นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
นลินถูกบังคับให้ขายตัวโดยที่พ่อกับแม่ของนลินวางยาสลบนลินแล้วส่งเธอขึ้นเตียงโดยที่เธอไม่ยินยอมเพื่อแลกกับเงินมูลค่าห้าล้านบาท เพราะพี่สาวป่วยหนักเป็นโรคหัวใจขั้นร้ายแรงและเป็นธาลัสซีเมียเลยต้องใช้เงินรักษาด่วน
ความรู้สึกที่ราวกับถูกฉีกกระชากทำให้หญิงสาวที่อยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มร้องไห้ออกมาด้วยความเจ็บปวดเมื่อเธอถูกชายหนุ่มพรากความบริสุทธิ์ของตนเองไปด้วยความดิบเถื่อน
“ เจ็บมั้ย”
ในความมืดกึ่งสว่างชายหนุ่มร่างกายกำยำถามเธอออกมาด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น แต่เธอกลับรู้สึกถึงความอบอุ่นในคำถาม
“ เจ็บ ฉันเจ็บมาก”
ร่างกายไม่เคยผ่านมือชายใดถูกเขาย่ำยีเสียจนแหลกสลาย ถูกเขาเด็ดดอมด้วยความหยาบคาย ไม่มีความทะนุถนอมใดๆทั้งสิ้น
“ ในเมื่อรู้ว่าเจ็บแต่ทำไมถึงยังมาขายให้ฉัน ยัยโง่ ฉันรังเกียจผู้หญิงอย่างเธอที่สุด”
เมื่อถูกฤทธิ์ยาควบคุมก้องภพกลับไม่ได้สนใจใยดีเธอเลยแม้แต่น้อย ในเมื่อเธอเลือกที่จะเป็นบ่อนรองรับให้เขาเองก็แล้วทำไมเขาจะต้องสงสารเธอด้วยละ?
“ ฉันมีทางเลือกได้หรือไง”
หยาดน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาที่ใสบริสุทธิ์ ใบหน้าที่งดงามบริสุทธิ์เหมือนดอกกุหลาบที่ถูกเขาย่ำยีศักดิ์ศรีทำให้ชายหนุ่มรู้สึกบ้าคลั่งอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความยั่วยวนที่เป็นธรรมชาติทำให้เขารู้สึกถูกใจเล็กน้อย
“ ทุกคนมีทางเลือกของตัวเองเสมอ แต่เธอกลับยอมรับชะตากรรมไม่แม้แต่จะลุกขึ้นสู้ คนอย่างเธอไม่คู่ควรที่จะได้รับความช่วยเหลือจากคนอื่น”
“ นั่นสิ มีใครบ้างที่อยากจะช่วยคนที่ขึ้นชื่อว่าตัวซวยอย่างฉัน”
“ พูดมาก เธอคิดว่าคำพูดพวกนี้จะทำให้ฉันรู้สึกสงสารหรือไง เพราะฉันรู้สึกสมเพชเธอมากกว่า”
กลิ่นหอมฟุ้งที่ออกมาจากร่างกายของเธอมากขึ้นอีกสี่ส่วนจนทำให้ชายหนุ่มแปลกใจและเหมือนถูกกระตุ้น แต่กลิ่นหอมนี้กลับทำให้เขารู้สึกอยากดอมดมอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ชายหนุ่มมองสายฝนที่ด้านนอกในที่สุดเขาก็รู้แล้วว่ากลิ่นตัวของเธอเหมือนกลิ่นของสายฝน ที่ให้ความสดชื่นของไอเย็นและความสงบสะอาดจากการชำระล้างทำให้ร่างกายของเธอบริสุทธิ์มากขึ้น
นลินหญิงสาวอาภัพที่อยู่ใต้ร่างของชายหนุ่มร้องไห้ทั้งน้ำตาเมื่อนึกถึงเรื่องราวของตัวเองที่ทำให้เธอมาถึงจุดนี้ได้
บ้านมณีเปรม
น้ำเสียงผู้หญิงล่วงเลยวัยกลางคนพูดขึ้น“ บ้านก็จะถูกยึด ค่ารักษาพยาบาลก็ไม่มี ฉันแทบจะอกแตกตายอยู่แล้ว”
บรรยากาศในบ้านบนโต๊ะอาหารขนาดกลางเต็มไปด้วยความอึดอัด เมื่อพูดถึงค่าใช้จ่ายในการรักษาลูกสาวคนโตที่มากถึงห้าล้านบาท
ทุกคนที่อยู่รอบโต๊ะอาหารทรงกลมไม่เล็กไม่ใหญ่ต่างมองดูหญิงสาววัยเยาว์แฝดน้องคนเล็กที่ชื่อนลิน ด้วยสายตาเบื่อหน่ายและรำคาญใจ
นลินเธอมีใบหน้าสวยและน่ารัก แต่ทว่าดวงตาคมดุหางตาเฉี่ยวขึ้นทำให้ดวงตาของเธอดูเจ้าเล่ห์งดงามอย่างไม่มีที่ติ
นลินเข้าใจได้ในทันทีว่าทุกคนในบ้านต้องการอะไรจากเธอ เพราะทุกครั้งก็เป็นแบบนี้มาตลอด
หลังจากที่บริษัทของคุณพ่อล้มละลายเพราะติดการพนันจนทำให้คุณพ่อเส้นเลือดในสมองแตก ถึงแม้ว่าจะรอดชีวิตมาได้ แต่ก็ไม่สามารถทำงานได้อีก
การล้มละลายครั้งนี้ทำให้ตระกูลมณีเปรมกลายเป็นตัวตลกของเมืองหลวงเมอล่าประเทศซีโมน
ส่วนริสาคุณแม่ของเธอหลังจากแต่งงานก็ไม่ได้ทำงานและดูแลภายในบ้านแทน แล้วตอนนี้แม่ของเธอก็ติดการพนันไม่ต่างจากประสิทธิ์คุณพ่อของเธอ
นลินมองมือตัวเองที่ทั้งหยาบกร้านและมีแผลที่เกิดจากการทำงาน ในใจก็อยากจะร้องไห้ เมื่อนึกถึงความเหนื่อยล้าแทบขาดใจกว่าจะผ่านมาได้ในแต่ละวัน
“ หนูจะพยายามรับงานให้มากขึ้นค่ะ พี่สาวไม่ต้องกลัวนะคะ หนูจะไม่ยอมปล่อยให้พี่สาวเป็นอะไรอย่างแน่นอน หนูสัญญาค่ะ”
“ พี่เชื่อ นลินจะต้องทำได้อย่างแน่นอน”
ใบหน้าที่ซีดเซียวของนรายิ้มให้กับคำพูดของน้องสาว เพื่อให้กำลังใจเช่นเคย
ริสาถอนหายใจด้วยความหงุดหงิดเมื่อได้ยินคำพูดของนลิน ลูกสาวคนเล็กที่ไม่ได้เรื่องของเธอ
“ แกจะสัญญาอะไรนักหนา ใช่ว่าแกจะทำได้ทุกครั้ง ปากก็อ้างจะทำงานให้มากขึ้นแล้วแกจะหาเงินได้มากขึ้นได้ซักเท่าไหร่กัน กว่าแกจะหาเงินได้ครบห้าล้านพวกเราต้องรอแกอีกกี่สิบปี จนถึงตอนนั้นแกก็คงไม่มีวันได้เห็นหน้าพี่สาวของแกแล้ว นังลูกโง่!เกิดมาเสียข้าวสุกจริงๆ”
นลินหน้าหงายเมื่อถูกแม่ของเธอชี้นิ้วแล้วผลักหน้าผากแรงๆจนเธอเกือบจะตกเก้าอี้
ยังดีที่เธอมีปฏิกิริยาว่องไว ถึงได้จับโต๊ะอาหารไว้ได้ทัน ปากเล็กเป่าลมออกมาเบาๆด้วยความใจหาย ‘ โล่งอกไปที’
นลินเผยรอยยิ้มฝืดเฝื่อนออกมาด้วยความยากลำบาก ในใจก็รู้สึกน้อยใจมากที่แม่ของเธอรักพี่สาวมากกว่า..
“ แต่หนูก็พยายามแล้วนะคะ ทุกวันนี้หนูก็ทำงานจนตัวเป็นเกรียวจนไม่มีเวลาว่างเป็นของตัวเองด้วยซ้ำ แถมยังต้องมาทำโปรเจกต์เรียนจบให้พี่สาวอีกด้วย”
“เหอะ! แกยังกล้าที่จะพูดถึงเวลาส่วนตัวอีกอย่างงั้นเหรอ ทำไมแกถึงไม่ไปตายแทนพี่แกเลยล่ะ ถ้าแกจะมีความคิดเห็นแก่ตัวแบบนี้ แกไม่น่าเกิดมาเป็นลูกฉันเลยจริงๆ”
ริสากรอกตาแล้วพูดออกมาอย่างไม่แยแสกับลูกสาวตัวดีของเธอ เธอน่าจะฆ่าลูกไม่รักดีคนนี้ให้ตายตั้งแต่ตอนคลอด เด็กคนนี้จะได้ไม่อกตัญญูแบบนี้ นิสัยเลวเหมือนคนนั้นไม่มีผิด
“คุณแม่จะให้หนูทำยังไงกันล่ะคะ หนูก็มีแค่สองมือเท่านั้น อาการป่วยของพี่สาวก็ไม่ใช่ว่าหนูไม่เคยใยดี ถ้าพี่สาวไม่ดื่มแอลกอฮอล์หลังจากที่ถ่ายไขกระดูกสามวันแรก ป่านนี้โรคธาลัสซีเมียของพี่สาวก็คงจะหายขาดไปนานแล้ว หนูทำเต็มที่แล้วค่ะ แต่ก็น่าเสียดายจริงๆ”
นราที่ได้ยินคำพูดของน้องสาวในใจก็รู้สึกกรุ่นโกรธเป็นอย่างมาก ที่น้องสาวฟ้องแม่ของเธอแบบนี้
แต่ถึงอย่างนั้นในดวงตาและสีหน้าของเธอกลับแสดงความเศร้าออกมาให้ทุกคนเห็น เพราะเธอก็ทำผิดจริงๆ
“ นลินพี่ขอโทษนะ ถ้าหากวันนั้นพี่ไม่รู้สึกแย่เพราะอาการป่วย พี่ก็คงไม่เผลอดื่มแอลกอฮอล์กับเพื่อนจนทำให้ไขกระดูกที่เธอให้กับพี่ต้องเสียเปล่าแบบนี้”
นราบีบมือน้องสาวด้วยความรู้สึกผิดเต็มอกกับเรื่องที่เกิดขึ้น
“ พี่อย่าคิดมากเลยค่ะ ถึงยังไงมันก็ผ่านไปแล้ว”
นลินที่เห็นพี่สาวคิดมาก เธอก็กลัวว่าโรคหัวใจของพี่สาวจะกำเริบขึ้นมาอีก
“คุณแม่คะ คุณพ่อคะ แค่นี้นลินก็เหนื่อยมากพอแล้วอย่าทำให้น้องสาวลำบากใจอีกเลยค่ะ”
ริสายื่นไปจับมือนราด้วยความสงสาร
“ ให้นลินลำบากแค่นี้จะเป็นอะไรไป ในเมื่อแม่คลอดนลินออกมาด้วยความยากลำบากจนเกือบหมดลมหายใจไปแล้วครั้งหนึ่ง”
“ แต่แม่คะ…”
“ ลูกไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรทั้งนั้น เชื่อแม่ อีกอย่างนลินก็แข็งแรงดี ไม่ได้เจ็บป่วยมาตั้งแต่เด็กเหมือนลูก เห็นได้ชัดว่านลินเอาเปรียบลูกตั้งแต่อยู่ในท้อง ไม่อย่างนั้นนลินจะแข็งแรงอยู่คนเดียวได้ยังไง”
นลินบีบมือตัวเองแน่นเมื่อคุณแม่ของเธอหยิบยกประโยคนี้ขึ้นมาพูดอีกแล้ว
นลินจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าแม่ของเธอใช้คำพูดพวกนี้มาทำให้เธอรู้สึกผิดกี่ครั้งแล้ว แล้วยังนำเรื่องนี้มากดดันและมาบีบบังคับเธอทุกครั้งอีกด้วย
นลินได้แต่ก้มหน้าก้มตา เพื่อกักเก็บอารมณ์และความรู้สึกที่แสดงออกมาบนใบหน้าของตัวเอง ไม่ให้ใครเห็นความอ่อนแอของตัวเองอีก
เธอรู้ว่าความอ่อนแอและความเสียใจของเธอมันใช้ไม่ได้ผลกับทุกคนในบ้าน ไม่เหมือนกับพี่สาวของเธอ ที่ไม่ว่าจะทำอะไรก็ดีไปหมดในสายตาของคุณพ่อกับคุณแม่
ความเก็บกด และความอัดอั้นตันใจจากการถูกกดขี่จากครอบครัว เธอก็ได้แต่กล้ำกลืนความรู้สึกพวกนี้เอาไว้ในใจด้วยความขมขื่น สุดท้ายนลินก็ไม่อาจทำอะไรได้
“ถ้าสมองน้อยนิดของแกไม่สามารถที่จะหาทางออกอะไรได้ ถ้าอย่างนั้นเย็นนี้แกก็เตรียมตัวทำตามวิธีของฉันก็แล้วกัน”
มังกรผู้ที่ย้อนกลับอดีตหลังจากที่โดนแฟนเก่าฆาตกรรม เขากลับมาพร้อมกลับระบบ
เมื่อข้าคือพระชายาของอ๋องผู้โหดเหี้ยม และเป็นหมากอันยอดเยี่ยมในมือของไทเฮา ข้าก็แค่อยากใช้ชีวิตทุกวันอย่างมีความสุข แต่ดูเหมือนว่าคนอื่นอยากให้ข้าใช้ชีวิตแบบที่คนอื่นให้เป็น
กว่าจะรู้ตัวว่ารักก็ถึงตอนต้องจากกันแล้ว หลับตาลงในความมืดมิดยังคงเห็นภาพฝันที่เป็นเขา ด้วยสถานะและสถานการณ์ต่างๆมันเหมือนเป็นเส้นขนานที่ไม่อาจบรรจบสำหรับพวกเรา ทั้งรักทั้งทุกข์ระทม ท่านคือเหตุผลที่ทำให้ข้าต้องจมอยู่ในห้วงรักที่ไม่มีสิ้นสุด
เมื่อลลิตานั้นได้ย้อนเวลากลับไปในยุค 80 พร้อมกับหม้อสมบัติ และที่ทำให้เธอคาดไม่ถึงก็คือเธออยู่ในร่างของนางร้าย
จะทำยังไงเมื่อเชฟสาวที่อยู่ๆก็โดนลูกหลงตายแบบไม่รู้เรื่อง จากเหตุปล้นธนาคาร
จะทำยังไงเมื่อนักวิจัยสาวผู้เก่งกาจย้อนเวลากลับไปเป็นเด็กสาวบ้านนายุค70
“คุณคะ กางเกงในของคุณสีอะไร สามารถให้ฉันดูหน่อยได้ไหมคะ? ” หลังจากแพ้จากเกมพูดความจริงหรือจะรับคำท้า ฉู่ซือก็คว้าผู้ชายคนหนึ่งมารับโทษ แต่กลับไม่คิดว่าอีกฝ่ายกลับเป็นสามีที่หายไปครึ่งปีอย่างไร้ร่องรอยหลังแต่งงาน ครั้งนี้คุณฟู่ก็ไม่ค่อยในเย็นนัก เพิ่งกลับจากทำงานนอกสถานที่ ภรรยาก็จะสวมเขาให้ตัวเองแล้วหรือ? เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ตัวเองถูกสวมเขา คุณฟู่ก็เริ่มเข้าสู่โหมดตามใจภรรยาอย่างสุด ๆ
หลินหลั่งเยี่ยน เป็นลูกสาวที่ได้รับการฝึกฝนอย่างลับๆ จากรัฐ เป็นสาวอัจฉริยะที่ทุกคนในองค์กรอิจฉา มีความสามารถทางการต่อสู้สูงและไม่ยอมใคร แต่มีเพียงเธอเท่านั้นที่รู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตตั้งแต่เธอยังเด็ก ทำให้เธอต้องใช้ชีวิตอยู่กับน้องสาวฝาแฝดของเธอเพียงลำพัง หลังจากผ่านไปเจ็ดปี ในที่สุดรัฐก็อนุมัติอิสรภาพให้เธอ หัวใจของหลินเหลิงเหยียนเต้นระรัวด้วยความคาดหวัง ขณะที่เธอกำลังเดินทางกลับบ้าน แต่เธอกลับต้องพบว่าป้าของเธอใช้ชีวิตอย่างหรูหราในบ้านพักของพ่อแม่ผู้ล่วงลับ ขณะที่น้องสาวของเธอเองกลับถูกบังคับให้นอนในคอกสุนัขและกินของเหลือ ทันใดนั้น เธอพลิกโต๊ะอาหารด้วยความโกรธ ป้าข่มขู่? เธอใช้วิธีการที่เด็ดขาดถอนตัวจากการร่วมมือ จนบริษัทของป้าพังทลายลงอย่างรวดเร็ว! การกลั่นแกล้งในโรงเรียน? เธอปลอมตัวเป็นน้องสาว เข้าไปในโรงเรียนและตัดสินใจสู้ไฟด้วยไฟ จากนั้นเธอก็ถ่ายทอดสดตอนพวกอันธพาลคุกเข่าร้องขอความเมตตา ถูกเยาะเย้ยเรื่องตัวตน? หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างเย็นชา“ใช่ ฉันก็แค่คนธรรมดา” ในวินาทีถัดมา ครอบครัวที่มีชื่อเสียงมายืนยันว่า“เธอคือลูกสาวคนโตของเรา!” สถาบันวิจัยแห่งชาติ “พวกเราคือเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเธอ!” …… ซือฮานเฟิง ผู้เป็นผู้นำของตระกูลลึกลับ ไม่เคยปรากฏตัวในสายตาสาธารณชน ข่าวลือว่าเขาเป็นคนเยือกเย็นและไร้ความปรานี บางคนเคยเห็นเขายืนสูบบุหรี่ในสถานการณ์ที่น่ากลัว และบางคนก็เห็นเขาฆ่าคนโดยไม่กระพริบตา แต่ต่อมากลับมีคนเห็นว่าเขาไล่ตามหลินหลั่งเยี่ยนจนถึงมุมกำแพง ดวงตาเต็มไปด้วยความเศร้าและความไม่พอใจ “หลั่งเยี่ยน ฉันช่วยเธอจัดการพวกนั้นแล้ว เธอควรจะอยู่เป็นเพื่อนกับฉันบ้างไหม?” “เราไม่ใช่แค่พันธมิตรหรือ?” หลินหลั่งเยี่ยนพูดอย่างงงงวย ซือฮานเฟิงถอนหายใจลึกๆ แล้วจูบเบาๆ บนริมฝีปากของเธอ “ตอนนี้ล่ะ”
เขา...พ่อเลี้ยงดรัณ พัชรอมรินทร์ ผู้ชายที่เกิดมาบนกองเงินกองทองแต่มีอดีตสุดแสนจะเจ็บปวด บาดแผลที่ทิ่มแทงหัวใจมาตลอดระยะเวลาหลายปีมันกำลังจะกลัดหนอง ถ้าไม่ทำการรักษาให้หาย เธอ...พลับพลึง โรจนศุภเกียรติ สาวน้อยวัยใสผู้มีโลกส่วนตัวที่แสนจะงดงาม และหลงรักผู้ใหญ่ใจดีคนหนึ่งมาตลอด ‘ความรักคือการให้’ นี่คือนิยามความรักของเธอ เรื่องราวคงไม่วุ่นวายถ้าเธอไม่กลับมารับรู้ว่าเขาเป็น ‘หม้าย’ และเรื่องราวก็คงไม่วุ่นวายกว่า ถ้าเธอกับเขาไม่ต้องเปลี่ยนสถานะจาก ‘น้าเขยกับหลานเมีย’ มาเป็น ‘สามีกับภรรยา’ มันอาจจะเป็นความสมหวังถ้าเธอจะได้แต่งงานกับผู้ใหญ่ใจดีที่หลงรักมาตลอด แทนการแต่งงานกับผู้ใหญ่ใจร้ายที่ไม่รู้สาเหตุว่าอะไรถึงเปลี่ยนให้เขาเป็นคนละคน เถื่อนและไร้เหตุผลสิ้นดี “เมียของฉันต้องเก่งเรื่องบนเตียง ต้องทำกับข้าวอร่อย ต้องทำงานในไร่ได้ไม่ต่างจากคนงาน ที่จริงจะต้องทำงานบ้านเป็นทุกอย่าง ขยัน ไม่นิ่งดูดายปล่อยให้แม่บ้านทำเอง เธอก็ต้องเป็นแบบนั้น” “ก็ได้ พลับทำให้ได้” “เริ่มเลย” “ปล่อยสิคะ ไม่ปล่อยแล้วจะทำได้ไง” ถ้าเขายังกอดเธอแน่นแบบนี้ ยังหายใจรดใบหน้าเธอแบบนี้ แล้วจะออกไปทำทุกอย่างที่ต้องการได้ยังไง “หน้าที่แรกที่บอก จำได้ไหม”
ความรักที่ซ่อนเร้นของสาวน้อยเริ่มต้นในวันที่ทั้งสองได้พบกันในการพบกันที่ถูกวางแผนมาอย่างยาวนาน ทว่าเด็กสาวที่ครอบครัวรับมาเลี้ยงกลับแย่งชิงครอบครัวและเด็กหนุ่มไปโดยไม่รู้สึกเกรงกลัว เมื่อโตขึ้น เธอใช้โอกาสการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์เพื่อแย่งชิงตำแหน่งภรรยาของชายคนนั้น ไม่ยอมถอยแม้แต่นิดเดียว ฟู่เป่ยชวนกอดพี่สาวของเธอไว้ในอ้อมแขน ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง “เธอทำให้ฉันรู้สึกสะอิดสะเอียน” ซูชิงเฉินรู้สึกปวดท้องเหมือนมีบางอย่างในร่างกายของเธอค่อยๆ เลือนหายไป เธอยิ้มเล็กน้อย น้ำเสียงแน่วแน่ “แน่นอน ฉันจะไม่มีวันปล่อยมือ ถึงจะต้องตายก็ตาม” ไม่นานนัก ซูชิงเฉินก็เหมือนจะหายไปจริงๆ จากนั้นเป็นต้นมา ไม่มีใครรู้ว่าเธอยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ ในยามค่ำคืน ฟู่เป่ยชวนมักจะได้ยินเสียงผู้หญิงคนหนึ่งพูดกับเขาว่า “ถ้าฉันไม่เคยรักเธอเลยก็คงจะดี” ห้าปีต่อมา ซูชิงเฉินกลับมาพร้อมกับเด็กคนหนึ่ง กลับมาในสายตาของคนทั่วไปอีกครั้ง ...
บิดามารดาสิ้นใจไปอย่างกะทันหัน ครอบครัวที่เหลือก็กดขี่ราวมิใช่ลูกใช่หลาน ชุนลี่มี่จึงต้องพาน้องชายออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ ด้วยพรที่สวรรค์มอบให้ ......................................................................................................................................................................... หลังจากบิดาตายจาก สองพี่น้องก็ใช้ชีวิตในสกุลชุนอย่างยากลำบาก แต่ทั้งสองก็ยังอดทนเรื่อยมา ทว่าเรื่องครานี้มันหนักหนาเกินทน ชุนลี่มี่ "ข้าขอตัดขาดกับพวกท่าน ต่อจากนี้พวกท่านมิต้องเลี้ยงดูข้า ข้ามิต้องแทนคุณท่าน อย่าได้ยุ่งเกี่ยวกันอีก" . . "ท่านยาย ในนิมิตหลานเห็นเขากำลังควบขี่..." "ขี่ม้าหรือ" "มิใช่เจ้าค่ะ" "แล้วขี่สิ่งใดเล่า หรือจะเป็นกระบือ วัว ลา- " "เป็นข้าเจ้าค่ะ”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY