/0/19855/coverbig.jpg?v=a37cc7a1b33362824650a04a7dcc4a71)
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
เพียงพริบตาก็ผ่านไปแล้วสามปี กิจการค้าผักปราณของตระกูลเว่ยดีวันดีคืน ภายในระยะเวลาข้างต้นมีคู่ค้าไปแล้วร่วมยี่สิบราย ทั้งจากดินแดนเบื้องล่างและดินแดนเบื้องบน
ด้วยเหตุนี้ตระกูลเว่ยจึงมีชื่อเสียงมากในดินแดนเบื้องบน แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยย่างกรายขึ้นไปเหยียบทวีปที่สูงกว่าเลยก็ตาม นับว่าเป็นเรื่องดีเรื่องหนึ่ง
อย่างไรก็ตามกิจการและความสำเร็จของตระกูลเว่ยนั้นมากเกินไปจนไปเตะตาผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนเข้า โชคดีที่เขามีความสัมพันธ์อันดีกับสองพี่น้องตระกูลโอหยาง เมื่อครั้งที่ตัวตนระดับราชันมากดดันตระกูลเว่ยถึงหน้าประตูจวน ก็ได้สองพี่น้องที่ออกหน้าช่วยเหลือ ยังมีหอเทพโอสถและสมาคมอักขระเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเช่นกัน ผู้มีอำนาจคนนั้นจึงล่าถอยไปด้วยความเจ็บใจ
เดิมทีหลายคนคิดว่าตระกูลเว่ยจบสิ้นแล้ว พวกเขาถึงกับส่ายหน้าเสียดาย แต่อย่างว่าความสำเร็จของตระกูลเว่ยมีมากเกินไป ไม่แปลกที่จะไปกระตุ้นตัวตนระดับนั้นเข้า ใครจะไปคาดคิดว่าผลจะออกมาเช่นนี้เล่า นอกจากจะไม่ได้รับผลกระทบแล้วยังมีสองขั้วอำนาจระดับสูงหนุนหลัง คนที่รอเหยียบย่ำซ้ำเติมหากตระกูลเว่ยล่มจมถึงกับกระอักเลือดให้กับความโชคดีนี้
จากวันนั้นถึงวันนี้ร่วมสามปีแล้ว ตระกูลเว่ยไม่เคยถูกผู้มีอำนาจจากดินแดนเบื้องบนรุกรานอีกเลย หลายสิ่งเปลี่ยนผัน นอกจากความรุ่งเรืองไม่มีที่สิ้นสุดของตระกูลเว่ย ความแข็งแกร่งของพวกเขาก็เกินหยั่งเช่นกัน
ระดับการฝึกตนของตระกูลเว่ยในปัจจุบันน่ากลัวมาก จนคนที่เคยเป็นศัตรูเริ่มสวามิภักดิ์ทีละคน ๆ แม้ไม่จริงใจถึงที่สุดแต่ก็ลดความคิดเลวร้ายลงไปมาก
แคว้นโจวจากที่เคยเป็นแคว้นอ่อนแอและยากจนที่สุดกลับพลิกผันกลายเป็นแคว้นที่มีความเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองมากยิ่งขึ้น พื้นที่หลายแห่งของแคว้นโจวกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ช่วงนี้เงินจึงสะพัดเข้าคลังหลวงจนผู้เป็นโอรสสวรรค์แย้มพระโอษฐ์มีความสุขไปทั้งวัน
ความแข็งแกร่งของตัวตนผู้ครองแคว้นก็ไม่ได้น้อยหน้าตระกูลเว่ยเช่นกัน เพราะนอกจากพระองค์จะเสวยผักผลไม้ปราณเป็นประจำทุกวันแล้ว ยังได้รับน้ำพลังปราณเจือจางสามในสิบส่วนจากเว่ยซือซาน ด้วยความช่วยเหลือนี้เอง ระดับพลังของโอรสสวรรค์ในปัจจุบันจึงอยู่ที่ระดับจักรพรรดิขั้นกลาง
ฮองเฮาคู่พระทัยที่พระองค์รักยิ่งแม้จะไม่ได้มีระดับพลังขั้นเดียวกัน แต่พระนางก็สามารถฝึกฝนจนมาถึงระดับปราชญ์ขั้นสูงแล้ว คาดว่าให้เวลาแม่ของแผ่นดินราวครึ่งปีน่าจะสามารถเลื่อนระดับมาอยู่ในขั้นจักรพรรดิได้แน่
ชินอ๋องโจวเฟยหมิงก็ได้รับการช่วยเหลือจากพี่ชายที่เขานับถือด้วยเช่นกัน ระดับพลังปัจจุบันของอ๋องหนุ่มคือจักรพรรดิขั้นต่ำ
ตระกูลที่สนิทชิดเชื้อกันดีอย่างตระกูลหลิน ตระกูลหลิว และตระกูลกู้ ผู้นำตระกูลทั้งสามล้วนมีพลังระดับจักรพรรดิขั้นต่ำทั้งสิ้น ส่วนคนอื่น ๆ ในตระกูลระดับพลังก็เพิ่มขึ้นด้วย มากน้อยแตกต่างกันไป
ด้วยพลังระดับจักรพรรดิทั้ง 7 คนของแคว้นโจว ย่อมสร้างความน่าหวาดหวั่นให้แคว้นอื่น ๆ ไม่ยาก ชนเผ่าที่เคยกระด้างกระเดื่องก็เข้ามาสวามิภักดิ์ปัจจุบันกลายเป็นประชากรแคว้นโจวอย่างถูกต้อง ไม่ต้องอยู่อย่างหลบซ่อนอันตรายอีกต่อไป
แคว้นหนานที่เคยทะนงตนว่าแคว้นตนแข็งแกร่งที่สุดเพราะมีสมาคมอักขระสาขาย่อยตั้งอยู่ในแคว้นตนเอง ยามรู้ข่าวตัวตนจักรพรรดิทั้งเจ็ดของแคว้นโจวเล่นเอาร้อนรุ่มในอก โดยเฉพาะอ๋องหนานอี้เฉิน ที่คิดว่าตัวเองเหนือกว่าผู้อื่นมาโดยตลอดจะทนได้อย่างไร
ทว่าก่อนที่เขาจะได้ลงมือสร้างความวุ่นวาย ผู้เป็นฮ่องเต้แคว้นหนานก็จัดการส่งเขาไปปกครองทิศใต้ของแคว้นเสียก่อน ถึงจะเจ็บใจจนกระอักเลือดแต่ทำอันใดไม่ได้แล้ว ทั้งนี้เขายังตกหลุมพรางพ่อลูกตระกูลฮุ่ยซึ่งจัดฉากให้เขาหลับนอนกับนางโลมจนชื่อเสียงฉาวโฉ่ อ๋องหนุ่มจะเจ็บใจน้อยกว่านี้มากหากแผนดังกล่าวไม่ใช่แผนเดียวกันกับที่เขาเคยคิดใช้กับโจวเฟยหมิง!
เรื่องราวต่าง ๆ ดำเนินไปตามครรลอง ทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ ประดังประเดเข้ามาไม่เว้นว่าง หากจุดเริ่มต้นของเรื่องราวหลาย ๆ อย่างกลับมีชีวิตเรียบง่ายและสงบสุขยิ่งนัก
เว่ยซือหงในวัย 10 ขวบ เพิ่งกลับมาจากการเรียนศาสตร์ทั้งสี่ของสตรี นอนแผ่หลาบนเตียงพร้อมนวดแขนเล็ก ๆ ของตนที่เริ่มปวดเล็กน้อยหลังถูกท่านย่าเคี่ยวกรำนานกว่าสองชั่วยาม(4ชม.)
“คุณหนูไม่งามเจ้าค่ะ” หลิงจูในวัย 17 ปีเอ่ยเตือนเมื่อคุณหนูของนางไม่เก็บกิริยา
“โธ่พี่หลิงจู ข้าอยู่ในเรือนตัวเอง ทั้งยังอยู่ในห้องนอน ไม่มีใครเห็นหรอกเจ้าค่ะ ท่านปล่อยข้าบ้างเถิด อย่าเคร่งครัดนักเลย”
“ไม่ได้เจ้าค่ะ คุณหนูโตแล้วนะเจ้าคะ ต้องระวังให้มาก” หลิงจูไม่ตามใจ ดรุณีน้อยมุ่ยหน้าผุดลุกขึ้นนั่งยกแขนกอดอกไว้พร้อมบึนปาก
“แต่ข้าเพิ่งอายุสิบขวบ”
“หรือคุณหนูอยากให้นายหญิงผู้เฒ่ามาเห็นเจ้าคะ” สาวใช้อีกคนนามหลิงอิงวัย 18 ปีเอ่ยขึ้นมาบ้าง
“โธ่เอ๊ยพี่หลิงอิง ไม่เห็นต้องขู่กันเลย ทุกทีก็อยู่เงียบ ๆ แล้วแท้ ๆ” เด็กน้อยตอบสาวใช้คนสนิทอีกคนด้วยใบหน้าขัดใจราวไม่ได้รับความเป็นธรรม
สาวใช้คนสนิททั้งสองมองหน้ากันแล้วยิ้ม คุณหนูแม้จะเติบโตขึ้นมาก แต่ก็ยังสดใสน่ารักเหมือนตอนยังเด็กไม่มีผิด ถึงอุปนิสัยบางอย่างจะเปลี่ยนไปบ้าง แต่กับครอบครัวและคนสนิทนางก็ยังน่ารักเหมือนเดิม!
“พวกข้าหวังดีกับคุณหนูนะเจ้าคะ ไม่ใช่ที่ถูกฮูหยินผู้เฒ่าเคี่ยวกรำก็เพราะท่านมาเห็นคุณหนูทำตัวเป็นม้าดีดกะโหลกเข้าหรือเจ้าคะ” หลิงจูหยิบยกการกระทำก่อนหน้าของนางขึ้นมาอ้าง ใบหน้าที่เหมือนไม่ได้รับความเป็นธรรมของเว่ยซือหงถึงคลายลง
“เอาละ ก็ได้ ๆ ต่อไปนี้ข้าจะระมัดระวังตัวให้มาก ประพฤติตัวให้เหมาะสมเช่นสตรีในห้องหอทั่วไป พอใจกันหรือยังเจ้าคะ”
“เจ้าค่ะ/เจ้าค่ะ” สาวใช้ทั้งสองรับคำยิ้ม ๆ แต่แล้วต้องถอนหายใจอีกครั้ง เมื่อคนที่เพิ่งรับปากกับพวกนางว่าจะเก็บกิริยาให้ดี ทิ้งตัวนอนลงบนเตียง กางแขนกางขายิ่งกว่าเด็กชายจอมซนเหมือนลิงทโมนเสียอีก
“คุณหนู!”
“พี่ ๆ ทั้งสองปล่อยข้าสักวันเถอะ ข้าขอวันนี้วันเดียว เหนื่อยเกินกว่าจะรักษากิริยาได้จริง ๆ ท่านย่านะท่านย่า ปรานีอาหงสักหน่อยก็ไม่ได้” เจ้าตัวบ่นพึมพำ พร้อมทั้งขยาดกับความเด็ดขาดของหลินซือเหยายิ่งนัก
สองชั่วยามที่ต้องร่ำเรียนมารยาทที่ดีของสตรีชั้นสูง ไม่เหนื่อยเท่าการเย็บปักถักร้อยเลยแม้แต่น้อย มือขาวอวบยกขึ้นดูมองปลายนิ้วที่มีรอยพรุนเล็กน้อยจากการถูกเข็มจิ้มแล้วรู้สึกอนาถใจ
เหตุใดท่านย่าไม่เข้าใจว่าการเย็บปักมันไม่เหมาะกับนาง!
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ฉู่ว่านยู ผู้สืบเชื้อสายมาจากตระกูลแพทย์แผนโบราณ มีทักษะทางการแพทย์ที่ยอดเยี่ยม ยาที่เธอทำนั้นทุกคนต่างอยากได้ สามารถรักษาได้ทุกโรค แต่กลับไม่คาดคิดว่าจะย้อนยุค กลายเป็นผู้หญิงที่ขี้เหร่ที่สุดในใต้หล้า และยังเอาชนะใจท่านอ๋องด้วย การเริ่มต้นไม่ค่อยดีก็ไม่เป็นไร มาดูกันว่าเธอจะพลิกผันยังไง การแย่งการแต่งงานงั้นเหรอ? เธอทำให้น้องต้องรับบทเรียน แย่งสินเิมดลับมา ให้ชายั่วหญิงร้ายคู่นี้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขี้ขลาดเหรอ? เธอจัดการพ่อร้าย สั่งสอนผู้หญิงเสแสร้ง! ขี้เหร่เหรอ? เธอรักษาพิษในตัว และกลายเป็นคนงามอันน่าทึ่ง! ลูกสาวขี้เหร่ของจวนอัครมหาเสนาบดี กลายเป็นผู้สูงส่ง แม้แต่ผู้โหดเหี้ยมบางคนยังหวั่นไหวกับเธอ เมื่อสุดที่รักจะจัดการผู้ใด เขามักจะช่วยเสมอ... แต่น่าเสียดายสุดที่รักคนนั้นไม่มีเขาอยู่ในใจ ฉู่ว่านยู "ออกไป หย่าเลย ผู้ชายมีแต่เป็นภาระของข้าเท่านั้น" เสี่ยวลี่จิงรู้สึกน้อยใจ "ไม่ได้ ข้าให้ครั้งแรกกับเจ้าแล้ว เจ้าต้องรับผิดชอบข้า"
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
เซียวหลิ่นตาบอดจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ ลูกสาวคนรวยทุกคนต่างหลีกเลี่ยงเขา มีแต่สวี่โยวหรานยอมแต่งงานกับเขาโดยไม่ลังเล สามปีต่อมา เซียวหลิ่นกลับมามองเห็นได้อีกครั้ง จากนั้รเขา็ยื่นข้อตกลงการหย่าเพื่อยุติการแต่งงานนี้ เขากล่าวอย่างเย็นชาว่า "ฉันพลาดกับชิงชิงมานนานมากพอแล้ว ฉันไม่อยากให้เธอต้องรอนานกว่านี้!" สวี่โยวหรานลงนามในข้อตกลงการหย่าโดยไม่ลังเล ทุกคนต่างก็หัวเราะเยาะเธอตลอด - หัวเราะเยาะว่าที่เธอแต่งเข้าตระกูลเซียวถือว่าเกาะผู้มีอิทธิพลเข้า จากนั้นก็มาหัวเราะเยาะเธอที่ถูกทอดทิ้ง เป็นหญิงที่ไร้ค่า แต่ทุกคนกลับไม่รู้ว่า เธอคือหมออัศจรรย์ที่รักษาดวงตาของเซียวหลิ่นให้หายดี เป็นผู้ออกแบบเครื่องประดับมูลค่าหลักร้อยล้าน ผู้เป็นมือหนึ่งแห่งหุ้นที่ครองตลาดหุ้น และแม้แต่แฮกเกอร์ระดับแนวหน้าและลูกสาวแท้ๆ ของผู้มีอิทธิพล อดีตสามีมาขอร้องขอคืนดี ซีอีโอผู้เผด็จการก็โยนเซียวหลิ่นออกไปนอกประตูอย่างเย็นชา "ดูดีๆ นี่ภรรยาของผม"
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
© 2018-now MeghaBook
บนสุด