/0/19855/coverbig.jpg?v=a37cc7a1b33362824650a04a7dcc4a71)
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้วสามปี กิจการค้าผักปราณของตระกูลเว่ยดีวันดีคืน ภายในระยะเวลาข้างต้นมีคู่ค้าไปแล้วร่วมยี่สิบราย ทั้งจากดินแดนเบื้องล่างและดินแดนเบื้องบน
ด้วยเหตุนี้ตระกูลเว่ยจึงมีชื่อเสียงมากในดินแดนเบื้องบน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยย่างกรายขึ้นไปเหยียบทวีปที่สูงกว่าเลยก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตามกิจการและความสำเร็จของตระกูลเว่ยนั้นมากเกินไปจนไปเตะตาผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนเข้า โชคดีที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับสองพี่น้องตระกูลโอหยาง เมื่อครั้งที่ตัวตนระดับราชันมากดดันตระกูลเว่ยถึงหน้าประตูจวน ก็ได้สองพี่น้องที่ออกหน้าช่วยเหลือ ยังมีหอเทพโอสถและสมาคมอักขระเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ผู้มีอำนาจคนนั้นจึงล่าถอยไปด้วยความเจ็บใจ
เดิมทีหลายคนคิดว่าตระกูลเว่ยจบสิ้นแล้ว พวกเขาถึงกับส่ายหน้าเสียดาย แต่อย่างว่าความสำเร็จของตระกูลเว่ยมีมากเกินไป ไม่แปลกที่จะไปกระตุ้นตัวตนระดับนั้นเข้า ใครจะไปคาดคิดว่าผลจะออกมาเช่นนี้เล่า นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังมีสองขั้วอำนาจระดับสูงหนุนหลัง คนที่รอเหยียบย่ำซ้ำเติมหากตระกูลเว่ยล่มจมถึงกับกระอักเลือดให้กับความโชคดีนี้
จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมสามปีแล้ว ตระกูลเว่ยไม่เคยถูกผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนรุกรานอีกเลย หลายสิ่งเปลี่ยนผัน นอกจากความรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุดของตระกูลเว่ย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เกินหยั่งเช่นกัน
ระดับการฝึกตนของตระกูลเว่ยในปัจจุบันน่ากลัวมาก จนคนที่เคยเป็นศัตรูเริ่มสวามิภักดิ์ทีละคน ๆ แม้ไม่จริงใจถึงที่สุดแต่ก็ลดความคิดเลวร้ายลงไปมาก
แคว้นโจวจากที่เคยเป็นแคว้นอ่อนแอและยากจนที่สุดกลับพลิกผันกลายเป็นแคว้นที่มีความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พื้นที่หลายแห่งของแคว้นโจวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงนี้เงินจึงสะพัดเข้าคลังหลวงจนผู้เป็นโอรสสวรรค์แย้มพระโอษฐ์มีความสุขไปทั้งวัน
ความแข็งแกร่งของตัวตนผู้ครองแคว้นก็ไม่ได้น้อยหน้าตระกูลเว่ยเช่นกัน เพราะนอกจากพระองค์จะเสวยผักผลไม้ปราณเป็นประจำทุกวันแล้ว ยังได้รับน้ำพลังปราณเจือจางสามในสิบส่วนจากเว่ยซือซาน ด้วยความช่วยเหลือนี้เอง ระดับพลังของโอรสสวรรค์ในปัจจุบันจึงอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นกลาง
ฮองเฮาคู่พระทัยที่พระองค์รักยิ่งแม้จะไม่ได้มีระดับพลังขั้นเดียวกัน แต่พระนางก็สามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับปราชญ์ขั้นสูงแล้ว คาดว่าให้เวลาแม่ของแผ่นดินราวครึ่งปีน่าจะสามารถเลื่อนระดับมาอยู่ในขั้นจักรพรรดิได้แน่
ชินอ๋องโจวเฟยหมิงก็ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายที่เขานับถือด้วยเช่นกัน ระดับพลังปัจจุบันของอ๋องหนุ่มคือจักรพรรดิขั้นต่ำ
ตระกูลที่สนิทชิดเชื้อกันดีอย่างตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และตระกูลกู้ ผู้นำตระกูลทั้งสามล้วนมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นต่ำทั้งสิ้น ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลระดับพลังก็เพิ่มขึ้นด้วย มากน้อยแตกต่างกันไป
ด้วยพลังระดับจักรพรรดิทั้ง 7 คนของแคว้นโจว ย่อมสร้างความน่าหวาดหวั่นให้แคว้นอื่น ๆ ไม่ยาก ชนเผ่าที่เคยกระด้างกระเดื่องก็เข้ามาสวามิภักดิ์ปัจจุบันกลายเป็นประชากรแคว้นโจวอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนอันตรายอีกต่อไป
แคว้นหนานที่เคยทะนงตนว่าแคว้นตนแข็งแกร่งที่สุดเพราะมีสมาคมอักขระสาขาย่อยตั้งอยู่ในแคว้นตนเอง ยามรู้ข่าวตัวตนจักรพรรดิทั้งเจ็ดของแคว้นโจวเล่นเอาร้อนรุ่มในอก โดยเฉพาะอ๋องหนานอี้เฉิน ที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นมาโดยตลอดจะทนได้อย่างไร
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ลงมือสร้างความวุ่นวาย ผู้เป็นฮ่องเต้แคว้นหนานก็จัดการส่งเขาไปปกครองทิศใต้ของแคว้นเสียก่อน ถึงจะเจ็บใจจนกระอักเลือดแต่ทำอันใดไม่ได้แล้ว ทั้งนี้เขายังตกหลุมพรางพ่อลูกตระกูลฮุ่ยซึ่งจัดฉากให้เขาหลับนอนกับนางโลมจนชื่อเสียงฉาวโฉ่ อ๋องหนุ่มจะเจ็บใจน้อยกว่านี้มากหากแผนดังกล่าวไม่ใช่แผนเดียวกันกับที่เขาเคยคิดใช้กับโจวเฟยหมิง!
เรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินไปตามครรลอง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ประดังประเดเข้ามาไม่เว้นว่าง หากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวหลาย ๆ อย่างกลับมีชีวิตเรียบง่ายและสงบสุขยิ่งนัก
เว่ยซือหงในวัย 10 ขวบ เพิ่งกลับมาจากการเรียนศาสตร์ทั้งสี่ของสตรี นอนแผ่หลาบนเตียงพร้อมนวดแขนเล็ก ๆ ของตนที่เริ่มปวดเล็กน้อยหลังถูกท่านย่าเคี่ยวกรำนานกว่าสองชั่วยาม(4ชม.)
“คุณหนูไม่งามเจ้าค่ะ” หลิงจูในวัย 17 ปีเอ่ยเตือนเมื่อคุณหนูของนางไม่เก็บกิริยา
“โธ่พี่หลิงจู ข้าอยู่ในเรือนตัวเอง ทั้งยังอยู่ในห้องนอน ไม่มีใครเห็นหรอกเจ้าค่ะ ท่านปล่อยข้าบ้างเถิด อย่าเคร่งครัดนักเลย”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูโตแล้วนะเจ้าคะ ต้องระวังให้มาก” หลิงจูไม่ตามใจ ดรุณีน้อยมุ่ยหน้าผุดลุกขึ้นนั่งยกแขนกอดอกไว้พร้อมบึนปาก
“แต่ข้าเพิ่งอายุสิบขวบ”
“หรือคุณหนูอยากให้นายหญิงผู้เฒ่ามาเห็นเจ้าคะ” สาวใช้อีกคนนามหลิงอิงวัย 18 ปีเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“โธ่เอ๊ยพี่หลิงอิง ไม่เห็นต้องขู่กันเลย ทุกทีก็อยู่เงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ” เด็กน้อยตอบสาวใช้คนสนิทอีกคนด้วยใบหน้าขัดใจราวไม่ได้รับความเป็นธรรม
สาวใช้คนสนิททั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม คุณหนูแม้จะเติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังสดใสน่ารักเหมือนตอนยังเด็กไม่มีผิด ถึงอุปนิสัยบางอย่างจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่กับครอบครัวและคนสนิทนางก็ยังน่ารักเหมือนเดิม!
“พวกข้าหวังดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ ไม่ใช่ที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าเคี่ยวกรำก็เพราะท่านมาเห็นคุณหนูทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลกเข้าหรือเจ้าคะ” หลิงจูหยิบยกการกระทำก่อนหน้าของนางขึ้นมาอ้าง ใบหน้าที่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมของเว่ยซือหงถึงคลายลง
“เอาละ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้ข้าจะระมัดระวังตัวให้มาก ประพฤติตัวให้เหมาะสมเช่นสตรีในห้องหอทั่วไป พอใจกันหรือยังเจ้าคะ”
“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองรับคำยิ้ม ๆ แต่แล้วต้องถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อคนที่เพิ่งรับปากกับพวกนางว่าจะเก็บกิริยาให้ดี ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง กางแขนกางขายิ่งกว่าเด็กชายจอมซนเหมือนลิงทโมนเสียอีก
“คุณหนู!”
“พี่ ๆ ทั้งสองปล่อยข้าสักวันเถอะ ข้าขอวันนี้วันเดียว เหนื่อยเกินกว่าจะรักษากิริยาได้จริง ๆ ท่านย่านะท่านย่า ปรานีอาหงสักหน่อยก็ไม่ได้” เจ้าตัวบ่นพึมพำ พร้อมทั้งขยาดกับความเด็ดขาดของหลินซือเหยายิ่งนัก
สองชั่วยามที่ต้องร่ำเรียนมารยาทที่ดีของสตรีชั้นสูง ไม่เหนื่อยเท่าการเย็บปักถักร้อยเลยแม้แต่น้อย มือขาวอวบยกขึ้นดูมองปลายนิ้วที่มีรอยพรุนเล็กน้อยจากการถูกเข็มจิ้มแล้วรู้สึกอนาถใจ
เหตุใดท่านย่าไม่เข้าใจว่าการเย็บปักมันไม่เหมาะกับนาง!
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
ผมต้องทำงานนอกเวลาทุกวันเพื่อหารายได้ประคองชีวิตและจ่ายค่าเรียนมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง เนื่องจากฐานะครอบครัวยากจนและไม่สามารถส่งเสียผมเข้ามหาวิทยาลัยได้ และตอนเรียนที่มหาวิทยาลัย ผมก็ได้พบกับเธอ-สาวแสนสวยที่หนุ่มๆ ทุกคนในชั้นเรียนต่างก็ใฝ่ฝันถึง ไม่เว้นแม้แต่ผมเอง แต่ผมก็รู้ตัวดีว่าตัวเองไม่คู่ควรกับเธอ ถึงอย่างนั้นก็ตาม ผมก็รวบรวมความกล้าสารภาพกับเธอจนได้ สุดท้ายผมนึกไม่ถึงว่าเธอจะยอมตกลงเป็นแฟนกับผม เธอบอกกับผมว่าอยากได้ของขวัญเป็นไอโฟนรุ่นล่าสุด ผมก็ไปรับงานซักเสื้อผ้าให้เพื่อนร่วมชั้นเรียนเพื่อพยายามเก็บเงินซื้อให้เธอจนได้ และในที่สุดหนึ่งเดือนต่อมา ผมก็ซื้อมาได้จริง ๆ แต่ขณะที่ผมกำลังห่อของขวัญเพื่อนำไปมอบให้เธอ ก็พบว่าเธอกำลังมีอะไรกับหัวหน้าทีมฟุตบอลในห้องล็อกเกอร์ เธอเหมือนเปลี่ยนเป็นอีกคนหนึ่งซึ่งผมไม่เคยรู้จักเลย เธอหัวเราะเยาะความโง่เขลาของผม เหยียดหยามศักดิ์ศรีของผม ปล่อยให้เขาซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นแฟนใหม่ของเธอไปแล้ว ทุบตีผม ผมนอนเจ็บอยู่บนพื้นอย่างสิ้นหวัง ต่อมา จู่ ๆ ผมก็ได้รับโทรศัพท์จากพ่อ ตั้งแต่วันนั้น ชีวิตของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างกับหนัามือเป็นหลังมือ ใครจะไปรู้ว่า ผมเป็นลูกชายของมหาเศรษฐี