เขา…ชายหนุ่มที่อยู่บนโลกแห่งความจริง เธอ…หญิงสาวคลั่งหมอดู
เขา…ชายหนุ่มที่อยู่บนโลกแห่งความจริง เธอ…หญิงสาวคลั่งหมอดู
“เอาอันนั้นค่ะ” หญิงสาวบอกพนักงานในร้าน ยืนรอสักครู่กล่องของขวัญสีชมพูหวานแหววก็มาอยู่ในมือ เธอยื่นธนบัตรใบละพันให้คนขายสามใบแล้วก็ได้ใบสีแดงคืนมาสองใบ
“พี่บาสจะชอบไหมนะแต่ที่แน่ๆ พี่บาสไม่รู้หรอกว่าเพิ่งมาได้เอานาทีสุดท้ายเหมือนเดิม” เธอรำพึงกับตัวเองแล้วยิ้มแป้น ชายหนุ่มที่คบหาตั้งแต่มัธยมปลายจนตอนนี้ทำงานได้สองปีมักจะบ่นเสมอว่าเธอคือพวกที่ไม่มีแผนการในชีวิตชอบมาตัดสินใจตอนไฟลนก้นเกือบทุกครั้ง เธอพยายามวางแผนตามที่เขาบอกแต่ตลอดเจ็ดปีที่คบกันมันก็ไม่ค่อยสำเร็จเท่าไหร่ก็เธอเป็นแบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรจะให้เปลี่ยนเป็นคนเจ้าระเบียบมีแพลนทุกขั้นตอนในแต่ละวันมันไม่ง่ายเลย
พรุ่งนี้คือวันครบรอบเจ็ดปีเธอหวังตั้งแต่ตอนฉลองห้าปีว่าเขาจะขอแต่งงาน สมัยเรียนเขาบอกว่าพอมีฐานะมั่นคงก็จะให้เธอสวมชุดเจ้าสาวทันทีซึ่งเธอเห็นว่าเขาก็มั่นคงมาสองปีแล้วทั้งการงานและด้านอื่นๆ เขามีเงินเดือนหลักแสน มีรถยนต์หนึ่งคัน มีบ้านเดี่ยวเล็กๆ หนึ่งหลังแล้วก็มีคอนโดแถวชานเมืองเอาไว้ปล่อยเช่าอีกสองห้อง
สายตาคนภายนอกส่วนมากรวมถึงตัวเธอด้วยมองว่าเขาพร้อมจะลงหลักปักฐานสร้างครอบครัวแล้วด้วยวัยที่ย่างเข้าสามสิบห้าปีกับทรัพย์สินมูลค่าหลายล้าน ต้องรอให้พร้อมกว่านี้หรือ ? คำตอบคือใช่
“ขอพี่ซื้อคอนโดให้ได้ก่อนนะฝ้ายแล้วเราค่อยแต่งงานกัน ฝ้ายก็รู้ถ้ามีเงินนอนกินทุกเดือนไปยันแก่มันปลอดภัยกว่า” นั่นคือคำพูดของเขาตอนฉลองครบรอบห้าปี
“ไว้ปีหน้านะฝ้าย ปีนี้พี่อยากซื้อคอนโดอีกห้องมันเพิ่งขึ้นใหม่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าที่จะเปิดอีกสามปีข้างหน้าซื้อไว้ตอนนี้มีแต่ได้กับได้” นั่นคือคำพูดของเขาตอนฉลองครบรอบหกปี
ปุยฝ้าย ตุงสุวรรณในวัยเบญจเพสไม่เห็นข้ออ้างอะไรอีกในปีที่เจ็ดเพราะเขาก็เลิกเห่อเรื่องคอนโดมาเป็นปีแล้ว รถยนต์ก็เพิ่งถอยคันใหม่เมื่อเดือนก่อนส่วนคันเก่าก็ขายไป เธอคิดติดตลกว่าถ้าเขาจะผัดผ่อนการแต่งงานอีกก็คงเพราะต้องการซื้อกระสวยอวกาศเอาไว้เก็งกำไรแน่นอน
เธอเขย่ากล่องเล็กๆ แล้วก็อดยิ้มไม่ได้ มันคือพวงกุญแจทองคำขาวรูปหัวใจสองดวง ดวงแรกมีตัวบีและอีกดวงมีตัวเอฟ เธอหวังว่าเขาจะชอบเพราะมันหรูหราเหมือนทุกสิ่งในชีวิตเขา
วันครอบรอบเจ็ดปี
ปุยฝ้ายตื่นแต่เช้าแล้วลุกไปอาบน้ำ วันนี้น่าจะเป็นวันที่ความหวังตลอดสองปีคงจะเป็นจริงสักที หญิงสาวขัดสีฉวีวรรณทุกส่วนสัดของร่างกายด้วยความพิถีพิถันถึงแม้ว่าจะต้องไปทำงานก่อนก็ตามเพราะกว่าจะได้เจอคนรักก็ตอนค่ำแต่วันพิเศษก็ต้องพิเศษตั้งแต่ลืมตาและเธอจะพกอุปกรณ์อาบน้ำไปอาบที่โรงแรมหลังเลิกงานด้วย
ใครๆ มักคิดว่าปุยฝ้ายเป็นชื่อเล่นแต่มันคือชื่อจริงส่วนชื่อเล่นที่พ่อกับแม่เรียกก็คือฝ้ายแต่คนส่วนใหญ่ก็เรียกเธอว่าปุยฝ้ายกลายเป็นว่าเรียกกันซะเต็มยศเลยแต่เธอก็ไม่มีปัญหาอะไรจะเรียกสั้นเรียกยาวเธอก็ชอบอยู่ดีเพราะชื่อนี้ผู้มีพระคุณมอบให้เธอตั้งแต่เกิด
ปุยฝ้ายเกิดและเติบโตที่จังหวัดเชียงรายเธอเข้ามากรุงเทพตอนเรียนมัธยมต้นแล้วก็อยู่ที่นี่มาตลอดแต่ก็ยังกลับบ้านเกิดสม่ำเสมอ พ่อกับแม่ของเธอทอผ้าฝ้ายขายเพื่อส่งเสียให้ลูกสาวเพียงคนเดียวได้ร่ำเรียนสูงๆ นั่นจึงเป็นที่มาของชื่อและเธอรักผ้าฝ้ายยิ่งกว่าอะไร เสื้อผ้าส่วนมากแม่จะตัดเย็บแล้วส่งมาให้ซึ่งเธอรักษาและดูแลอย่างดีทุกชิ้นเวลาซักก็ซักด้วยมือไม่โยนลงเครื่อง
เรื่องนี้เป็นตลกร้ายระหว่างเธอกับคนรัก ช่วงแรกๆ ที่คบกันเขาบอกว่าเธอแต่งตัวเชยไม่เข้าท่าเพราะไม่ยอมใส่ของแบรนด์เนมหรือเสื้อผ้าตามร้านค้าทั่วๆ ไป พอเธอบอกว่าชุดนี้แม่เป็นคนทำให้ทุกขั้นตอนตั้งแต่เก็บฝ้าย นำมาปั่น ทอเป็นผืนแล้วตัดเป็นชุด เขาก็อึ้งไปแล้วก็ไม่เคยติเตียนอะไรอีกแต่สายตาของเขาก็บอกแทนทุกอย่าง ชุดบ้านๆ เชยๆ ไม่มีวันสวยงามเท่าชุดแบรนด์เนมราคาแพง
เธอยอมโอนอ่อนตามเขาหลายอย่างเช่นยอมไว้ผมยาวทั้งที่ชอบผมซอยสั้น ลดความกระโดกกระเดกลงเพิ่มความเป็นกุลสตรีให้มากขึ้นและอีกมากมายหลายข้อ ถ้าจะมาจำกัดการแต่งตัวอีกก็คงจะเยอะไปหน่อยและเขาก็รู้ดีว่าข้อนี้เธอไม่ยอมแน่ๆ แต่เขาไม่ได้มีแต่ข้อเสียหรอกนะถ้าเขาเป็นคนไม่ดีจะคบกันมาตั้งเจ็ดปีได้ยังไง
ข้อดีของเขาก็คือพูดเพราะ ใจเย็น ไปไหนด้วยกันเขาจะมารับมาส่งเสมอและไม่เคยให้ออกเงินสักบาทเขาบอกว่ามันคือหน้าที่ของผู้ชายที่ต้องดูแลผู้หญิงซึ่งเธอแพ้ให้กับคำพูดนี้ราบคาบ มันเป็นเหตุผลที่ทำให้ยอมเขาเกือบทุกอย่างเพราะถ้าเขาไม่รักจะมาทำแบบนี้ให้ทำไม
“แฮปปี้ แอนนิเวอซารี่จ้ะ” เข็มหอมหรือพี่เข็มของน้องๆ หัวหน้าแผนกต้อนรับ ทักทายเด็กสาวที่เดินยิ้มแป้นมาแต่ไกล
“ขอบคุณค่ะพี่เข็ม” ปุยฝ้ายกล่าวกับหัวหน้าแผนก เธอทำงานตำแหน่งพนักงานต้อนรับที่โรงแรมห้าดาวกลางเมืองกรุงมาได้สองปีกว่าแล้ว พี่ๆ ที่ทำงานด้วยน่ารักและใจดีกับเธอมาก
“ไปฉลองที่ไหนกันล่ะ” เข็มหอมถามไถ่ ที่เธอจำได้ว่าเป็นวันครบรอบของเพื่อนร่วมงานก็เพราะวันนี้เป็นวันแต่งงานของเธอด้วยแต่เธอแต่งมาห้าปีแล้ว
“บุรีธาราค่ะพี่เข็ม ดูจากในรูปสวยมากเลยอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา”
“น่าอิจฉาจัง เออ ! ปุยฝ้าย พี่ฝากดูแลก่อนนะ จะไปคุยกับแม่บ้านเรื่องจัดดอกไม้ต้อนรับลูกค้าที่มาจะมาค่ำนี้” เข็มหอมบอกลูกน้องแล้วเดินเลี่ยงออกมาเพราะไม่อยากให้เธอจับพิรุธได้
ผู้จัดการห้องอาหารบุรีธาราคือเพื่อนสนิทของเข็มหอม ทั้งคู่เพิ่งคุยกันวันก่อนว่าห้องอาหารคืนนี้โดนเหมาทั้งหมดเพื่อจัดงานแต่งให้ลูกค้าซึ่งมันเป็นเรื่องปกติมากแต่ที่ไม่ปกติก็คือ ทำไมแฟนของปุยฝ้ายถึงบอกว่าจองโต๊ะไว้กับร้านนั้นซึ่งมันเป็นไปไม่ได้เลยที่คืนนี้ทั้งคู่จะไปใช้บริการที่นั่น
ปุยฝ้ายทำงานด้วยความแช่มชื่นตลอดทั้งวันโดนไม่ได้สังเกตเลยว่าคนที่นั่งข้างๆ มีอาการกระสับกระส่ายอยู่ไม่สุข เข็มหอมอยากถามปุยฝ้ายเหลือเกินแต่คิดว่าไม่ควรทำให้เด็กสาวกังวลเกินไป บางทีปุยฝ้ายอาจฟังชื่อร้านผิดหรือแฟนหนุ่มอาจจะทำเซอร์ไพรส์ซ้อนเซอร์ไพรส์พาไปร้านอื่นแทนก็เป็นได้
“ไปเตรียมตัวเถอะปุยฝ้าย” เข็มหอมบอกพนักงาน
“เพิ่งสี่โมงเอง พี่เข็มลืมเหรอคะว่าฝ้ายเลิกงานห้าโมง”
“ไม่ได้ลืมจ้ะแต่อยากให้ไปแต่งตัวทำสวยก่อน ไปใช้ห้องน้ำในห้องประชุมได้เลยพี่อนุญาต”
“ขอบคุณค่ะพี่เข็ม” ปุยฝ้ายกอดเอวผู้จัดการใจดีแล้วหยิบข้าวของพุ่งตัวไปที่ห้องประชุมด้วยความรวดเร็ว ในใจยังอดคิดไม่ได้ว่าถ้าพี่บาสมาเห็นเธอวิ่งเป็นจรวดแบบนี้คงโดนเอ็ดเอาแน่ๆ
ปุยฝ้ายอาบน้ำใหม่อีกครั้งแถมยังเอาสครับเกลือกลิ่นวานิลลาสุดเซ็กซี่มาขัดจนทั่วแล้วทิ้งไว้สิบนาที พอล้างออกผิวกายทั้งตัวก็นุ่มเนียนและหอมเหมือนขนมหวานไม่มีผิด พี่บาสซื้อชุดอาบน้ำเซทนี้ให้ตอนวันวาเลนไทน์เธอยังจำได้ดีว่าการร่วมรักคืนนั้นเร่าร้อนขนาดไหนเพราะเขาคลั่งไคล้กลิ่นของมันเหลือเกิน
“Give your all to me. I'll give my all to you. You're my end and my beginning” เสียงเพลงรักหวานจับใจดังมาจากมือถือของปุยฝ้าย เธอวางขวดน้ำหอมลงแล้วรีบกดรับสายทันที
เริ่มต้นสายสนทนา
ปุยฝ้าย: สวัสดีค่ะพี่บาส (เสียงของเธอสดใสราวกับระฆังเงิน เขาคงมาถึงแล้วแน่ๆ)
บาส: ฝ้าย คือพี่…
ปุยฝ้าย: มีอะไรเหรอคะพี่บาส (ปกติพี่บาสเป็นคนพูดจาชัดเจนไม่มีมาอ้ำอึ้งให้เสียเวลา)
บาส: พี่ไปไม่ได้แล้วล่ะคืนนี้
ปุยฝ้าย: ทำไมคะ มีงานด่วนเหรอคะ ไม่เป็นไรค่ะไว้เราฉลองวันหลังก็ได้ (ใช่ว่าเขาไม่เคยเบี้ยวนัด เธอชินแล้ว)
บาส: เปล่าครับ พี่หมายถึงไปไม่ได้ตลอดไป
ปุยฝ้าย: ยังไงคะพี่บาส ฝ้ายไม่เข้าใจ
บาส: พี่เจอคนอื่นที่ดีกว่า พี่ขอโทษนะ
ปุยฝ้าย: พี่บาสอย่าล้อเล่นแบบนี้ค่ะ
บาส: พี่ไม่ได้ล้อเล่น พี่เจอคนที่เหมาะสมกว่า ขอโทษนะ
ปุยฝ้าย: พี่คบกับฝ้ายมาเจ็ดปี พี่ไปเจอคนอื่นตอนไหนคะ
บาส: เมื่อต้นปี ทางบ้านพี่เขาก็เห็นชอบด้วย เราจากกันด้วยดีนะ
ปุยฝ้าย: ไม่ ฮือๆๆ พี่บาสทำยังงี้กับฝ้ายไม่ได้ เรารักกันมาตั้งเจ็ดปีพี่เห็นคนอื่นเหมาะสมกว่าฝ้ายได้ยังไงรู้จักกันยังไม่ถึงปีเลยด้วยซ้ำ
บาส: ความรักมันไม่เกี่ยวกับเวลาหรอกฝ้าย แค่นี้นะ
ปุยฝ้าย: พี่บาส ฮือๆๆๆ ฝ้ายขอโทษ ฝ้ายจะปรับปรุงตัวให้ดีขึ้น อย่าทิ้งฝ้ายไป
บาส: ไม่ต้องหรอกฝ้ายเพราะพี่ไม่ได้รักฝ้ายแล้ว แค่นี้นะ
ปุยฝ้าย: พี่บาส อย่าเพิ่งวาง ฮือๆๆๆๆ
ปุยฝ้ายโทรกลับไปเป็นสิบๆ ครั้งก็โดนตัดสายทิ้งและสุดท้ายเขาก็ปิดเครื่อง หญิงสาวนั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตะวันลาลับขอบฟ้า ชุดเดรสสีหวานของแบรนด์เนมหรูหรายับยู่ยี่ ใบหน้าที่แต่งแต้มด้วยเครื่องสำอางเลอะเทอะไม่เหลือเค้าความงามแม้แต่นิด
“ปุยฝ้าย ยังอยู่ในนั้นรึเปล่า” เข็มหอมเข้ามาตรวจดูที่ห้องประชุมเพื่อความแน่ใจเพราะเธอยังไม่เห็นลูกน้องเดินออกไปเลย
“ปุยฝ้าย เปิดประตูให้พี่หน่อย” เมื่อได้ยินเสียงสะอื้นเข็มหอมก็แน่ใจว่าปุยฝ้ายยังอยู่ในนั้น
“พี่เข็ม ฮือๆๆๆ” ปุยฝ้ายโผเข้ากอดหัวหน้าแล้วร้องไห้สะอึกสะอื้นอีกเป็นชั่วโมง
“เชิญจ้ะ ตามสบายนะ” กอบสุขบอกด้วยเสียงสั่นๆ เพราะดำรงไม่ได้มาคนเดียวแต่พาเพื่อนมาอีกสองคน “คุณกอบจำเรื่องที่เคยบอกผมได้ไหมครับ” ดำรงถาม “จำได้จ้ะ เรื่องนั้นใช่ไหม” “คุณกอบต้องพูดให้ชัดเจนนะครับ กระซิบบอกผมคนเดียวก็ได้เพราะทุกอย่างจะเกิดขึ้นเพียงทางเดียวเท่านั้นคือคุณกอบยินยอม” “ฉันอยาก xxx” กอบสุขสูดลมหายใจเข้าปอดแล้วเชิดหน้าบอกอย่างมั่นใจ เธอต้องการมันและไม่ใช่เรื่องผิดบาปใดๆ ที่ผู้หญิงอยากทำแบบนี้ หากมันไม่เดือดร้อนใคร ทำไมจะทำไม่ได้ เพื่อนๆ ของดำรงไม่รีรอเมื่อคนชวนมาพยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต
♡ แรกๆ ก็เอ็นดู หลังๆ ก็อยากให้ดูเอ็น ♡ บางส่วนจากนิยาย: กิตตินอนมองเอมิลี่แต่งตัวอย่างเพลิดเพลินแล้วความคิดซุกซนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ไม่อยากให้เธอใส่เสื้อผ้าเลยให้ตายสิ อยากถอดเสื้อจัง อยากถอดกางเกงด้วย ชุดชั้นในก็ไม่ต้องใส่หรอกบดบังของสวยๆ ทำไม “แล้วพี่โก้ไม่แต่งตัวเหรอคะ” “แต่ง … แต่งครับ รอเดี๋ยวเดียวนะ” กิตติต้องหยุดความคิดฟุ้งซ่านลงก่อน “พี่โก้ไม่อยากไปใช่ไหมคะ” เอมิลี่เดินกลับไปหาคนที่ยังไม่ลงจากเตียง “อยากครับ ไปสิไปกันเลย พี่แต่งตัวอึดใจเดียวก็เสร็จแล้ว” “ไม่จริงหรอกค่ะ ทำอยู่ตั้งนานกว่าพี่โก้จะเสร็จ” คำเตือน: มีการสูญเสีย มีเหตุการณ์สะเทือนใจ
นั่งรีวิวนิยายอยู่ดีๆ จ้าวลี่หลินก็ทะลุมิติมาเกิดใหม่เป็นนางร้ายในนิยายตรงหน้า สวรรค์ข้าเพียงด่านางร้ายผู้นี้ไปสองสามประโยคเท่านั้น เหตุใดต้องกลั่นแกล้งกันถึงเพียงนี้ แล้วสามีผู้นี้มิใช่ว่าเขาคือแม่ทัพผู้เก่งกาจหรือไร เกิดอะไรขึ้นจึงได้มาเป็นชาวสวนแบบนี้ แต่ถึงจะถูกไล่ออกมาเป็นชาวสวนแล้วอย่างไร ไม่ได้เป็นขุนนางก็เป็นคนร่ำรวยได้ มีเงินย่อมมีอำนาจมิใช่หรือ แต่หากอยากกลับไปยิ่งใหญ่อีกครั้งก็ต้องฟังภรรยาอย่างข้า สามี...อยากรวยต้องช่วยข้าทำสวน
กลางวันอ่อนหวาน กลางคืนร้อนแรง นี่คือคำที่ลู่เยียนจือใช้เพื่อบรรยายถึงเธอ แต่หานเวยบอกว่าตัวเองมีชีวิตอยู่ไม่ถึงครึ่งปี ลู่เยียนจือกลับไม่ลังเลที่จะขอหย่ากับสือเนี่ยน “แค่ปลอบใจเธอไปก่อน ครึ่งปีข้างหน้าเราค่อยแต่งงานใหม่” เขาคิดว่าสือเนี่ยนจะรออยู่ที่เดิมตลอด แต่เธอได้ตาสว่างแล้ว น้ำตาแห้งสนิท หัวใจสือเนี่ยนก็แตกสลายไปแล้วด้วย การหย่าปลอมๆ สุดท้ายกลายเป็นจริง ทำแท้งลูก เริ่มต้นชีวิตใหม่ สือเนี่ยนจากไปโดยไม่หันกลับมาอีก แต่ลู่เยียนจือกลับเสียสติ ต่อมา ได้ยินว่าคุณชายลู่ผู้มีอิทธิพลนั้นก็อยู่นิ่งๆ ต่อไปไม่ได้ ขับรถเมอร์เซเดส-เบนซ์ไล่ตามเธออย่างบ้าคลั่ง เพียงเพื่อขอให้เธอเหลือบมองเขาอีกครั้ง...
เสิ่นสุยยินถูกบังคับให้ดำรงชีวิตในสถานะที่ด้อยกว่าตั้งแต่เด็ก การถูกกดขี่มาอย่างยาวนานไม่ได้ทำให้เธอสูญเสียความภาคภูมิใจในตัวเองแม้แต่น้อย การตกต่ำของตระกูลเสิ่นในสายตาของคนภายนอกดูเหมือนจะเป็นความเสื่อมของตระกูลสูงศักดิ์ แต่แท้จริงแล้วนี่เป็นโอกาสเดียวของเสิ่นสุยยินที่จะกลับคืนสู่ชีวิตใหม่ นางต่อสู้กับคนอื่นเพื่อแก้แค้นให้ท่านแม่ทว่ากลับไม่รู้ว่าทุกแผนการของนาง เขากำลังจ้องตามองอยู่ ลู่จินหวยให้นางหลอกใช้ตนเองเป็นประโยชน์ได้ตามอำเภอใจของนาง แต่ไม่เคยให้นางต้องเปื้อนเลือดแม้แต่นิด สิ่งที่เขาต้องการมีเพียงตัวนางเท่านั้น “เสิ่นสุยยิน ทางที่ดีเจ้าจะแกล้งทำไปตลอดชีวิต”
ในขณะที่เขาเฝ้ารักสตรีผู้นั้น ทว่าในขณะเดียวกันนางก็เฝ้ารอความรักจากเขาอย่างมีความหวัง 'ความรักทำให้คนโง่งม' คำกล่าวนี้ช่างเหมาะสมกับนางยิ่ง หรือชั่วชีวิตนี้ของนางจะเป็นได้เพียงอากาศ วนเวียนอยู่รอบกายแต่กลับไร้ค่าไม่มีตัวตน "พระองค์จะหันมาเหลียวแลหม่อมฉันบ้างได้หรือไม่ หม่อมฉันก็มีหัวใจไม่ต่างจากผู้อื่นเช่นกัน"
ไม่คิดว่าการพบกันครั้งแรกกับสามีที่แต่งงานกันสามปีจะเกิดขึ้นบนเตียง และหลังจากเกิดเรื่องฮั่วฮานยูไม่เพียงจำเธอไม่ได้ แต่กลับมองเธอว่าเป็นผู้หญิงที่ขายตัวเพื่อเงิน เกลียดเธออย่างรุนแรง ข้อตกลงการหย่าฉบับหนึ่ง เดิมทีซวี่อี้คิดว่าจากนี้เป็นต้นไปสองคนจะไม่มีทางมีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก แต่กลับไม่คิดว่าโชคชะตานำพาให้เธอได้กลายเป็นที่ปรึกษาด้านกฎหมายของบริษัทฮั่วซื่อ ทำให้เธอกลับมาเกี่ยวพันกับอดีตสามีอีกครั้ง รอจนฮั่วฮานยูจำซวี่อี้ได้ และอ้อนวอนให้เธออยู่ต่อ ซวี่อี้ก็ปัดมือของเขา และยิ้มอ่อน ๆ “คุณฮั่ว ตอนหย่าคุณไม่สนใจ ตอนนี้ฉันแค่ลาออก คุณร้องไห้อะไรกันคะ? ”
(คลื่นรักอสูร) ...เพราะเธอขึ้นเรือผิดลำ คลื่นร้ายจึงซัดแทบกระเจิง... “เธอมันก็แค่ผู้หญิงขายตัว จะมาทำเล่นตัวเรื่องมากไม่ได้รู้ไหม ต่อให้เป็นสินค้าด้อยคุณภาพยังไงก็เถอะ ก็ต้องหัดรู้จักตามใจแขกบ้าง แต่นี่อะไรหาเรื่องใส่ตัวแท้ ๆ คนสอนไม่บอกหรือยังไงว่าไอ้ละครเล่นตัวนี่มันน่ารำคาญไม่ได้ดึงดูดลูกค้าเลย” บารเมษฐ์ต่อว่าพร้อมกวาดสายตามองเหยียดหยามตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า ก่อนคลายมือออกจากปลายคางอย่างช้า ๆ “ฉันไม่ได้มาขายตัวสักหน่อย” คนได้รับอิสรภาพรีบบอกเขา “หืม” เขาทำหน้าไม่เชื่อ “ฉันแค่ขึ้นเรือผิดลำ ฉันไม่ได้มาขายตัวจริง ๆ คุณอย่าทำอะไรฉันเลยนะคะคุณบารเมษฐ์” วินาทีนี้เธอกลัวเขามากกว่าใครบนเรือลำนี้เสียอีก เลยเลือกที่จะบอกความจริงกับเขาไป “ขึ้นเรือผิดลำ?” คนพูดหรี่ตาลงอย่างสงสัย “ใช่ค่ะ ฉันขึ้นเรือผิดลำจริง ๆ” “แบบนี้นี่เอง มิน่าล่ะสองคนในห้องเครื่องนั่นถึงได้ลุกลี้ลุกลนนัก” บารเมษฐ์นึกไปถึงท่าทางของอนุชิตกับธาวิน ซึ่งดูเหมือนมีเรื่องเป็นกังวลอยู่ตลอดเวลา “คุณรู้แบบนี้แล้วก็ปล่อยฉันไปเถอะคุณบารเมษฐ์ อย่าทำอะไรฉันเลยนะคะ” นีนนาราขอความเห็นใจจากเขา แต่สายตาที่เขามองกลับมานั้นมันว่างเปล่าชอบกล “รู้อะไรไหมนีนเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดของฉันเลย เธอเป็นคนอยู่ผิดที่ผิดทางเอง เพราะงั้นเธอก็ต้องรับสภาพที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้เองเหมือนกัน” “ห้ะ คุณ นี่คุณ คุณทำไมเป็นคนไม่มีเหตุผลแบบนี้” หญิงสาวต่อว่าเขา ก่อนจะหน้าซีดหน้าเซียวลง เพราะเสียงหัวเราะเบา ๆ ในลำคอของเขาบ่งชัดว่าคืนนี้เธอไม่รอดแน่ “ปล่อยฉันนะ! ปล่อย!” นีนนาราดิ้นหนีเขาก็จับกดลงที่เดิม “งานก็คืองานนะคนสวย มาขายตัวก็คือมาขายตัว อย่าทำเสียเรื่องสินีน” บารเมษฐ์ย่อมเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งอยู่แล้ว เขาอยากรู้ว่าผู้หญิงคนนี้จะมาไม้ไหนอีกแน่ “ก็บอกว่าไม่ใช่ยังไงล่ะ ว้าย!”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY