“ทำไมต้องเป็นหนูคะ” “ก็เห็นเธอแล้วมันเสี้ยนปาก ถ้าจะให้พูดตรง ๆ ก็คือ ถูกใจตั้งแต่แรกพบ เห็นแล้วเงี่ยน เธอหน้าสวย หุ่นเอ็กซ์ ทั้ง ๆ ที่อายุเท่านี้ เห็นแล้วอยากเอาจนเอ็นแข็ง ยื่นข้อเสนอไปแล้วเธอกลับปฏิเสธ มันก็เลยยิ่งรู้สึกตื่นเต้น เหตุผลมีแค่นี้ ส่วนเธอจะยอมหรือไม่ก็แล้วแต่ ตัดสินใจเองฉันไม่บังคับอยู่แล้ว” “โอ้เอ้เล่นตัวคิดจะเรียกเงินเพิ่มหรือไง รู้หรือเปล่าว่าหนี้น้องชายเธอเท่าไหร่ เกือบล้านเชียวนะ เงินจำนวนนี้สำหรับฉันมันแค่ขี้เล็บ แต่กับเธอที่มีแม่ป่วยติดเตียงก็คงไม่ใช่เรื่องเล็ก” “ฉันยอมค่ะ เมื่อไหร่คะ ที่ฉันต้องทำ” เขายิ้มมุมปากคล้ายสมใจ “หมายถึงทำอะไรล่ะ” ผักบุ้งก้มหน้า พูดเสียงเบา “ทะ ทำเรื่องนั้น ขายตัวให้คุณ” “ตอนนี้” “ห๊า ตอนนี้เหรอคะ” “จะ ทำอะไรหนูคะ” “อย่าถามมาก เงียบ!” เขาเอาแต่จ้องมองนมใหญ่ของเธอแล้วอุ้มเธอมาที่เตียง "สวยดีนี่...นมใหญ่ชิบ" เคย์ไม่ได้สนใจความรู้สึกของหญิงสาวเลยสักนิด มือหนาบีบเคล้นทรวงอกอวบรุนแรงจนแดงช้ำไปหมด "อื้อ อา....เจ็บ!.." "จำไว้ตั้งแต่วินาทีนี้หนูคือเด็กของเฮียเคย์ ยินดีกับตำแหน่งนี้ด้วย ปกติเฮียค่อนข้างเลือกเด็ก หนูถูกใจเฮียถือว่าโชคดีมาก"
@ไนต์คลับ
"ผักบุ้ง!!"
เสียงตะโกนเรียกโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นไม่ขาดสาย ก่อนสาวน้อยร่างเล็กเจ้าของชื่อ ผักบุ้ง จะขานรับด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม ถึงแม้ภายในใจจะเหนื่อยแสนเหนื่อยแค่ไหนก็ตาม
"ขา เจ้!!"
หญิงสาวใบหน้าทรงเสน่ห์ วัย 22ปี เดินมาหา เจ้นก ผู้จัดการของไนต์คลับชื่อดังที่เธอทำงานอยู่ด้วยท่าทางขะมักเขม้น
"ผักบุ้งคนสวย นางฟ้าของเจ้! มาหาเจ้เร็วๆ"
เจ้นกกวักมือเรียกเด็กสาวให้รีบเดินเข้ามาหาด้วยท่าทางรีบร้อน ก่อนจะฉีกยิ้มกว้างอย่างเอ็นดู
"มีอะไรหรือเปล่าคะ ยิ้มหวานเชียว"
ผักบุ้งเอ่ยถามอย่างสงสัย ท่าทางของอีกฝ่ายเริ่มไม่น่าไว้วางใจจริงๆ
"วันนี้มีแขกSUPER V.I.P มาหลายคนเลย รวย ๆ กันทั้งนั้น เขามาจองชั้นบนไว้ทั้งชั้นเลยนะ"
เจ้นกพูดไปพลางทำหน้าเพ้อฝันอย่างมีความสุข แตกต่างจากผักบุ้งที่ยังงงงวยกับอีกฝ่าย คิดว่าจะมีเรื่องอะไรสำคัญเสียอีก
"ค่ะ...แล้วเจ้เรียกหนูมาทำไมคะ"
"วันนี้เด็กที่ร้านมีไม่พอ เจ้ก็ไม่รู้จะทำยังไงแล้วจริงๆ" เจ้นกพูดพลางมองเด็กสาวตาหวานอย่างมีเลศนัย
"แต่เจ้คะ บุ้งไม่ทำงานเกี่ยวกับเรื่องอย่างว่านะ เราคุยกันไว้แล้ว"
ผักบุ้งเริ่มโอดครวญเมื่อเริ่มจะเข้าใจความต้องการของอีกฝ่าย
"แค่ขึ้นไปชงเหล้าให้แขกเฉยๆน่า ไม่มีการแตะตัว ไม่มีเรื่องเกินเลย แนนกับปอยก็อยู่ เจ้ไม่ได้ให้บุ้งอยู่คนเดียว นะหนูนะ ช่วยเจ้เหอะ"
"แต่เจ้....."
เด็กสาวเริ่มกลัวเธอไว้ใจเจ้นกแต่ไม่ไว้ใจแขกผู้ชายที่นี่เลยสักคน พวกปากว่าตาขยิบเธอไม่อยากจะเข้าไปยุ่งด้วยแม้แต่น้อย
"โถ่...ผักบุ้ง หนูรู้ไหมว่าหนูเป็นเด็กที่สวยที่สุดที่เจ้เคยเจอมาเลย แต่หนูดันเอาความสวยมาหลบนั่งคิดเงินอยู่หลังคอมนี่นะ เจ้เสียดายแทนเลย เอางี้ พรุ่งนี้มีเรียนใช่ไหม งั้นเจ้ให้ทิปพิเศษสามเท่าเลย ถ้าหนูขึ้นไปดูแลแขก"
"แล้วถ้าเขาลวนลามหนูล่ะคะ"
หญิงสาวเริ่มจิตใจเอนเอียงเมื่อได้ยินค่าตอบแทนที่จะได้รับ แต่ก็ยังไม่วายกล้า ๆ กลัว ๆ เหมือนเดิม
"อืม...งั้น..เอานี่ไป ถ้าพวกมันลวนลามบุ้งเมื่อไหร่ก็เอานี่ไปจี้มันเลย เด็กชงเหล้าของเจ้ ทุกคนรู้ว่าไม่ใช่เด็กเอ็น แค่ชงเหล้าเฉย ๆ ข้างบนก็มีเด็กเอ็นอยู่แล้ว ไม่มีใครแตะเด็กอย่างหนูหรอกมันเป็นมารยาทน่ะ”
เจ้นกทำสีหน้าครุ่นคิด ก่อนจะวิ่งไปหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าขนาดเล็กในกระเป๋ามาใส่มือหญิงสาว
“นี่อะไรคะ”
“เครื่องช๊อตไฟฟ้า”
“ให้หนูเหรอคะ”
“ใช่ ป้องกันตัว พอใจยัง เจ๊ทำขนาดนี้แล้วนะ”
ผักบุ้งมองของในมืออย่างชั่งใจ ก่อนจะเงยหน้าถามว่า
“ใช้ยังไงคะ”
เจ้นกยิ้ม แปลว่าผักบุ้งตกลงแล้ว เธอจึงสอนวิธีใช้ให้ผักบุ้ง ผักบุ้งตั้งใจฟังและทดสอบเมื่อสามารถใช้เป็นแล้วจึงพูดต่อว่า
"โอเค บุ้งขึ้นไปทำให้ก็ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา"
ผักบุ้งทำสีหน้าขึงขังก่อนจะเตรียมหันหลังเดินขึ้นไปยังชั้นบนของไนต์คลับ
"เดี๋ยว!!...หนูจะไปชุดนี้ไม่ได้ มานี่เลยแม่สาวน้อย"
ผักบุ้งถูกดึงไปยังห้องแต่งตัวก่อนจะถูกจับเปลี่ยนเสื้อผ้าใหม่ทั้งหมด จากเสื้อยืดกางเกงขายาวธรรมดาๆกลายเป็นชุดพนักงานกระโปรงสั้นมากจนแทบจะเห็นแก้มก้น ดีที่เสื้อยังเป็นเสื้อแขนยาวสีขาว ผูกหูกระต่ายที่คอ ยังต้องสวมที่คาดผมหูกระต่ายเพื่อให้ดูน่ารักเข้ากันกับชุด
ผักบุ้งยืนมองตัวเองในกระจกอย่างอึ้งๆ ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเข้าเลขสองไม่เคยเลยที่จะแต่งตัวแบบนี้ มันดูแปลก ๆ แต่โชคดีที่ขาของเธอสวยจึงดูน่ารักไม่น้อย
"คงไม่มีใครมาจับขาฉันหรอกนะ ทำไมกังวลแบบนี้ฟะ ไม่เอาน่าบุ้งเธอต้องสู้สิวะ"
หญิงสาวตบแก้มตัวเองสองสามครั้งพลางพูดให้กำลังใจตัวเองไปด้วย สำหรับชีวิตเด็กสู้ชีวิตอย่างเธอก็มีแค่นี้แหละ พึ่งพาแต่ตัวเอง เหนื่อยแค่ไหนก็ต้องทน ในเมื่อต้นทุนในชีวิตของคนเรามันไม่เท่ากัน
@ห้อง SUPER V.I.P
กลางห้องขนาดใหญ่ปรากฏมีชายหนุ่มหล่อสี่สองคนที่รูปร่างสูงใบหน้าคมต่างนั่งจ้องหน้ากัน
ในขณะที่รอบๆห้องถูกรายล้อมไปด้วยเหล่าชายชุดดำเกือบยี่สิบคน ที่ได้แต่ยืนมองเจ้านายของพวกตนอย่างเงียบๆเช่นกัน หญิงสาวสี่ห้าคนที่นั่งขนาบข้างก็ได้แต่อึกอักมือไม้สั่นอย่างหวาดกลัว เพราะเหล่าหนุ่มหล่อแต่ละคนก็ต่างแผ่รังสีอำมหิตออกมาไม่ต่างกัน
"กูคิดว่ามึงจะจัดการมันเงียบๆ"
ชายหนุ่มคนแรกเอ่ยขึ้น
"มันแหกปากเองช่วยไม่ได้"
ชายหนุ่มคนที่สองเอ่ยขึ้น
"มึงก็เลยอัดมันซะเละขนาดนั้น ไอ้ห่าเมฆ"
ตามมาด้วยคนที่สามที่เอ่ยออกมานิ่งๆ
"มันท้าทายยังหาเรื่อง กูไม่คิดจะออมมืออยู่แล้ว"
ชายหนุ่มที่ชื่อ เมฆ ตอบกลับเพื่อนของตนไปอย่างไม่แยแส
"แล้วมึงจะมานั่งกลุ้มทำไมวะ!"
เสียงชายหนุ่มคนแรกหรือ วาทิม เอ่ยขึ้นอย่างไม่เข้าใจ
"กูพึ่งรู้ว่าไอ้ห่านั่นเป็นพี่ชายของตัวเล็ก"
"เชี้ยแล้วไงไอ้เมฆ ถ้าตัวเล็กรู้เข้ามึงจบแน่"
ชายหนุ่มคนที่สอง หรือ ฌอน พูดขึ้นอย่างหนักใจแทนเพื่อน
"เออ... แม่ง กูควรทำไงดีวะ"
"กูก็คงช่วยไม่ได้ เรื่องความรักกูขอบาย"วาทิมเอ่ยขึ้นอย่างตัวใครตัวมัน
เมฆได้แต่นั่งหน้าเครียดอย่างไม่รู้จะทำอย่างไรดี มืดแปดด้านไปหมด
"อ่อน...!"
เสียงชายหนุ่มคนสุดท้ายเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งเงียบมานาน สายตาเย็นชากวาดมองเพื่อนตัวเองอย่างสมเพช
"แค่ผู้หญิงคนเดียว มึงจำเป็นต้องเรียกพวกกูมาไหม เสียเวลา!"
เคย์พูดขึ้นโดยไม่รักษาน้ำใจใครเลยสักคน
"ถ้าวันไหนมึงมีความรัก มึงจะรู้"
เมฆมองหน้าเพื่อนแล้วทำหน้าหยัน
"เหอะ!..คนอย่างกูไม่เคยง้อผู้หญิงโว้ย"
เคย์แค่นยิ้มร้ายกาจออกมา พลางยกบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบตรงนั้น มืออีกข้างก็ยกแก้วไวน์หมุนไปมา พลางจ้องมองเข้าไปในนั้น
คนอย่างเคย์ไม่มีทางหลงงมงายไปกับความรักงี่เง่าจอมปลอมเด็ดขาด
ก๊อก!..ก๊อก!...
"ขออนุญาตเข้าไปนะคะ" เสียงใสเอ่ยขึ้นก่อนจะผลักประตูเข้าไปช้าๆ
ผักบุ้งถึงกลับผงะ ไม่รู้ว่าตนเองเข้าไปขัดจังหวะอะไรหรือเปล่า สายตาทุกคู่ถึงได้จ้องมองมาที่เธอเป็นตาเดียว
"ยัยบุ้ง มานี่ๆ"
เสียงหญิงสาวรุ่นพี่กวักมือเรียกให้เดินเข้าไปหา
"ค่ะ พี่แนน"
ร่างบางเดินเข้าไปอย่างเงอะงะ ก้าวขาแทบไม่ออกประหม่าไปหมด
"มานั่งข้างๆคุณเคย์เร็ว"
แนนโยนงานหินให้รุ่นน้องเพราะดูเหมือนว่าชายหนุ่มที่ชื่อเคย์จะโหดที่สุดในบรรดาชายหนุ่มทั้งสี่คนนี้แล้ว
"ค่ะ"
ร่างบางถูกจับให้มานั่งข้างๆชายหนุ่มหน้าโหด อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สายตาหวานกวาดมองใบหน้าหล่อเหลาของชายหนุ่มก่อนจะถูกสายตาเย็นชาสบกลับมาผักบุ้งถึงกับสะดุ้ง
"อย่านั่งนิ่งสิบุ้ง รินไวน์ให้คุณเขาด้วย"
เสียงรุ่นพี่ที่นั่งข้างๆเอ่ยเรียกสติของเด็กสาวอีกรอบ
"ค่ะๆ"
มือไม้สั่นเทาค่อยๆรินไวน์ใส่แก้วให้ชายหนุ่มอย่างช้าๆ รู้สึกอยากหดร่างกายของตัวเองให้เหลือเล็กที่สุดเท่าที่จะทำได้
"พอแล้ว"
เสียงเย็นชาเอ่ยขึ้น แทบจะชิดใบหูเล็ก ผักบุ้งถึงกับขนลุกซู่ ย่นคอหนีอย่างหวาดๆ
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
‘ทริปฮันนิมูนที่ไม่ได้มีแค่เรา แต่ฉันและเขายังมีผู้ร่วม ทริปเข้ามาสร้างสีสันอีกมากมาย’ หลังแต่งงาน ตฤณก็พาภรรยาสาววัยละอ่อนอย่างยี่หวาไปฮันนิมูนเหมือนคู่สามีภรรยาคู่อื่น ๆ แต่การเดินทางไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์กับสามีผู้เป็นนักธุรกิจในครั้งนี้ กลับทำให้ยี่หวาได้รู้ว่าตฤณสามีของเธอมีรสนิยมทางเพศแบบไหน และที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นคือ เขาทำให้เธอได้รู้จักตัวตนของตัวเองอย่างที่เธอไม่คิดว่าจะได้รู้จักด้วยซ้ำ ตฤณจะพายี่หวาไปฮันนิมูนที่ไหน อย่างไร และกับใคร ติดตามอ่านได้ใน “ฉ่ำรักเมียนักธุรกิจ” แนะนำตัวละคร ยี่หวา : สาวสวยวัย 24 ปี ผู้มีผิวขาว และรูปร่างอวบอัด แต่น่าทะนุถนอม นิสัยอ่อนหวาน ว่าง่าย แต่เป็นคนอยากรู้อยากลอง ยี่หวาเพิ่งจะรู้ว่าสิ่งที่ตฤณทำกับเธอในห้องหอนั้นมันก็แค่น้ำจิ้ม เพราะเมื่อเดินทางไปฮันนิมูนกับตฤณจริง ๆ เธอกลับได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ จนเธอติดอกติดใจอย่างยากจะถอนตัว สำหรับยี่หวาแล้ว 'คืนเข้าหอที่เคยคิดว่าเด็ด ยังไม่เผ็ดเท่าทริปฮันนิมูนที่สามีหนุ่มจัดให้' ตฤณ : นักธุรกิจหนุ่มวัย 34 ปีหนุ่มลูกเสี้ยว บ้างาน แต่เวลาคลายเครียดก็สนุกสุดเหวี่ยง โดยเฉพาะเรื่องเซ็กส์ ตฤณหมั้นหมายกับยี่หวาตามความเห็นชอบของผู้ใหญ่เพราะถูกใจในความน่ารัก แต่ยิ่งไปกว่านั้นคือเพราะยี่หวาเป็นเด็กดี และไม่เคยดื้อกับเขาเลยสักครั้ง ว่านอนสอนง่ายแบบนี้สิ ถึงจะใช้ชีวิตคู่ไปด้วยกันตลอดรอดฝั่ง
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"