ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในคุกใต้ดินที่ทั้งมืดและชื้น ตะขอเหล็กหนาสองอันเจาะเข้าไปในเนื้ออย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเลือดสาดกระเซ็นออกมา มันเจาะเข้าไปในกระดูกไหล่ของเซียวหยี่เกออย่างไร้ความปรานี
“อ้า!”
นางกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด และสะดุ้งทั้งตัวด้วยความหวาดกลัว ความเจ็บปวดอย่างรุนแรงทำให้ตัวของนางสั่นไม่หยุด ดวงตาข้างซ้ายที่บวมเป่งกับรอยแผลเป็นที่คล้ายกับไส้เดือนบนหน้าของนาง เหมือนว่าจะทำให้นางดูน่าสยดสยองน่าหวาดกลัวมากขึ้น และเลือดก็ไหลออกมาตามตะขอจนแดงเต็มพื้น
ผู้ชายสามคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง เมื่อเห็นสภาพน่าอนาถของนาง เหมือนกับว่าพวกเขาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
“ทำไม? ทำไมถึงทำกับข้าแบบนี้?” เซียวหยี่เกออดทนกับความเจ็บปวดที่แทบจะขาดใจตาย เงยหน้าขึ้นมองไปทางพวกเขาด้วยความยากลำบาก พวกเขาคนหนึ่งคือผู้ชายที่นางรักอย่างสุดใจ คนหนึ่งคือท่านพี่ของนาง คนหนึ่งคือเพื่อนที่รักกันมาตั้งแต่วัยเด็ก นางไม่อยากเชื่อว่า พวกเขาจะทำกับนางอย่างโหดร้ายขนาดนี้
เชียนซือเฉินเดินเข้ามาตรงหน้านาง “เกอเอ๋อร์ เจ้าไม่ควรหนี ฝูเอ๋อร์เป็นพี่สาวของเจ้า นางร่างกายอ่อนแอมาตั้งแต่เด็ก แต่เลือดของเจ้ามียาวิเศษปะปนอยู่กว่าร้อยชนิด พิษทั้งปวงไม่สามารถทำอะไรเจ้าได้ แล้วยังสามารถทำให้คนฟื้นคืนชีพได้ หมอหลวงได้บอกแล้วว่า ใช้เลือดในตัวของเจ้าแลกให้กับฝูเอ๋อร์ นางก็จะสามารถมีอายุยืนยาวได้ เจ้าครอบครองตัวตนของฝูเอ๋อร์มานานหลายปี นางไม่เคยตำหนิอะไรเจ้า แล้วยังดีกับเจ้าเป็นอย่างมากด้วย เจ้าเองก็ไม่อยากให้นางเป็นอะไรไป ถูกต้องหรือไหม? ”
“นางสามารถมีอายุยืนยาว แล้วข้าล่ะ? ข้าก็ต้องตายอย่างนั้นหรือ?” เซียวหยี่เกอมองผู้ชายที่ตัวเองรักอย่างสุดหัวใจตรงหน้า แต่ในเวลานี้กลับดูแปลกหน้าเป็นอย่างมาก “ท่านพี่ซือเฉิน ท่านบอกเองว่าจะไม่ทำให้ข้าเสียใจ!” นางลองพิษทุกชนิดเพื่อเขาจนเกือบเอาชีวิตไม่รอด ถึงได้สามารถฝึกตัวเองให้พิษทั้งปวงมิอาจเข้ามากล้ำกลายนางได้ แต่ตอนนี้กลับกลายเป็นข้ออ้างที่เขาจะนำมาใช้ทำร้ายนาง
“ตั้งแต่ต้น คนที่ข้ารักก็คือฝูเอ๋อร์ เป็นเพราะฝูเอ๋อร์จิตใจดี ไม่อยากทำร้ายเจ้า เลยบีบให้ข้ารับปากกับเจ้า”
“แต่ข้าต่างหากที่เป็นคู่หมั้นของท่าน!” เซียวหยี่เกอเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างมาก เพื่อให้ได้ครองรักกับเขา นางถึงขนาดรับปากข้อเสนอที่เหลวไหลของเขา สองพี่น้องใช้สามีคนเดียวกัน นางยอมถอยให้ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่สิ่งที่ได้กลับมากลับเป็นจุดจบแบบนี้
“แต่ข้าไม่ได้รักเจ้าเลย! แคว้นหลานจ้าวเองก็ไม่มีทางยอมรับพระชายาเอกที่ดวงตาข้างหนึ่งมีแผลเป็น!” ความไร้หัวใจถูกเขียนไว้เต็มใบหน้าที่ครั้งหนึ่งนางเคยคลั่งไคล้
“แต่ดวงตาของข้าพวกท่านเป็นคนบังคับให้ข้ามอบให้กับท่านพี่ และรอยแผลที่หลงเหลืออยู่นี้ก็เป็นเพราะข้าช่วยท่าน!” คำพูดของเขาบาดหัวใจดวงนั้นที่เต็มไปด้วยรูพรุนของเซียวหยี่เกออีกครั้ง
เชียนซือเฉินบ่ายหน้าหนี ไม่มองนางอีก “เกอเอ๋อร์ ทั้งหมดก็เป็นข้าที่ผิดต่อเจ้า เจ้าวางใจได้ รอวันหน้าหลังจากที่ข้าได้ขึ้นครองบัลลังก์แล้ว ก็จะมีคำสั่งให้แต่งตั้งเจ้าเป็นพระชายาเอก ฝังศพของเจ้าไว้ในสุสานเชื้อพระวงศ์ อีกร้อยปีข้างหน้า ข้ากับฝูเอ๋อร์ก็จะฝังที่เดียวกับเจ้า ถึงตอนนั้นพวกเราก็จะสามารถอยู่ด้วยกันอีกครั้ง” เขาช่างแสดงความไร้ยางอายออกมาจนถึงขีดสุดจริง ๆ !
“ท่านพี่ซือเฉิน มีวิธีที่จะช่วยพี่สาวของข้าตั้งมากมาย ข้าไม่อยากตายจริง ๆ ...” เซียวหยี่เกอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่า ผู้ชายที่ตัวเองรักด้วยชีวิตจะทำกับนางเช่นนี้ สัญชาตญาณของการร้องขอชีวิต ทำให้นางรู้สึกกลัวขึ้นมา
ฉู่เทียนฉีที่อยู่ข้าง ๆ กลัวว่าเชียนซือเฉินจะใจอ่อน ก็เร่งเร้าขึ้นอย่างรีบร้อน “องค์รัชทายาท ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมาลังเล เราสามารถรอได้ แต่ฝูเอ๋อร์รอไม่ไหวอีกแล้ว”
“ท่านพี่ ข้าก็เป็นน้องสาวของท่านพี่ ตอนนั้นท่านพี่ให้ข้าควักดวงตาของข้ามอบให้กับพี่สาว ท่านพี่บอกว่าจะดูแลข้าตลอดไป ทำไมท่านพี่ถึงทนทำร้ายข้าได้ถึงเพียงนี้?” เซียวหยี่เกอมองผู้ชายที่เคยรักและห่วงใยนางมาโดยตลอดแล้วรู้สึกเจ็บปวดหัวใจเป็นอย่างยิ่ง
ฉู่เทียนฉีทำเสียงฮึดฮัดออกมา แล้วพูดขึ้นด้วยสายตาที่เย็นชาว่า “ถ้าไม่ใช่เพราะฝูเอ๋อร์ เด็กนอกคอกอย่างเจ้าที่ไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ไหน ก็คู่ควรเรียกข้าว่าท่านพี่ด้วยหรือ เจ้าขโมยชีวิตของฝูเอ๋อร์ไปสิบกว่าปี ก็ถึงเวลาที่ต้องคืนให้นางแล้ว!”
“พวกท่านแต่ละคนพูดว่าข้าขโมยชีวิตของนาง แต่นั่นเป็นความผิดของข้าด้วยหรือ? ทำไมพวกท่านถึงเอาความผิดทั้งหมดมาให้ข้า?” ที่แท้ ที่พวกเขาดีกับนางทุกอย่าง ก็เพื่อเซียวหยี่ฝูเท่านั้น นางเอาสายตาที่เป็นความหวังสุดท้ายมองไปทางผู้ชายอีกคนหนึ่ง “ท่านพี่เฟิง แล้วท่านล่ะ? ท่านก็คิดแบบนี้เหมือนกันใช่หรือไม่? ” นี่เป็นความหวังสุดท้ายของนาง นางภาวนาในใจ
แต่คำพูดของหนิงเฟิงต่อจากนี้กลับทำให้หัวใจของนางตกลงไปในหุบเหวลึกอีกครั้ง :“เซียวหยี่เกอ ฝูเอ๋อร์มีบุญคุณช่วยชีวิตข้า เจ้ากับข้ามีอะไรหรือ? ถ้าไม่เพราะรู้ว่าเลือดในตัวของเจ้ายังมีประโยชน์กับฝูเอ๋อร์อยู่บ้าง ข้าคงไม่มีทางชายตามองเจ้าด้วยซ้ำ!”
คำพูดของชายทั้งสามคนราวกับมีดแหลมคมสามเล่ม แทงลึกเข้าไปในหัวใจของเซียวหยี่เกอ ในเวลานี้ นางได้ลิ้มลองรสชาติของความรู้สึกเจ็บปวดทั้งทางร่างกายและจิตใจแล้ว จากที่เคยมีความหวังในตอนแรกจนกลายเป็นความผิดหวังและสิ้นหวัง...
“แต่ก็เห็น ๆ กันอยู่ว่าคนที่ช่วยท่านพี่ไว้คือ...” ทั้ง ๆ ที่คือนาง!
พวกเขาสามคนต่างเคยเป็นแสงสว่างในชีวิตของนาง แต่จนถึงตอนนี้ นางถึงได้รู้ว่า ทั้งหมดนั่นคือสิ่งจอมปลอม ที่แท้...ชีวิตของนางไม่เคยมีแสงสว่างเลย!
ที่แท้...พวกเขาทำดีกับนางทุกอย่าง ก็ต่างเพื่อวันนี้ เพื่อช่วยชีวิต เซียวหยี่ฝู พี่สาวของนาง นางฟ้าในใจของพวกเขาเท่านั้น
“องค์รัชทายาท แย่แล้วเพคะ คุณหนูของพวกข้าน้อยหมดสติไปแล้วเพคะ!” ในเวลานี้ อันหลิง สาวใช้ข้างกายของเซียวหยี่ฝูก็เข้ามารายงานด้วยความรีบร้อน
“ฝ่าพระบาท รอต่อไปไม่ได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ! ลงมือเถอะ!” ฉู่เทียนฉีกับหนิงเฟิงเร่งเร้าขึ้นอย่างรีบร้อน
“เกอเอ๋อร์ ข้าขอโทษ...” เชียนซือเฉินหยิบมีดสั้นแหลมคมออกมา และกรีดลงไปลึก ๆ บนข้อมือขวาของนาง ทันใดนั้น เลือดสด ๆ ก็ไหลพุ่งออกมา และไหลลงไปตามมือน้อย ๆ ซีดเซียวของนางเข้าไปในภาชนะที่ได้เตรียมไว้แล้ว
เซียวหยี่เกอคิดจะดิ้นรน แต่มือที่ถูกทำลายไปนานแล้วทั้งสองข้างนั้น ยังยกไม่ขึ้นเลยด้วยซ้ำ นางรู้สึกว่าเลือดในตัวของนางทั้งหมดต่างไหลมารวมกันที่ข้อมือด้านขวา ชีวิตของนางกำลังจะจากไปในไม่ช้า นางรู้สึกว่าตัวนางทั้งเจ็บทั้งหนาว นางพยายามอย่างสุดชีวิตให้พวกเขาปล่อยนางไป แต่เสียงของนางอ่อนแรงลงเรื่อย ๆ สติก็ค่อย ๆ เลือนราง...
จะตายไปแบบนี้หรือ? นางไม่อยากยอม!
ถ้านางสามารถมีชีวิตกลับมาได้อีกครั้ง นางจะไม่มีวันปล่อยพวกคนที่ทำร้ายนางไปเด็ดขาด!
“อ้าย!”
เซียวหยี่เกอสะบัดมือ ตะโกนเสียงดังแล้วลุกขึ้นนั่ง
“คุณหนู! คุณหนู!” ในเวลานี้ ก็มีเสียงทั้งตื่นตกใจและดีใจดังเข้ามาจากข้าง ๆ
“ชิงลั่ว?” เซียวหยี่เกอมองสาวใช้ตรงหน้า ชั่วขณะหนึ่งก็เหม่อลอยไป ชิงลั่วถูกตีจนตายไปแล้วไม่ใช่หรือ? เป็นไปได้อย่างไร?
นางดูมือของตัวเอง ไม่มีรอยแผลเป็นที่หยาบน่าเกลียด ยังคงเรียวยาวขาวเนียนอยู่ นางพุ่งไปที่หน้ากระจกทันที ลูบหน้าของตัวเอง ดวงตาข้างซ้ายยังอยู่ บนใบหน้าก็ไม่มีรอยแผลเป็นที่น่าเกลียดนั่น ทั้งหมดเหมือนกับอยู่อีกโลกหนึ่ง
สวรรค์เมตตา นางมีชีวิตใหม่อีกครั้งจริง ๆ ! มีชีวิตใหม่กลับมาตอนนางอายุสิบห้าปีกำลังจะเข้าพิธีปักปิ่น และในเวลานี้ นางยังเป็นบุตรสาวของฮูหยินเอกของตระกูลเซียว!
“คุณหนู ในที่สุดคุณหนูก็ฟื้นแล้ว!” ชิงลั่วตาแดง และวิ่งออกไปข้างนอกตะโกนเสียงดังขึ้นด้วยตื่นตกใจและดีใจ “ท่านผู้เฒ่า ฮูหยิน คุณหนูใหญ่ คุณหนูฟื้นแล้วเจ้าค่ะ! คุณหนูฟื้นแล้ว!”
ทันใดนั้น ด้านนอกก็เริ่มวุ่นวายขึ้นทันที จากนั้นเซียวหยี่ฝูก็วิ่งเข้ามาเป็นคนแรก กอดเซียวหยี่เกอไว้ทันที ไม่ทันพูดอะไรออกมา น้ำตาก็ไหลออกมาแล้ว “เกอเอ๋อร์ พี่ขอโทษ ทั้งหมดมันเป็นความผิดของพี่ พี่เองที่ปกป้องเจ้าไม่ดี ถ้ารู้แบบนี้ ถึงตายพี่ก็จะห้ามเจ้าอย่างสุดชีวิต ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับเจ้า พี่จะบอกกับท่านพ่อท่านแม่ยังไง พี่อยากให้คนที่ตกลงมาเป็นพี่จริง ๆ ...”
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
“เราหย่ากันเถอะ”หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
' "เจ้าชายฮิมราน บิน ฮาเซม อัล-ราชิด" องค์มกุฎราชกุมารแห่งประเทศความาร์ เดินทางมาประเทศไทยเพื่อดูตัวว่าที่เจ้าสาวที่ถูกพระมารดาบังคับให้แต่งงานด้วย เขาเต็มไปด้วยความชิงชังเมื่อเห็นหล่อนเดินเฉิดฉายอยู่ในผับยามค่ำคืน ท่าทางใสซื่อไร้เดียงสาของหล่อนที่พยายามแสดงออกมานั้นไม่ได้ทำให้เขาซาบซึ้งใจแม้แต่น้อย ตรงกันข้ามเขาแทบยากจะอาเจียนออกมา เพราะเขารู้อยู่เต็มอกว่าผู้หญิงอย่างหล่อนไม่มีทางเป็นชายาที่ดีของเขาได้อย่างแน่นอน นอกเสียจาก... นางบำเรอ!
เธอทำให้คนที่เขารักเจ็บปวด เขาจึงเอาคืนให้เธอเจ็บกว่าร้อยเท่า ในวันที่เขาแก้แค้นเธอสำเร็จจนเธอเจ็บปวดเจียนตาย เขากลับค้นพบว่าเขารักเธอ การเดินเข้ามาในชีวิตเธออีกครั้งหนึ่งเพ่ื่อตามหาหัวใจตัวเองจึงเกิดขึ้น แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิดเมื่อเธอเจ็บแล้วจำเธอเลยไม่ให้โอกาสซ้ำยังเอาแต่จะหนีไปจากชีวิตเขา เพื่อให้ได้เธอกลับคืนมา เขาจึงต้องทำทุกทางและทุกอย่างเพื่อได้หัวใจเธอมาเป็นของเขาเหมือนเดิม hope and nink "อย่าลืมไปเล่าให้พี่ชายคุณฟังด้วยล่ะ ว่าความรู้สึกที่ถูกหลอกให้รักมันรู้สึกอย่างไง แล้วเรื่องที่กล่าวหาว่าอีฟทำ รับรู้เอาไว้ด้วยว่ามันไม่มีทางเป็นไปได้" "ทำไมถึงปกป้องผู้หญิงคนนั้นขนาดนั้น" แล้วคำที่บอกว่าอยู่ข้างเธอ ที่ผ่านมาหมายความว่าอะไร... "ที่ผมปกป้องขนาดนั้นเพราะว่ารักอีฟ และไม่ยอมให้ใครมาทำลายอีฟได้ยังไงล่ะ" "รัก?" แล้วไม่ได้รักเธอหรอกหรือ เธอตั้งคำถามอย่างโง่งั่ง ไม่พยายามเข้าใจสิ่งที่เขาบอก แม้ส่วนลึกเริ่มจะเห็นเค้าลางว่าเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาไม่ใช่เรื่องบังเอิญ ทุกอย่างที่วิษุวัติทำมีเหตุผลของเขาอยู่แล้ว "ใช่" "..." เขาลุกขึ้นยืน แขนเล็กๆ ที่เกาะเเขนเขาไว้ร่วงผล็อย นลินวิภาเงยหน้าขึ้นมองเขา "แล้วความรู้สึกดีๆ ที่คุณแสดงออกกับฉันที่ผ่านมา" "มันแค่การเอาคืน..." เขาพึมพำ ก่อนจะก้มหน้ามองเธอ "ผมมาก็เพื่อแก้แค้นให้อีฟตอนนี้หน้าที่ของผมจบแล้วถือว่าเราจบกัน คุณไปเก็บของซะผมจะให้คนไปส่ง" เขาทำท่าจะเดินจากไป แต่นลินวิภาดึงชายเสื้อเขาไว้ ดวงหน้ายังสับสนและในใจพร่ำบอกว่ามันไม่ใช่ และเธอฉุดรั้งเขาไว้ โดยที่ไม่รู้ตัวเลย จนมีแรงตึงที่มือและเขาหยุดชะงักนั่นล่ะ เธอถึงปริปากออกมา... "คุณเคยบอกฉันว่าไม่ต้องสนเรื่องอื่นว่าเราพบกันอย่างไง เพราะระหว่างเราเข้าใจกันก็พอ ฉันเข้าใจว่าคุณพูดออกมาจากใจจริงๆ เสียอีก" "มันคือคำโกหกคุณคงไม่คิดว่าผมจะรักคุณหรอกนะเพราะคนที่ผมรักมาตลอดคืออีฟ คนแบบที่ผมชอบคืออีฟเท่านั้น" ไม่ต้องมีมีดนับร้อยนับพันมาจ้วงแทง เพียงแค่สายตาคู่เดียวของเขาที่จ้องมองมาก็ทำให้เธอเหมือนถูกกระหน่ำแทงจากความจริงที่เขากำลังบอก เธอกับเอวิตาแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว และเธอไม่ใช่คนแบบที่เขาชอบ ทั้งหมดที่ผ่านมาคือการหลอกลวงเพื่อแก้แค้นให้เอวิตา คนที่เขารัก... "โฮป" "เรียกผมว่าวิษุวัติ... อย่าเรียกชื่อเล่น เราไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น "..." นลินวิภากะพริบตาปริบๆ มือร่วงผล็อยจากชายเสื้อเขาไปในทันที สิ่งที่เขาบอก เหมือนดึงเธอมาสู่โลกแห่งความจริงที่เธอไม่อาจหนี เขาบอกชัดเจนขนาดนี้เธอคงไม่สามารถหลอกตัวเองต่อไปได้อีกแล้ว... #ทินอีฟ "ยินดีด้วยนะครับคนไข้ ผลตรวจทางห้องปฏิบัติการออกมาแล้วครับ คนไข้ตั้งครรภ์ เดี๋ยวหมอจะส่งคนไข้ไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อฝากครรภ์นะครับ" คำพูดของนายแพทย์ประจำคลินิกทำให้เธอยิ้มออกหลังจากทนกับอาการเวียนหัวในช่วงเช้ามาหลายวันไม่ไหวเธอจึงไปตรวจให้รู้แน่ชัด ผลที่แพทย์บอกตอนที่อยู่คลินิกทำให้เธอมีความสุขมาตลอดบ่าย เพราะเธอกำลังตั้งครรภ์กับทิน...ผู้ชายที่เธอรัก วันนี้เป็นวันเกิดของเธอ การได้รับข่าวดีเรื่องลูกจึงเปรียบประหนึ่งเป็นของขวัญ หญิงสาวรีบกลับมาที่เพนธ์เฮาส์และจัดเตรียมสถานที่รอพ่อของลูกกลับมาอย่างคาดหวังและตื่นเต้น เรื่องที่ตั้งครรภ์เธอยังไม่ปริปากบอกใครแม้แต่พี่เลี้ยงคนสนิทที่อยู่กับเธอตลอดเวลา นั่นเป็นเพราะอยากให้ทินรู้เป็นคนแรก ทันทีที่เขาให้ของขวัญวันเกิดแก่เธอ เธอจะยื่นกระดาษอัลตราซาวน์ให้เขาแล้วบอกว่าเป็นของขวัญที่เธอมอบกลับคืนในฐานะที่เขารักและดูแลเธอมาตลอด แต่เมื่อประตูห้องเปิดก็เกิดเรื่องผิดแผนครั้งใหญ่เพราะทินเดินเข้ามาพร้อมกับผู้หญิงสาวที่มีดวงหน้าสวยโฉบเฉี่ยวดูมั่นใจในตัวเอง ริมฝีปากสีแดงสดของผู้หญิงคนนั้นยิ้มและมองเอวิตาด้วยสายตาไม่เป็นมิตรอย่างบอกไม่ถูก คนทั้งคู่ที่เข้ามาใหม่ไม่ได้สนใจบรรยากาศปาร์ตี้ ทินมีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาของเขาไม่อ่อนโยนเหมือนทุกวัน มีเพียงเสียงทุ้มน่าฟังที่เหมือนเดิม "อีฟ ผมมีเรื่องจะบอก" "เรื่องอะไรคะ" เสียงของเธอแทบไม่หลุดจากปาก ความหวาดกลัวในสถานการณ์เกาะกุมหัวใจเธอ รู้สึกสังหรณ์ใจขึ้นมาครามครัน "ผมจะไม่อ้อมค้อมนะ ธุระที่ผมไปทำวันนี้คือไปจดทะเบียนกับนิ้ง" "..." ดวงตาของเอวิตาเบิกกว้าง "นิ้งท้องกับผม ท้องตั้งแต่ก่อนที่ผมจะมาคบกับคุณ มันอาจจะผิดต่อคุณแต่คุณคงเข้าใจว่าผมต้องรับผิดชอบลูกในท้องของนิ้งเป็นอันดับแรก..." "ทิน" เธอเรียกชื่อเขา น้ำตาเอ่อล้นปริ่มขอบตาที่ร้อนผะผ่าวในใจมีร้อยพันหมื่นถ้อยคำแต่กลับพูดอะไรไม่ออกสักคำ กระดาษอัลตราซาวน์ในมือถูกกำแน่น อย่าว่าแต่ยื่นมันให้เขาได้เห็น แค่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาและหายใจ เอวิตายังทำได้อย่างยากลำบากเหลือเกิน "ผมเสียใจนะอีฟ... แต่ผมหวังว่าคุณจะเข้าใจว่าทำไมผมเลือกนิ้ง" "ที่จริงฉันต้องรีบพาทินไปพบครอบครัว แต่ว่าเขาอยากแวะมาบอกเธอก่อนไม่อยากหายไปเลย" ผู้หญิงคนนั้นพูดขึ้นมาเป็นครั้งแรก เอวิตาจับใจความไม่ได้เลยว่าคนตรงข้ามพูดอะไรกับเธอบ้างเพราะในหูมีแต่เสียงอื้ออึ้งน้ำตาก็ไหลจากตาจนไม่เห็นหน้าคนสองคนตรงหน้าเสียแล้ว... สติของเธอหลุดลอยไปตั้งแต่ที่ทินบอกว่าเขาแต่งงานกับผู้หญิงอื่น เรื่องที่เตรียมจะบอกในทีแรกจึงไม่หลุดจากปากและไม่ว่าเขาจะพูดอะไรอีกเธอก็ไม่ได้ยินอีกต่อไปแล้ว จนเมื่อคำว่าลาก่อนแว่วเข้าหู และมีเสียงประตูปิด เธอถึงได้ทรุดลงไปนั่งกับพื้น เพราะหมดแรงที่จะยืน... หลังจากที่ร้องไห้จนไม่เหลืออะไรจะร้อง ในหัวไม่มีสติพอที่จะคิดอะไรอีก ภาพเลือนรางที่เห็นเขาเดินจูงมือออกไปกับผู้หญิงอื่นฉายวนซ้ำ เธอไม่ได้เป็นคนที่ถูกเลือก เขาเดินจากไปง่ายดายราวกับไม่เคยรักกันเลย ความทุกข์ที่หนักหนาที่สุดที่เคยพานพบเกาะกินหัวใจจนเธอคิดว่าไม่อยากจะมีชีวิตอยู่เพื่อรับรู้เรื่องราวเหล่านี้อีกแล้ว... เธออยากหนีไปให้พ้นจากความเจ็บปวดทั้งหมดทั้งมวลที่กำลังถาโถมเธออยู่ในตอนนี้ "อีฟ" เสียงเรียกคุ้นหู เป็นเสียงเรียกที่เหมือนอยู่ไกลออกไป ภาพของเขาปรากฏอยู่ตรงหน้านั้นไม่แจ่มชัด สาเหตุไม่ใช่เพราะหยาดน้ำตา หากแต่เป็นเพราะสติรับรู้ของเธอนั้นสุ