เพราะคำมารดาโจวหลิวหยางต้องรับกูหลี่เอ๋อร์เป็นพระชายาทั้ง ๆ ที่เขามีสตรีที่อยู่ในใจขณะที่กูหลี่เอ๋อร์มีใจให้กับเขาตั้งแต่ยังเด็กเขาและนางจะทำเช่นใดเมื่อหนึ่งคนมีใจอีกหนึ่งคนกลับเฝ้าคำนึงหาถึงผู้อื่น คำชี้แนะ นิยายเรื่องนี้ เป็น 1 ในซีรีส์ นิยาย ฮองเฮาไม่ได้ร้าย ภาคของบุตรชาย โจวหลิวหยาง สามารถอ่านแยกกันได้เนื้อหาไม่ได้เกี่ยวข้องกันค่ะ ทั้งนี้นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายเบา ๆ ปมไม่หนัก โปรดโหลดตัวอย่างก่อนอ่าน
ชีวิตของกูหลี่เอ๋อร์ตั้งแต่เกิดมาหากจะนับว่าโชคร้ายที่สุดก็ว่าได้ หรือหากจะนับว่าโชคดีที่สุดก็สามารถพูดได้เต็มปาก เพราะนางเป็นเด็กกำพร้าไร้ซึ่งบิดามารดายังถูกญาติผู้หนึ่งนำมาเลี้ยงดู ญาติผู้นั้นของนางเป็นถึงฮูหยินของเจ้าเมืองผู ชีวิตของนางจึงนับว่าสุขสบายตามแบบฉบับคุณหนูผู้หนึ่ง ทว่าต่อมาไม่นานเจ้าเมืองผูผู้นั้นกลับทำเรื่องต่ำช้า คิดก่อกบฏ จนถูกทางการจับกุมตัวและสังหาร
ครานั้นจวนเจ้าเมืองผูถูกไฟไหม้คนในจวนสิ้นชีพ โชคดีนางยังรอดชีวิตได้สหายของญาติผู้นั้นช่วยเหลือ กูหลี่เอ๋อร์กลายเป็นเด็กกำพร้าอีกครั้ง นางสิ้นไร้หนทางสูญสิ้นคนในครอบครัว หากเป็นคนทั่วไปก็นับว่าชะตากรรมนี้ช่างน่าสงสารนัก ทว่าวาสนาของนางกลับพลิกผันเมื่อสหายของญาติผู้นั้นกลับมีฐานะเป็นถึงฮองเฮาของแคว้นฉิน
กูหลี่เอ๋อร์บัดนี้จึงกลายเป็นหลี่เอ๋อร์จวิ้นจู มีฐานะเป็นองค์หญิงผู้สูงศักดิ์ อีกทั้งนางยังรั้งตำแหน่งคู่หมั้นขององค์รัชทายาทโจวหลิวหยางผู้ที่จะเป็นฮ่องเต้ครองแคว้นในอนาคต เช่นนี้แล้วนับว่ากูหลี่เอ๋อร์มีวาสนาสูงส่งเป็นหงส์ฟ้าเหนือสตรีใดในโลกนี้ก็ว่าได้
ในอดีตนางได้พบกับโจวหลิวหยางครั้งแรกเมื่ออยู่ในจวนอดีตเจ้าเมืองผู เมื่อตอนที่โจวหลิวหยางติดตามฮองเฮาหลิวฉูฉู่ไปพร้อมกับฝ่าบาท
สิ่งที่นางจำได้ไม่มีวันลืม คือโจวหลิวหยางผู้ใจดีและเครื่องบินกระดาษของเขาที่ทำให้นางยิ้มได้
บุรุษผู้นี้ช่างอ่อนโยนยิ่งนัก แน่นอนว่าตั้งแต่นั้นกูหลี่เอ๋อร์ก็มอบหัวใจทั้งหมดของตัวเองให้เขาไปแล้ว แต่นางได้แต่เก็บงำความรักนี้เอาไว้ในใจ ไม่เคยเปิดเผยให้ผู้ใดได้ล่วงรู้ มิหนำซ้ำนางยังแอบคิดว่าโจวหลิวหยางเองก็อาจจะมีใจให้นางเช่นกัน
เพราะคำสั่งของฮองเฮา กูหลี่เอ๋อร์ในฐานะหลี่เอ๋อร์จวิ้นจู ที่แต่เดิมช่วยดูแลกิจการค้าขายไกลถึงเมืองผูจึงได้กลับมาเพื่อเตรียมเข้าพิธีอภิเษกสมรส นางทั้งตื่นเต้นและยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะตั้งแต่วันที่ประกาศหมั้นหมายนางก็ถูกส่งตัวกลับมาเมืองผูเพื่อดูแลกิจการค้าขายลับของฮองเฮาหลิวฉูฉู่เช่นเดิม
กระทั่งสองปีต่อมาเมื่อนางมีอายุได้สิบแปดปีวันอภิเษกสมรสเป็นพระชายารัชทายาทของนางก็ได้กำหนดขึ้นแล้ว หนึ่งปีต่อจากนี้นางจำต้องเข้าพิธีแต่งงาน เพราะฉะนั้นบัดนี้นางต้องเข้าวังหลวงเพื่อฝึกฝนตัวเองเพื่อรับตำแหน่งพระชายาองค์รัชทายาท
ทว่าเมื่อได้พบหน้ากันกูหลี่เอ๋อร์กลับสัมผัสถึงความห่างเหินและเย็นชาของว่าที่สามีในอนาคต บุรุษที่เพียงมองผ่านหน้าและไม่ชายตาแลนางแม้แต่น้อย
หลังจากเข้าเฝ้าฝ่าบาทและฮองเฮาเพื่อร่วมโต๊ะเสวยแบบครอบครัวนางก็ถูกฮองเฮารั้งตัวเอาไว้
หลิวฉูฉู่บัดนี้มีอายุใกล้จะสี่สิบปีแล้ว ทว่านางยังคงเป็นสตรีใบหน้าอ่อนเยาว์และงดงามเฉกเช่นสาวน้อย ด้วยนิสัยร่าเริงและลักษณะเฉพาะของนางทำให้ฮ่องเต้โจวจื่อเหลียงไม่ยอมรับพระสนมคนใดเลยแม้แต่คนเดียว
และเพราะนางธรรมเนียมปฏิบัติในรัชสมัยของฝ่าบาทโจวจื่อเหลียงก็เริ่มเปลี่ยนไป ขุนนางคนใดที่มีภรรยามากเกินไปก็คล้ายจะถูกดูแคลน เพราะแม้แต่โอรสสวรรค์ยังรักหมั่นในสตรีเพียงคนเดียว
หลิวฉูฉู่ก็หวังว่าบุตรชายของนางจะเป็นเช่นสามีของตน ไม่ต้องการให้โจวหลิวหยางมีสตรีอื่นให้กูหลี่เอ๋อร์เสียใจ
ณ ตำหนักชมสวน
ไอน้ำพวยพุ่งเป็นสายออกมาจากกาต้มชาขนาดเล็กที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ หลิวฉูฉู่รินชาให้บุตรชายและบุตรสาวบุญธรรมที่อีกไม่นานก็จะกลายมาเป็นลูกสะใภ้ด้วยใบหน้าระบายไปด้วยรอยยิ้ม
"ชานี่เป็นของดีจากประเทศอังกฤษ เป็นของที่แม่สั่งหลี่เอ๋อร์เอาไว้ว่าให้หามาให้ สุดท้ายก็หามาจนได้ ไม่มีใครเก่งเท่าหลี่เอ๋อร์ของแม่แล้ว"
เพราะหลิวฉูฉู่เป็นคนที่มาจากโลกอนาคต นางจึงรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี และได้สั่งสอนกูหลี่เอ๋อร์เอาไว้ ในขณะที่กูหลี่เอ๋อร์รับน้ำชามาจากมือของหลิวฉูฉู่กล่าวขอบพระทัย จากนั้นหลิวฉูฉู่ก็รินน้ำชาให้บุตรชาย โจวหลิวหยางรับไป หลิวฉูฉู่มองหน้าคนทั้งสองเอียงคอถามด้วยน้ำเสียงไพเราะอ่อนโยน
"อร่อยหรือไม่ รสชาติเป็นอย่างไร"
กูลี่เอ๋อร์ตอบว่า
"ดื่มแล้วชื่นใจยังมีรสหวานติดอยู่ที่ปลายลิ้นเพคะ"
หลิวฉูฉู่หันมามองบุตรชาย
"แล้วหยางเอ๋อร์เล่าเจ้าว่าเป็นอย่างไร ชอบหรือไม่"
โจวหลิวหยางพยักหน้ารับ
"ชอบพ่ะย่ะค่ะ รสชาติหวานติดปลายลิ้นอย่างที่น้องหลี่เอ๋อร์กล่าว ยังชุ่มคอเป็นอย่างยิ่ง"
หลิวฉูฉู่อมยิ้ม จู่ ๆ ก็ถามคำหนึ่งออกมา
"ชอบชาแล้วชอบคนที่นำชามาหรือไม่"
จากนั้นก็มองหน้าบุตรชาย ในขณะที่กูหลี่เอ๋อร์ใบหน้าแดงซ่าน นางก้มหน้าเล็กน้อยพร้อมกับกำมือแน่น
โจวหลิวหยางถูกมารดาคาดคั้นด้วยสายตา เขาไม่อาจไม่ตอบ แต่ไม่รู้ว่าจะใช้คำพูดเช่นไร
"เสด็จแม่ คำถามนี้ไม่สมควรถามต่อหน้าให้คนเขินอาย น้องหลี่เอ๋อร์เป็นสตรีนะพ่ะย่ะค่ะ"
"แม่ถามเจ้า ไม่ได้ถามนางเสียหน่อย หยางเอ๋อร์เจ้าว่านางเป็นอย่างไร คิดอย่างไรก็พูดตามนั้น แม่ไม่ชอบบังคับใครลูกก็รู้ ไม่นานพวกลูกสองคนต้องเข้าพิธีสมรส หากสองคนไม่ชอบกันแม่จะได้มองหาคนอื่นให้ที่เจ้าพึงใจแยกพวกเจ้าออกจากกันเสีย การแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รักแม่ไม่เห็นด้วยอยู่แล้ว พวกเจ้าจะทุกข์ใจกันเปล่า ๆ"
โจวหลิวหยางเอ่ยถาม
"แล้วเสด็จพ่อเล่า และขุนนางพวกนั้นอีก"
หลิวฉูฉู่หัวเราะเสียงใส
"การแต่งงานลูกข้าทั้งสอง เกี่ยวอันใดกับคนนอกพวกนั้น เสด็จพ่อของเจ้ายิ่งไม่ต้องห่วง เรื่องนี้ล้วนเป็นแม่ที่ตัดสินใจเพียงคนเดียว"
โจวหลิวหยางย่อมรู้ เสด็จพ่อตามใจเสด็จแม่เพียงใด ในขณะที่เขารู้ดีว่าเสด็จแม่ดีต่อเขามาก เขาจึงเกิดอาการอึกอักไม่รู้จะตอบเช่นใด
คนที่อยู่ในใจของเขานั้นหรือ... เขาไม่กล้าเอ่ยและไม่เอื้อมอาจคิดกับนางไปมากเกินกว่าน้องสาว
เขาย่อมรู้ว่ามารดารักและหวังดีกับเขาเพียงใด มารดาของเขาผู้นี้ แม้จะเป็นเพียงมารดาเลี้ยงแต่ก็คือคนที่รักเขาด้วยใจจริง ทั้งยังช่วยให้เขารอดพ้นจากความตาย บุญคุณและความรักนี้ต่อให้ต้องใช้ชีวิตตอบแทน โจวหลิวหยางก็ยังคิดว่าน้อยเกินไป ในที่สุดก็ตอบส่ง ๆ ออกไปว่า
"น้องหลี่เอ๋อร์ดียิ่งพ่ะย่ะค่ะ"
หลิวฉูฉู่ยิ้ม ถามจี้เข้าไปอีกครั้ง
"ที่ว่าดี ดีตรงที่ใด หน้าตาหรือ"
"หน้าตานางงดงามพ่ะย่ะค่ะ"
"แล้วนิสัยล่ะ เจ้าชอบหรือไม่ ในแคว้นฉินมีคนงามมากมายแต่คนที่จะมาเป็นภรรยานิสัยย่อมต้องถูกใจเจ้าเสียก่อนจึงจะแต่งงานอยู่กินฉันสามีภรรยาได้"
โจวหลิวหยางยิ้มบาง แต่หลิวฉูฉู่ก็รู้ว่ารอยยิ้มนี้มีไว้เพื่อเอาอกเอาใจนางเท่านั้น มิได้แสดงออกมาด้วยความจริงใจเลยแม้แต่น้อย
"นิสัยนับว่าดีมากพ่ะย่ะค่ะ"
หลิวฉูฉู่ถอนหายใจ นางเลี้ยงโจวหลิวหยางมาจนโต ไยนางจะไม่รู้ว่าบัดนี้บุตรชายของนางคิดอย่างไร การแต่งงานในครั้งนี้เขาแต่งเพราะนางจัดสรรให้ก็เท่านั้น
ในขณะที่กูหลี่เอ๋อร์คิดอย่างไร หลิวฉูฉู่เองก็รู้ สตรีนางนี้มีใจให้บุตรชายของเขาจนเต็มเปี่ยม ไม่ต้องถามให้เมื่อยปาก และกูหลี่เอ๋อร์ยังมุ่งมั่นที่จะทำให้โจวหลิวหยางรักนางในสักวันหนึ่ง
แต่ว่า สักวันหนึ่งของกูหลี่เอ๋อร์เมื่อไหร่จะมาถึงกัน
หลังจากนั้นหลิวฉูฉู่ก็ลุกขึ้น นางกำนัลรีบมาพยุงหลิวฉูฉู่เอ่ยว่า
"พวกเจ้าสองคน ไม่ได้พบกันนานเช่นนั้นก็พูดคุยเพื่อให้คุ้นเคยกันเถิด"
ราวกับอยู่ในห้วงแห่งความฝัน เมื่อในที่สุดกูหลี่เอ๋อร์ก็ได้อยู่เพียงลำพังกับบุรุษที่ตนเองเฝ้าคิดถึงมาเนิ่นนาน แม้นางจะสวมใส่อาภรณ์ที่อบอุ่นทว่ากลับรู้สึกถึงมืออันเย็นเฉียบของตนเองและหัวใจที่เต้นระรัว นางยังคงนั่งก้มหน้ามือไม้แข้งขาคล้ายจะอ่อนแรง
เมื่อสักครู่จากคำถามของฮองเฮาและคำตอบขององค์รัชทายาท ทำให้กูหลี่เอ๋อร์แทบจะกลายร่างเป็นกุ้งต้มสุก ด้วยบัดนี้ร่างกายแดงก่ำไปทั้งตัว
ความจริงนางมิใช่สตรีขี้อาย เพราะคนที่เลี้ยงดูนางมาคือฮองเฮาหลิวฉูฉู่ผู้ไร้ยางอายผู้นั้น ทว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าเขากูหลี่เอ๋อร์กลับกลายเป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่เป็นตัวของตัวเองเลย
"เงยหน้าขึ้นเถิด เสด็จแม่ไม่อยู่แล้วเราสองคนไม่จำเป็นต้องแสดงงิ้วกันอีก"
น้ำเสียงทุ้มนั้นทำให้นางค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นช้า ๆ และหันไปมองเขา
"ท่านพี่หมายความว่าอย่างไรเพคะ"
"ข้ากับเจ้า เราสองคนแม้จะบอกว่าไม่ได้ถูกบีบบังคับ แต่ด้วยความรักที่มีต่อเสด็จแม่จึงไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ให้นางเสียใจ ดังนั้นก็นับว่าเราเป็นพวกเดียวกัน"
"ท่านหมายความว่าอย่างไร"
กูหลี่เอ๋อร์กะพริบตาปริบ ๆ มองเขาด้วยความสงสัย โจวหลิวหยางยกยิ้มเย็น ใบหน้าเรียบเฉย
"กูหลี่เอ๋อร์เจ้าไม่รู้จริง ๆ หรือ ว่าข้ามิได้ชอบเจ้าเลยสักนิด"
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
“พี่นุยังรักลินอยู่ไหม...” คำถามที่ไม่เคยคิดเคยฝันเลยว่าเธอจะต้องเป็นคนถามมันกับเขาดังขึ้น มันคือคำถามที่เธอไม่เคยอยากได้คำตอบ เพราะกลัวว่าถ้ามันเกิดไม่ตรงใจขึ้นมาเธอคงเจ็บปวดเจียนตายน่าดู แต่เธอทนไม่ไหวอีกแล้ว ทนอยู่กับความรู้สึกบ้าๆ พวกนี้ไม่ไหวแล้ว “ลิน ใจเย็นๆ แล้วฟังพี่ก่อน…” ปรเมศวร์เองก็เริ่มได้สติหลังจากได้เห็นแววตาที่อัดแน่นไปด้วยความปวดร้าวของอีกคนเข้า มันทำให้เขาคิดได้ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นต้นเหตุมันมาจากตรงไหน และก็เป็นเหมือนทุกครั้ง เขาเองที่ผิด ผิดที่พาช่อลดามาที่นี่
เส้าหยวนหยวนแต่งงานกับแม่ทัพเทพทรงพลังที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสจนส่งผลกระทบต่อทางจิตใจหลังจาดที่เธอย้อนเวลา เธอไม่ต้องการเข้าไปพัวพันกับการสมรู้ร่วมคิด และต้องการร่วมมือกับเขาเพื่อแสวงหาอิสรภาพ เธอก่อตั้งธุรกิจ รักษาโรคของคนไข้ และช่วยชีวิตผู้คน เป็นคนที่ยอดเยี่ยม กลายเป็นผู้ช่วยที่ดีของแม่ทัพ แต่ต่อมาแม่ทัพกลับคืนคำ ไหนตกลงไว้ว่าจะหย่าล่ะ?
เรื่องราวการผจญภัยของอดีตสายลับนักฆ่า ที่ทะลุมิติมาเป็นแม่ผู้ชั่วร้าย ทั้งยังต้องร่วมเดินทางกับเด็กน้อยผู้แสนใสซื่อในโลกที่ผู้คนใช้พลังลมปราณ อันตรายมีทั่วทุกหนแห่ง แล้วพวกเขาจะเอาชีวิตรอดได้หรือไม่?!