/0/13589/coverbig.jpg?v=d0818245e191ad0db973d33747c48579)
ทันทีที่ลืมตา เธอพบว่าตัวเองได้มาอยู่ในร่าง “นาเซีย” นางร้ายที่กำลังจะพบจุดจบ เพียงแค่อยากมีชีวิตรอดจนกว่าจะหาทางกลับโลกเดิมได้ แต่ทำทุกคนถึงได้มาวุ่นวายกับเธอกันจัง
~นำนางไปโยนไว้ที่สวน~
เสียงตะคอกที่ดังใกล้โสตประสาท หญิงสาวในชุดราตรีสีครามเธอพยายามที่จะยกเปลือกตาที่แสนจะหนักอึ่งของเธอขึ้นมองดู แต่มันยากเกินไป
‘เกิดอะไรขึ้นกับตัวเรากัน’ ความคิดสงสัยพลันผุดขึ้นในหัวของเธอ
~ นางงดงามราวเทพธิดา แต่นิสัยนางช่างร้ายกาจเกินไป~ เสียงหนึ่งดังขึ้นเช่นเดิม แต่น้ำเสียงกับผิดแผลกไปจากเมื่อครู่
~ในเมื่อองค์รัชทายาทไม่สนใจ งั้นพวกเราก็มอบความสุขนั่นให้นางไม่ดีกว่าเหรอ~
~ ใช่ข้าอยากจะรู้นักว่าท่าทางหยิ่งยโสของนางจะเป็นอย่างไร ในเมื่อพวกเรามอบความสำราญนั้นให้แก่นาง~ สิ้นเสียงพูดนั้น เสียงหัวเราะของเหล่าบุรุษก็ดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ
หญิงสาววัยเลยเลขสามเธอเพิ่งจะทิ้งศีรษะลงเตียงเพียงไม่กี่นาทีก่อน กลับได้ยินเสียงของใครบางคนที่ไม่คุ้นเคยดังขึ้นรอบ ๆ ตัวเธอ ทั้งตัวเธอเองยังรู้สึกเหมือนลากดึงจนเจ็บ แต่เธอไม่สามารถลืมตาได้นี่ซิ เธอจึงแยกไม่ออกว่าสิ่งนี้คือความฝัน หรือเธอกำลังถูกลักพาตัว แต่ถ้าถูกลักพาตัวใครกันที่ทำเรื่องแบบนี้ พ่อแม่เธอก็ไม่มีพวกเขาต้องการอะไรกันแน่ หญิงสาวพยายามที่จะลืมตาขึ้น จนในที่สุดความพยายามเธอก็สำเร็จ แต่สิ่งที่เห็นตรงหน้ากลับเป็นเหล่าบุรุษรูปร่างสูงใหญ่สวมเสื้อเกาะราวอัศวิน เธอมองพวกเขาอย่างไม่แน่ใจ
“ขะ..ขอโทษนะคะ พวกคุณเป็นใคร” เธอพยายามเปล่งเสียงเอ่ยถามพวกเขา แต่คนเหล่านั้นกลับหัวเราะใส่กับคำถามของเธอ
“ดูท่าเลดี้คงลืมไปแล้วกระมังว่าได้ทำสิ่งใดไว้ให้กับสตรีขององค์รัชทายาท” หญิงสาวขมวดคิ้วหมุน เธอไม่เข้าใจในสิ่งที่พวกเขาบอก จนเมื่อภาพหนึ่งพุ่งปรากฏในศีรษะเธอ มันเป็นภาพจากเว็บตูนที่เธอเพิ่งอ่านและวางมันลงก่อนหน้านี้ นาเซีย นางร้ายที่มีราชินีเป็นผู้ให้ท้ายนาง กำลังวางยาในแก้วไวน์ของเซลีนนางเอกของเรื่อง แล้วมันเกี่ยวอะไรกับเธอหรือเพราะเธอเพิ่งอ่านมันไปทำให้เธอเก็บมาอยู่ในฝัน
เธอลองกัดปากตนเองเพียงเล็กน้อย ความเจ็บที่ได้สัมผัสมันดูเกินจริง แววตากลมกวาดมองไปรอบ ๆ สวนดอกไม้ที่ประดับแสงไฟดูเพียง ริบหลี่และมืดจนสามารถช่วยอำพรางบุคคลเหล่านี้ให้กระทำผิดได้ ในความคิดเธอยังคงไม่แน่ชัดแต่เมื่อบุรุษสูงใหญ่นี้วางเธอลงเก้าอี้ตัวยาวในสวน เธอจึงรีบที่จะวิ่งออกจากตรงนั้นทันที
เพลี๊ยะ!! แรงฟาดจากฝ่ามือทำให้ใบหน้าของเธอรู้สึกชาหนึบ เธอแน่ชัดแล้วว่านี่คือสิ่งที่เธอกำลังเผชิญด้วยความจริง
“คิดจะหนีพวกเราไปไหน เลดี้ดาร์เรล” หนึ่งในทหารที่อุ้มเธอออกมากล่าวขึ้น พร้อมสีหน้าที่ดูน่าหวาดกลัว หากนี่คือการสลับร่างหรือทะลุมิติในตอนนี้ ตัวเธอคงอยู่ในร่างของ ดาร์เรล นาเซีย หญิงสาวที่มีใบหน้ายิ่งยโส และนิสัยร้ายกาจ แต่เธอจะทำยังไงดีล่ะ เพราะนิยายเรื่องนี้มันเป็นเรทสิบเก้า เธอคงต้องพยายามครองสติตัวเองให้ดีคิดหาทางออกจากสถานการณ์ที่เลวร้ายนี้เสียก่อน
เพราะแผนการชั่วร้ายของนาเซียคิดหวังจะวางยาปลุกอารมณ์ให้กับเซลีน และนำพาเธอไปมอบให้แก่ดยุกบริกาเอล ลูเซียง มิกาเอล ตัวร้ายชายที่ต้องการครอบครองเซลีนด้วยแต่นาเซียกลับคาดไม่ถึงว่าแผนการของเธอจะถูกองค์รัชทายาทจับได้ในขณะที่กำลังยื่นแก้วให้กับเซลีน องค์รัชทายาทอย่าง แคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ พระเอกของเรื่องจึงสั่งให้ทหารจับไวน์นั้นกรอกปากนางและนำไปโยนไว้ที่สวน แต่ทหารพวกนั้นกลับลงมือกระทำข่มขืนนาเซีย ทำให้เธอไม่สามารถสู้หน้าในสังคมได้ สุดท้ายนางจึงฆ่าตัวตาย
กลับมายังสถานการณ์ตรงหน้าเหตุการณ์เหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับนาเซียตัวจริง แต่กำลังเกิดขึ้นกับเธอ หญิงสาวมองเหล่าทหารนั้นที่พยายามจะเข้ามาลูบคล่ำเรียวขาเธอ จนรู้สึกขนลุกด้วยความหวาดกลัว เธอนึกได้ว่า นาเซีย นั้นได้นัดหมายดยุกกาบริเอลไว้อีกฝั่งของสวน ที่อยู่ติดกับปราสาทที่พักชั่วคราวของเขา
“..พี่คะ มะ ไม่ พวกท่านช้าก่อน” เธอเอ่ยขึ้นเมื่อนึกแผนที่จะหลบหลีสถานการณ์นี้ขึ้นมาได้ เธอคาดหวังว่ามันจะสำเร็จหากดยุกกาบริเอลพอจะเห็นใจช่วยเหลือนาเซียสักนิด
“ข้าว่าที่นี่มันไม่ค่อยสะดวกนัก หากเป็นเรือนกระจกฝั่งตรงข้ามสวนนี้พวกท่านคิดว่าไม่ดีกว่าหรือ” นาเซียยกมือลูบใบหน้าทหารหนึ่งที่กำลังลูบไล้เรียวขาของเธอ พวกเขายกยิ้มอย่างพอใจ
“ไม่เลว ข้าหวังว่าเลดี้จะสนุกสนานและดื่มด่ำความสุขในค่ำคืนนี้กับพวกเรา” พูดจบพวกเขาก็ประคองร่างที่ดูบอกบางของนาเซียขึ้น เธอรู้สึกถึงความร้อนที่ระบายออกมาจากตัว คงเป็นเพราะฤทธิ์ยาที่เธอดื่มเข้าไป มันช่างรุมร้อนเสียจนอยากจะปลดเปลื้องอาภรณ์เสียออกให้หมด แต่ในตอนนี้เธอต้องฝืนร่างกายนี้ไว้เสียก่อน
เรือนกระจกที่แยกออกมาไกลพอสมควร นาเซียกวาดสายตามองทั่วเรือนกระจก ‘หรือยังไม่ถึงเวลานัด’ เธอกลืนน้ำลายแห้ง ๆ ลงคอ ดูท่าร่างกายนี้จะทนกับฤทธิ์ยาไม่ไหว หากดยุกกาบริเอลยังไม่โผล่มาดูท่า เธอคงถูกทหารพวกนี้เล่นสนุกกับร่างกายของนาเซียเป็นแน่
“อะแฮ่ม เลดี้คาร์เรล ไม่คิดว่าท่านจะต้องพาเหล่าทหารมาอารักขาด้วย” มิกาเอลทักขึ้นจากทางด้านหลังเธอ นาเซียรีบใช้โอกาสนี้วิ่งไปหาเขา และกระซิบบอกมิคาเอลทันที
“ช่วยข้าด้วย” คิ้วหนากระตุกมองเธอ ก่อนจะหันไปมองเหล่าทหารพวกนั้น
“ออกไป ข้ามีธุระที่จะคุยกับเลดี้” เขาตวาดเสียงดังจนทหารเหล่านั้นต้องรีบวิ่งออกจากเรือนกระจก แม้เขาไม่เอ่ยเพียงแค่สายตาทุกคนต่างก็ย่อมหลบหลีกให้ ดยุกกาบริเอล ลูเซียง มิกาเอล ใคร ๆ ต่างก็รู้จักเขาดีในฐานะโล่แห่งจักรวรรดิหลานชายคนโปรดของกษัตริย์แคลบอร์น เดิมบิดาเขาคือกษัตริย์แคลบอร์น แต่เพราะร่างกายที่ไม่แข็งแรงทำให้เสียชีวิตลง อำนาจทุกอย่างจึงตกเป็นของน้องชายเพียงคนเดียวของเขา นั้นก็คือกษัตริย์แคล บอร์นองค์ปัจจุบัน แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็รักดยุกกาบริเอลมากพอ ๆ กับบุตรชายของเขา
นาเซียกอดตัวเองที่กำลังรุมร้อนเนื้อตัวเธอราวกับมีไฟอยู่รอบตัว เม็ดเหงื่อมากมายแทรกซึมเต็มใบหน้า เธอทิ้งตัวนั่งลงกองอยู่ที่พื้นก่อนจะใช้กำลังสุดท้ายที่เหลืออยู่เกาะขาของเขา
“ได้โปรด ช่วยพาข้าออกไปจากที่นี่ที” น้ำเสียงที่แหบแห้ง เธอพยายามที่จะเอ่ยขอร้องเขา ใบหน้าหน้าที่ดูเหมือนแสยะยิ้มกำลังจับจ้องท่าทางของเธอ นาเซียยกสองมือถึงขากางเกงของเขาอย่างยากลำบาก
“ขอร้องละ พาข้าออกไปจากที่นี่ก่อนแล้วข้าจะอธิบายให้ท่านดยุกได้ฟัง” เธอขอร้องเขา แววตากลมที่เปื้อนเปรอะไปด้วยคราบน้ำตา เธอพยายามอดทนกับความร้อนที่แผ่ออกมานี้สร้างความทรมานมากนัก
“ข้าเห็นแก่เลดี้ที่เคยช่วยข้าไว้บ้างหลอกนะ มิเช่นนั้นแล้วข้าคงมิคิดที่จะไล่พวกหิวกระหายพวกนั้นแน่” มิกาเอลมองออกตั้งแต่แรก เขารู้ว่านั้นคือเหล่าทหารชั้นล่างที่มักจะถูกเรียกใช้ยามที่ต้องทำงานสกปรก ไม่ต่างกับพวกรับจ้างทั่วไป เขาอุ้มร่างบางขึ้นก่อนจะเดินออกมายังปราสาทรับรองของเขา สถานที่ที่ใกล้ที่สุดในตอนนี้ นาเซียที่ถูกอุ้มขึ้นแนบสัมผัสกับแผลงอกกำยำของเขา ร่างกายเธอก็ยิ่งร้อนมากขึ้น ใบหน้าเรียบนิ่งแววตาคมดุริมฝีปากยักโค้งเหยียดตรง ปลายจมูกที่ดูเชิดรั้น นาเซียจ้องมองราวอยากสัมผัส
“เตรียมน้ำเย็นให้เลดี้” เสียงเขาสั่งสาวใช้ในปราสาทก่อนจะอุ้มเธอเข้าไปยังห้องหนึ่ง ก่อนจะวางตัวเธอไปกับที่นอนกว้าง
“อืมมม” นาเซียใช้โอกาสที่เขากำลังวางตัวเธอลงคว้าคอเขาโน้มลงจูบริมฝีปากยักโค้งนั่น
ผลั๊ก!! ยังไม่ทันที่โน้มน้าวอารมณ์ในตัวเขา ตัวเธอกระเด็นลงที่นอนอย่างเต็มแรง มิกาเอลผลักเธอออกทันทีที่เธอจูบสัมผัสริมฝีปากของเขา
“ไร้มารยาท เลดี้ควรหักห้ามอารมณ์ตนเองด้วย” เขาลุกพรวดขึ้นจ้องมองเธอราวกับจะฉีดเธอออกเป็นชิ้น ๆ แม้เขาจะรู้ดีว่าอาการที่นางกำลังเป็นคงเกิดจากถูกบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดความร้อนขึ้นได้ นาเซียไม่แปลกใจเลยที่เขาผลักไสเธอราวกับรังเกลียด เพราะนาเซียนั้นร้ายกาจไม่น้อยไปกว่าแม่มดชั่วร้าย อีกทั้งต่อให้นาเซียเป็นสตรีที่งดงามแต่กับเขาแล้วความหลงใหลนั้นไม่เคยพลาดผ่านสายตาของเขาเลย มีเพียงเซลีนนางเอกของเรื่องเพียงคนเดียวที่สามารถทำให้มิคาเอลอยากครอบครอง มิกาเอลหลงใหลเซลีนหลังจากงานฉลองครองราชกษัตริย์แคลบอร์นเมื่อปีก่อน เขาพบกับ เซลีนด้วยความบังเอิญในตอนนั้นอาการเจ็บป่วยของเขากำเริบทำให้เขาไม่สามารถควบคุมตัวเองได้ เซลีนที่มีพลังเยียวยาช่วยเหลือเขาให้อาการสงบลง ท่าทางอ่อนโยน และการรักษาอาการเจ็บปวดนั้นได้ทำให้เขาสนใจในตัวเซลีนทันที หลังจากนั้นไม่นานเขาก็พยายามตามหาว่าเซลีนคือบุตรสาวตระกูลใด แต่พอเขาได้รู้ตอนนั้นเซลีนก็ได้คบหากับ องค์รัชทายาทแคลบอร์น ลูเซียง ลาฟาซ แล้ว เขาโกรธมากที่ลาฟาซแย่งคนที่เขามุ่งหมาย เขาจึงพยายามที่จะเข้าหาเซลีน แม้จะทำให้ลาฟาซไม่พอใจก็ตาม นาเซียที่มองสถานการณ์ระหว่าดยุกมิกาเอล และองค์รัชทายาทแคลบอร์น เธอจึงใช้โอกาสนี้ในการให้ดยุกกาบริเอลเข้าหาเพื่อที่จะให้แย่งเซลีนไป ส่วนเธอก็จะได้ลาฟาซ พร้อมตำแหน่งอนาคตราชินีคนต่อไปมาเช่นกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เจียงซุ่ยแต่งงานกับยู่จินเฉินมาเป็นเวลาสามปี เธอยอมทำงานบ้านทุกอย่างเพื่อเขา ทั้งซักผ้า ทำอาหาร และถูพื้น แต่ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้หัวใจของเขาสลายลงได้ เธอเริ่มตระหนักและตัดสินใจหย่ากับผู้ชายที่เธอรักสุดหัวใจมาเป็นเวลาสามปี เพื่อให้เขาได้ไปอยู่กับผู้หญิงที่เขารักจริง หลังจากที่เธอหย่าแล้ว คนในแวดวงไฮโซล้วนรอดูเรื่องตลกของเธอและล้อเล่นกับเธอว่า"เจียงซุ่ย ทำไมถึงหย่ากับคุณยู่น่ะ" เจียงซุ่ยยิ้ม"เพราะฉันจะกลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลไง ผู้ชายอย่างเขาไม่คู่ควรกับฉันหรอก" อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครเชื่อคำพูดของเธอ วันรุ่งขึ้น ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดในโลกปรากฏตัวในข่าวและกลายเป็นว่าเป็นภรรยาเก่าขอยู่จินเฉินด้วย ทุกคนล้วนตกตะลึงไปหมด เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้งหลังจากการหย่าร้าง ยู่จินเฉินมองไปที่ผู้หญิงที่ร่ำรวยที่สุดคนนั้นซึ่งกำลังถูกรายล้อมไปด้วยหนุ่มหล่อไฮโซมากมาย ใบหน้าของเขาก็มืดมนลงทันที "คุณเจียง คุณรวยขนาดนี้ ควรหาแฟนที่มีฐานะเสมอกันสิ อย่างผมนี่ ผมยอมให้ทุกอย่างที่ผมมีให้คุณนะ"
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เพิ่งหย่ากับอดีตสามีไปไม่นานแต่ปรากฏว่าตัวเองท้อง จะทำอย่างไรดี? หรือจะให้อดีตสามีรับผิดชอบ แต่ก็ไม่คิดว่าอดีตสามีมีคนรักใหม่ไปแล้ว ชีวิตของถังชีชีนั้นช่างสับสน ช่างน่าวิตกกังวลและไม่รู้จะอธิบายยังไงดี เธอต้องคอยระวังไม่ให้คุณเฟิงรู้เรื่องการตั้งครรภ์จนกระทั่งคลอดลูกออกมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่คิดว่าจะถูกเขาบังคับถึงเพียงนี้ "เราหย่ากันแค่สี่เดือน แต่เธอกลับตั้งครรภ์ได้เจ็ดเดือนแล้ว บอกมาดี ๆ ว่า ลูกเป็นของใคร!"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ