ทันทีที่ลืมตา เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
ทันทีที่ลืมตา เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
~นำนางไปโยนไว้ที่สวน~
เสียงตะคอกที่ดังใกล้โสตประสาท หญิงสาวในชุดราตรีสีครามเธอพยายามที่จะยกเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ่งของเธอขึ้นมองดู แต่มันยากเกินไป
‘เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรากัน’ ความคิดสงสัยพลันผุดขึ้นในหัวของเธอ
~ นางงดงามราวเทพธิดา แต่นิสัยนางช่างร้ายกาจเกินไป~ เสียงหนึ่งดังขึ้นเช่นเดิม แต่น้ำเสียงกับผิดแผลกไปจากเมื่อครู่
~ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่สนใจ งั้นพวกเราก็มอบความสุขนั่นให้นางไม่ดีกว่าเหรอ~
~ ใช่ข้าอยากจะรู้นักว่าท่าทางหยิ่งยโสของนางจะเป็นอย่างไร ในเมื่อพวกเรามอบความสำราญนั้นให้แก่นาง~ สิ้นเสียงพูดนั้น เสียงหัวเราะของเหล่าบุรุษก็ดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ
หญิงสาววัยเลยเลขสามเธอเพิ่งจะทิ้งศีรษะลงเตียงเพียงไม่กี่นาทีก่อน กลับได้ยินเสียงของใครบางคนที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ ทั้งตัวเธอเองยังรู้สึกเหมือนลากดึงจนเจ็บ แต่เธอไม่สามารถลืมตาได้นี่ซิ เธอจึงแยกไม่ออกว่าสิ่งนี้คือความฝัน หรือเธอกำลังถูกลักพาตัว แต่ถ้าถูกลักพาตัวใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ พ่อแม่เธอก็ไม่มีพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ หญิงสาวพยายามที่จะลืมตาขึ้น จนในที่สุดความพยายามเธอก็สำเร็จ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับเป็นเหล่าบุรุษรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเกาะราวอัศวิน เธอมองพวกเขาอย่างไม่แน่ใจ
“ขะ..ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใคร” เธอพยายามเปล่งเสียงเอ่ยถามพวกเขา แต่คนเหล่านั้นกลับหัวเราะใส่กับคำถามของเธอ
“ดูท่าเลดี้คงลืมไปแล้วกระมังว่าได้ทำสิ่งใดไว้ให้กับสตรีขององค์รัชทายาท” หญิงสาวขมวดคิ้วหมุน เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาบอก จนเมื่อภาพหนึ่งพุ่งปรากฏในศีรษะเธอ มันเป็นภาพจากเว็บตูนที่เธอเพิ่งอ่านและวางมันลงก่อนหน้านี้ นาเซีย นางร้ายที่มีราชินีเป็นผู้ให้ท้ายนาง กำลังวางยาในแก้วไวน์ของเซลีนนางเอกของเรื่อง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอหรือเพราะเธอเพิ่งอ่านมันไปทำให้เธอเก็บมาอยู่ในฝัน
เธอลองกัดปากตนเองเพียงเล็กน้อย ความเจ็บที่ได้สัมผัสมันดูเกินจริง แววตากลมกวาดมองไปรอบ ๆ สวนดอกไม้ที่ประดับแสงไฟดูเพียง ริบหลี่และมืดจนสามารถช่วยอำพรางบุคคลเหล่านี้ให้กระทำผิดได้ ในความคิดเธอยังคงไม่แน่ชัดแต่เมื่อบุรุษสูงใหญ่นี้วางเธอลงเก้าอี้ตัวยาวในสวน เธอจึงรีบที่จะวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
เพลี๊ยะ!! แรงฟาดจากฝ่ามือทำให้ใบหน้าของเธอรู้สึกชาหนึบ เธอแน่ชัดแล้วว่านี่คือสิ่งที่เธอกำลังเผชิญด้วยความจริง
“คิดจะหนีพวกเราไปไหน เลดี้ดาร์เรล” หนึ่งในทหารที่อุ้มเธอออกมากล่าวขึ้น พร้อมสีหน้าที่ดูน่าหวาดกลัว หากนี่คือการสลับร่างหรือทะลุมิติในตอนนี้ ตัวเธอคงอยู่ในร่างของ ดาร์เรล นาเซีย หญิงสาวที่มีใบหน้ายิ่งยโส และนิสัยร้ายกาจ แต่เธอจะทำยังไงดีล่ะ เพราะนิยายเรื่องนี้มันเป็นเรทสิบเก้า เธอคงต้องพยายามครองสติตัวเองให้ดีคิดหาทางออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้เสียก่อน
เพราะแผนการชั่วร้ายของนาเซียคิดหวังจะวางยาปลุกอารมณ์ให้กับเซลีน และนำพาเธอไปมอบให้แก่ดยุกบริกาเอล ลูเซียง มิกาเอล ตัวร้ายชายที่ต้องการครอบครองเซลีนด้วยแต่นาเซียกลับคาดไม่ถึงว่าแผนการของเธอจะถูกองค์รัชทายาทจับได้ในขณะที่กำลังยื่นแก้วให้กับเซลีน องค์รัชทายาทอย่าง แคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ พระเอกของเรื่องจึงสั่งให้ทหารจับไวน์นั้นกรอกปากนางและนำไปโยนไว้ที่สวน แต่ทหารพวกนั้นกลับลงมือกระทำข่มขืนนาเซีย ทำให้เธอไม่สามารถสู้หน้าในสังคมได้ สุดท้ายนางจึงฆ่าตัวตาย
กลับมายังสถานการณ์ตรงหน้าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับนาเซียตัวจริง แต่กำลังเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวมองเหล่าทหารนั้นที่พยายามจะเข้ามาลูบคล่ำเรียวขาเธอ จนรู้สึกขนลุกด้วยความหวาดกลัว เธอนึกได้ว่า นาเซีย นั้นได้นัดหมายดยุกกาบริเอลไว้อีกฝั่งของสวน ที่อยู่ติดกับปราสาทที่พักชั่วคราวของเขา
“..พี่คะ มะ ไม่ พวกท่านช้าก่อน” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อนึกแผนที่จะหลบหลีสถานการณ์นี้ขึ้นมาได้ เธอคาดหวังว่ามันจะสำเร็จหากดยุกกาบริเอลพอจะเห็นใจช่วยเหลือนาเซียสักนิด
“ข้าว่าที่นี่มันไม่ค่อยสะดวกนัก หากเป็นเรือนกระจกฝั่งตรงข้ามสวนนี้พวกท่านคิดว่าไม่ดีกว่าหรือ” นาเซียยกมือลูบใบหน้าทหารหนึ่งที่กำลังลูบไล้เรียวขาของเธอ พวกเขายกยิ้มอย่างพอใจ
“ไม่เลว ข้าหวังว่าเลดี้จะสนุกสนานและดื่มด่ำความสุขในค่ำคืนนี้กับพวกเรา” พูดจบพวกเขาก็ประคองร่างที่ดูบอกบางของนาเซียขึ้น เธอรู้สึกถึงความร้อนที่ระบายออกมาจากตัว คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่เธอดื่มเข้าไป มันช่างรุมร้อนเสียจนอยากจะปลดเปลื้องอาภรณ์เสียออกให้หมด แต่ในตอนนี้เธอต้องฝืนร่างกายนี้ไว้เสียก่อน
เรือนกระจกที่แยกออกมาไกลพอสมควร นาเซียกวาดสายตามองทั่วเรือนกระจก ‘หรือยังไม่ถึงเวลานัด’ เธอกลืนน้ำลายแห้ง ๆ ลงคอ ดูท่าร่างกายนี้จะทนกับฤทธิ์ยาไม่ไหว หากดยุกกาบริเอลยังไม่โผล่มาดูท่า เธอคงถูกทหารพวกนี้เล่นสนุกกับร่างกายของนาเซียเป็นแน่
“อะแฮ่ม เลดี้คาร์เรล ไม่คิดว่าท่านจะต้องพาเหล่าทหารมาอารักขาด้วย” มิกาเอลทักขึ้นจากทางด้านหลังเธอ นาเซียรีบใช้โอกาสนี้วิ่งไปหาเขา และกระซิบบอกมิคาเอลทันที
“ช่วยข้าด้วย” คิ้วหนากระตุกมองเธอ ก่อนจะหันไปมองเหล่าทหารพวกนั้น
“ออกไป ข้ามีธุระที่จะคุยกับเลดี้” เขาตวาดเสียงดังจนทหารเหล่านั้นต้องรีบวิ่งออกจากเรือนกระจก แม้เขาไม่เอ่ยเพียงแค่สายตาทุกคนต่างก็ย่อมหลบหลีกให้ ดยุกกาบริเอล ลูเซียง มิกาเอล ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเขาดีในฐานะโล่แห่งจักรวรรดิหลานชายคนโปรดของกษัตริย์แคลบอร์น เดิมบิดาเขาคือกษัตริย์แคลบอร์น แต่เพราะร่างกายที่ไม่แข็งแรงทำให้เสียชีวิตลง อำนาจทุกอย่างจึงตกเป็นของน้องชายเพียงคนเดียวของเขา นั้นก็คือกษัตริย์แคล บอร์นองค์ปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รักดยุกกาบริเอลมากพอ ๆ กับบุตรชายของเขา
นาเซียกอดตัวเองที่กำลังรุมร้อนเนื้อตัวเธอราวกับมีไฟอยู่รอบตัว เม็ดเหงื่อมากมายแทรกซึมเต็มใบหน้า เธอทิ้งตัวนั่งลงกองอยู่ที่พื้นก่อนจะใช้กำลังสุดท้ายที่เหลืออยู่เกาะขาของเขา
“ได้โปรด ช่วยพาข้าออกไปจากที่นี่ที” น้ำเสียงที่แหบแห้ง เธอพยายามที่จะเอ่ยขอร้องเขา ใบหน้าหน้าที่ดูเหมือนแสยะยิ้มกำลังจับจ้องท่าทางของเธอ นาเซียยกสองมือถึงขากางเกงของเขาอย่างยากลำบาก
“ขอร้องละ พาข้าออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วข้าจะอธิบายให้ท่านดยุกได้ฟัง” เธอขอร้องเขา แววตากลมที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา เธอพยายามอดทนกับความร้อนที่แผ่ออกมานี้สร้างความทรมานมากนัก
“ข้าเห็นแก่เลดี้ที่เคยช่วยข้าไว้บ้างหลอกนะ มิเช่นนั้นแล้วข้าคงมิคิดที่จะไล่พวกหิวกระหายพวกนั้นแน่” มิกาเอลมองออกตั้งแต่แรก เขารู้ว่านั้นคือเหล่าทหารชั้นล่างที่มักจะถูกเรียกใช้ยามที่ต้องทำงานสกปรก ไม่ต่างกับพวกรับจ้างทั่วไป เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะเดินออกมายังปราสาทรับรองของเขา สถานที่ที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ นาเซียที่ถูกอุ้มขึ้นแนบสัมผัสกับแผลงอกกำยำของเขา ร่างกายเธอก็ยิ่งร้อนมากขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่งแววตาคมดุริมฝีปากยักโค้งเหยียดตรง ปลายจมูกที่ดูเชิดรั้น นาเซียจ้องมองราวอยากสัมผัส
“เตรียมน้ำเย็นให้เลดี้” เสียงเขาสั่งสาวใช้ในปราสาทก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปยังห้องหนึ่ง ก่อนจะวางตัวเธอไปกับที่นอนกว้าง
“อืมมม” นาเซียใช้โอกาสที่เขากำลังวางตัวเธอลงคว้าคอเขาโน้มลงจูบริมฝีปากยักโค้งนั่น
ผลั๊ก!! ยังไม่ทันที่โน้มน้าวอารมณ์ในตัวเขา ตัวเธอกระเด็นลงที่นอนอย่างเต็มแรง มิกาเอลผลักเธอออกทันทีที่เธอจูบสัมผัสริมฝีปากของเขา
“ไร้มารยาท เลดี้ควรหักห้ามอารมณ์ตนเองด้วย” เขาลุกพรวดขึ้นจ้องมองเธอราวกับจะฉีดเธอออกเป็นชิ้น ๆ แม้เขาจะรู้ดีว่าอาการที่นางกำลังเป็นคงเกิดจากถูกบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ นาเซียไม่แปลกใจเลยที่เขาผลักไสเธอราวกับรังเกลียด เพราะนาเซียนั้นร้ายกาจไม่น้อยไปกว่าแม่มดชั่วร้าย อีกทั้งต่อให้นาเซียเป็นสตรีที่งดงามแต่กับเขาแล้วความหลงใหลนั้นไม่เคยพลาดผ่านสายตาของเขาเลย มีเพียงเซลีนนางเอกของเรื่องเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้มิคาเอลอยากครอบครอง มิกาเอลหลงใหลเซลีนหลังจากงานฉลองครองราชกษัตริย์แคลบอร์นเมื่อปีก่อน เขาพบกับ เซลีนด้วยความบังเอิญในตอนนั้นอาการเจ็บป่วยของเขากำเริบทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เซลีนที่มีพลังเยียวยาช่วยเหลือเขาให้อาการสงบลง ท่าทางอ่อนโยน และการรักษาอาการเจ็บปวดนั้นได้ทำให้เขาสนใจในตัวเซลีนทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยายามตามหาว่าเซลีนคือบุตรสาวตระกูลใด แต่พอเขาได้รู้ตอนนั้นเซลีนก็ได้คบหากับ องค์รัชทายาทแคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ แล้ว เขาโกรธมากที่ลาฟาซแย่งคนที่เขามุ่งหมาย เขาจึงพยายามที่จะเข้าหาเซลีน แม้จะทำให้ลาฟาซไม่พอใจก็ตาม นาเซียที่มองสถานการณ์ระหว่าดยุกมิกาเอล และองค์รัชทายาทแคลบอร์น เธอจึงใช้โอกาสนี้ในการให้ดยุกกาบริเอลเข้าหาเพื่อที่จะให้แย่งเซลีนไป ส่วนเธอก็จะได้ลาฟาซ พร้อมตำแหน่งอนาคตราชินีคนต่อไปมาเช่นกัน
“แหวนไปไหน” “คะ” หญิงสาวรีบหดมือหนีในทันที “พี่ถามว่าแหวนไปไหน” คริษฐ์ยังย้ำคำถามเดิมแล้วจ้องหน้าคู่หมั้นสาวแบบไม่พอใจ “คืออยู่ที่ออฟฟิศมันต้องล้างแก้วกาแฟบ่อย ๆ รุ้งก็เลยถอดเก็บเอาไว้ค่ะกลัวมันจะสึกเสียก่อน” คำตอบของหญิงสาวค่อยทำให้คริษฐ์รู้สึกผ่อนคลายลงเล็กน้อย “ถ้าถอดออกพี่จะถือว่ารุ้งขอถอนหมั้นพี่นะ” “ก็ไม่ได้ถอนสักหน่อย แค่ถอดเก็บเอาไว้เฉย ๆ” “งั้นก็ใส่เสียสิ เดี๋ยวนี้เลย” คริษฐ์ถลึงตาใส่แกมบังคับ “ใส่ก็ใส่ค่ะ” คนพูดตัดพ้อเล็กน้อย แล้วหันไปหยิบกระเป๋าด้านข้างมาเปิดเพื่อหยิบแหวนหมั้นของตนออกมาสวมใส่ จากนั้นก็หันหลังมือให้เขาดู “พอใจหรือยังคะ” “ดี” “ว่าแต่พี่คริษฐ์มานั่งรอรุ้งทำไมคะ มีธุระสำคัญหรือเปล่า” หญิงสาววกมาหาคำถามแรกที่เธออยากรู้ แต่เขาดันจุดประเด็นเรื่องแหวนขึ้นมาแทรกเสียก่อน “แม่ให้พี่มาหาคู่หมั้นตัวเองบ้าง” ฟังเขาพูดแล้วรุ้งพรายชักเครียดขึ้นมาหน่อย ๆ “ถ้าคุณป้าพิมพ์ไม่บอกพี่คริษฐ์ก็คงไม่มาหารุ้งใช่ไหมคะ” “แล้วทำไมรุ้งถึงไม่ไปหาพี่เองบ้างล่ะ” “ก็รุ้งกลัวพี่คริษฐ์รำคาญ” บทสนทนาสิ้นสุดลงด้วยความเงียบด้วยกันทั้งสองฝ่าย คริษฐ์ถอนหายใจเบา ๆ ส่วนรุ้งพรายก็ก้มหน้าต่ำลง ทำไมถึงได้รู้สึกอึดอัดอย่างบอกไม่ถูก “พี่ไลน์หาอ่านแล้วทำไมไม่ตอบ” คริษฐ์เป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนหลังจากเงียบมาเกือบหนึ่งนาที “พอดีรุ้งมาอ่านตอนดึกแล้วไม่อยากรบกวนพี่คริษฐ์ค่ะ” “ตอบมาสักคำก็ยังดี อย่าทำเหมือนพี่ไม่มีตัวตนนะรุ้ง จำเอาไว้ด้วยว่าพี่เป็นคู่หมั้นของรุ้ง” “มันไม่น่าจะเป็นแบบนี้นะคะพี่คริษฐ์” “อะไรกันที่ว่าไม่น่าจะเป็นแบบนี้” “รุ้งว่าเราถอนหมั้นกันดีกว่าไหมคะ ดูพี่คริษฐ์อึดอัดกับการหมั้นของเราเหลือเกิน ขนาดจะมาหารุ้งก็ต้องให้คุณป้าพิมพ์บังคับมาเลย” “แม่ไม่ได้บังคับพี่” “ไม่บังคับก็เหมือนบังคับนั่นแหละค่ะ ตั้งแต่ตอนเด็กแล้วพี่ คริษฐ์แทบไม่เคยขัดใจคุณป้าพิมพ์ได้เลย ถ้ามันเหนื่อยและยุ่งยากมากรุ้งขอถอนหมั้นไปเลยก็ได้ค่ะ” รุ้งพรายดึงแหวนออกจากนิ้วนางข้างซ้าย แล้ววางแหมะอยู่ตรงหน้าของเขา คริษฐ์มองแหวนมองคนแล้วอารมณ์ของเขาก็เดือดดาลขึ้น บทจะอยากได้ก็วิ่งตามติดเป็นเงา บทจะสลัดทิ้งก็ง่าย ๆ แบบนี้เหรอรุ้งพราย “ใส่กลับไปเดี๋ยวนี้” ชายหนุ่มแทบจะกัดฟันพูดออกมา “ไม่ค่ะ อ๊ะ! พี่คริษฐ์จะทำอะไรรุ้งไม่ใส่” รุ้งพรายถูกคริษฐ์กระชากมือมาแล้วจัดการสวมแหวนกลับที่เดิม “ใส่แล้วห้ามถอด ห้ามทำให้แม่พี่เสียใจรู้ไหม” “พี่คริษฐ์!” (รักร้ายจอมทระนง)
“ที่รัก ร่างกายของคุณหวานอร่อยไปทั้งตัว หวานจนผมหยุดกินไม่ได้ แล้วตอนนี้ผมหิวอีกแล้ว” ตฤณ ท่านประธานบริษัท วัย 37 ปี หนุ่มโสดหล่อ รวย พ่อบุญทุ่ม ถูกใจใครก็เปย์หนัก ไม่เว้นแม้แต่เลขาสาวสวยที่เขาบังคับมารับตำแหน่ง ด้วยวิธีแสนเจ้าเล่ห์แม้เธอไม่เต็มใจ แต่ในเมื่อเขา “อยากได้” วิธีสุดแสนร้ายกาจเขาก็งัดมาใช้ เพื่อให้ได้เธอมาครอบครอง ***** “ผมขับรถไปรับคุณได้ด้วยตัวเองเลย ไม่ได้ขู่ด้วย เอาให้รู้ไปทั้งบริษัทว่า... คุณเป็นคนของผม ผมมีรถให้เลือกนั่ง 10 คัน ลือกมาสักยี่ห้อเดี๋ยวขับไปหาครับ” “คุณมันบ้า อีตาผู้ชายบ้า เวรกรรมอะไรของฉันเนี่ย แล้วต้องมาอยู่ซอยเดียวกัน” “ท่านประธาน คำที่ถูกต้อง ตกลงขึ้นรถมาหรือยังครับปั้นหยา” “คอยดูนะ ถ้าฉันเจอหน้าคุณ...” “จะสมนาคุณผมด้วยจูบเหรอ” “คุณ!”
เพราะรักเขาตั้งแต่แรกเห็น หล่อนจึงยินยอมแต่งงานกับเขา เพราะถูกบังคับเขาจึงเห็นหล่อนเป็นเศษธุลีดินไร้ค่า แม้เป็นเมียแต่ง หล่อนคิดว่าสักวันหนึ่งเขาอาจจะรักหล่อนตอบกลับมา ไม่มาก... ก็น้อย แต่ไม่นึกว่าเมื่อเขาหลอกให้หล่อนรักเขาสุดหัวใจ เขากลับขับไล่หล่อนออกมาจากชีวิตด้วยเหตุผลว่า เขาไม่รักหล่อน... "เธอเข้ามาในชีวิตฉันง่ายๆ ก็ช่วยออกไปง่ายๆ ด้วยเถอะ" ถ้อยคำเจ็บปวดทำร้ายที่ตามมาหลอกหลอน แม้ในยามที่หล่อนหลีกลี้จากเขามาได้นานเนิ่น ในวันที่หล่อนเข้มเเข็งและอยู่ได้โดยไม่มีเขา ลูกในท้องที่หล่อนปกปิดเขาเอาไว้ กำลังจะทำให้หล่อนกับเขาหวนกลับมาเจอกันอีกครั้ง ในวันที่หล่อนไม่ได้รักเขาอีกต่อไปแล้ว ................................................................ “การแต่งงานของเราเกิดขึ้นเพราะฉันถูกบังคับ การที่ฉันไม่ได้รักเธอ มันไม่ใช่ความผิดของฉัน ฉันหวังว่าเธอจะเข้าใจ” ธีภพ วิชญ์วิศิษฐ์ “ความรักของมนอาจจะดูไร้ค่าแต่มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสิ่งเดียวที่มนพอจะให้คุณธีร์ได้ ที่ผ่านมาคุณธีร์แสดงออกเสมอว่าคุณธีร์ไม่ต้องการและทิ้งขว้างมันมาตลอด มันก็ไม่ใช่ความผิดของมนที่สุดท้ายมนจะหมดรัก มนหวังว่าคุณธีร์จะเข้าใจ เหมือนที่มนเคยเข้าใจคุณธีร์” มนพัทธ์ สว่างโชติ
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
ตอนเด็กถูกทอดทิ้งให้โดดเดี่ยว แม่ถูกทำร้าย ฉือเนี่ยนสาบานว่าจะเอาทุกอย่างที่เป็นของตัวเองกลับคืนมา!ครั้งแรกที่กลับมาที่เมืองจิง เธอถูกมองว่าเป็นผู้หญิงที่ไร้การศึกษาและสำส่อนหลายคนบอกว่าลู่เหยียนสือต้องตาบอดแน่ๆ ถึงได้มาสนใจฉือเนี่ยนแต่มีแค่ลู่เหยียนสือเท่านั้นที่รู้ ว่าเธอที่เขารักและทะนุถนอมนั้นมากความสามารถ สามารถสร้างความวุ่นวายให้ทั้งเมืองจิงได้ด้วยตัวคนเดียวเธอคือหมอมือหนึ่ง เธอคือแฮ็กเกอร์มือทอง และยังเป็นนักปรุงน้ำหอมชั้นยอดที่ได้รับการยกย่องจากบุคคลสำคัญคนภายนอก: "คุณลู่ คุณจะเอาใจภรรยาจนไม่มีขอบเขตเลยเหรอ ทำไมแม้แต่ประชุมยังต้องอุ้มเธอไว้ด้วย!"ลู่เหยียนสือ "ต้องเอาใจภรรยาถึงจะรุ่งเรืองเฟื่องฟู"ต่อมาความลับของเธอถูกเปิดเผย ทำให้ผู้คนนับไม่ถ้วนหันมาชื่นชมและยกย่องเธอ...
ลู่จื้อ อาศัยอยู่ในไต้หวัน เธอเป็นเจ้าของคาสิโนขนาดใหญ่ ที่ส่งต่อมาจากพ่อบุญธรรมที่รับเธอมาเลี้ยงจากบ้านเด็กกำพร้า เธอวางมือคืนอำนาจให้ญาติพี่น้องของพ่อบุญธรรม แต่พวกเขากลับตามฆ่าเธอ
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY