ยม เดินทางแรมรอนมาสองเดือนจะได้กลับบ้านเสียที ยังต้องมาหัวเสียเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก นี่เห็นเขาว่างมากหรือไรต้องเพิ่มปัญหามาให้ก่อนเดินทางกลับเช่นนี้

เดินทางคุ้มกันสินค้าก็เหนื่อยมากพออยู่แล้ว ยุ่งยากต้องซื้อข้าวของกลับไปอีก รายการยาวเป็นหางว่าวกว่าจะได้ครบตามที่ต้องการ และหนึ่งในรายการที่ต้องซื้อคือ “สาวใช้” หนึ่งคน เขาสั่งกับเสี่ยวหงไว้แล้ว แม้รู้ ‘เสี่ยวหง’ ช่ำชองเรื่องใดก็เถิด แต่เพราะในเมืองนี้เขามิรู้ว่าจะไหว้วานใครหาหญิงสาวสักคนไปเป็นสาวใช้ จึงจำเป็นต้องให้เสี่ยวหงจัดการให้ มันเป็นรายการแรกที่เขาสั่งออกไปและเป็นรายการที่สุดท้ายที่เขาต้องเก็บขึ้นรถม้า ทว่ามันกลับเป็นรายการที่ยุ่งยากเมื่อเขามารับหญิงรับใช้จากเสี่ยวหง แต่กลับได้หญิงสาวแต่งกายน้อยชิ้นและพยายามเย้ายวนชวนเขาขึ้นเตียงเพื่อตรวจสอบสินค้า

เขายังคงโวยวายซ้ำยังผลักไสให้หญิงนางนั้นออกจากห้อง ปากตะโกนเรียกหาเสี่ยวหงทันที นางจึงได้ยืนตัวสั่นงันงกเช่นนี้

หยางเหลาหู่ คุณชายใหญ่แห่งป้อมพยัคฆ์ทมิฬ บุรุษอายุยี่สิบสองเจ้าของเรือนร่างสูงใหญ่กำยำ โครงหน้าคมคาย คิ้วเข้มเป็นระเบียบ ริมฝีปากหยักสวยกำลังเม้มแน่นสะกดโทสะในใจ

ป้อมพยัคฆ์ทมิฬ มีกิจการหลายอย่างหนึ่งนั้นคือสำนักคุ้มภัย-คุ้มกันสินค้า เขาเดินทางขึ้นเหนือลงใต้ ตะวันออกจรดตะวันตก แทบทุกที่เขาล้วนเคยย่ำผ่าน ชื่อเสียงของคุณชายหยางเหลาหู่น่าเกรงขามเพียงใดใครๆ ต่างรู้ดี นั้นทำให้กิจการของเขาดียิ่ง และมีน้องชายอย่างหยางกั๋วชิ่งที่คอยวางแผนซื้อขายจัดการเรื่องบัญชีต่างๆ เมื่อใดที่เดินทางคุ้มกันสินค้าไปเมืองหนึ่ง ขากลับจะได้สินค้ามีชื่อเสียงของเมืองนั้นกลับมาขาย มิได้มีการกลับบ้านมือเปล่าสักคราวเดียว เช่นครั้งนี้ที่เขามาเมืองเยว์และกลับเมืองจูโจวบ้านเกิด

“เจ้าค่ะๆ นายท่านอย่างเพิ่งโกรธ ข้าน้อยจะรีบหาหญิงรับใช้ให้ท่าน”

เสี่ยวหงกลัวจนตัวสั่น ไม่คิดว่าเขาต้องการ ‘สาวใช้’ จริงๆ หลายครั้งที่ชายผู้นี้มาและให้หาหญิงงามหรือนางรำไปรับรองผู้อื่นนั้น นางรับงานอย่างแข็งขันไม่มีขาดตกบกพร่อง นายท่านผู้นี้แม้ใบหน้าบึ้งตึงขึงขัง แต่จ่ายเงินให้ครบถ้วนไม่มีต่อรอง บางครั้งให้พิเศษเพิ่มเป็นน้ำใจ นางจึงถือว่าเขาเป็นลูกค้าชั้นดีของนาง

“ขออภัยนายท่าน” นางพยายามใช้เสียงอ่อนหวานของตนให้เป็นประโยชน์

“ข้าไม่อยากได้คำขอโทษ อยากได้สาวใช้ทำความสะอาดบ้าน ทำกับข้าว!”

“อีกสักสองสามวันได้ไหมเจ้าคะ ข้าน้อยจะหาสาวใช้จริงๆให้” อยากได้คนที่เป็นงานก็ต้องใช้เวลาสักหน่อย

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 54 จบ   02-06 19:22
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY