/0/18377/coverbig.jpg?v=64df37926fd4cb21e1a6d17eacde219f)
โปรย... ชะตาพลิกผันให้เจ๊ใหญ่หงทายาทมาเฟียยุค2000 ต้องไปเกิดใหม่ที่มิติใกล้ล่มสลาย ซึ่งทุกอย่างถูกวัดด้วยความแข็งแกร่ง ทั้งพลังปราณ พลังธาตุ ทั้งนางยังมีภารกิจสำคัญที่ต้องรับผิดชอบ ทว่าเมื่อลืมตาตื่นความทรงจำกลับเลือนราง นางกลายเป็นก้อนแป้งน้อยโดยสมบูรณ์! ผักก็ต้องปลูก มารก็ต้องกำจัด ความทรงจำยังเลือนรางอีก สวรรค์ท่านกลั่นแกล้งข้าหรือไร?
ท่ามกลางเสียงร้องไห้ดังระงม และผู้คนนับพันที่มาร่วมไว้อาลัยให้กับการสูญเสียบุคคลที่ยิ่งใหญ่มากอำนาจอันดับต้น ๆ ของวงการมาเฟียแห่งแดนมาเก๊า
ร่างโปร่งแสงยืนมองภาพเบื้องหน้าด้วยความสงบ เธอกวาดตาไปยังบุคคลที่รู้จักก่อนมองไปยังกรอบรูปภาพขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ อันเป็นภาพของผู้เสียชีวิต
รูปภาพนั้นสะท้อนภาพใบหน้าของหญิงสาวผู้งดงาม ดวงตากลมโตนัยน์ตาดำขลับมองตรงไปเบื้องหน้าอย่างไม่เกรงกลัวและอนาทรต่อสิ่งใด ทำให้คนที่พบเห็นยำเกรงและเคารพ แม้ว่านั่นจะเป็นเพียงภาพที่ตั้งอยู่ก็ตาม
หญิงสาวเข้าไปใกล้ภาพนั้นเรื่อย ๆ จนยืนชิดกับกรอบรูปหากไม่มีใครเห็นเธอสักคน เพราะคนที่เสียชีวิตและเจ้าของรูปภาพที่ตั้งอยู่คือตัวเธอเอง... เว่ยซือหง ทายาทอันดับสองของตระกูลเว่ย ตระกูลมาเฟียเก่าแก่ของแดนมังกร
จากบุคคลสำคัญของวงการมาเฟีย เจ๊ใหญ่ตระกูลเว่ยที่ขยับตัวทำอะไรมีแต่คนให้ความสนใจ กลับกลายเป็นดวงวิญญาณธรรมดา แม้ยืนตรงหน้าก็ไร้ผู้คนมองเห็น
‘หึ! ร่ำรวยมากอำนาจแล้วอย่างไร สุดท้ายก็ตายอยู่ดีไม่ใช่หรือ?’ เว่ยซือหงคิดพลางยกยิ้มหยันให้กับสัจธรรมชีวิตที่เธอกำลังเผชิญ
หญิงสาวส่ายหน้าไปมาพลางมองคนที่มาแสดงความอาลัยต่อเธอคนแล้วคนเล่าด้วยแววตาเฉยเมย กระทั่งสั่นไหวเมื่อตรงหน้าคือคนสำคัญในชีวิต
เว่ยซือหงมองภาพครอบครัวที่กอดกันร้องไห้นั้นด้วยความเศร้าและเสียใจ ถ้าเลือกได้เธอก็ไม่ได้อยากจากไปโดยไม่ทันร่ำลาด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์แบบนี้ ทว่าขึ้นชื่อว่าอุบัติเหตุใช่สิ่งที่จะห้ามไม่ให้เกิดขึ้นได้ ต่อให้ระมัดระวังมากแค่ไหน สุดท้ายถ้ามันจะเกิด มันก็เกิดอยู่ดี เจ๊ใหญ่ตระกูลเว่ยจึงจากไปด้วยประการฉะนี้
คำอำลาจากปากของคนในครอบครัวทำเจ๊ใหญ่น้ำตานองหน้า แม้เป็นเพียงวิญญาณก็สามารถร่ำไห้ได้ ความเศร้าโศกอาดูรที่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่กับคนเหล่านั้นได้อีกต่อไปทำหญิงสาวเสียใจสุดพรรณนา
มีพบก็ต้องมีจาก เกิด แก่ เจ็บ ตาย ล้วนเป็นของคู่กัน ถึงตัวจากไปแต่ใจผูกพัน เรายังอยู่ในห้วงความทรงจำของคนเป็นเสมอ เว่ยซือหงเข้าใจดี
ร่างโปร่งแสงแย้มยิ้มบางพร้อมพิธีศพประจำตระกูลสิ้นสุดลง
“โชคดีนะทุกคน ฉันก็คงไปตามทางของฉันเหมือนกัน”
แต่... เป็นวิญญาณแล้วต้องไปไหนอะ? ไหนยมทูตขาวดำ? ไหนแม่น้ำลืมเลือน? ไหนน้ำแกงยายเมิ่ง? ไม่เห็นมี!
ขณะที่หญิงสาวขบคิดด้วยความมึนงง จู่ ๆ ชั้นบรรยากาศโดยรอบก็หมุนวนดูดดวงวิญญาณของเธอเข้าไป กระทั่งแรงดูดของชั้นบรรยากาศหายไปหญิงสาวจึงลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง
“ที่ไหนวะเนี่ย!” เสียงอุทานที่ออกมาจากริมฝีปากสวยได้รูปดังขึ้น เมื่อจู่ ๆ ก็มาโผล่ยังสถานที่ว่างเปล่า ทุกอย่างล้วนขาวโพลน ไม่มีผู้คน ไร้สิ่งก่อสร้าง
กลุ่มหมอกสีขาวยังลอยเอื่อย ก้มมองเท้าตัวเองพบว่าตัวเธอกำลังลอยเช่นกัน หากกลับสัมผัสได้ว่ายืนอยู่ ความรู้ย้อนแย้งนี้คืออะไร?
ความคิดภายในหัวหมุนวน เชื่อว่าคำถามยอดฮิตของเหล่าดวงวิญญาณคงเป็นประโยคที่ว่า ‘ตายแล้วไปไหน’ แน่ เพราะเธอก็ถามตัวเองแบบนี้เช่นเดียวกัน!
คิดไปก็ไม่ได้คำตอบ เว่ยซือหงตัดสินใจเดินไปข้างหน้า โดยระหว่างเดินก็สอดส่ายสายตามองรอบตัวเองไปด้วย น่าแปลกที่เดินมาร่วม 2 ชั่วโมง เธอก็ยังไม่เห็นจุดสิ้นสุดของสถานที่นี้เสียที กลับกันกลุ่มหมอกที่แน่นขนัดในตอนแรกกลับจางลงเรื่อย ๆ พร้อมอากาศบริสุทธิ์
“เดี๋ยวนะ อากาศบริสุทธิ์อย่างนั้นเหรอ?”
“เป็นวิญญาณหายใจได้ด้วย?”
“หรือที่นี่จะเป็นสวรรค์? เป็นไปไม่ได้หรอก”
เจ๊ใหญ่แห่งวงการมาเฟียอย่างเธอ แม้ไม่ได้เข่นฆ่าคนไปทั่ว ใช่ว่ามือจะไม่เปื้อนเลือด แน่ละ ในเมื่อศัตรูบางคนมันต้องการเอาชีวิตเธอ เธอก็ต้องเอาชีวิตมันคืนสิ จะให้เป็นนางเอกยอมคนมองโลกในแง่ดี ทั้งที่สถานะของตัวเองและตระกูลเป็นมาเฟียก็ไม่ใช่เรื่อง ในเมื่อศัตรูหันปืนใส่เธอก่อน เธอก็ต้องหันปืนใส่มันกลับสิถึงจะถูก
เว่ยซือหงสะบัดศีรษะขับไล่ความคิดไร้สาระออกไป ก่อนพิจารณาสถานที่ที่เธออยู่ตอนนี้อีกครั้ง หญิงสาวยกมือกอดอก ก่อนแขนขวายกขึ้นตั้งฉากแล้วทำมือคล้ายป้องปาก แต่ที่จริงใช้นิ้วโป้งกับนิ้วชี้สลับไปมาเพื่อเกลี่ยริมฝีปากตนเอง
อันเป็นท่าประจำเวลาที่เว่ยซือหงใช้ความคิดมาก ๆ
“แม้เราจะไม่ได้ฆ่าคนไปทั่วเป็นผักปลา แต่มือเราก็เปื้อนเลือดเพราะเข่นฆ่าศัตรู ดังนั้นเป็นไปไม่ได้ที่เราจะได้ขึ้นสวรรค์ หากสถานที่นี้ก็ไม่ใช่นรก… สรุปที่แห่งนี้คืออะไรกันแน่” หญิงสาวครุ่นคิดก่อนแววตาสะท้อนความไม่เชื่อออกมา
“เป็นไปไม่ได้หรอกมั้ง จะเป็นไปได้เหรอที่มันจะเหมือนนิยายแนวทะลุมิติอะไรเทือกนั้น ที่พอตายวิญญาณก็ถูกพามายังมิติของเหล่าเทพเซียน... บ้าบอไปกันใหญ่แล้วยายหง นี่มันบ้ามาก เป็นไปไม่ได้หรอก”
“เป็นไปได้สิ” ขณะที่หญิงสาวตบตีกับความคิดตัวเองอยู่นั้น เสียงทุ้มเจือแววอ่อนโยนของชายวัยกลางคนก็ดังขึ้นเบื้องหลัง
เว่ยซือหงสะดุ้งก่อนหันกลับมามองข้างหลังของตนอย่างว่องไว สายตาหญิงสาวสำรวจคนที่จู่ ๆ ก็โผล่มาอย่างไม่เก็บกิริยา ดวงตาหงกวาดมองขึ้น ๆ ลง ๆ อยู่หลายรอบ ใบหน้าสวยฉายแววฉงน แววตาเจือความสงสัยเด่นชัด
บุรุษวัยกลางคนที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ สวมชุดจีนโบราณค่อนข้างจะ... คร่ำครึไปหน่อยหรือไม่ แต่งองค์ทรงเครื่องตั้งแต่หัวจรดเท้า อาภรณ์หรูหราสีทองปักด้วยดิ้นทอง เอาจริงดิ?
คนที่ถูกมองสำรวจนอกจากจะไม่ว่าอันใดแล้ว ยังยิ้มและมองหญิงสาวด้วยสายตาอ่อนโยนเจือเอ็นดู จนทำให้เว่ยซือหงทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย หญิงสาวยิ้มแห้งที่เผลอเสียมารยาท
“ขอโทษค่ะ คุณเป็นใครคะ” พอรวบรวมสติได้ก็ถามทันที
“เจ้ากำลังคิดถึงสิ่งใดอยู่เล่า” ไม่ตอบแต่ถามกลับ
“เทพเซียน?” เอียงคอถามอย่างไม่มั่นใจ หากบุรุษตรงหน้ากลับยกยิ้มและพยักหน้าตอบรับคำพูดของเธอ ดวงตาหงเบิกกว้างอ้าปากค้าง แม้ไม่อยากเชื่อ แต่ตอนนี้ไม่เชื่อไม่ได้แล้ว
ถ้าคนตรงหน้าไม่ใช่เทพเซียนจะเป็นใครไปได้อีก!
“เจ้าคงสงสัยว่าเจ้ามาทำอันใดที่นี่ และสถานที่แห่งนี้คือที่ใด มาเถิด ตามข้ามาแล้วข้าจะเล่าให้ฟัง”
เว่ยซือหงลังเลเล็กน้อยแต่แล้วความอยากรู้อยากเห็นก็เอาชนะความลังเล หญิงสาวเดินตามบุรุษชุดจีนโบราณผู้ที่อ้างตนว่าเป็นเทพเซียนไปต้อย ๆ จนไปหยุดที่เก๋งริมน้ำที่จู่ ๆ ก็โผล่ขึ้นมา
คล้ายบุรุษชุดจีนโบราณรับรู้ความคลางแคลงใจของหญิงสาว จึงวาดมือเบา ๆ พลันนั้นโต๊ะตรงหน้าก็มีกาน้ำชา ถ้วยชา รวมถึงกระดานหมากที่มักเห็นในซีรีส์จีนโบราณบ่อย ๆ ปรากฏขึ้น ดวงตาหญิงสาวแทบถลนจ้องมองสิ่งที่ปรากฏและบุรุษตรงหน้าไม่กะพริบตา ปากก็อ้าค้างเสียกิริยาความเป็นเจ๊ใหญ่ไปโดยปริยาย
“ทีนี้เชื่อข้าหรือยังเล่า”
“เชื่อแล้วค่ะท่านเทพ” หลักฐานชัดเจนเพียงนี้ไม่เชื่อได้หรือ พร้อมเรียกคนตรงหน้าว่าท่านเทพอย่างไม่กระดากปาก
ชักไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองโชคดีหรือโชคร้ายกันแน่ที่มาเจอเทพเซียนแทนที่จะเป็นยมทูตขาวดำแบบนี้
แต่เอาเถอะ เธอจะมองว่ามันโชคดีไปก่อนแล้วกัน คิดง่าย ๆ มองง่าย ๆ จะได้ไม่ปวดหัวทีหลัง...
หลังแก้ปัญหาไอมารจนผืนดินกลับมาเพาะปลูกได้อีกครั้ง ก็ถึงเวลาที่เว่ยซือหงต้องไปผจญภัยจริง ๆ เสียที สมบัติวิเศษ สมุนไพรล้ำค่า ทรัพยากรอื่น ๆ อีกมากมายที่อยู่ในดินแดนลับ นางจะกวาดให้เรียบ!
คนที่ไว้ใจสุดท้ายร้ายที่สุด... เมื่อเรื่องราวความรักของม่านไหมโรยไปด้วยกลีบกุหลาบที่ถูกก้องเกียรติสร้างขึ้นมา ชวนให้หลงมัวเมากับฉากหน้าอันแสนหวานยากจะถอนตัว กว่าจะรู้ตัวก็กลายเป็นว่าเธอถูกหนามแหลมคมของดอกกุหลาบที่ชื่นชอบคอยทิ่มแทงให้เธอเจ็บแล้ว ราวกับโลกทั้งโลกแหลกสลาย ความไว้ใจที่มีมาพังทลายลง! คนที่มั่นคงและซื่อสัตย์ในรักอย่างเธอต้องมานั่งเสียใจนอนร้องไห้ ต้องเจ็บปวดจากการกระทำของคนที่เธอรักและไว้ใจที่สุด เธอจะเลือกอะไรระหว่างอดทนยอมรับชะตากรรมความเจ็บปวดที่เธอไม่ได้เป็นคนก่อและให้อภัยเขาในที่สุด หรือ! เดินหน้าเริ่มต้นใหม่กับใครอีกคนที่หวังดีกับเธอตลอดมา เป็นกำลังใจให้ม่านไหมด้วยนะคะ ............................................... ตัวอย่างบางส่วนในนิยายค่ะ “ทำแบบนี้ทำไม” คำถามแผ่วเบาที่ออกจากปากของม่านไหม ทำให้ชายหนุ่มได้สติ ก้องเกียรติตวัดสายตาดุร้ายมองเธอ เขาไม่ตอบเลือกที่จะหันหลังเดินไปยังตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบมาแต่งตัว “ทำไมไม่ตอบ ทำแบบนี้ทำไม!” เสียงของม่านไหมดังขึ้น หญิงสาวไม่ปล่อยให้ชายหนุ่มหันหลังให้ เธอเดินเข้าไปแล้วกระชากให้เขามามองหน้าเธอทันที “ตอบสิ ทำแบบนี้ทำไม ม่านทำอะไรผิดเหรอ พี่ถึงได้ไปมีคนอื่นแบบนี้!” ม่านไหมโวยวาย สองมือของเธอทุบลงบนอกของเขา
เพราะว่ารักจึงยอม เพราะรักถึงรอ รอที่จะได้ยินคำว่ารัก รอวันที่เธอชัดเจน... .......... ตัวอย่าง “หยุดร้องก่อนได้ไหมฉาย” เสียงนุ่มทุ้มของชายหนุ่มพูดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศตึงเครียด หลังจากที่เขานั่งทนฟังเสียงร้องไห้ของหญิงสาวมาร่วมชั่วโมงกว่าเกือบจะสองชั่วโมงได้ “ฉายไม่ได้อยากร้อง แต่ว่ามันหยุดไม่ได้ ฮึก! แล้วพี่สงจะให้ฉายทำยังไง” หญิงสาวตอบกลับพลางสะอื้นไห้ .......... “นานแล้วนะครับฉาย พี่ทรมาน” น้ำเสียงทุ้มฟังดูเซ็กซี่ดังขึ้นข้างหู “พี่สง!” “พี่รักฉายมากฉายก็รู้ แล้วตอนนี้มันก็นานมาก ๆ แล้วที่เราไม่ได้รักกัน ฉายไม่สงสารพี่เหรอครับ” เขายังคงหว่านล้อมเธอด้วยคำพูดจนจันทร์ฉายเริ่มลังเล ชายหนุ่มยกยิ้มมุมปากพร้อมพูดต่อ “รักของพี่มีให้ฉายแค่คนเดียว ทั้งหัวใจพี่ก็มีแค่ฉาย จะทำอะไรก็นึกถึงแต่ฉาย แบบนี้... พี่ควรได้รางวัลหรือยังครับ” พูดแล้วก็เป่าลมร้อนเข้าหูเธอจนคนตัวเล็กย่นคอหนี “ตะ แต่ว่าฉายท้องอยู่นะคะ” “เลยช่วงอันตรายมาแล้วครับ หมอก็อนุญาตฉายก็รู้ พี่สัญญาว่าจะระวัง” “แต่ว่า” “ให้พี่ทักทายลูก ต่อแขนต่อขาให้ลูกนะครับคนดี พี่สัญญาว่าจะทำเบา ๆ นะครับ นะ” สงกรานต์พูดด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ก่อนจะระดมจูบไปตามซอกคอหอมกรุ่นของหญิงสาว “คะ ครั้งเดียวนะคะ” “ขอบคุณครับ” เมื่อได้รับคำอนุญาตสงกรานต์ก็ไม่คิดเกรงใจอีกเขาตะโบมจูบจันทร์ฉายด้วยความคิดถึงและความรักทั้งหมดที่มี ลิ้นหนาพัวพันกับลิ้นเล็กดึงดูดความหอมหวานของกันและกัน ก่อนจะประคองเธอนอนลงบนเตียงอย่างเบามือ สองมือปลดเปลื้องเสื้อผ้าเธอด้วยความชำนิชำนาญ
ถูกกล่าวหาว่าเป็นลูกนอกสมรสเธอไม่เคยปริปาก โดนกลั่นแกล้งสารพัดก็ไม่เคยพร่ำบ่น เห็นว่าเธอไม่มีปากเสียงแล้วจะเอาอะไรที่เป็นของเธอไปก็ได้เหรอ? ฝันไปเถอะ! ถึงเวลาที่เธอจะเรียกร้องสิทธิ์ของตัวเองแล้ว ระวังตัวไว้ให้ดีละ เตือนแล้วนะ... .......... ตัวอย่าง 1 “ดี! งั้นมาดูกัน ว่าระหว่างฉันกับเธอใครกันแน่ที่พูดความจริง แต่เธอคงไม่ถือใช่ไหมพริมา ถ้าต้องใช้ผู้ชายคนเดียวกันกับพี่สาวอย่างฉันน่ะ” กล่าวถามก่อนจะหัวเราะอย่างขบขัน เมื่อเห็นความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าเรียบเฉยของน้องสาว อิงอรฉีกยิ้มเยาะเย้ยพลางมองพริมาด้วยสายตาเหยียดหยามดูแคลน มือบางคว้ากระเป๋าขึ้นมาสะพายแล้วเดินกลับไปยังประตู ทว่าก่อนที่มือจะทันได้จับลูกบิด น้ำเสียงเย็น ๆ ของน้องสาวที่ดังขึ้นด้านหลังกลับหยุดเธอไว้ “ก็เอาสิคะ ถ้าพี่อิงมั่นใจว่าจะแย่งเขาไปจากฉันได้ก็ลองดู แต่บอกไว้ก่อนนะคะว่าฉันเป็นคนหวงของ ยิ่งรักมากก็หวงมาก และฉันคงไม่ยอมอยู่เฉย ๆ เหมือนที่แล้วมาแน่ อะไรที่เป็นของฉันใครหน้าไหนก็เอามันไปจากฉันไม่ได้ โดยเฉพาะคนหน้าด้านอย่างพี่อิง อย่าได้หวังเลยค่ะ แต่ถ้าพี่คิดว่าพี่แน่ ก็เชิญ แล้วจะได้รู้ ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด เตือนแล้วนะ” “เหอะ” อิงอรอารมณ์เสียเพราะคำพูดของพริมา แต่ไม่ใช่ในคำเตือน เธอหันกลับมามองหน้าน้องสาวแล้วส่งสายตาฟาดฟันกัน ก่อนจะสะบัดหน้าหนีเดินออกจากห้องไป .......... ตัวอย่าง 2 “เสียดายจัง ยังไม่ทันได้มองหุ่นเขาเลย พี่พีก็เอามือมาปิดตาพริมซะก่อน เสียดายจริงๆ” “เสียดายทำไม! อยากดูก็มาดูหุ่นพี่นี่ พี่หุ่นดีกว่ามันตั้งเยอะ” ชายหนุ่มพูดเสียงเขียว พริมายู่หน้าตอบ “มันไม่เหมือนกันนี่คะ ของพี่พีพริมได้ดูทุกวัน แต่ของคนอื่นพริมแค่อยากมองเฉย ๆ” เธอยังคงลอยหน้าลอยตาพูดต่อ ทั้งยังไม่วายเจื้อยแจ้วไปถึงบรรดาหุ่นไอดอลชายหรือศิลปินที่เธอชื่นชอบจนรพีพัฒน์ใบหน้าเขียวคล้ำเพราะความหึงหวง มองเธอด้วยสายตาคาดโทษ
เมื่อความสัมพันธ์มาถึงจุดเปลี่ยน... เปลี่ยนจาก ‘คนรัก’ กลายเป็น ‘คนอื่น’ จากคนอื่นเป็น ‘คนใจร้าย...’ กว่าจะรู้ตัวว่ารักมากแค่ไหน ก็เกือบสูญเสียคนสำคัญของหัวใจไปแล้ว ………. ตัวอย่าง “ขอโทษนะครับที่ทำร้ายเขมแบบนั้น พี่รู้ว่าพี่ผิด และเขมคงไม่ให้อภัยพี่ง่าย ๆ แต่พี่อยากบอกให้เขมรู้ ว่าพี่รู้สึกผิด และเสียใจกับสิ่งที่พี่ทำลงไป” “...” “พี่ขอโทษนะครับ คือพี่ไม่ได้ตั้งใจจะทำแบบนั้นกับเขมนะ พี่แค่โกรธและโมโหมากไปหน่อย” เขมิกายกยิ้มพลางหัวเราะหยันในลำคอ รู้สึกโกรธคนตรงหน้าจนไม่อยากมองหน้าต้องมองเขาด้วยหางตาแทน “ไม่ได้ตั้งใจ... นี่ขนาดไม่ได้ตั้งใจนะคะ ถ้าคุณตั้งใจขึ้นมามันจะขนาดไหน” “เขมคือพี่” “ช่างเถอะค่ะ เอาเป็นว่าหลังจากนี้ไปนอกจากเรื่องงาน ระหว่างฉันกับคุณไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีก เข้าใจตรงกันนะคะ” นี่เขาทำอะไรลงไป... ถ้าเขาลดอคติลง ฟังเธอสักนิด วันนี้เขาคงไม่ต้องทำร้ายเธอจนทำให้เธอหวาดกลัวเขาแบบนั้น ไม่ต้องเห็นสายตาตัดพ้อต่อว่า ไม่ต้องเห็นสายตาว่างเปล่าของเธอ... หากว่าเขาขอโอกาสกับเธออีกสักครั้ง เธอจะยินยอมมอบมันให้เขาหรือเปล่า?..
คนที่ไม่เชื่อในความรักอย่างจันทร์เจ้าต้องอยู่ชิดใกล้กับผู้ชายที่หล่อกวนใจจนน่าหยิก ความรู้สึกแปลก ๆ ที่เกิดขึ้นยากจะห้ามไหว แต่นาย ‘ชลธี’ กลับทำให้ทุกอย่างดูง่าย เปลี่ยนหัวใจตายด้านให้กลับมาเต้นแรง…
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ตลอดระยะเวลาสามปีที่หยุยเอินแต่งงานกับฝู้ถิงหย่วน เธอพยายามทำหน้าที่ภรรยาให้ดีที่สุด เธอคิดว่าความอ่อนโยนของตนจะสามารถละลายใจที่เย็นชาของฝู้ถิงหย่วนได้ แต่ต่อมาเธอก็รู้ตัวว่าไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหน ผู้ชายคนนี้ก็ไม่มีวันจะตกหลุมรักเธอได้ ด้วยความสิ้นหวังของเธอ สุดท้ายเธอตัดสินใจที่จะยุติการแต่งงานครั้งนี้ ในสายตาของฝู้ถิงหย่วน หยุยเอิน ภรรยาของเขาเป็นผู้หญิงที่โง่ ไม่มีอะไรดีเลยสักอย่าง แต่เขาก็คิดไม่ถึงว่าภรรยาของเขาจะกล้าโยนใบหย่าใส่เขาต่อหน้าคนมากมายในงานเลี้ยงวันครบรอบฝู้ซื่อ กรุ๊ป หลังจากหย่าร้าง ทุกคนต่างคิดว่าพวกเขาจะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกันอีกต่อไป แต่เรื่องราวระหว่างทั้งสองคงไม่ได้จบลงอย่างง่าย ๆ แบบนี้ หยุยเอินได้รับรางวัลบทภาพยนตร์ยอดเยี่ยม และคนที่เป็นผู้มอบถ้วยรางวัลให้กับเธอก็คือฝู้ถิงหย่วน หยุยเอินคิดไม่ถึงว่าผู้ชายที่สูงส่งและแสนเย็นชาคนนี้จะลดตัวลงอ้อนวอนเธอต่อหน้าผู้ชมทั้งหมด"หยุยเอิน ก่อนหน้านี้คือผมผิดเอง ขอโอกาสให้ผมอีกครั้งได้ไหม"หยุยเอินยิ้มด้วยความมั่นใจ"ขอโทษนะคุณฝู้ ตอนนี้ฉันสนใจแต่เรื่องงาน"ชายหนุ่มคว้ามือเธอไว้ ดวยตานั้นเต็มไปด้วยความผิดหวัง หยุยเอินสบัดมือเขาและเดินจากไปโดยปราศจากความลังเลใด ๆ
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!