รูรักอันบริสุทธิ์เมื่อถูกปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มเป็นครั้งแรกดูเหมือนว่าจะตอบสนองได้เป็นอย่างดี ร่องของนางขมิบรัว สะโพกของนางยกขึ้นยังเด้งเข้าไปหาปากร้อน ฝ่าบาทเก่งกาจยังสามารถแยงลิ้นเข้าไปในรู อันซูเซี่ยถูกทาขี้ผึ้งหอมรอบปากทาง ขี้ผึ้งนี้นอกจากจะมีรสชาติดีส่งเสริมรสน้ำรักของนางแล้วยังมีคุณสมบัติอันวิเศษ แม้จะเป็นหญิงพรหมจรรย์ก็จะไม่รู้สึกเจ็บปวด และเผลอทำร้ายฝ่าบาทจนบาดเจ็บ อี้หลงดูดแบะขาของนางให้กว้างขึ้นแล้วรวบขึ้นไปให้ขาชี้ฟ้า จากนั้นมุดใบหน้าลงมาอย่างหลงใหล “หอมอร่อยเหลือเกิน รู้สึกเหมือนดื่มสุราไม่เมามาย อ้า ข้าชอบยิ่ง หอยของฮองเฮาช่างใหญ่โต ดูโคกเนื้อโยนีแทบจะล้นริมฝีปากของข้า สีแดงเช่นนี้คงไม่เคยผ่านสิ่งใดมาก่อน บริสุทธิ์ยิ่งนัก ซี้ด” นางดิ้นเร่าอยู่ในปาก ไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรนอกจากเชื่อฟังในคำของฝ่าบาท “อืม อร่อยยิ่งนัก อ้า ข้าไม่ไหวแล้วขอดูหน้าฮองเฮาของข้าหน่อยเถิด” ดูเหมือนว่าร่องรักของนางยังขมิบ นางไม่อยากให้เขาเงยหน้าขึ้นจากตรงนั้นด้วยซ้ำ อยากถูกปลายลิ้นเลียเช่นนั้นจนกว่านางจะได้รับการปลดปล่อย “อ้า ฝ่าบาทเพคะ อย่าหยุดเพคะ อื้อ” นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ มี 2 เล่มจบ เป็นนิยายแบบพล็อตอ่อน เน้นฉากรักบนเตียงของตัวละครเป็นหลัก เหมาะสำหรับผู้มีอายุ 25 ปีขึ้นไป ไม่เหมาะสำหรับสายคลีนใส ๆ นะคะ หากใครไม่ชอบอ่าน NC เยอะ ๆ กรุณาเลื่อนผ่าน เพราะเรื่องนี้เน้น NC เป็นหลักค่ะ ซีไซต์ นักเขียน
ณ แคว้นเหมิงอันกว้างใหญ่ หิมะกำลังโปรยปรายลงมาอย่างหนักกระทั่งสายลมยังแรงยิ่งทั้งพัดเอากิ่งไม้ปลิวมาเคาะหน้าต่างโรงเตี๊ยมที่อันซูเซี่ยนอนอยู่กระทั่งเกิดเสียงดัง
แม่นมเผิงซึ่งเป็นสตรีร่างท้วมลืมตาตื่นขึ้นมาเพราะเสียงอันดังสนั่นหวั่นไหวของกิ่งไม้ที่กระแทกบานหน้าต่างไม่หยุด
ยามนี้คงถึงเวลายามเหม่า[ ประมาณตี5]แล้วพวกนางต้องเร่งออกเดินทางตั้งแต่ฟ้ายังไม่สางจึงถือว่าเสียงดังนั้นช่วยปลุกนางให้ตื่นขึ้นพอดี
นางยันกายลุกขึ้นกระชับเสื้อนวมอุ่นพร้อมกับเก็บที่นอนของตนเองจนเรียบร้อยจากนั้นจึงค่อยย่องออกจากห้องเพื่อไปสั่งให้สาวใช้เตรียมน้ำอุ่นเพื่อรอปรนนิบัติให้องค์หญิงล้างหน้าถูฟัน
เพราะอากาศทั้งหนาวทั้งชื้นจึงทำให้รู้สึกไม่สบายตัวบัดนี้กระถางไฟในห้องก็ดับมอดใกล้จะหมดแล้วนางจึงไม่อยากรบกวนองค์หญิงของตนเองให้ตื่น อย่างน้อยให้องค์หญิงได้หลับตาเพิ่มอีกสักหน่อยก็ยังดี
ทว่าเท้าของนางยังไม่ทันก้าวพ้นประตูน้ำเสียงหวานปนแหบของอันซูเซี่ยพลันดังขึ้น
“แม่นมจุดเทียนเถิด ข้าตื่นแล้ว”
แม่นมเผิงเอ่ยด้วยสุ้มเสียงอ่อนโยนยิ่ง
“ไยรีบตื่นเล่าเพคะ เมื่อคืนกว่าพวกเราจะเดินทางมาถึงที่นี่ก็กินเวลาไปถึงดึกแล้ว”
“เสียงไม้กระแทกหน้าต่างดังเช่นนี้ข้าข่มตานอนไม่หลับ”
แม่นมเผิงหมุนกายกลับมา เพ่งดวงตามองเรือนร่างลาง ๆ ที่นอนอยู่บนที่นอนอุ่นก่อนจะเดินกลับไปหาหญิงสาวนางนั้นแล้วดึงผ้าห่มมาคลุมจนถึงปลายคาง ห่อตัวนางให้แน่นหนาขึ้น
“เช่นนั้นรอบ่าวสักครู่นะเพคะ ประเดี๋ยวบ่าวไปจัดเตรียมน้ำอุ่นเสียก่อน”
“อืม”
แม่นมเผิงลุกขึ้นจากนั้นจึงเดินไปจุดตะเกียงน้ำมันจนสว่างไปทั้งห้อง
บัดนี้จึงเผยโฉมหน้าดรุณีน้อยนางหนึ่งที่ใบหน้าเลอโฉมดุจดวงจันทร์ ผิวพรรณขาวประดุจหิมะ แม้ว่าสีหน้าจะขาวไร้เลือดฝาดด้วยเพราะเพิ่งตื่นนอนแต่กลับยิ่งขับเน้นความงดงามโดดเด่นของนางให้มากยิ่งขึ้น
ยามแม่นมเผิงกลับมาพร้อมสาวใช้อีกสามคนอันซูเซี่ยก็ลุกขึ้นนั่งและขดกายอยู่ในผ้าห่มท่าทางประดุจหนอนผีเสื้อตัวหนึ่งแล้ว
แม่นมเผิงยกมือทาบอกอุทานเสียงแผ่วเบา
“ตายแล้ว องค์หญิงมิอาจนั่งท่าไม่สำรวมนี้ได้นะเพคะ บ่าวสอนไปตั้งกี่ครั้งแล้ว”
อันซูเซี่ยถอนหายใจยาว ปล่อยให้บ่าวพวกนั้นปรนนิบัติตนล้างหน้าหวีผมทั้งเอ่ยด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
“ข้ายังจำได้ที่แม่นมสอนข้า แต่ยามนี้ยังไม่เข้าเมืองหลวงท่านก็ปล่อยให้ข้าเป็นอิสระเถิด หลังจากนั้นข้าคงไม่ได้ทำอะไรเช่นนี้อีกแล้ว”
แม่นมเผิงรู้สึกสงสารองค์หญิงน้อยของตนยิ่งนัก เพราะสองแคว้นต้องการเชื่อมสัมพันธ์ องค์หญิงอันซูเซี่ยซึ่งเติบโตมาในแดนสู่ซึ่งเป็นดินแดนแห่งสรวงสวรรค์อันเร้นลับจำต้องเข้าอภิเษกเพื่อเป็นฮองเฮาให้กับฮ่องเต้แคว้นเหมิงต้าหลง
หลังจากที่อ๋องผู้ครองแดนสู่บิดาขององค์หญิงอันซูเซี่ยพยายามถ่วงเวลามาเนิ่นนานจนกระทั่งองค์หญิงได้เข้าสู่วันสิบเจ็ดปีแล้วก็ไม่อาจรั้งเวลาเอาไว้ได้อีก ด้วยฝ่าบาทแคว้นเหมิงมีพระชนม์มายุถึงยี่สิบห้าพรรษาแล้วแต่กลับยังไม่มีบุตรกับนางสนมคนใด
แดนสู่นี้คนภายนอกแทบจะไม่รู้ว่า เป็นดินแดนที่เต็มไปด้วยภูเขาสูง มีอากาศหนาวตลอดทั้งปีและยังรายล้อมไปด้วยน้ำพุสวรรค์ที่เมื่อได้ดื่มกินยิ่งทำให้ร่างกายแข็งแรงทั้งยังมีใบหน้างดงามผิวพรรณอ่อนเยาว์อย่างที่ยากจะหาแดนใดเปรียบ
เดิมทีคนแดนสู่มักไม่นิยมแต่งงานกับคนต่างแคว้นเพื่อครองสายเลือดบริสุทธิ์เอาไว้ เป็นการยากมากที่พวกเขาจะยอมตอบรับการสู่ขอของคนจากแคว้นอื่น
และยังมีข่าวลือหนาหู ว่าสตรีแดนสู่นั้นใช้ชีวิตประดุจแม่ชีพวกนางเคยออกเรือนไปกับคนต่างแคว้นแต่เรื่องบนเตียงกลับจืดชืดยิ่งล้วนทำให้สามีเบื่อหน่ายสุดท้ายต้องหย่าร้าง
และความจืดชืดนี้มิได้มีเพียงลีลารักบนเตียง แต่ยังรวมไปถึงใบหน้าที่จืดชืดจนทำให้คนที่พบเห็นล้วนรู้สึกหมดอารมณ์สนุก
ดังนั้นไม่ว่าบุรุษใดล้วนไม่ต้องการได้คนแดนสู่เป็นภรรยา นอกจากบุรุษแดนสู่ด้วยกันเอง
ทว่ายามนี้ด้วยสัญญาหมั้นหมายที่อดีตฮ่องเต้ทำเอาไว้กับอดีตอ๋องของแดนสู่ในยามที่พวกเขาเคียงบ่าเคียงไหล่ออกรบเพื่อกำจัดศัตรูที่เข้ามารุกรานสองดินแดนในสนามรบจนกลายเป็นสหายร่วมสาบาน และทำสัญญาหมั้นหมายเอาไว้
ทว่าอดีตฮ่องเต้แดนสู่ที่มีพระชายาเพียงคนเดียวกลับไม่มีพระธิดา แต่สัญญานั้นยังคงผูกพันมาถึงฮ่องเต้คนปัจจุบันที่เป็นบิดาของอันซูเซี่ยที่ต้องส่งบุตรสาวของตนให้หลานชายที่ขึ้นเป็นฮ่องเต้แคว้นเหมิงโดยไม่อาจหลีกเลี่ยง
อันซูเซี่ยเป็นบุตรสาวคนเล็กจากทั้งหมดสามคนของอ๋องแดนสู่ พี่สาวของนางทั้งสองคนได้แต่งกับขุนนางคนสำคัญในแดนสู่ไปแล้ว เขาจึงจำต้องส่งบุตรสาวคนเล็กไปเป็นฮองเฮายังต่างแคว้นด้วยคราบน้ำตาด้วยคิดว่าบุตรสาวคนเล็กนั้นไร้เดียงสายิ่งนัก
นั้นตั้งแต่นางรู้ความก็ถูกส่งไปฝึกฝนการบำเพ็ญเพียรที่สำนักชีหุบเขาหนี่หวาอันเป็นหุบเขาที่สูงที่สุดในแดนสู่
การพบบุรุษของนางนั้นจึงแทบจะนับครั้งได้ ด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์นี้จึงยิ่งทำให้อ๋องเมืองสู่เป็นกังวลกับความไร้เดียงสาของบุตรสาวนัก เขากลัดกลุ้มจนกินไม่ได้นอนไม่หลับมาหลายวัน
นี่เป็นครั้งแรกที่องค์หญิงน้อยอันซูเซี่ยได้ออกจากหุบเขาอันงดงามของตนเอง นางต้องกลายมาเป็นฮองเฮาของฮ่องเต้หนุ่มผู้หนึ่งซึ่งนางไม่เคยเห็นเขามาก่อน แน่นอนว่านางนั้นย่อมตื่นเต้นปนหวาดกลัวด้วยไม่อาจระงับจิตใจได้
คำสั่งของมารดาของนางก่อนที่จะส่งนางขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวก็คือ ต่อไปสามีคือครอบครัวของนางแล้วดังนั้นขอให้นางจงเชื่อฟังสามีให้ดีที่สุด ตามหลักสี่คุณธรรมสามคล้อยตาม[ หลักสี่คุณธรรม สามคล้อยตาม หรือ 三从四德 คือ กรอบคุณธรรมที่ใช้ในการอบรมกุลสตรีชั้นสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดของขงจื่อ แบบเต็มๆ กล่าวคือ… ให้ความสำคัญกับลำดับขั้นชนชั้นในสังคม สถาบันครอบครัว และความสำคัญของเพศชาย]
“เพคะท่านแม่ลูกจะเชื่อฟังสามีตามคำที่ท่านแม่สั่งสอนเพคะ”
สตรีสองนางร่ำไห้ในวันจากลา และบิดาของนางก็ทอดสายตามองพระธิดาคนเล็กด้วยสายตาอาลัยอาวรณ์
“ไม่ต้องห่วงไปนะ พ่อได้ส่งจดหมายถึงฝ่าบาทโดยตรงให้ปกป้องคุ้มครองลูก หากมีผู้ใดทำให้เจ้าเดือดเนื้อร้อนใจให้เจ้ารีบส่งข่าวให้พ่อรู้ พ่อจะรับเจ้ากลับทันที”
“ลูกเข้าใจแล้วเจ้าค่ะ ขอท่านพ่อ ท่านแม่รักษาสุขภาพด้วยนะเจ้าคะ ลูกอกตัญญูต้องจากแดนไกลไม่มีโอกาสทดแทนคนท่านพ่อท่านแม่แล้ว”
✳✳✳หลักสี่คุณธรรม สามคล้อยตาม หรือ 三从四德 คือ กรอบคุณธรรมที่ใช้ในการอบรมกุลสตรีชั้นสูง ซึ่งถูกสร้างขึ้นภายใต้แนวคิดของขงจื่อ แบบเต็มๆ กล่าวคือ… ให้ความสำคัญกับลำดับขั้นชนชั้นในสังคม สถาบันครอบครัว และความสำคัญของเพศชาย
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ
เมื่อตอนเด็ก หลินอวี่เคยช่วยชีวิตเหยาซีเยว่ที่กำลังจะตาย ต่อมา หลินอวี่กลายเป็นพืชหลังจากประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เธอแต่งงานเข้าตระกูลหลินโดยไม่ลังเลใจและใช้ทักษะทางการแพทย์ของเธอเพื่อรักษาหลินอวี่ สองปีของการแต่งงานและการดูแลอย่างสุดหัวใจของเธอเพียงเพื่อตอบแทนบุญคุณ และเพื่อที่เขาจะให้ความสำคัญกับตัวเองบ้าง แต่ความพยายามทั้งหมดของเธอกลับไร้ประโยชน์เมื่อคนในใจของหลินอวี่กลับมาประเทศ เมื่อหลินอวี่โยนข้อตกลงการหย่ามาใส่เธออย่างไร้ความปราณี เธอก็รีบเซ็นชื่อทันที ทุกคนหัวเราะเยาะเธอที่เป็นผู้หญิงที่ถูกครอบครัวใหญ่ทอดทิ้ง แต่ใครจะไปรู้ว่า เธอคือ Moon นักแข่งรถที่ไม่มีใครเทียบได้บนสนามแข่งรถ เป็นนักออกแบบแฟชั่นที่มีชื่อเสียงระดับนานาชาติ เป็นอัจฉริยะของแฮ็กเกอร์ และเธอยังเป็นหมอมหัศจรรย์ระดับโลก... อดีตสามีของเธอเสียใจมากจนคุกเข่าลงกับพื้นขอร้องให้เธอกลับมา ผู้เผด็จการคนหนึ่งอุ้มเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาแล้วพูดว่า "ออกไป! นี่คือภรรยาของฉัน!" เหยาซีเยว่ "?"
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"