แนวลูกสาวมาเฟีย นางเอกร้ายกาจ สายบาป ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
แนวลูกสาวมาเฟีย นางเอกร้ายกาจ สายบาป ความสัมพันธ์ที่ซับซ้อน
ช่วยด้วยน้องสาวผมเป็นมาเฟีย
ตอน โดนฟัด
อายูมิเป็นสาวลูกครึ่งไทยญี่ปุ่น แม่ของเธอเป็นเพื่อนกับคุณแม่ของเจย์แต่พ่อของเธอเป็นมาเฟียญี่ปุ่น
ด้วยความที่แม่ของเธอกลัวว่าพ่อจะให้เธอสืบทอดวงการมาเฟีย แม่จึงหอบเธอหนีมาไทยตั้งแต่ที่ยังแบเบาะ
ซ้ำร้ายคุณแม่ของเธอเกิดป่วยด้วยโรคประหลาด ก่อนตายแม่ฝากฝังอายูมิไว้กับแม่ของเจย์ วันนี้เธอก็อายุครบสิบแปดปีพอดี หนุ่มเจย์ก็อายุยี่สิบปีเศษๆ
ในบ้านเดี่ยวหลังย่อมสองชั้น มีคุณแม่ เจย์ และอายูมิอาศัยอยู่ด้วยกันสามคน แม่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐวิสาหกิจวัย45 เจย์เป็นนักศึกษา ส่วนน้องสาวบุญธรรมของเธอเป็นนักเรียน
ฮ้าว! ๆ ๆ "กลับมาแล้วครับคุณแม่ อายูมิจัง" หนุ่มหล่อตัวสูงเฟี้ยวเดินเข้าบ้าน
เขาวางกระเป๋าสะพายลงแล้วนั่งที่โต๊ะอาหาร
คุณแม่เดินออกจากครัวมาพอดี ท่านถือถาดอาหารมาวางเรียงรายบนโต๊ะและยังอยู่ในชุดทำงานแบบเสื้อเชิ๊ตกระโปรงยาว
"เฮ้อผมปวดหลังจังเลยครับแม่ เอ้อนี่แม่เป็นเหมือนกันรึเปล่า" เจย์เงยหน้าหล่อๆถามแม่แล้วหยิบปีกไก่ขึ้นมากัดแทะกิน
"ไม่นะ นี่แม่บอกแล้วไงว่าไม่ไหวก็เรียนอย่างเดียวพอ" แม่ตอบแล้วบ่น (เจย์ทำงานพาร์ทไทม์อยู่ที่คลังเก็บสินค้าใกล้ๆมหาลัย
"ไม่เป็นไรครับ ผมหาเงินใช้เองได้ น้องก็จะขึ้นมหาลัยแล้วด้วยนี่นา" เจย์นั้งบิดเอวไปมาแล้วตอบอย่างอารมณ์ดี
ใบหน้าหล่อๆของเขาเรียวคมขาวใสยังกับหน้าพระเอกหนังเกาหลี
"เอ้าแม่ลืมไปเลยว่าน้องอ่านหนังสืออยู่ในห้อง" แม่ตอบ
"พี่มาแล้ว มากินข้าวกันอายูมิ" แม่เรียกเสียงดัง
พรึ่บ! อายูมิตาโตทันที เธอยกหนังสือการ์ตูนที่วางทับไว้บนหน้าออกแล้วกลิ้งจนตัวหล่นตุ๊บลงข้างๆเตียง
"พี่เจย์หล่อมาแล้ว ฮิ ๆ" สาวน้อยวิ่งกระโปรงปลิวออกจากห้อง
ตุ๊บ! ๆ ๆ เธอลงมาชั้นล่างแล้วกระโดดเข้ามาล็อคคอเจย์จากด้านหลัง เธอตัวเล็กขาวสูงเพียง155กำลังยืนอยู่ข้างหลังพี่ชาย
ฟ่อด! ๆ อายูมิหอมแก้มซ้ายแก้มขวาของเจย์ต่อหน้าคุณแม่
"เอ้ย อายู" เจย์ตกใจสะดุ้งตัวโก่ง จมูกโด่งๆปลายเรียวแหลมของน้องจิ้มแก้มของเขาจนเจ็บ
"เอ้าอายูมิ นี่โตเป็นสาวแล้วนะยังจะมากอดพี่อีก" คุณแม่ดุลูกสาวแสนสวย
ฮิ! ๆ ๆ สาวน้อยส่งยิ้มให้คุณแม่แต่ยังยืนล็อคคอพี่ชายอยู่
"ก็คิดถึงนี่คะ พี่เจย์ได้ซื้อมาไหม" อายูมิแบมือรอ เธอยื่นหน้าเรียวเล็กพบาดบนบ่าของเจย์
ลมหายใจของเธอพ่นรดใบหูของเขาจนเสียวซี๊ดขนลุกซู่ซ่าไปหมด แก้มนิ่มๆของน้องบดหน้าหล่อๆของเจแนบแน่น เขาร้อนรุ่มจนหน้าชาเหมือนกับว่าโดนตบด้วยฝ่ามือใหญ๋ ๆ
"นี่ตกลงเราคิดถึงพี่หรืออยากได้ไอแพดกันแน่เนี่ย" เจย์บ่นแล้วหยิบกระเป๋าล้วงกล่องไอแพดออกมาให้น้องสาวแสนสวย
"เย้ขอบคุณค่ะ" อายูมิกอดไอแพดแล้วกระโดดดีใจ กระโปรงของเธอปลิวไหวๆจนเห็นขาที่เรียวเล็กและกางเกงในสีชมพู
ผมสั้นหน้าม้าสีดำปลิวไหวๆ สาวน้อยกอดคอเจย์อีกรอบแล้วกระแทกปากสีชมพูใส่ปากพี่
จุ๊บ! เจย์ตาค้างสะดุ้งตัวโก่ง ริมฝีปากสีชมพูเล็กของน้องกระแทกปากแดงๆของเขาจนบู้บี้
เธอยังเอามือขวาจิกแก้มของเจย์แล้วบีบหน้าหล่อๆเขย่า เธอทำปากจู๋แนบปากของเจย์เอาไว้ไม่ยอมดึงหน้าสวยๆกลับเลย
ปั้ง! แม่เอามือฟาดลงบนโต๊ะจนเสียงดังโครมคราม
"นี่อายูมิ" แม่ดุลูกสาวจนเธอสะดุ้งหันมายิ้มหวานใส่แม่อีกคน
"แฮร่ๆ ก็ของขวัญวันเกิดหนูนี่คะ สัญญากันไว้แล้ว" อายูมิตอบแม่แล้วลงมานั่งยิ้มแฉ่ง
"กินกันก่อนจ๊ะ แม่ก็มีของขวัญให้หนูแหละ" แม่เปลี่ยนสีหน้ามายิ้มแล้วลูบหัวสาวน้อยอย่างน่าเอ็นดู
ฮิ! ๆ ๆ เธอหัวเราะแล้วเอนตัวพิงคุณแม่ ตาโตๆกลมแป๋วของเธอมองหน้าหล่อๆของเจย์และฉีกยิ้มหวานให้เขา
เจย์อายจนหน้าแดงตัวร้อนไปเสียหมด เขาไม่เคยโดนสาวคนไหนยิ้มกว้างและจิกตาแป๋วใส่แบบนี้เลย เหงื่อของเขาซึมออกมือเนื้อตัวเปียกโชกยิ่งกว่าตอนทำงานเสียอีก
หัวใจหนุ่มน้อยเต้นตึกตั่ก ๆ จนเหมือนหน้าอกจะทะลุออกมา
"กิน กินกันเถอะครับ" เจย์เอ่ยแล้วลงมือกินอาหารที่หลากหลายเรียงรายอยู่เต็มโต๊ะ พออิ่มหนำสำราญแม่ก็เอาเค้กมาจุดเทียนและมอบสร้อยทองให้อายูมิ
ทุกคนร้องเพลงแฮปปี้เบิร์ดเดย์กันเสียงดังสนุกสนาน
"พี่หล่อปวดหลังอีกไหมล่ะ หนูนวดให้คิดห้าสิบบาทพอ" อายูมิเดินมาถามเจย์ที่นั่งบนโซฟาดูทีวี
หมับ! ๆ ๆ สองมือน้อยๆของเธอบีบหัวใหล่และกล้ามแน่นๆของพี่ชาย
"หยุดเลย ๆ ไม่ต้องพี่ไม่มีตังจะเปย์หนูแล้ว" เจย์บ่น
"งั้นหนูนวดให้ฟรี ฮิ ๆ" อายูมิกระซิบหลังใบหูและบีบนวดต่อ เธอยืนมองทีวีแล้วเอาคางวางไว้บนหัวของเจย์ใช้สองมือบีบนวดเขาที่นั่งอยู่บนโซฟา
หน้าอกหน้าใจของเธอบดชนท้ายทอยของเจย์ ลมหายใจของเธอพ่นออกมาใส่ผมหน้าของเขาจนสั่นไหวๆ
เต้าน้อยๆที่อัดชนหัวนั้นบอกได้เลยว่าไม่ใช่เด็กๆเสียแล้ว
อูยยย! เจย์นั่งตัวเกร็งแข็งเป็นหิน เขาเสียวจนท่อนเอ็นแข็งขึ้นมาจริงๆ ทั้งๆที่ไม่ได้คิดอะไรแต่มือเล็กๆกับกลิ่นตัวหอมๆของอายูมินั้นเย้ายวนจริงๆ
ไอรัก เธอเป็นสาวสวยวัย19ปีที่หุ่นอวบสมส่วนผิวขาวน่ารัก ทว่าเธอถูกเก็บมาเลี้ยงในครอบครัวร่ำรวยที่มีพี่ชายต่างพ่อต่างแม่ถึงสี่คน แล้วเหล่าพี่ชายวัยกลัดมันจะทนความสวยของน้องสาวที่โตขึ้นทุกวันๆจนไม่ล่วงเกินเธอได้หรือ? ในบ้านบ้านหลังใหญ่นี้มีอยู่เจ็ดคนคือไอรักน้องสาวคนเล็กที่ถูกเก็บมาเลี้ยง ไออุ่นพี่ชายคนโต ไอเย็นพี่ชายคนรอง ไอคิวพี่ชายคนที่สามไอน้ำพี่ชายคนสุดท้อง และพ่อกับแม่ ไออุ่นเป็นพี่คนโตอายุ27และทำงานในบริษัทของพ่อ เขาอบอุ่น เป็นผู้นำและรักน้องๆ และหล่อเข้มสูงใหญ่ล่ำสันผิวสีแทน ไอเย็นอายุยี่25เขาเป็นคนใจเย็นสุขุม เงียบ ๆ นิ่งๆ และหล่อคมผิวขาวผอมสูง ไอคิวเรียนอยู่มหาลัยปี4เป็นหนุ่มแว่นหน้าหล่อตี๋มาดเด็กเรียนที่ฉลาดและชื่อดังในมหาลัย ไอน้ำเรียนอยู่ปี2เขาเป็นนักกีฬารักบี้ประจำมหาลัยที่ร่าเริงผิวขาวและหล่อล่ำกล้ามใหญ่ มีสาวมาติดพันเขาเยอะเอาเรื่อง ส่วนไอรักน้องสาวคนสวยเรียนอยู่มหาลัยปี1 เธอมีใบหน้าสวยรูปไข่ผิวขาว สูง160และอวบอิ่มสมส่วนไปทุกจุด
เมื่อคุณแม่มีสามีใหม่แตงโมและพี่ส้มโอก็ต้องเจอกับพ่อเลี้ยงสายหื่นไปโดยปริยาย แรกๆทุกคนก็อยู่กันมีความสุขดี ไปๆมาๆพี่สาวก็เสียตัวให้พ่อเลี้ยงสุดหล่อ หลังๆแตงโมก็คงไม่รอด ที่น่าแปลกใจคือทุกคนในบ้านหลงเค้าหัวปักหัวปำ ไม่ทราบว่าพ่อเลี้ยงคนนี้มีอะไรดี ระหว่าง ความรวย ความหล่อ หรือลีลา ...
อริสา คุณแม่คนสวยเธอพลาดท่าไปมีอะไรกับชายที่ไม่ใช่สามีจนเกิดติดใจรสชาติความตื่นเต้นของการมีชู้ เธอจึงแอบสามีออกไปสนุกกับชายชู้มากหน้าหลายตาจนหยุดไม่อยู่
นิยายอีโรติก แนวเรื่องจริง นอกใจ มีชู้ เผลอใจ ไม่ตั้งใจ nc 18+ รวมเรื่องสั้นแนวนอกใจ นอกกาย สายบาป เป็นเรื่องแต่งเสริมเรื่องจริง สั้นๆจบในตอน มีหลายแนว หลายเหตุการณ์ สำหรับผู้ใหญ่ อายุ18ปีขึ้นไป
นิยายผู้ใหญ่ แนวฮาเร็มชาย นางเอกเป็นคุณหนูวัย18ปี เธอชอบยั่วคนสวน คนขับรถ ใจแตก มั่วสวาท nc 18+
แนวโคแก่กินหญ้าอ่อน สาวใหญ่กับหนุ่มๆมหาลัย nc pwp 3p 18+ เรื่องราวของป้าแม่บ้านวัยสี่สิบ หล่อนเป็นแม่บ้านในมหาลัยที่ต้องวนไปทำความสะอาดในตึกต่างๆแต่ละคณะทุกสัปดาห์ ไม่รู้เพราะความเส่นห์แรงหรือเคยเป็นนักแสดงนางร้ายจอมมารยามาก่อน ป้าแม่บ้านสามารถตกนักศึกษาชายที่หล่อๆมากินตับเกือบครบทุกคณะ
เธอถูกบังคับแต่งเข้าตระกูลเสิ่น ทุกคนต่างก็คาดหวังว่าเย่ชิงซีจะสามารถให้กำหนดลูกของคุณชายเสิ่น เสิ่นเซียวเหยาได้ ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในอาการหมดสติ เดิมที่เธอคิดว่าเธอคงจะต้องอยู่เป็นหม้ายไปแบบนี้ตลอดชีวิตนี้แล้ว แต่ไม่คิดว่าสามีเจ้าชายนิทราของเธอกลับฟื้นขึ้นมาได้! ชายหนุ่มลืมตาขึ้น จ้องมองไปยังเธอด้วยสายตาที่เย็นชา "คุณเป็นใคร?" "ฉันเป็นภรรยาของคุณ..." เสิ่นเซียวเหยามีสีหน้างุนงง "ทำไมผมถึงจำไม่ได้ว่าผมมีภรรยาแล้ว ผมไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ พรุ่งนี้ผมจะให้ทนายมาจัดการเรื่องหย่า" ถ้าไม่ใช่เพราะคนในตระกูลเสิ่นเข้ามาหยุดเขาไว้ เธอคงจะกลายเป็นภรรยามหาเศรษฐีที่โดนทิ้งในวันที่สองหลังจากการแต่งงานไปแล้ว ต่อมาเธอตั้งครรภ์และวางแผนว่าจะออกไปจากตระกูลเสิ่นอย่างเงียบๆ แต่ชายหนุ่มกลับไม่ยอมปล่อยเธอไป เย่ชิงซียืนยัน"เสิ่นเซียวเหยา คุณรังเกียจฉันมากนักไม่ใช่เหรอ ฉันต้องการหย่า!" เขาลดท่าทีที่เย่อหยิ่งมาโดยตลอดลงและเข้าไปกอดเธอไว้ในอ้อมแขน "ในเมื่อคุณแต่งงานกับผมแล้ว คุณก็เป็นคนของผม คิดจะหย่างั้นเหรอไม่มีทางน่ะ!"
แค่ทะลุมิติมาในโลกยุคโบราณก็นับว่าแย่มากพอแล้ว แต่เคราะห์ซ้ำกรรมซัด เธอต้องมาแต่งงานกับท่านอ๋องที่ขึ้นชื่อว่าอำมหิตมากที่สุดในเมืองหลวง แล้วจางอวิ๋นซีจะเอาตัวรอดจากเงื้อมมือของท่านอ๋องจอมโฉดได้อย่างไร
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
'เพียงแรกสบตา มาร์โคก็สัญญากับตัวเองว่าจะต้องได้หล่อน แต่เมื่อความสนิทเสน่หาที่หยิบยื่นให้ ถูกแทนที่ด้วยการหลอกลวง อสูรร้ายที่หลับใหลมายาวนอนจึงตื่นขึ้น เพียงเพื่อจะมอบ อาญาสวาท ให้กับสาวน้อย เฉกเช่น ตยาคีย์ “รู้ไหมว่าตอนนี้ผมเห็นคุณเป็นอะไร” เขาแสยะยิ้ม ในขณะที่หล่อนได้แต่น้ำตาคลอ “นางกากียังไงล่ะ...!!!” ชายหนุ่มฉีกกระชากเสื้อผ้าออกจากร่างบางอย่างอำมหิต มือหนาสีอำพันบีบเคล้นทรวงอกอิ่มอย่างป่าเถื่อน ไร้ความปรานี เนิ่นนานกว่าเขาจะปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระ “นี่แค่น้ำจิ้ม... อาหารจานหลักน่ากินกว่านี้เยอะ สาวน้อย...”
ซุนเหยา เจ้าของร้านอาหารจีน ที่มีอยู่หลายสาขาทั่วประเทศ เธอทำงานหนักจนหมกสติไป เมื่อตื่นขึ้นอีกครั้งก็พบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในเกี้ยวแปดคนหาม สวมชุดแดงมงคล กำลังจะเข้าพิธีแต่งาน
จือหลินเธอเป็นเด็กกำพร้า ที่ถูกมารดาทอดทิ้งไว้ที่โรงพยาบาลตั้งแต่วันแรกที่ลืมตามาดูโลก ต่อมาทางโรงพยาบาลจึงส่งตัวเธอให้กับสถานสงเคราะห์ พออายุได้สามปี ก็มีองค์กรหนึ่งมารับเลี้ยงตัวเธอ แต่พวกเขาเลี้ยงเธอและเด็กคนอื่นๆ ไว้เพื่อเป็นหนูทดลองเท่านั้น ครั้งแรกที่ถูกนำตัวมา ต่างก็โดนจับฉีดยาเข้าสู่ร่างกาย เพื่อหาเด็กที่เลือดต้านเชื้อที่ฉีดเข้าไปได้เท่านั้น หากร่างกายทนรับไม่ไว้สิ่งที่ทางองค์กรมอบให้คือความตาย จือหลินอาจเป็นเพราะเลือดของเธอพิเศษกว่าเด็กคนอื่น ไม่ว่าฉีดยาตัวไหนเข้าสู่ร่างกายเธอก็ทนรับได้ทั้งนั้น นับจากนั้นมาเธอจึงถูกเลี้ยงดูจากองค์กรมาอย่างดี เรื่องการศึกษาเธอก็สามารถเรียนรู้ทุกสิ่งได้อย่างเต็มที่ แต่เพราะความฉลาดของเธอจึงถูกส่งให้เรียนวิทยาศาสตร์การแพทย์และเรียนแพทย์ควบคู่ไปด้วย เมื่อเรียนจบมาแล้ว จือหลินยังคงทำการให้องค์กรเช่นเดิม แม้จะไม่ได้เป็นนักฆ่าเช่นเพื่อนคนอื่นที่มาพร้อมกัน แต่เธอก็ต้องฝึกไม่ต่างจากพวกเขา ยิ่งเมื่อต้องนำเด็กเข้ามาเป็นหนูทดลองเช่นเดียวกับเธอในตอนเล็ก ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ หากฝ่าฝืนไม่ทำการชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวจะถูกกระตุ้นให้ได้รับความทรมานทันที นานวันเข้า ความดำมืดก็ก่อเกิดในใจ ไม่ว่าจะฉีดยาให้เด็กร้ายแรงเพียงใดจือหลินก็เลิกรู้สึกผิดไปเสียแล้ว เพราะการทำงานของเธอตลอดหลายปีที่ผ่านมาทำให้ทางองค์กรยกย่องและมักจะให้สิ่งดีๆ กับเธอเสมอ เมื่อมีชิปตัวหนึ่งที่ถูกสร้างขึ้นมาเพื่อฝังมิติอีกห้วงหนึ่งไว้ภายในร่างกาย จือหลินนางก็ได้รับเลือกให้ทดลองใช้สิ่งนี้ด้วยเช่นกัน จือหลินถูกฝังชิปมิติเข้าที่แกนสมองของเธอ ความเจ็บปวดที่ได้รับทำให้เธอแทบสิ้นสติ เมื่อชิปถูกฝังลงไปแล้ว เพียงไม่นานก็มีเสียงจากระบบให้เธอยืนยันตัวตน ก่อนที่จะปรากฏภาพต่างๆ ภายในหัวของเธอ ของจากภายนอกล้วนแต่ถูกส่งเข้าไปเก็บไว้ด้านในได้ทั้งสิ้น หากเป็นเนื้อสด ผักผลไม้ ยังคงความสดอยู่เช่นเดิมแม้จะเก็บไว้นานมากเพียงใด ห้วงมิติของจือหลินเหมือนเป็นห้องสูทในคอนโดของเธอเองที่มีทุกอย่างพร้อมใช้อยู่ภายใน แม้แต่ห้องทดลอง ห้องทำงานของเธอก็ปรากฏอยู่ในนั้นเช่นกัน นับจากนั้นจือหลินจึงซื้อของเขาเก็บภายในมิติของเธอเป็นจำนวนมาก ตัวเธอเพียงผู้เดียวที่สามารถเข้าออกในห้วงมิติได้ วันเวลาผ่านไปจนจือหลินล่วงเข้าวัยสามสิบปี เธอสามารถผลิตยาที่ทำให้ทั่วโลกจับตามองออกมาได้ ยายื้อชีวิตจากความตาย แต่การทดลองของเธอที่ผ่านมาต้องใช้คนจำนวนมากในการเข้าทดลอง จือหลินสามารถยื้อชีวิตของชายชราที่กำลังจะหมดลมหายใจให้กลับมามีชีวิตปกติได้ เมื่อเธอกักตัวเขาไว้ได้หกเดือนเห็นว่าไม่มีสิ่งใดที่ผิดปกติจึงคิดจะปล่อยเขาออกไปใช้ชีวิตเช่นเดิม แต่แล้วสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น เมื่อชายชราที่กำลังจะเดินออกจากห้องทดลองล้มลงต่อหน้าทุกคนที่เข้าร่วมชื่นชมผลงานของเธอ จือหลินรีบเข้าไปตรวจดูความผิดปกติทันที ก็พบว่าเขาหยุดหายใจเสียแล้ว เจ้าหน้าที่ทั้งหมดจึงต้องพาชายชราคนนั้นกลับเข้าไปในห้องทดลองเพื่อหาสาเหตุ ผ่านไปเพียงสองครึ่งชั่วโมงเขากลับลืมตาขึ้นมาอย่างไม่น่าเชื่อ แต่แววตาที่มองมาทางทุกคนได้เปลี่ยนไป ในดวงตาของชายชราผู้นั้นมีเพียงตาขาวไม่มีตาดำเช่นคนมีชีวิต “เกิดเรื่องอะไรขึ้น” ผู้อำนวยการองค์กรเดินเข้ามาหาจือหลินแล้วเอ่ยถามอย่างตื่นตระหนก เพราะนักข่าวที่ข่าวเชิญมายังอยู่ที่ด้านนอกเพื่อรอฟังคำตอบ “ขอดิฉันตรวจสอบก่อนค่ะ” จือหลินกุมหน้าผากอย่างมึนงง เธอก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่าเป็นแบบนี้ไปได้อย่างไร คนทั้งหมดยืนมองชายชราที่เดินท่าทางประหลาดอยู่ในห้องทดลอง ในตอนนี้เขาเริ่มหยิบสิ่งของทำร้ายตัวเองอย่างบ้าคลั่ง เจ้าหน้าที่คนหนึ่งรีบวิ่งเข้าไปในห้องทดลองเพื่อห้ามไม่ให้เขาทำร้ายตัวเอง ชายชราเมื่อได้ยินเสียงคนเดินเข้ามาก็พุ่งเข้ามาหาอย่างรวดเร็ว และเริ่มกัดกินเนื้อตัวของเขาอย่างโหดร้าย คนที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดต่างยกมือขึ้นปิดปากอย่างตกใจ เพราะกลัวข่าวเรื่องนี้จะรั่วไหล ผู้อำนวยการสั่งให้คนไปแจ้งนักข่าวให้กลับไปก่อน ทางองค์กรจะแถลงการณ์เรื่องนี้ในภายหลัง เจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายล้มลงเสียชีวิตไม่นานก็มีสภาพไม่ต่างจากชายชราคนนั้น เสียงวุ่นวายไม่ได้จบลงที่ห้องทดลองของจือหลินเพียงแห่งเดียว เพราะห้องทดลองอื่นก็ล้วนพบเหตุการณ์เช่นนี้ไม่ต่างกัน ผู้อำนวยการจำต้องส่งสัญญาณเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ออกจากตึกทดลองให้เร็วที่สุด จือหลินไม่รู้ว่ายาของนางจะสร้างผลเสียมากถึงเพียงนี้ เพราะเจ้าหน้าที่หลายคนล้วนจบชีวิตจนกลายเป็นซอมบี้ไปเสียแล้ว ตึกทดลองถูกปิดตาย เพื่อไม่ให้ซอมบี้ที่อยู่ด้านในออกมาสร้างความเสียหายภายนอกได้ “เรื่องนี้ดิฉันขอจัดการด้วยตนเองค่ะ” จือหลินเดินเข้าไปหาผู้อำนวยการที่ห้องทำงานของเขา เพื่อบอกสิ่งที่เธอคิดว่าอย่างดีแล้วในหลายวันที่ผ่านมา เมื่อเห็นว่าผู้อำนวยการไม่ห้ามในสิ่งที่เธอจะทำจือหลินจึงเดินไปที่หน้าตึกทดลองพร้อมระเบิดเวลาในมือ เธอคิดจะทำลายสิ่งของทุกอย่างที่เธอสร้างขึ้นมาลงด้วยมือของเธอเอง จือหลินเปิดประตูตึกทดลองแล้วรีบปิดลงทันที เธอเดินเข้าไปที่กลางตึกให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะระหว่างทางเธอต้องคอยต่อสู้กับซอมบี้ที่จะเข้ามาทำร้ายเธอไปด้วย เสียงสัญญาณระเบิดดังขึ้น จือหลินหลับตาลง พร้อมทั้งถอนหายใจให้กับเรื่องราวในชีวิตที่ผ่านมา เสียงระเบิดดังไปทั่วบริเวณพร้อมทั้งตึกทดลองที่ถล่มลงมาจนแทบไม่เหลือซาก “เจ็บชะมัด” จือหลินร้องครางออกมาเบาๆ แต่เมื่อรู้สึกตัวได้เธอก็รีบพยุงตัวขึ้นนั่งอย่างรวดเร็วพร้อมมองไปรอบๆ อย่างไม่อยากเชื่อ เธอคิดว่าตายไปแล้วเสียอีก แต่ทำไมถึงได้มีความรู้สึกเจ็บได้ “นี้มันเรื่องบ้าอะไรอีกว่ะเนี่ย” จือหลินเบิกตากว้างอย่างไม่อยากเชื่อ รอบๆ ตัวเธอในตอนนี้เป็นป่าทึบ มือของเธอก็ไม่ใช่ของเธออย่างแน่นอนเพราะมีขนาดเล็กราวกับเป็นเด็กน้อยคนหนึ่งเท่านั้น ตอนที่เธอมึนงงสับสน เรื่องราวความทรงจำของเจ้าของร่างก็ไหลเข้าสู่หัวของเธอจนต้องลงไปนอนดิ้นกับพื้น
© 2018-now MeghaBook
บนสุด