เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
ณ ห้องจัดเตรียมงานแต่งงานของโรงแรม
เย่ชิงซีในชุดแต่งงานสีขาว แต่งหน้าอย่างงดงาม กำลังนั่งอ่านเอกสารยินยอมการทำกิ๊ฟท์ และสัญการรักษาข้อมูลที่เป็นความลับ ซึ่งการทำกิ๊ฟจะมีขึ้นในวันพรุ่งนี้
และเจ้าของเชื้ออสุจิก็คือลูกชายคนโตของตระกูลเสิ่น เสิ่นเซียวเหยา ซึ่งเป็นเจ้าบ่าวในงานแต่งงานที่ยิ่งใหญ่แห่งศตวรรษนี้
แต่น่าเสียดายที่เจ้าบ่าวประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อสามเดือนก่อน และกลายเป็นเจ้าชายนิทรา เลยไม่สามารถมาร่วมงานแต่งได้
“คุณเย่ ถ้าอ่านเสร็จแล้วกรุณาลงชื่อเร็ว ๆ ด้วยครับ นายท่านกำลังรออยู่” ทนายจางจ้องมองเย่ชิงซีด้วยสีหน้าจริงจัง และนำเสียงก็แฝงไปด้วยการเร่งเร้า
ผู้คนพากันลือว่า เสิ่นเซียวเหยาเป็นเหมือนตะเกียงที่ใกล้จะหมดน้ำมัน จะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นาน
ตระกูลเสิ่นเป็นตระกูลมหาเศรษฐีเก่าแก่ ให้ความสำคัญกับทายาทที่จะมาสืบทอดทรัพย์สมบัติของตระกูลเป็นอย่างมาก นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเสิ่นชางป๋อถึงต้องรีบร้อนไปขอเจ้าสาวให้กับลูกชาย เพื่อจะได้นำเชื้ออสุจิที่เก็บไว้เมื่อนานมาแล้ว มาทำทายาทให้กับเสิ่นเซียวเหยาก่อนที่เขาจะเสียชีวิต
สีหน้าของเย่ชิงซีดเผือก ใบหน้าเล็ก ๆ ดูตึงเครียด มีความตื่นตระหนกแฝงอยู่ในดวงตามใส ๆ ที่ยากจะสังเกต
“ขอโทษค่ะ ฉันต้องอ่านเอกสารยินยอมนี้อย่างละเอียดก่อนค่ะ คุณออกไปก่อนได้ไหมคะ”
ทนายจางนิ่งเงียบไปหลายวินาที จากนั้นก็พยักหน้า และออกไปจากห้องจัดเตรียมการแต่งงาน
เย่ชิงซีรอให้เขาออกไปเเล้ว ก็รีบวางสัญญาข้อตกลงในมือลง และโทรหาแฟนหนุ่มของเธอด้วยความตื่นตระหนก
ใช่ เธอมีแฟนแล้ว แต่ไม่มีใครรู้
ที่บังเอิญก็คือ เสิ่นเจ๋อ แฟนของเธอคนนี้เป็นคุณชายรองของตระกูลเสิ่น น้องชายต่างมารดาของเสิ่นเซียวเหยา
และจริง ๆ แล้ว งานแต่งงานครั้งนี้ก็เป็นแผนร้ายของเสิ่นเจ๋อ
หนึ่งเดือนก่อน พ่อของเย่ชิงซีล้มป่วยจนเสียชีวิต หลินเซี่ยะ แม่เลี้ยงของเธอถือโอกาสนี้ยึดครองทรัพย์สินของตระกูล และขับไล่เย่ชิงซีออกจากบ้าน ถึงขนาดยึดทรัพย์สินของแม่ผู้ให้กำเนิดเธอไปด้วย
เย่ชิงซีถูกบีบจนหมดหนทาง และบังเอิญเสิ่นเจ๋อแฟนหนุ่มของเธอก็มาหาเธอตอนนั้นพอดี เขาเสนอให้เย่ชิงซีแต่งงานหลอก ๆ กับเสิ่นเซียวเหยา เพื่อที่จะได้หาโอกาสทำลายการทำกิ๊ฟท์ แบบนี้เมื่อเสิ่นเซียวเหยาตายไป เสิ่นเจ๋อก็จะเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลเสิ่น
เสิ่นเจ๋อสัญญาว่า หลังจากทำสำเร็จจะแต่งงานกับเย่ชิงซี และจะช่วยเธอทวงทรัพย์สินของแม่เธอกลับคืนมา
ด้วยการรบเร้าอย่างไม่ลดละของเสิ่นเจ๋อ เย่ชิงซีก็ใจอ่อนตอบตกลง แต่เมื่อเรื่องราวดำเนินมาถึงตอนนี้ เธอก็รู้สึกเสียใจ เธอพบว่าตัวเธอไม่สามารถทำเรื่องแบบนั้นได้
เมื่อโทรไปไม่ติด เย่ชิงซีก็กระวนกระวายใจขึ้นมา เธอเดินไปเดินมาในห้อง สุดท้ายก็แอบออกไปตามหาเสิ่นเจ๋อ
เย่ชิงซีร้อนใจเป็นอย่างมาก เธอกลัวว่าจะมีคนอื่นพบเข้า แม้แต่ลิฟต์ก็ไม่กล้าขึ้น เธอจึงตัดสินใจถอดรองเท้าส้นสูง แล้วเดินลงบันไดไป
เมื่อเดินผ่านห้องรับรองที่อยู่ในสุดของทางเดิน ฝีเท้าของเย่ชิงซีก็หยุดชะงักทันที
ประตูห้องรับรองไม่ได้ปิดสนิท มีเสียงหัวเราะออดอ้อนที่คุ้นเคยดังออกมาจากช่องว่างของประตู
“เสิ่นเจ๋อ อยู่กับฉันอีกหน่อยนะ ยังไงตอนนี้เย่ชิงซีก็ไม่มีเวลามาหาคุณหรอก”
เย่ชิงซีรู้สึกจุกอกขึ้นมาทันที เธอเดินย่องเบา ๆ เข้ามาใกล้ ๆ และมองผ่านช่องว่างระหว่างประตูเข้าไปข้างใน
เห็นเพียงชายหญิงคู่หนึ่งเสื้อผ้ายับยู่ยี่ กอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่กันบนโซฟา และผู้หญิงที่นอนอยู่ด้านบนก็คือเย่หว่านหว่าน น้องสาวที่เป็นลูกติดของเเม่เลี้ยงเธอ และผู้ชายที่อยู่ด้านล่างของเธอก็คือ เสิ่นเจ๋อ แฟนหนุ่มที่เย่ชิงซีกำลังตามหา
“ผมกลัวว่าเธอจะเปลี่ยนใจ หนีการแต่งงาน ไม่จับตาดูไว้ ก็วางใจไม่ได้” น้ำเสียงของเสิ่นเจ๋อค่อนข้างหงุดหงิด เขาผลักเย่หว่านหว่านออกไป เพื่อจะลุกขึ้น
เย่หว่านหว่านกลับไม่ยอม เธอก้มหน้าลงจูบเสิ่นเจ๋ออย่างเร่าร้อน “ไม่หรอกน่ะ นังนั่นมันฟังคุณมาแต่ไหนแต่ไร อีกอย่างสมบัติของแม่มัน ก็ยังอยู่ในมือของเรา มันจะกล้าได้ยังไง”
“ก็ใช่” เมื่อเสิ่นเจ๋อได้ยินอย่างนั้นก็คลายความกังวลลง แล้วกลับไปนอนลงอีกครั้ง มือก็ล้วงเข้าไปในชายเสื้อผ้าของเย่หว่านหว่าน “พอเย่ซานตาย มันก็ไม่มีที่พึ่ง มันไม่มีทางเลือก...”
“ถ้าไม่ใช่เพราะคุณแอบใส่อะไรลงไปในยาของเย่ซานเพื่อให้มันตายเร็วขึ้น เรื่องก็คงจะไม่ราบรื่นแบบนี้” เย่หว่านหว่านส่งเสียงครางออกมาตามการเคลื่อนไหวของมือเสิ่นเจ๋อ และร่างกายของเธอก็อ่อนระทวยลงในอ้อมแขนของเสิ่นเจ๋อ เธอหัวเราะเบา ๆ พลางเอ่ยขึ้นว่า “พี่สาวหน้าโง่ของฉันยังเฝ้ารอคุณไปขอมันแต่งงานอยู่เลย ต่อให้มันคิดยังไงก็คงจะคิดไม่ถึงว่าคุณเป็นคนทำร้ายพ่อที่มันรักมากที่สุด คุณนี่มันเลวจริง ๆ ”
“คุณก็ชอบที่ผมเลวไม่ใช่เหรอ...” เสิ่นเจ๋อพลิกตัวและกดเย่หว่านหว่านให้อยู่ใต้ร่าง และจูบอย่างอดรนทนไม่ไหว “ไม่ต้องห่วงน่ะ ใครจะไปแต่งงานกับผู้หญิงที่มีตำหนิ ผ่านการแต่งานมาแล้วล่ะ ผมต้องการแค่คุณเท่านั้น…”
ฉากต่อไปยิ่งไม่น่ามองมากขึ้น เหลือเพียงเสียงลมหายใจเร่าร้อนแผ่ซ่านอยู่ในห้อง
เย่ชิงซีพยุงร่างกายไว้ไม่ไหว เซไปด้านหลังสองสามก้าว
ที่แท้เสิ่นเจ๋อก็ทรยศเธอมานานแล้ว! คำว่ารักที่เขาพูดออกมาทั้งหมด ก็คือการหลอกใช้และหลอกลวง! ยิ่งไปกว่านั้น เขายังทำร้ายพ่อของเธอจนตาย!
น้ำตาหยดออกมาจากดวงตา ความจริงอันโหดร้ายทำให้เย่ชิงซีหายใจไม่ออก
เธอจับชายกระโปรงแน่น ฟังเสียงความเคลื่อนไหวจากในห้อง โกรธแค้นจนกัดฟันแน่น
ในเมื่อพวกเขาต้องการครอบครองตระกูลเสิ่น งั้นเธอก็จะทำให้พวกเขาไม่สมปรารถนา!
เย่ชิงซีเช็ดน้ำตาจนแห้ง สวมรองเท้าส้นสูง เดินกลับไปยังห้องจัดเตรียมงานแต่งงาน และเซ็นชื่อในสัญญาข้อตกลงโดยไม่ลังเล
เธอต้องเป็นนายหญิงใหญ่ที่แท้จริงของตระกูลเสิ่น และคอยดูหญิงร้ายชายชั่วคู่นี้ลงนรกด้วยตาของเธอเอง!
ยามค่ำคืน ณ คฤหาสน์ตระกูลเสิ่นเต็มไปด้วยแสงไฟที่สว่างไสว
ทันทีที่งานแต่งงานสิ้นสุดลง เย่ชิงซีก็ถูกส่งมาที่นี่ และมาถึงห้องของเสิ่นเซียวเหยาด้วยการนำทางของแม่บ้าน
นี่เป็นครั้งแรกที่เย่ชิงซีได้เห็นสามีของเธอ
จากปากของเสิ่นเจ๋อนั้น เสิ่นเซียวเหยามีอารมณ์ร้าย นิสัยวิปริต ไร้ความปรานี แม้แต่อยู่ต่อหน้าญาติสนิทของเขาเอง เขาก็ยังใจดำไร้ความปรานี คำคุณศัพท์ที่แย่ที่สุดที่ถูกเสิ่นเจ๋อใช้ออกมาทั้งหมด รวมถึงคำว่า “อัปลักษณ์” ด้วย
เย่ชิงซีเชื่อว่ามันเป็นเรื่องจริง เธอได้เตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับสามีอัปลักษณ์ไว้แล้ว ทว่าเธอไม่คาดคิดเลยว่าผู้ชายตรงหน้านี้จะหล่อมาก แม้ว่าเขาจะป่วยอยู่ แต่ก็ไม่สามารถปกปิดความสง่างามที่มีมาตั้งแต่เกิดของเขาได้
เธอยืนเหม่อลอยอยู่ข้างเตียง มองใบหน้าที่งดงามได้รูปของเสิ่นเซียวเหยาจนตกอยู่ในห้วงของความสงสัย
ดังนั้นสิ่งที่เสิ่นเจ๋อพูดเป็นเรื่องเพ้อเจ้อทั้งหมดงั้นสิ?
และในตอนนั้นนั่นเอง ประตูถูกผลักเปิดออกอย่างแรง เสิ่นเจ๋อที่กำลังเมาถือขวดเหล้าเดินโซเซเข้ามา และพูดเสียงดังเอะอะ โดยไม่กลัวว่าเสิ่นเซียวเหยาที่นอนเป็นผักแบบนี้จะตื่นขึ้นมา
“ซีซี ผมขอโทษนะที่ผมเพิกเฉยคุณ วันนี้ผมยุ่งมาก เลยไม่ได้รับโทรศัพท์คุณ”
ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะมาฉีกหน้าอีกฝ่าย เย่ชิงซีเลยทำได้เพียงอดทนกับความขยะแขยง และแสร้งทำเป็นเข้าใจ “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ได้โทษคุณ”
เสิ่นเจ๋อยกขวดเหล้าขึ้น ดื่มเข้าไปอึกนึง จากนั้นยิ้มออกมาอย่างมั่นใจ แล้วพูดว่า “ผมว่าแล้ว คุณรักผมขนาดนี้ จะต้องเข้าใจผมแน่นอน”
เย่ชิงซีกำหมัดแน่น อดทนจนเส้นเลือดตรงขมับปูดนูนขึ้น “ดึกมากแล้ว มีเรื่องอะไรไว้คุยกันวันพรุ่งนี้เถอะ...”
หลังจากพูดจบ กลับเห็นว่าเสิ่นเจ๋อล็อกประตู ปิดไฟ และเดินเข้ามาใกล้เย่ชิงซี
เย่ชิงซีถอยหลังออกไปด้วยความตื่นตระหนก “เสิ่นเจ๋อ คุณจะทำอะไรน่ะ”
“ช่วงเวลาค่ำคืนของวันแต่งงานมีค่ามาก อย่าปล่อยให้มันเสียเปล่าน่า”
มุมปากของเสิ่นเจ๋อมีรอยยิ้มชั่วร้าย กลิ่นแอลกอฮอล์ลอยมา ทำเอาเย่ชิงซีตกใจจนถอยหลังออกไปหลายก้าว
เขาไม่ได้เห็นเสิ่นเซียวเหยาอยู่ในสายตาเลยจริง ๆ ถึงขนาดกล้าคิดจะทำอะไรพี่สะใภ้ของตัวเองต่อหน้าเขา!
เย่ชิงซีโกรธจนตัวสั่น เธอออกแรงผลักเสิ่นเจ๋อ “มีสติหน่อย! อย่าลืมแผนของเราสิ”
ไม่คิดว่าเสิ่นเจ๋อจะทำตัวไร้ยางอายถึงเพียงนี้ “ผมเปลี่ยนใจแล้ว ขอเพียงคุณท้องลูกของผม ก็สามารถสืบทอดตระกูลเสิ่นได้เช่นกัน”
เย่ชิงซีไม่สามารถทนได้อีกต่อไป ตอนที่เธอกำลังจะสู้สุดชีวิตนั้น เธอก็พบว่าเสิ่นเจ๋อไม่ขยับแล้ว
เธอเงยหน้าขึ้นอย่างงุนงง ก็เห็นสีหน้าของเสิ่นเจ๋อเต็มไปด้วยความกลัวราวกับเห็นผี ขณะมองไปทางด้านหลังเธอ
“พี่ พี่ใหญ่...”
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"