/0/13186/coverbig.jpg?v=6660ee106c9fee1ab22efc6ace53d0e0)
เขาว่ากันว่า ความรักนั้นมิได้จำกัดอยู่แค่คำว่า 'คู่รัก'เพียงอย่างเดียวเท่านั้น หากยังหมายถึงความรักในรูปแบบอื่นด้วยเช่นกัน ดั่งเช่นความรักของผู้ให้อย่างราชามังกรกับทารกน้อย ผู้ที่รอดชีวิตมาจากสงครามแห่งการกลืนกิน ความผูกพันที่มิได้กำเนิดจากสายเลือด ทว่ากลับก่อเกิดความรักที่ยิ่งใหญ่ขึ้นมา ซินเทียร์เด็กสาวที่ราชามังกรเก็บมาเลี้ยงจากมหาสงครามแห่ง การกลืนกิน เมื่อเวลาผ่านไปจากเด็กสาวในวันนั้นเติบใหญ่จนราชามังกรต้องส่งเธอเข้าไปยังโรงเรียนเวทมนตร์ของราชาอาเธอร์ ด้วยความต้องการของราชามังกรที่ต้องการให้เด็กสาวได้เรียนรู้เรื่องที่เกี่ยวกับ การใช้ชีวิตอย่างมนุษย์ทั่วไป แม้ในบางครั้งสิ่งที่ซินเทียร์อาจจะต้องพบเจอเป็นเรื่องที่น่าเศร้า “เมย์” เด็กสาวที่มาจากซากุระ ผู้ที่ใช้เวทมนตร์อัญเชิญและเป็นเพื่อนคนแรกของซินทียร์ ในอนาคตจะเป็นผู้ที่จะใช้เวทอัญเชิญที่ยิ่งใหญ่ ด้วยความฝันนี้เธอเลยหนีออกจากบ้านที่ต้องการทำตามความต้องการของตัวเองและเธอแอบชอบซินเทียร์ “มีอา” อดีตเจ้าหญิงของอาณาจักรที่ล่มสลายไป เพราะแพ้สงครามในวันที่เธอเข้าเรียนที่โรงเรียนของราชาอาเธอร์ แถมเป็นผู้ที่ ทำให้ซินเทียร์ได้เรียนรู้เกี่ยวกับความเศร้าและความเจ็บปวดที่ไม่อาจจะลืมเลือนได้ตลอดไป ด้วยความแค้นทำให้เธอเข้าสู่ด้านมืด จากเพื่อนรักต้องกลายเป็นศัตรู
เขาว่ากันว่าความรักไม่จำเป็น เเละไม่ได้จำกัดว่าจะต้องเป็นคู่รักแต่เพียงเท่านั้น ความรักมักมีหลากหลายรูปแบบ และความรักที่จะพูดถึงนั้นคือความรักเเบบพ่อกับลูก
เรื่องราวมันเกิดขึ้นเมื่อครั้งที่โลกได้ถือกำเนิดเหล่ามังกรทั้งหกเพื่อมาปกปกป้องโลกใบนี้ ในสมัยนั้นมนุษย์ให้ความเคารพและนับถือเหล่ามังกรประดุจดังเทพเจ้า เหล่ามังกรเป็นที่เกรงขามแก่เหล่ามนุษย์มาก แต่พอเวลาผ่านไปจากความเคารพเเปรเปลี่ยนเป็นเกลียดชังและหวาดกลัวต่อพลังมหาศาลของเหล่ามังกรจนกระทั่งมนุษย์ได้ก่อสงครามขึ้นเพื่อหมายกำจัดเหล่ามังกรให้หมดไป
จากผู้ปกป้องต้องกลายเป็นผู้ทำลายล้าง เมื่อสงครามได้อุบัติขึ้นและยืดเยื้อยาวนานจนกระทั้งวันหนึ่ง มนุษย์และมังกรได้กลับมาร่วมมือกันอีกครั้ง เพื่อจำกัดภัยอันตรายบางอย่างที่กำลังคุกคามโลก และ
ภัยพิบัตินี้ไม่ได้อยู่บนโลกใบนี้เเต่มันมาจากพิภพอื่นเเละเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตต่อโลกของพวกเขาเป็นอย่างมาก เเละสงครามนี้ให้ชื่อว่าสงครามเเห่งการกลืนกิน เหล่ามังกรก็ต่างสูญเสียพอๆ กับเหล่ามนุษย์ ทุกชีวิตต่างบาดเจ็บล้มตายไปมาก และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้นอย่างกระทันหันเมื่อราชามังกรได้โจมตีด้วยพลังอันมหาศาลจนมีเมืองเล็กๆที่อยู่ในรัศมีของพลังที่ถูกปล่อยออกไปได้รับลูกหลงจนเมืองเเห่งนั้นพังราบเป็นหน้ากอง
เเต่เหมือนสวรรค์ไม่ได้ใจร้ายเสียเลยทีเดียว ท่ามกลางสงครามและเพลิงไฟจากพลังของราชามังกร ที่ไม่น่าจะมีใครรอด แต่
ได้มีเด็กน้อยซึ่งรอดชีวิตจากเหตุการณ์ครั้งนั้น ราชามังกรเมื่อเห็นเด็กน้อย ที่ร้องไห้ดั่งจะขาดใจ จึงแปลงกายเป็นมนุษย์ เพื่อจะได้เข้าไปดูเด็กน้อยใกล้ๆ และเพื่อไม่ให้เด็กน้อยหวาดกลัว
"เด็กคนนี้เป็นผู้รอดชีวิตจากเพลิงเวทมหาศาลของข้าอย่างนั้นหรือนี่ เจ้าเองคงมีพลังเวทที่แข็งกล้าเช่นกันสินะ" ราชามังกรหนุ่มเอ่ยขึ้น พร้อมกับอุ้มเด็กน้อยขึ้นมาในอ้อมแขน
"อุเเว้ๆๆเเว้...เเอ๊" เด็กน้อยยังคงแผดเสียงร่ำไห้ออกมาด้วยความตกใจและไม่คุ้นเคยในอ้อมกอดของราชาหนุ่ม
"เด็กน้อยข้าจะเลี้ยงเจ้าเองเเต่ถ้าพลังเวทของเจ้ามากมายขนาดนี้มันอาจจะทำให้เจ้าได้ลาโลกนี้ไปก่อนที่เจ้าจะโตเป็นแน่ จริงด้วยชื่อสำคัญมาก อืม...ซินเทียร์ ข้าจะตั้งชื่อเจ้าว่า ซินเทียร์ ที่เป็นภาษามังกร ความหมายของมันคือ น้ำตามังกร เจ้าชอบหรือไม่เจ้าหนูน้อย" ราชามังกรพูดกับเด็กน้อย พร้อมตั้งชื่อให้เสร็จสรรพ
"เเอ้...ฮะๆ" แม้จะไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่ราชามังกรพูดนัก แต่เด็กน้อยก็เหมือนจะตอบรับชื่อที่ได้รับมา
"ชอบสินะเจ้าหนูน้อย" ราชามังกรเอ่ยถาม พรางยิ้มละไมให้เด็กน้อยในอ้อมแขนด้วยความเอ็นดู
หลังจากที่ราชามังกรทั้งหกได้เเยกย้ายกันไปโดยที่ราชินีมังกรเเห่งกาลเวลานามว่า 'รินเนะ' ได้มาหา 'เอน' ราชามังกรผู้ที่รับเด็กน้อยไว้ในความดูแล ที่ถ้ำมังกรของเขา
"เอน ท่านจะเลี้ยงเด็กคนนี้ อย่างนั้นหรือ?" รินเนะเอ่ยถาม พรางจ้องมองเด็กที่นอนอยู่บนเบาะด้วยความสนใจ
"คงต้องอย่างนั้นเพื่อชดใช้บาปของเหล่ามังกร" เอนตอบกลับไป บาปที่ร่วมกันก่อ บาปที่เขาเกือบทำลายล้างเผ่าพันธุ์มนุษย์ แม้จะไม่ตั้งใจก็ตาม
"ก็แล้วแต่ท่านนะ มันเป็นการตัดสินใจของท่านเเล้ว" รินเนะไม่คิดจะขัดขวางการตัดสินใจของเอน หรือมังกรตนใด ทุกอย่างมันย่อมมีเหตุและผล เด็กคนนี้ที่มาอยู่กับเอนก็เช่นกัน
เมื่อวันเวลาผ่านล่วงเลยไปโดยที่ผู้คนได้ลืมเหตุการณ์ครั้งเกิดสงครามล้างเผ่าพันธุ์จนเกือบหมด เด็กทารกตัวน้อยได้กลายเป็นสาวน้อยที่มีหน้าตางดงามดังเทพธิดาลงมาจุติก็มิปานเเละตอนนี้ซินเทียร์กำลังฝึกเวทมนต์อย่างขยันขันเเข็งเเละเวทที่ราชามังกรฝึกให้คือเวทปราบมังกร
เเละการฝึกก็ได้ดำเนินไปเพื่อสักวันหนึ่งเธอจะได้ไปยังโลกภายนอก โดยราชามังกรจะได้ไม่ต้องห่วง เเม้การฝึกจะหนักและดูโหดร้ายเพียงใด
ซินเทียร์ก็พยายามอย่างเต็มที่
"ลมหายใจมังกรทมิฬ กระบวนท่ามังกรผ่าสวรรค์ เปลวเพลิงมังกรทมิฬ" ซินเทียร์ท่องมนต์คาถามหาเวทขณะที่ฝึกฝนไปด้วย
"พักได้แล้ว มากินข้าวก่อน" เอนตะโกนเรียกสาวน้อยให้หยุดพัก
"กินข้าวกันเถอะๆหิวเเล้วนะ" รินเนะผู้หิวโหยจากการเป็น
คู่ฝึกซ้อมให้ซินเทียร์ พูดออกมาด้วยความดีใจ
"หิวก็มากินข้าวได้เเล้ว" เอนตะโกนเรียกอีกครั้ง
"มาแล้ว มาแล้ว ได้เวลากินข้าวเสียที กำลังหิวเลย" ซินเทียร์วิ่งไปหาเอนด้วยความดีใจ เธอก็หิวพอๆกับรินเนะนั่นแหละ
"กินเยอะๆนะซินเทียร์ เจ้ายิ่งตัวเล็กๆอยู่" เอนบอก เด็กมนุษย์นี่
ตัวเล็กจริงๆ ทั้งที่เขาเลี้ยงด้วยอาหารชั้นเลิศทุกมื้อเลย
เมื่อทั้งสามได้รัประทานอาหารจนอิ่ม จากนั้นเอนคิดว่าจะพูดคุยเรื่องสำคัญที่เกี่ยวกับอนาคตของซินเทียร์ เเต่ในตอนนั้นได้มีเเขกที่ไม่ได้รับเชิญมาหาอย่างกระทันหัน ทุกคนต่างหันหน้าไปมองอย่างพร้อมเพรียงกันโดยไม่ได้นัดหมาย คนคนนั้นคือเมอรินหนึ่งในจอมเวทที่เเข็ง
เเกร่งที่สุดในยุคนี้เเละเมอรินเป็นเพื่อนกับเอน เเละการที่เขาต้องมาหาเอนอย่างกระทันหัน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับซินเทียร์ เมอรินทักทายราชามังกรด้วยความสนิทเเละทั้งสองได้พูดคุยกันเป็นภาษามังกร
ซินเทียร์แม้จะถูกเลี้ยงดูด้วยมังกร แต่เขาไม่ได้สอนภาษามังกรแก่เธอ
ซินเทียร์จึงได้แต่นั่งฟังเงียบๆอย่างไม่เข้าใจ
"ไม่ได้เจอกันนานมากเลยเพื่อน ท่านสบายดีหรือไม่" เมอรินเอ่ยทักทายสหายสนิท
"สบายดี ว่าแต่ท่านเถอะ ลมอะไรหอบท่านมาถึงที่นี่อย่างนั้นรึ" เอนตอบกลับไป เขาไม่คิดว่าเมอรินเฒ่าจอมเวทจะมาหาเขาหากไม่มีเหตุอันใดเป็นแน่
"ข้ามาเรื่องลูกสาวของท่านนั่นเเหละข้าจะเอานางเข้าโรงเรียนเวทมนต์ของราชาอาเธอร์" เมอรินตอบพรางหันหน้าไปมองเด็กสาว
"พอดีเลยข้าว่ากำลังจะพูดเรื่องนี้กับซินเทียร์อยู่พอดี" เอนตอบ เพราะก่อนหน้านี้เขาตั้งใจจะบอกเรื่องนี้กับซินเทียร์พอดี
"ดีแล้วล่ะท่าน เพราะยังไงซินเทียร์ควรได้ไปโรงเรียนแห่งนั้น"
เมอรินเคยกลัวว่าราชาหนุ่มจะไม่ยอมให้ซินเทียร์ออกไปสู่โลกภายนอกเสียอีก
"เพราะว่าสักวันหนึ่งนางต้องออกไปผจญกับโลกกว้างเเละต้องอยู่กับเหล่ามนุษย์อยู่เเล้ว ข้าจะกักขังให้นางอยู่แต่ในถ้ำของข้าได้อย่างไร"
"ท่านคิดเช่นนั้นเองรึสหายข้า ข้ายินดีแทนนางยิ่งนัก" เมอรินรู้ว่าเอนรักและหวงแหนซินเทียร์ยิ่งนัก จอมเวทเฒ่าอย่างเขาจึงกลัวว่ามังกรหนุ่มจะไม่ปล่อยลูกสาวให้ไปเรียนรู้
"ซินเทียร์ ลูกสาวสุดที่รักของข้า ข้าจะส่งเจ้าไปโรงเรียนเพื่อเรียนรู้เวทอย่างอื่นที่เจ้าควรเรียนรู้" เอนเอ่ยกับซินเทียร์ที่นั่งเงียบๆมาตั้งแต่ต้น
"นี่ท่านอยากให้ข้าไปเรียนเวทที่อื่นอย่างนั้นหรือคะ" ซินเทียร์
ผูกพันกับเอนมาก จนไม่อยากพรากจากเขาไปไหน
"ใช่แล้วล่ะซินเทียร์ เจ้าจะได้เรียนรู้เรื่องสังคมมนุษย์ ไปดูโลกที่มันกว้างใหญ่กว่าถ้ำเล็กๆของข้า เจ้าจงไปกับเพื่อนของข้าเสีย" เอนออกคำสั่ง แม้จะยังไม่พร้อมที่จะให้เด็กสาวไปก็ตาม
"เดี๋ยวเจ้าค่อยตามไปทีหลังก็ได้เด็กน้อย มันยังไม่ใช่วันนี้หรอก"
เมอรินแค่มาแจ้งข่าวให้ทราบ เขาอยากให้ซินเทียร์ได้มีเวลาเรียนรู้เวทเพิ่มเติม และมีเวลาร่ำลาราชาหนุ่มเสียก่อน
"ซินเทียร์จะไปไหน ท่านจะส่งซินเทียร์ของข้าไปไหน" รินเนะผู้ที่ยังไม่พร้อมจะพลัดพรากจากซินเทียร์น้อย เอ่ยถามด้วยความร้อนรน
"ท่านเป็นอะไรของท่านรินเนะ ข้าแค่จะส่งนางไปโรงเรียนมหาเวทของท่านอาเธอร์" เอนหันไปตอบกับรินเนะ ผู้ซึ่งเพิ่งเดินเข้ามาได้ยินสหายรักสองคนคุยกัน
"เเล้วถ้าซินเทียร์ไปใครจะเล่นกับข้าละ" ความจริงแล้ว นางเป็นห่วงซินเทียร์ต่างหาก แต่หาข้ออ้างดีๆไม่ได้เลย
"รินเนะ ท่านเป็นเด็กรึอย่างไร ท่านเป็นถึงราชินีมังกรเชียวนะ" เอนเอ็ดรินเนะเสียงดังด้วยความเอาแต่ใจของนาง
"ไม่เอาๆข้าไม่ให้ซินเทียร์ไป ถ้าข้าห้ามท่านไม่ได้ ข้าจะย้อนเวลากลับไป เเล้วเอาซินเทียร์มาเลี้ยงเอง" รินเนะทำท่างอแงเป็นเด็กๆ
"หยุดเลยนะรินเนะ" เมอรินและเอนเอ่ยขึ้นพร้อมกัน
หลังจากนั้นความวุ่นว่ายก็ได้บังเกิดขึ้นเพราะต้องช่วยกันห้ามราชินีมังกรเเห่งกาลเวลาอย่างจ้าละหวั่นเพื่อหยุดนางไม่ให้ย้อนเวลากลับไป เพราะมันจะทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายตามมาอีกในภายหลัง ที่สุดเหตุการณ์ก็ได้สงบลง รินเนะยอมรับการตัดสินใจของเอนอีกครั้ง
เมื่อเมอรินกลับไป เอนจึงได้พูดคุยกับซินเทียร์อีกครั้ง ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น และกำลังจะเกิดขึ้น โรงเรียนที่ซินเทียร์ต้องไป ใช้เวลาคุยและทำความเข้าใจนานนับชั่วโมง
เช้าวันต่อมาการฝึกของซินเทียร์ก็ยังคงดำเนินต่อไปเช่นเคย เวททุกเเขนงที่เคยฝึกฝน เวทมนต์ดราก้อนสเลเยอร์รวมไปถึงวิชาการต่อสู้ก็ยังถูกสอนอย่างเข้มงวดถึงเเม้ซินเทียร์จะเหนื่อยล้าเเต่นางก็ยังยอมฝึกต่อไปเพื่อให้ตัวนางเองเเข็งเเกร่งยิ่งขึ้นทุกศาสตร์ แม้จะยากเพียงใดเเต่นางก็ยังตั้งใจอย่างขยันขันเเข็งเมื่อเวลาล่วงเลยไปนางก็เเข็งเเกร่งพอที่จะเข้าโรงเรียนได้
ทางด้านราชามังกร เขาได้สร้างอาวุธให้กับซินเทียร์เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่เธอ อาวุธชิ้นนี้ถูกสร้างมาจากเกล็ดของเขาเองโดยให้เผ่าคนเเคระสร้างอาวุธชิ้นนี้ขึ้นมา ราชามังกรได้เรียกสองพี่น้องเผ่าคนเเคระมีนามว่าโมน่าเเละไมอาให้มา สร้างอาวุธเพื่อมอบให้ลูกสาวของเขา อาวุธที่จะเอาไว้ใช้และป้องกันตัวในโรงเรียนที่จะเข้าเรียน เเต่การดึงเกล็ดมังกรออกนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย มันทั้งเจ็บปวดและทรมาน ถึงแม้
ซินเทียร์จะไม่ใช่สายเลือดเเท้ๆของเขา เเต่เขาก็รักและเอ็นดูซินเทียร์
ยิ่งนัก จึงยอมเจ็บเพื่อนางด้วยความยินดี โดยไม่มีข้อแม้หรือกังขาใดๆเลย ความรู้สึกที่เขามีต่อซินเทียร์ มันคือความรู้สึกที่มนุษย์เรื่ยกว่า
'ความรัก'
"ท่านราชามังกร"โมน่าและไมอาเอ่ยทักทายราชาผู้ยิ่งใหญ่
"มาเเล้วอย่างนั้นรึ โมน่าไมอา" ราชาหนุ่มหันไปมองสองพี่น้อง
"มาเเล้วขอรับ/เจ้าคะ" ทั้งสองขานรับพร้อมกัน
"ข้ามีงานให้เจ้าไปทำ ข้าอยากให้พวกเจ้าเอาเกล็ดของข้าไปทำเป็นอาวุธ"
"ข้าจะทำให้สุดฝีมือเลยขอรับ" โมอาบอกด้วยความแข็งขัน
"ข้าก็เช่นกัน จะทำให้เต็มที่เลยเจ้าค่ะ" ไมอารับเช่นเดียวกับพี่ชาย
"ดี ข้าจะคอยชมฝีมือเจ้า เอาไป" ราชามังกรยื่นเกล็ดของตนให้แก่สองพี่น้อง
วันเวลาผ่านไปเกือบหกเดือนการฝึกของซินเทียร์ก็ได้สิ้นสุดลง เเละอาวุธที่ถูกสั่งทำโดยราชามังกรก็เป็นอันเสร็จสิ้น โมน่าและไมอานำอาวุธมามอบให้เเก่ราชามังกร เขาได้มอบอาวุธให้เป็นของขวัญแก่ซินเทียร์ ราชามังกรได้เรียกซินเทียร์เข้าพบเพื่อมอบของขวัญให้เเก่นาง ลูกสาว
อันเป็นที่รักของเขาก่อนที่จะจากกันไปเเละซินเทียร์ได้น้อมรับด้วยความยินดี
เมอรินได้รับสารจากราชามังกร ให้มารับตัวซินเทียร์ เขาจึงเดินทางมาถ้ำมังกรอีกครั้ง และจากไปพร้อมกับเด็กสาว
ซินเทียร์และเมอรินออกเดินทางมีจุดหมายปลายทางคือ โรงเรียนมหาเวทอาเธอร์ ซินเทียร์ต้องทำการทดสอบฝีมือก่อนที่จะเข้าเรียนที่นั่น และการเดินทางครั้งนี้ จะเป็นการเปลี่ยนชีวิตของเด็กสาวไปอย่างสิ้นเชิง ชีวิตที่ขาด เอน และรินเนะจะเป็นเช่นไร โปรดติดตามตอนต่อไป
คิณ อัคนี สุริยวานิชกุล ทายาทคนโตของสุริยวานิชกุลกรุ๊ป อายุ 26 ปี นักธุรกิจหนุ่มที่หน้าตาหล่อเหลาราวกับเทพบุตร เย็นชากับผู้หญิงทั้งโลกยกเว้นเธอเพียงคนเดียวเท่านั้น เอย อรนลิน "เมื่อเขาดึงเธอเข้ามาในวังวนของไฟรักที่แผดเผาหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้ไหม้ไปทั้งดวง" "เธอแน่ใจนะว่าจะให้ฉันช่วยค่าตอบแทนมันสูงเธอจ่ายไหวเหรอ?" เอย อรนลิน พิศาลวรางกูล ดาวเด่นของวงการบันเทิงที่ผันตัวไปรับบทนางร้าย เธอสวย เซ็กซี่ ขี้ยั่วกับเขาเพียงคนเดียวเท่านั้น "เขาคือดวงไฟที่จุดประกายขึ้นในหัวใจดวงน้อยๆของเธอให้หลงเริงร่าอยู่ในวังวนแห่งไฟรัก" "อะ อึก จะ เจ็บ เอยเจ็บค่ะคุณคิณ"
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
อารียา ถูกโชคชะตาชักนำไปสู่บทพิศวาสที่แสนเร่าร้อนบนความเข้าใจผิด ก่อเกิดเป็น ‘รักต้องห้าม’ ที่ไม่อาจต้านทานได้ แล้ว ชีควาคิล จะทำเช่นไร ที่จะทำให้ยอดหญิงที่เป็นดั่งดวงหฤทัย กลายเป็น ‘รักเดียว ตลอดกาล’ มันคงไม่ยากนัก หาก ‘เขา’ ซึ่งเป็นถึงองค์รัชทายาทจะทรงต้องการ ‘นางสนมในฮาเร็ม’ เพิ่มอีกสักคน ถ้าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ ‘เธอ’ ครูสอนภาษาที่เป็นดังกุหลาบงามที่ซ่อนหนามแหลมเอาไว้ภายใน แม้จะทรงมีอำนาจเหนือใคร ก็อย่าหมายมารังแกเธอได้ง่ายๆ แต่ทว่าเขากำลังถือ ‘ไพ่’ เหนือเธอ จึงทรงบังคับขืนใจด้วยไฟแค้น พันธนาการเธอเอาไว้ด้วยเพลิงพิศวาสที่แสนหวาน แล้วครูสาวไร้เดียงสาอย่างอารียา จะสามารถต้านทานบทสวาทขั้นเทพของชีคหนุ่มผู้กระหายในรสรักได้อย่างไร “อ๊ะ...ท่านชีค” เสียงหวานๆ ครางแผ่วออกมาอย่างลืมอายเมื่อท่านชีคผู้แสนจัดเจนในสนามรัก งัดกลยุทธพิชิตกายสาวออกมาใช้กับหญิงสาวอย่างไม่หมกเม็ด เจ้าของเรือนร่างงดงามดุจรูปปั้นเปลือยเปล่าของนักรบเทพเจ้ากรีก ได้จุดประกายไฟพิศวาสให้ลามเลียไปทั่วร่างร้อนผ่าวที่พร้อมจะติดไฟรักได้ทุกเมื่อ แล้วเมื่อใบหน้าหล่อเหลาดุจเทพบุตรแห่งสวรรค์ ฝังจมูกลงมาบนช่อดอกรักอวบอูมกลางกายสาว คนใต้ร่างก็ไม่อาจกลั้นใจ “ท่านชีค อย่าค่ะ ไม่...โอว” ร่างบอบบางบิดเร่าๆสะท้านไหว กลีบดอกไม้ลู่ไปตามทิศทางลมที่พัดโหมจนกลายเป็นพายุสวาทลูกใหญ่ซัดกระหน่ำแทรกลึกซอกซอนเข้าไปยังกลีบดอกรักแสนสวยจนเกสรสีหวานสั่นระรัวและบวมเป่งเพราะอารมณ์เสน่หา
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ในเมื่อความปรารถนาสูงสุดของอีกฝ่ายไม่ใช่ครอบครัว เธอจึงกลายเป็นคนที่เขาอยากเขี่ยทิ้งไปให้พ้นตัว เหตุผลที่เขาก้าวเข้ามาในชีวิตของเธอ ใช้ถ้อยคำหวานหลอกล่อจนหญิงสาวตายใจ ในที่สุดเธอก็ได้ตัดสินใจแต่งานกับเขาอย่างไม่มีข้อแม้ใด ๆ ท้ายที่สุดแล้วความจริงก็ปรากฏขึ้น เพราะปรเมศเข้าใจผิด คิดว่าเขมิกาคือสาเหตุที่ทำให้ผู้เป็นมารดาของเขาต้องจากโลกนี้ไปโดยไม่ได้เอ่ยคำบอกลา “เขมท้อง!” หญิงสาวตัดสินใจพูดเรื่องทารกน้อยในครรภ์ เพราะลึก ๆ แล้วยังแอบหวังที่จะได้อยู่กับครอบครัวพร้อมหน้าพร้อมตา อารมณ์ของเขมมิกาแปรปรวน เธอเองไม่อาจควบคุมได้ บางทีก็คิดอยากอยู่ประเดี๋ยวก็อยากไป “กี่เดือน” “หกสัปดาห์แล้วค่ะ” “เด็กคนนี้เป็นลูกของใคร” “คุณปรเมศ!” เขมมิการู้สึกผิดหวังในตัวชายหนุ่ม เขาไม่ควรตั้งคำถามนี้กับเธอ “เอาเด็กนั่นออกซะ! นี่คือเงินที่ผมจะจ่ายให้กับคุณ นับจากนี้ไปเราสองคนเป็นเพียงแค่คนแปลกหน้าสำหรับกัน” “คุณคิดดีแล้วใช่ไหมคะ” “ผมไม่เคยลังเลที่อยากเก็บเด็กคนนี้เอาไว้เลยสักนิด” คำตอบที่ได้ทำเอาหญิงสาวพูดไม่ออก มันจุกในอกเสียจนเธอแทบเสียสติ แต่ก็กลับมาได้เพราะทารกน้อย เธอต้องปกป้องเด็กคนนี้ให้ถึงที่สุด ปรเมศจะต้องเสียใจกับถ้อยคำที่เขาพูดกับเธอในวันนี้
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ