คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
รุ่งอรุณแสนสดใส แสงสีทองทอประกายสาดส่องทะลุผ่านผ้าม่านสีขาวบางเข้ามาด้านในห้อง ทว่าแสงแห่งยามเช้าไม่สามารถรบกวนคู่รักสามีภรรยาที่ตระกองกอดแนบชิดสนิทกันบนเตียงนอนหลังใหญ่ได้
บรรยากาศภายในห้องดูแตกต่างกับด้านนอกลิบลับ หลังแสงดวงอาทิตย์เจิดจ้าหมู่มวลชนต่างก็พากันตื่นจากนิทรา จัดการตัวเองเร่งรีบทำเวลาเพื่อที่จะออกไปทำงาน ตามการใช้ชีวิตของแต่ละคน
เช่นเดียวกับสองร่างที่ยังคงนอนอยู่ภายในห้อง
“อื้อ ปล่อยค่ะ” เสียงหวานครางประท้วงก่อนจะขยับตัวเล็กน้อยผลักดันร่างบางของตัวเองออกจากอ้อมกอดแกร่ง ก่อนจะลุกขึ้นนั่งมองคนที่ยังไม่ปล่อยมือออกจากเอวบางของเธอ
“จะรีบตื่นไปไหนครับ นอนพักอีกหน่อยเถอะ”
เสียงทุ้มของชายหนุ่มดังขึ้นขณะที่ตายังคงหลับแน่นไม่มีทีท่าว่าจะลืมขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย เท่านั้นยังไม่พอเขายังพยายามบอกให้หญิงสาวนอนเคียงข้างเขาอีกด้วย
หญิงสาวยิ้มหวานกับการกระทำของเขา ทั้งรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูที่เขาทำตัวน่ารักไม่เสื่อมคลายไม่ว่าจะผ่านมากี่ปี เขาก็ยังคงเป็นสามีที่น่ารักและแสนดีของเธอเสมอ
“ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวพี่ก้องไปทำงานสายนะคะ”
“ฮื้อ! ใครจะกล้ามาว่าเจ้าของบริษัทกัน ลองมีดูสิจะให้ใบเตือนให้หมด”
“คิก ก็ม่านนี่แหละค่ะที่จะว่าและดุพี่ก้องถ้ายังคงไม่ปล่อยมือที่กอดเอวม่าน” หญิงสาวหัวเราะเล็กน้อยก่อนจะพูดออกมา
“พี่อยากกอดม่านนาน ๆ นี่ครับ”
“ไม่ต้องเลยค่ะ ปล่อยม่านได้แล้ว ม่านจะได้รีบลงไปทำอาหารเช้าให้พี่ก้องทานก่อนไปทำงานไงคะ”
“ก็ได้ครับ งั้นพี่ก็จะตื่นเหมือนกัน ไม่อยากเอาเปรียบม่านมากไปกว่านี้ เพราะเมื่อคืนนี้พี่ก็เอาเปรียบม่านมากพอแล้ว”
พูดพร้อมยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปากส่งให้หญิงสาว ทำให้เธอเขินอายหน้าแดงปลั่ง ฝ่ามือเล็กฟาดลงบนต้นแขนของชายหนุ่มจนเกิดเสียงดัง
เพียะ!
“โอ๊ย! ตีพี่ทำไม พี่เจ็บนะครับ”
“ไม่คุยกับพี่ก้องแล้วค่ะ ม่านไปล้างหน้าแล้วไปทำอาหารดีกว่า” ไม่รอให้ตัวเองถูกกลั่นแกล้งมากไปกว่านี้ หญิงสาวที่แทนตัวเองว่าม่านก็วิ่งเข้าห้องน้ำไปทันที
“รักนะครับ”
แต่ก็ไม่วายจะได้ยินเสียงตะโกนบอกรักจากปากชายหนุ่มดังตามหลังมา
ชายหนุ่มยิ้มขำให้กับความน่ารักของภรรยาสาว ทั้ง ๆ ที่แต่งงานกันมาก็นานนับปีแล้ว แต่ภรรยาของเขาก็ยังคงเขินอายไม่ต่างไปจากการแต่งงานวันแรกเลย
ติ๊ง!
เสียงแจ้งเตือนของแอปพลิเคชันชื่อดัง เรียกความสนใจของชายหนุ่มได้ไม่ยาก
เมื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูและเห็นข้อความจากคนที่ส่งมาก็ยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะลุกออกจากเตียงแล้วแยกตัวไปห้องน้ำอีกห้องทันที
ทางด้านหญิงสาวหลังจากจัดการตัวเองเรียบร้อย ก็รีบพาตัวเองตรงมาที่ห้องครัวของบ้าน เพื่อที่จะทำอาหารเช้าให้สามีรับประทาน
เธอมีชื่อว่า ม่านไหม หรือ ม่าน ภรรยาคนสวยของ ก้องเกียรติ หรือ ก้อง
ทั้งคู่พบรักกันที่ทำงาน หรือบริษัทของก้องเกียรตินั่นเอง เวลานั้นม่านไหมเป็นเพียงนักศึกษาฝึกงาน ส่วนก้องเกียรติก็เป็นถึงว่าที่ท่านประธานบริษัท ด้วยความน่ารักสวยหวานของม่านไหมไปเข้าตาก้องเกียรติที่มาดูงานเข้าพอดี เขาจึงเดินหน้าจีบเธอตั้งแต่วันแรกที่ได้เห็นหน้า
ใช้เวลานานนับสามเดือนที่ก้องเกียรติเทียวไล้เทียวขื่อตามจีบม่านไหม ในที่สุดหญิงสาวก็ใจอ่อนและตกลงเป็นแฟนกัน
เรียกได้ว่าตลอดระยะเวลาสามสี่เดือนที่ก้องเกียรติตามจีบม่านไหมนั้น เธอแทบไม่เห็นเขาออกนอกลู่นอกทางเลยสักครั้ง นับตั้งแต่วันแรก
ทั้งสองใช้เวลาศึกษาดูใจกันเพียงสองปี ก็ตกลงปลงใจแต่งงานเป็น สามีภรรยาใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน ซึ่งหากจะนับจากวันแต่งงานถึงวันนี้ก็อีกเพียงสามเดือนเท่านั้นก็จะเป็นวันครบรอบวันแต่งงานของคน ทั้งคู่
ม่านไหมตั้งหน้าตั้งตารอเวลานี้มาก เพราะเธอตั้งใจจะบอกเขาว่าเธอพร้อมแล้วกับการมีลูก
เดิมทีก้องเกียรติเคยพูดกับเธอเรื่องนี้ว่าเขาอยากมีลูก เพียงแต่ว่าเธอยังไม่พร้อม เพราะว่าตอนนั้นเธอเพิ่งมีอายุ 24 ปี ส่วนเขา 28 ปี เธอบอกเขาว่ายังเร็วเกินไป อยากใช้เวลาด้วยกันก่อน
แต่ว่าตอนนี้เธอมีอายุ 26 ปี ส่วนก้องเกียรติอายุ 30 ปี นับได้ว่าสมเหตุสมผลที่จะมีลูกได้แล้ว ที่สำคัญหน้าที่การงานของคนทั้งสองก็นับว่ามั่นคงแล้ว เธอจึงอยากจะบอกเรื่องดี ๆ กับเขานี้ในวันครบรอบสองปีนั่นเอง เธอถึงได้ตั้งตารอ...
หญิงสาวขบคิดเรื่องต่าง ๆ ด้วยความสุขใจ ใบหน้าแย้มยิ้มอย่างมีความสุข ร่างบางขยับจับอุปกรณ์ทำครัวอย่างคล่องแคล่ว
ฟอด!
“หอมจังเลยครับ ไม่รู้ว่าอะไรหอมกว่ากันระหว่างข้าวต้มกับแก้มเมียพี่”
ก้องเกียรติหลังจากจัดการตัวเองเสร็จเรียบร้อยแล้วก็เดินลงมายังห้องครัว เห็นภรรยาตัวเองหันหลังทำข้าวต้มในหม้อก็ให้รู้สึกรักใคร่และภูมิใจที่มีภรรยาที่ดี
เขาจึงเดินเข้าไปกอดเธอจากด้านหลังพร้อมทั้งหอมแก้มเสียฟอดใหญ่อย่างตั้งใจให้รางวัลคนทำดี พร้อมทั้งพูดแซวให้หญิงสาวเขินอายเล่น
“อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้วเหรอคะ”
ม่านไหมเอี้ยวตัวหันมาถามคนที่ยืนกอดเธออยู่ ก่อนจะส่งยิ้มบาง ๆ ให้
“ครับ เรียบร้อยแล้ว” ชายหนุ่มตอบกลับ
“งั้นทานเลยนะคะ พี่จะได้ไปทำงานไม่สาย เป็นประธานบริษัทต้องเป็นตัวอย่างที่ดีให้พนักงานนะคะ” หญิงสาวว่า
“ทราบแล้วครับคุณภรรยา มาครับตักข้าวต้มมาเลย พี่จะได้รีบทานและรีบไปทำงาน”
หลังจากตักข้าวต้มให้สามีแล้ว ม่านไหมก็ตักให้ตัวเองด้วย ทั้งสองทานกันไปหยอกล้อกันไปทำให้มื้ออาหารเช้าธรรมดา ๆ อย่างข้าวต้ม กลายเป็นอาหารเช้าแสนหวานภายในพริบตา
“ค่อย ๆ ทานนะคะ” หญิงสาวบอก
ก้องเกียรติยิ้มรับที่ได้รับการเอาใจใส่จากภรรยาคนสวยอย่างดี คิดไม่ผิดเลยที่เขาตัดสินใจตามจีบและแต่งงานกับเธอ
อะไรจะดีไปกว่าการมีภรรยาที่ทั้งสวยและดีเล่า ม่านไหมนี่มีครบทุกอย่างเท่าที่ผู้หญิงดี ๆ คนหนึ่งจะมีได้ ก้องเกียรติจึงภูมิใจมาก
หลังจากทั้งสองทานข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก้องเกียรติก็แยกตัวไปบริษัท แต่กว่าเขาจะขับรถออกจากบ้านได้ ก็ต้องได้จูบแสนหวานจากภรรยาก่อนแล้วนั่นแหละถึงผละจากไปได้...
หลังจากที่ม่านไหมยืนส่งสามีไปทำงานเรียบร้อยแล้ว เธอก็กลับไปที่ห้องครัวเก็บถ้วยจานล้างทำความสะอาด เสร็จแล้วจึงค่อยไปจัดการตัวเองเพื่อที่จะออกไปข้างนอก
เนื่องจากวันนี้เป็นวันหยุดของเธอ เธอจึงไม่ต้องเร่งรีบมากเท่าไหร่นัก ความจริงเธอถูกก้องเกียรติออดอ้อนขอร้องให้เธอไปทำงานด้วยกัน แต่เธอปฏิเสธพร้อมให้เหตุผลกับเขาว่า เธอมีนัดแล้ว
นั่นจึงทำให้เธอไม่สามารถไปบริษัทกับก้องเกียรติได้เหมือนทุกทีที่เธอหยุด ซึ่งชายหนุ่มก็เข้าใจ แต่ก็เคี่ยวกรำบทรักกับหญิงสาวไปครึ่งค่อนคืน ถึงได้ปล่อยให้เธอพักผ่อน
ม่านไหมเหลือบสายตามองนาฬิกาที่แขวนอยู่บนฝาผนัง เมื่อเห็นว่าเวลาเก้าโมงเช้า เธอจึงได้ออกเดินทางไปยังห้างสรรพสินค้าที่ได้นัดกับเพื่อนสนิทไว้ทันที
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก