เมื่อลลิตานั้นได้ย้อนเวลากลับไปในยุค 80 พร้อมกับหม้อสมบัติ และที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือเธออยู่ในร่างของนางร้าย
เมื่อลลิตานั้นได้ย้อนเวลากลับไปในยุค 80 พร้อมกับหม้อสมบัติ และที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือเธออยู่ในร่างของนางร้าย
ท่ามกลางบรรยากาศที่เย็นฉ่ำจากการเปิดแอร์ มีหญิงสาวนอนหลับอยู่บนเตียงหลังใหญ่ที่อยู่ในห้องของคอนโดแห่งหนึ่งของเมืองหลวงประเทศK หญิงสาวคนหนึ่งที่นอนหลับอยู่อย่างมีความสุขแต่เธอก็ต้องตื่นขึ้นมาเพราะได้ยินเสียงของโทรศัพท์มือถือของตัวเองที่มีข้อความส่งเข้ามาติดต่อกันไม่หยุดจากแอปพลิเคชั่นดังที่กำลังฮอตฮิตอยู่ในตอนนี้
" ติ้ง ๆๆๆ "
" อืม~ คนจะหลับจะนอนส่งข้อความอะไรมาอยู่ได้น่ารำคาญ " ลลิตาที่นอนอยู่บนที่นอนก็ตื่นขึ้นมาอย่างงัวเงียหลังจากนั้นเธอก็บ่นออกมาอย่างอดไม่ได้ เพราะการนอนสำหรับเธอนั้นเธอคิดว่ามันสำคัญที่สุดสำหรับเธอแล้ว
เนื่องจากเธอมีอาชีพที่วาดรูปและทำงานเกี่ยวกับพวกศิลปะมันก็เลยทำให้เธอมักจะชอบทำงานข้ามวันข้ามคืนทำให้เธอมักจะมีเวลาที่พักผ่อนน้อยเอามากๆ เพราะแบบนี้เธอถึงคิดว่าเรื่องการนอนถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเธอมากจริงๆ
ลลิตาปลดล็อคมือถือของตัวเองแล้วก็กดไปดูในข้อความที่เห็นว่ามิ้นเป็นคนส่งมาให้เธอ
" ตาแกเห็นข้อความที่ฉันส่งไปให้ดูหรือยังแกเห็นรูปนั้นหรือเปล่า พี่กันผู้ชายของเธอยังอยู่กับแฟนเก่าของเขาอยู่เลยนะ ตอนนี้เขากำลังโกหกเธออยู่นะตา " หลังจากลลิตาอ่านข้อความเพื่อนของเธอแล้วเธอก็รู้สึกงงมากทำให้เธอต้องเลื่อนข้อความของเพื่อนที่ส่งมาให้ดูว่าเพื่อนของเธอกำลังส่งอะไรมาให้เธอดูกันแน่ ลลิตาชะงักไปเล็กน้อยหลังจากที่เห็นรูปแรกแต่เธอก็ต้องฝืนใจเปิดดูรูปภาพต่อ หลังจากที่เห็นรูปภาพที่ 2 แล้วลลิตาก็เข้าใจในทันทีเพราะมันกำลังแสดงให้เห็นว่าแฟนของเธอกำลังนอกใจเธอและแอบไปมีความสัมพันธ์กับแฟนเก่าของเขาอีกครั้ง และนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่เพื่อนของเธอได้ส่งรูปภาพแบบนี้มาให้เธอ
" ติ้ง " มิ้นส่งข้อความมาให้ลลิตาดูอีก ลลิตาก็รีบเปิดเข้าไปดูข้อความใหม่ที่เพื่อนของเธอส่งมาให้ดูด้วยหัวใจที่ว้าวุ่น ลลิตาตัวสั่นเทาและมือของเธอก็กำโทรศัพท์มือถือของตัวเองเอาไว้แน่น ที่เห็นข้อความสุดท้ายที่มิ้นได้ส่งมาให้เธอ เพราะมันก็คือโปสการ์ดงานแต่งงานของพี่กันกับส้มนั่นเอง
ลลิตารู้สึกว่าตัวเองกำลังสมองเบลอไปหมด เมื่อเธอถูกคนรักทรยศหักหลังแบบนี้ เพราะเธอก็เคยพยายามที่จะจับผิดแฟนเธอกับผู้หญิงคนนั้นมาหลายครั้งแล้ว แต่เธอก็จับไม่ได้สักทีแล้วแฟนของเธอก็ยังอ้างมาตลอดว่าที่ช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้นก็เพราะความสงสาร
ลลิตากับพี่กันคบกันมาได้ 4 ปีแล้วในปีแรกความสัมพันธ์ของเธอกับพี่เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองคนก็ต้องมาสั่นคลอนในปีที่สอง เรื่องทั้งหมดมันก็เกิดจากผู้หญิงที่ชื่อส้มคนนี้แหละ ส้มเคยคบกันกับพี่กันมาก่อนเป็นเวลา 3 ปี แล้วพี่กันกับส้มก็เลิกกันไปปีนึงและในระหว่างที่พี่กันกับส้มเลิกกันไปปีนึงนั้นส้มก็ได้มาตามง้อขอคืนดีและทำทุกวิถีทางทุกอย่าง ทั้งร้องไห้อ้อนวอนหรือแม้แต่โกหก
แต่พี่กันก็พยายามที่จะไม่ไปยุ่งกับส้มแล้ว เพราะความสัมพันธ์ของส้มกับพี่กันครั้งเก่ามันแย่มากก่อนที่พี่กันจะมาคบกับลลิตา และเมื่อวันที่ส้มได้รู้ว่าพี่กันได้ตกลงที่จะคบกับลลิตาแล้ว ส้มก็พยายามที่จะก่อกวนพวกเราทั้งสองคนไม่เลิก แล้วก็ก่อกวนมาตลอดตั้งแต่ที่พวกเราทั้งสองคนคบกันมา 4 ปีนี้ ลลิตามีความสุขแค่ปีแรกปีเดียวเท่านั้นจริงๆ ส่วน 3 ปีหลังจากนั้นมันก็มีแต่ความทุกข์
แล้วมันก็มีอยู่ครั้งหนึ่งที่ลลิตาคิดว่าแฟนของเธอเริ่มเปลี่ยนไปก็ตั้งแต่ที่ส้มได้โทรมาโกหกพี่กันว่าชีวิตและการทำงานของส้มมันไปได้ไม่ดีแล้วส้มก็ไม่มีที่พึ่งและไม่มีที่ไป ส้มพยายามอ้อนวอนกับแฟนของเธอและได้แอบเดินทางมาหาแฟนของเธอถึงที่นี่ ทั้งๆที่ผู้หญิงคนนั้นก็อยู่ต่างประเทศแท้ๆแต่เธอก็ยังได้ลงทุนที่จะเดินทางมาหาพี่กันถึงที่นี่เพื่อที่จะมาร้องไห้กอดขาอ้อนวอนขอคืนดีกับพี่กันให้ได้ แล้วสิ่งสุดท้ายที่ผู้หญิงคนนั้นอยากจะทำมันก็คือการทำให้ลลิตาได้รับรู้ความสัมพันธ์ของพี่กันและผู้หญิงคนนั้นว่ามันเคยเป็นมายังไงกันแน่ แล้วมันก็ยังตัดกันไม่ขาดด้วย
แต่สำหรับลลิตาเธอก็ไม่ได้มีความสงสารผู้หญิงคนนั้นเลยสักนิด การที่จะมีแฟนเก่าของแฟนตัวเองพยายามที่จะมาแทรกกลางระหว่างพวกเราแล้วทำไมถึงจะต้องให้เธอไปสงสารและใจดีกับผู้หญิงคนนั้นด้วย ?
ผู้หญิงคนนั้นมาพร่ำพรรณนาพูดถึงเรื่องราวชีวิตต่างๆที่ดูน่าสงสารและโศกเศร้าให้ลลิตาฟัง แต่คำพูดของเธอมันก็ไม่ได้ทำให้ลลิตาคิดที่จะเชื่อคำพูดของเธอเลยสักนิด
แต่สิ่งที่ทำให้ลลิตาโมโหและเสียใจมากที่สุดนั่นก็คือการที่แฟนของเธอได้ใจอ่อนเข้าไปช่วยเหลือและสงสารผู้หญิงคนนั้นอย่างสุดซึ้ง ทั้งๆที่พี่กันเขาก็ยังคบกันกับเธออยู่ และในวันนั้นลลิตาก็ได้ขอยุติความสัมพันธ์กับพี่กันในทันทีหลังจากที่รู้เรื่องนี้
เพราะเธอไม่คิดที่จะรักผู้ชายที่สงสารผู้หญิงคนอื่นง่ายๆแบบนี้หรอก แต่พี่กันกลับไม่ยอมหยุดความสัมพันธ์นี้ทำให้ความสัมพันธ์ของลลิตากับพี่กันดำเนินชีวิตไปแบบครึ่งๆกลางๆไปอยู่ครึ่งปี จนลลิตารู้สึกแย่กับตัวเองและลลิตาก็คิดว่าความสัมพันธ์แบบนี้มันทำร้ายจิตใจของตัวเองจนเกินไป ลลิตาก็เลยขอหยุดความสัมพันธ์กับพี่กันทุกอย่างอีกครั้งให้มันจบลงที่ตรงนั้น เธอจะไม่ขอที่จะมีข้อข้องเกี่ยวใดๆและลลิตาก็ไม่อยากที่จะรู้เรื่องของพวกเขาทั้งสองคนอีก
สิ่งที่ลลิตาเจ็บใจมากที่สุดนั่นก็คือการที่เธอมาจับได้ว่าผู้หญิงที่ชื่อส้มคนนั้นได้แต่งเรื่องโกหกทั้งหมดขึ้นมา เพื่อที่ส้มจะได้เข้ามาใกล้ชิดกับพี่กันและเพื่อที่จะให้ความสัมพันธ์ของพี่กันและลลิตาได้แตกแยกออกจากกัน แล้วผู้หญิงคนนั้นก็ยังโทรมาเยาะเย้ยลลิตาได้เกือบทุกวัน
แต่ลลิตาก็ไม่ได้กลับไปแก้แค้นอะไรเพราะเธอไม่อยากที่จะไปยุ่งกับพวกเขาอีก
ลลิตาใช้ชีวิตอย่างอิสระได้แค่ 3 เดือน พี่กันก็ทำทุกวิถีทางเพื่อจะหาทางติดต่อเธอให้ได้แม้แต่คนรอบข้างของเธอ พี่เขาก็ยังรบกวนไปด้วย ที่เขาบอกว่าหลังจากที่พี่เขาได้ตัดความสัมพันธ์กับเธอไปชีวิตของพี่เขาก็ไม่มีความสุขเลยเพราะผู้หญิงคนนั้นพยายามจะยัดเยียดความสัมพันธ์แย่ๆ ให้กับพี่กัน
พี่กันมาตามง้อลลิตาถึง 5 เดือน ลลิตาถึงได้ยอมใจอ่อนและกลับมาคบกับพี่กันอีก รอบนี้พี่กันตัดความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นไปจริงๆแต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคอยมาวนเวียนและตามชีวิตของเธอกับพี่เขาจนถึงปัจจุบันนี้
มังกรผู้ที่ย้อนกลับอดีตหลังจากที่โดนแฟนเก่าฆาตกรรม เขากลับมาพร้อมกลับระบบ
นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น
กว่าจะรู้ตัวว่ารักก็ถึงตอนต้องจากกันแล้ว หลับตาลงในความมืดมิดยังคงเห็นภาพฝันที่เป็นเขา ด้วยสถานะและสถานการณ์ต่างๆมันเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบสำหรับพวกเรา ทั้งรักทั้งทุกข์ระทม ท่านคือเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องจมอยู่ในห้วงรักที่ไม่มีสิ้นสุด
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
จะทำยังไงเมื่อนักวิจัยสาวผู้เก่งกาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กสาวบ้านนายุค70
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
นายพายุ ศิระภาคิณ อายุสามสิบปี นักธุรกิจหนุ่มประธานบริษัทส่งออกผ้าไทย วีรกรรมที่เขาทำไว้เมื่อสิบกว่าปีก่อน กำลังจะย้อนกลับมา เมื่อนางสาวแพรไหม โภสิกุล ดีไซเนอร์สาวอายุยี่สิบเก้าปี ได้ปรากฏตัวขึ้นหลังจากที่เธอนั้นหายออกไปจากมหาวิทยาลัย กว่าสิบปี โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งทำให้ท่านประธานหนุ่มเริ่มอยากรู้ชีวิตของเธอ เมื่อครั้งหนึ่งเรือนร่างอันบอบบางอรชรเคยหล่อหลอมเป็นหนึ่งเดียวกับเขามาแล้ว ถ้าหากเขาต้องการสานสัมพันธ์กับเธออีกครั้ง มันก็ไม่แปลกหากเธอนั้นยังโสดแพรไหมจะยังต้องการเขาอยู่หรือไม่ ในเมื่อเธอคิดว่าพายุนั้นเป็นแค่ผู้ชายที่พรากความบริสุทธิ์ไปจากเธอเท่านั้น ซึ่งเวลานี้เธอก็ยังคงมองเขาในด้านลบอยู่ดี แม้ว่าเวลาจะผ่านไปเป็นสิบปีแล้วก็ตาม "แม่ของหนูชื่ออะไร ตอนนี้อยู่ที่ไหน บอกฉันได้ไหม" พายุถามพร้อมกับจ้องลงไปที่ดวงตาแป๋วของเด็กหญิงตรงหน้า เมื่อเขามั่นใจว่าสายตาจะไม่โกหก "แม่ของหนูชื่อแพรไหม!" เด็กหญิงพูดออกมา พร้อมกับจ้องสายตาคมของผู้เป็นบิดาอย่างไม่กะพริบตา เพื่อยืนยันว่าเธอนั้นไม่ได้โกหก “ฮ่ะ!” พายุอุทานออกมาเสียงดัง ขณะที่หัวใจของเขานั้นเต้นแรง ก่อนจะยิ้มกว้างออกมาด้วยความดีใจที่สุดในชีวิต "ถ้าคุณไม่เชื่อ พาหนูไปตรวจดีเอ็นเอก็ได้นะคะ" เด็กหญิงพูดออกมาพร้อมกับมีใบหน้าที่เศร้าหม่น เมื่อเธอคิดว่าบิดาคงไม่เชื่อในสิ่งที่เธอนั้นพูดออกมา "ไม่จำเป็น!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็ง เพื่อยืนกรานที่จะตรวจดีเอ็นเอ จนทำให้คนฟังนั้นหวาดกลัว เพราะใยไหมคิดว่าบิดานั้นไม่เชื่อใจเธอ "หนูขอโทษที่มารบกวน หนูขอตัวกลับก่อนนะคะ สวัสดีค่ะ" ใยไหมพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ เธอยกมือขึ้นไหว้ผู้เป็นบิดาอย่างนอบน้อม ประหนึ่งว่าจะไม่ได้เจอเขาอีกแล้วในชีวิตนี้ เมื่อเธอได้สัญญากับผู้เป็นมารดาเอาไว้ หากถูกปฏิเสธแล้วไซร้ จะขอกลับไปไม่กลับมาหาชายตรงหน้าอีกเลยตราบชั่วชีวิต "แล้วหนูจะไปไหน นั่งลงก่อนสิ" พายุพูดพร้อมกับจับร่างเล็กของลูกสาวนั่งลงข้าง ๆ อีกครั้ง "ที่บอกว่าไม่จำเป็น นั่นเป็นเพราะว่าพ่อเชื่อว่าหนูเป็นลูกของพ่อโดยไม่ต้องตรวจดีเอ็นเอ!" พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น ใยไหมไม่รอช้าโผเข้าไปกอดผู้เป็นบิดาอีกครั้งในทันที ก่อนจะร้องไห้ออกมาเพราะความดีใจ "ไม่ร้องนะครับคนเก่งของพ่อ" พายุพูดพร้อมทั้งเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตาที่แก้มใสของลูกสาวออกจนสิ้น ในขณะที่ตัวของเขาเองก็น้ำตาคลอเช่นกัน "หนูขอเรียกพ่อว่าคุณป๋านะคะ" เสียงเจี๊ยวจ๊าวพูดออกมาอย่างรื่นหู คุณป๋าที่เด็กหญิงพูดนั้น ทำให้พายุอดที่จะหัวเราะออกมาอย่างชอบใจไม่ได้ "ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! ทำไมถึงต้องเรียกพ่อว่าคุณป๋าด้วยละ หืม" พายุเอ่ยถามลูกสาวออกมา ขณะที่เขายังคงกอดเด็กหญิงเอาไว้ ด้วยความรักความผูกพันของสายใยระหว่างพ่อลูก ที่มันพันผูกจนมาสามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ "มาดาม ไม่ชอบให้หนูมีพ่อ หนูก็จะมีคุณป๋าแทนยังไงล่ะคะ" คำตอบของลูกสาวทำให้พายุยิ้มไม่หุบครั้งแล้วครั้งเล่า เธอช่างเป็นเด็กฉลาดและร่าเริง ผิดกับแพรไหมมารดาของเธอ ที่ชอบทำหน้าเหมือนแบกโลกทั้งใบเอาไว้ตลอดเวลา "ทำไมถึงเรียกแม่ว่ามาดาม ตอนนี้แม่แต่งงานไปแล้วหรือยัง" เวลานี้พายุลุ้นคำตอบจากลูกสาว หรือแพรไหมจะแต่งงานกับฝรั่งตาน้ำข้าวไปแล้ว ใยไหมถึงได้เรียกเธอว่ามาดาม "แม่ยังไม่มีใคร มีแค่ลุงดนัยที่ชอบมาข้องแวะ แต่หนูไม่ชอบเขาเลย เพราะเขาชอบทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของมาดามอยู่เรื่อย" คำตอบของลูกสาวช่างอิ่มเอมใจ เมื่อแพรไหมไม่มีใครเขาก็พร้อมจะสานสัมพันธ์ แต่งานนี้คงจะยากหากผู้ชายคนนั้นมาข้องแวะ แต่เขามีลูกสาวที่ยืนเคียงข้างแล้วจะกลัวอะไร "ถ้าพ่ออยากจะจีบแม่ต้องทำยังไง" "โอ้! เจ๋งเป้งมากค่ะคุณป๋า เดี๋ยวหนูจะช่วยเอง" ใยไหมพูดออกมาด้วยความดีใจ นั่นคือสิ่งที่เธอปรารถนามาแสนนาน อยากให้บิดามารดาได้ลงเอยกันสักที "ลูกรับปากพ่อแล้วน๊า... " พายุพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก "แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อนค่ะ คุณป๋า" ใยไหม ผละออกจากอกกว้างของผู้เป็นบิดา พร้อมกับหยิบคุกกี้ตรงหน้าเข้าปาก "หิวหรือยัง ไปทานข้าวก่อนดีไหม" พายุเอ่ยถามออกมาด้วยความห่วงใย เมื่อเห็นลูกสาวนั้นหยิบคุกกี้เข้าปากคำโต "เดี๋ยวค่อยไปทานก็ได้ค่ะ แต่เราต้องมาทำข้อตกลงกันก่อน เรื่องที่หนูเป็นลูกสาวของคุณป๋า ห้ามให้ใครรู้ ทุกอย่างจะเป็นความลับระหว่างเราได้ไหมคะ" พายุทำหน้าสงสัยกลับไปให้เด็กหญิง เธอกำลังคิดจะทำอะไร ใครหลายคนคงดีใจหากได้เป็นลูกสาวของท่านประธาน "ทำไมเป็นลูกสาวพ่อมันไม่ดีตรงไหนเหรอ ลูกถึงไม่อยากให้ใครรู้" พายุเอ่ยถามออกไปด้วยน้ำเสียงที่แสดงออกถึงความน้อยใจ เมื่อลูกสาวไม่อยากให้ใครรับรู้ว่าเขาเป็นบิดาของเธอ "เป็นลูกสาวของป๋าดีที่สุดแล้ว แต่หนูไม่อยากให้ใครมองมาดามในทางไม่ดี ทุกคนต้องรู้แน่ สาเหตุที่มาดามต้องออกจากมหา'ลัยกลางคัน" คำบอกเล่าของใยไหมเป็นเหมือนดังคมหอก ที่ทิ่มแทงเข้ามาในหัวใจของพายุ เด็กหญิงตรงหน้าช่างมีความคิดแบบผู้ใหญ่ เธอถูกเลี้ยงมาแบบไหนทำไมถึงได้ฉลาดอย่างนี้ แพรไหมคงดูแลอบรมลูกสาวมาอย่างดี ต่างจากเขาผู้เป็นบิดาที่ไม่เคยได้เหลียวแล "พ่อขอโทษนะ ที่ไม่เคยได้ดูแลหนูเลย ต่อจากนี้ไปพ่อจะไม่ทิ้งหนูกับแม่ให้อยู่กันตามลำพังอีกแล้ว" คำพูดของผู้เป็นบิดากำลังทำให้เด็กหญิงหัวใจพองโต เธอดีใจที่ผู้เป็นพายุไม่ปฏิเสธ แถมเขายังคิดที่จะสานสัมพันธ์กับมาดามของเธออีกครั้ง คงไม่มีอะไรทำให้เด็กหญิงมีความสุขเท่าสิ่งนี้มาก่อนเลยในชีวิต "ก่อนอื่นคุณป๋า ต้องจีบมาดามให้ติดก่อน หนูบอกเลยว่างานหิน มาดามดื้อจะตาย ขนาดลุงดนัยตามจีบหลายปี มาดามยังปฏิเสธทุกครั้ง แต่ลุงดนัยก็ตื้ออยู่ได้" ใยไหมพูดพร้อมกับทำหน้างอ ออกมาได้อย่างน่ารัก "ป๋ามีลูกสาวคอยช่วยจะกลัวอะไร ไปทานข้าวกันดีกว่า เดี๋ยวป๋าจะไปส่งที่บ้าน" พายุพูดออกมาด้วยสายตาที่มีความหวัง เขาคงไม่ต้องใช้นักสืบ ในเมื่อโชคชะตากำหนดให้หญิงสาวเดินเข้ามาในชีวิตของเขาเอง แถมอยู่ดี ๆ ก็ได้ลูกสาวมาหนึ่งคน ที่น่ารักซะจนทำให้เขานั้นอยากไว้หนวด
พวกเขาไม่รู้ว่าฉันเป็นผู้หญิง พวกเขามองฉันและเห็นฉันเป็นเด็กผู้ชาย เป็นเจ้าชาย คนนหึ่ง พวกเขาซื้อมนุษย์อย่างฉันเพื่อตอบสนองความต้องการทางเพศ และเมื่อพวกเขาบุกเข้ามาในอาณาจักรของเราเพื่อซื้อพี่สาวของฉัน เพื่อปกป้องเธอ ฉันหมดหนทาง จึงต้องเข้าไปขอร้องให้พวกเขาพาฉันไปด้วย แผนของฉันคือหาโอกาส จะพาพี่สาวหนีไป แต่ฉันไม่คาดคิดว่าคุกของเราจะเป็นสถานที่ที่มีการป้องกันมากที่สุดในอาณาจักรของพวกเขา แต่เดิมฉันเป็นคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ เป็นคนที่พวกเขาไม่ต้องการ พวกเขาไม่เคยคิดจะซื้อ เลย แต่แล้ว ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่ไร้ความปรานี บุคคลที่มีอำนาจที่สุดในดินแดนป่าเถื่อนของพวกเขากลับสนใจใน "เจ้าชายน้อยผู้น่ารัก" เราจะเอาชีวิตรอดในอาณาจักรที่อันตรายนี้ได้อย่างไร และเผชิญหน้ากับผู้คนที่ไม่เป็นมิตรกับเรายังไง และคนที่มีความลับอย่างฉันจะกลายเป็นทาสแห่งความต้องการทางเพศได้อย่างไร . หมายเหตุของผู้เขียน นี่คือนิยายรักแนวดาร์ก เนื้อหาสำหรับผู้ใหญ่ เรตติ้งสูง 18+ เตรียมพบกับเนื้อหาที่กระตุ้นอารมณ์และเข้มข้นได้เลย หากคุณเป็นนักอ่านตัวยงของแนวนี้ที่กำลังมองหาอะไรที่แตกต่าง พร้อมที่จะอ่านแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัวโดยไม่รู้ว่าจะเจออะไรใหม่ๆ บ้าง แต่ก็อยากรู้เพิ่มเติมอยู่ดีล่ะก็ รีบอ่านเลย! . จากผู้เขียนหนังสือขายดีระดับนานาชาติเรื่อง "ทาสผู้เกลียดชังของราชาอัลฟ่า"
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
เพียงสบตาสาวน้อยหน้าหวาน ‘นัยน์ตาชวนฝัน’ ที่อาจหาญตบหน้าซีอีโอผู้ยิ่งใหญ่อย่างเขา ‘เดวิโก หนึ่งเดียว เวนนิส’ ก็ประกาศก้องกับตัวเองว่า เขาจะต้องลากเจ้าหล่อนเข้าสู่ ‘กรงทอง’ ให้จงได้ ไม่มีวันที่ ‘แม่กวางน้อยด้อยประสบการณ์’ อย่างหล่อนจะต้านทานเจ้าป่า ‘ผู้ชำนาญงานรัก’ อย่างเขาได้ ใครจะคิดว่าวันสุดท้ายของการฝึกงานก่อนจบการศึกษาจะเป็นวันที่เปลี่ยนชีวิตเธอไปตลอดกาล เพียงเพราะเผลอสบตาคมเข้มคู่นั้นเข้าอย่างจัง!! หากฟ้าประทานพรให้เธอขอพรได้หนึ่งข้อ ‘ปรารถนา’ บอกตัวเองอย่างไม่ต้องหยุดคิดว่าพรข้อนั้นที่เธอจะขอคืออะไร เพราะสิ่งเดียวที่เธอจะขอ คือ... ‘ขอให้ผู้ชายบ้าอำนาจ บ้ากามที่จ้องลวนลามเธอคนนี้หายสาบสูญไปซะ’ แต่ยิ่งนานวันเข้า นอกจากฟ้าจะไม่นำพาแล้วยังเหมือนจะเป็นใจหยิบยื่นเนื้อกวางแสนหวานอย่างเธอเข้าปากเสือเสียนี่ เพราะยิ่งเธอพยายามหนีห่างจากเขามากเท่าไร เธอกลับพบว่าตัวเองกลับยิ่งเข้าใกล้เขามากขึ้นเท่านั้น ใกล้เสียจน...เธอสั่นสะท้านไปทั้งกายและใจ “ฉันลงมือปรุงซุปถ้วยนี้ด้วยตัวเองเลยนะ เธอจะไม่ชิมสักหน่อยเหรอ ใช่ว่าใครจะมีวาสนาได้กินฝีมือฉันง่ายๆนะ” “คุณทำคุณก็กินเองสิคะ ฉันไม่ได้ขอร้องให้คุณทำสักหน่อย” “เธอไม่กินงั้นฉันกินเองก็ได้” “เชิญ!” ปรารถนาเบะปากยิ้มหยันพลางขยับกายหมายล้มตัวลงนอน แต่ทว่า... “ว้าย! คุณจะทำอะไรฉัน ปล่อยนะ” “บังเอิญฉันไม่ชอบอะไรที่มันจืดชืดแบบซุปนั่น เลยอยากลองชิมเนื้อกวางอย่างเธอเสียหน่อยว่าจะอร่อยแค่ไหน หึหึ”
© 2018-now MeghaBook
บนสุด