ปิ่นมึงรู้ไหมว่ากูแม่งโคตรเกลียดมึงเลยเกลียดทั้งแม่มึงทั้งตัวมึง กูจะทำให้มึงอยู่อย่างไม่มีความสุขไม่เชื่อมึงก็คอยดู
ปิ่นมึงรู้ไหมว่ากูแม่งโคตรเกลียดมึงเลยเกลียดทั้งแม่มึงทั้งตัวมึง กูจะทำให้มึงอยู่อย่างไม่มีความสุขไม่เชื่อมึงก็คอยดู
15ปีก่อน....
"คุณสุนีย์คะรีบลงไปดูข้างล่างเถอะค่ะ" น้อยแม่บ้านคนสนิทของสุนีย์วิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาในห้องของผู้เป็นนายแล้วพูดด้วยน้ำเสียตื่นเต้น
"มีอะไรเหรอน้อยค่อยๆพูด" สุนีย์พยุงตัวเองลุกจากที่นอนหลังจากที่เธอเพิ่งได้นอนไม่กี่นาทีนี้เองเพราะเธอป่วยมานานเธอจึงต้องกินยาตลอดและต้องนอนพักในช่วงกลางวัน
"คุณผู้ชายค่ะคุณผู้ชายพาใครก็ไม่รู้ค่ะเข้ามาในบ้านเป็นผู้หญิงกับเด็กค่ะ"
"แม่บ้านคนใหม่หรือเปล่า"
"ไม่น่าใช่นะคะเพราะว่าดูคุณผู้ชายท่าน เอ่อคือ"
"มีอะไรก็พูดมาน้อย"
"เอ่อน้อยว่าคุณสุนีย์ลงไปดูเองดีกว่าค่ะ มาค่ะเดี๋ยวน้อยจะพยุงลงไปนะคะ น้อยค่อยๆพยุงสุนีย์เดินลงบันไดอย่างช้าๆและระมัดระวัง พอสุนีย์เดินลงมาก็เจอสามีของตนเองกำลังนั่งคุยหยอกล้อกับเด็กผู้หญฺิงอายุราวๆสามขวบและมีหญิงสาววัยกลางคนนั่งอยู่ข้างๆด้วยใบหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
"คุณชาตินี่มันอะไรกันแล้วผู้หญิงคนนี้กับเด็กคนนั้นเป็นใคร" สุนีย์ถามสามีของเธอด้วยน้ำเสียงที่สั่นและไม่มีแรง
"เธอลงมาก็ดีแล้วฉันจะได้แนะนำให้เธอรู้จัก นี่ปานวาดเมียของฉันอีกคนส่วนนี่หนูปิ่นปักลูกสาวของฉันเองแกเพิ่งจะอายุได้สามขวบวันนี้"
"อะไรนะคะ คุณพูดใหม่ซิ"สุนีย์คิดว่าตัวเองหูฝาดหลังจากที่สามีบอกว่าคนแปลกหน้าทั้งสองคนที่เธอเห็นคือเมียกับลูก
"สวัสดีค่ะพี่นีย์น้องชื่อปานวาดนะคะเป็นภรรยาอีกคนของพี่ชาติ ยินดีที่ได้เจอกันนะคะ" ปานวาดมองสุนีย์ด้วยสายตาเยาะเย้ยอย่างเห็นได้ชัดมิหนำซ้ำยังเกาะแขนสามีของสุนีย์อย่างสนิทชิดเชื้อไม่เกรงใจเธอผู้เป็นภรรยาเลย
"ใครอยากจะรู้จักผู้หญิงอย่างเธอกันเธอมันนังผู้หญิงหน้าด้านนังนังเมียน้อย เธอพาลูกของเธอออกไปจากบัานหลังนี้เดี่ยวนี้ ไป๊!!!!" สุนีย์ไล่ปานวาดด้วยความโกรธ เธอไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่าสามีที่อยู่กินด้วยกันมานานเกือบสิบปีจะทำกับเธอได้ขนาดนี้
"เธอไม่มีสิทธิ์มาไล่ปานวาดในเมื่อปานวาดก็เป็นเมียของฉันเหมือนที่เธอเป็น"
"ทำไมคุณพูดแบบนี้"
"ฉันจะพูดในเมื่อมันคือความจริง ปานวาดคือเมียของฉันเหมือนกันกับเธอส่วนหนูปิ่นก็คือลูกของฉันเหมือนกับตานนท์นั่นแล่ะ"
"ฮือออ ฮืออออคุณทำแบบนี้กับฉันได้ยังไงคุณชาติ คุณใจร้ายกับฉันเกินไป ฮืออออ จิตใจคุณทำด้วยอะไรทำไมคุณถึงทำร้ายฉันแบบนี้" สุนีย์ร้องไห้ออกมาอย่างหนักด้วยความเสียใจ
"ทำไมจะทำไม่ได้ในเมื่อเธอให้ความสุขกับฉันไม่ได้ฉันก็ต้องหาคนมาทำหน้าที่แทนเธอและคนๆนั้นก็คือปานวาด ปานวาดเค้าดีกับฉันมากเขาดูแลปรนนิบัติฉันดีกว่าเธอซะอีก ไหนจะมีลูกสาวที่น่ารักให้ฉันอีกหนึ่งคน เธอน่าจะรู้ว่าฉันอยากได้ลูกสาวแต่เธอก็มีให้ฉันไม่ได้เพราะอาการป่วยของเธอ"
"ฉันผิดงั้นเหรอคะที่ป่วยฉันผิดเหรอคะที่ทำหน้าที่บนเตียงให้คุณไม่ได้ ฮือออ ฮืออออ"
"ใช่เธอผิดเพราะฉันเป็นผู้ชายฉันมีความต้องการในเมื่อเธอทำหน้าที่เมียไม่ได้เธอก็ไม่มีสิทธิ์มาหึงมาหวงฉันหรือมาห้ามฉัน"
"ถ้าคุณจะเอาผู้หญฺิงคนนี้เข้ามาอยู่ในบ้านงั้นเราหย่ากัน"
"ได้ฉันรอฟังคำนี้มานานแล้ว"
"คุณชาติ!!!!" สุนีย์ไม่คิดเลยว่าสามีของเธอจะเลือกผู้หญิงคนนั้นแทนเธอที่อยู่กินกันมานานหลายสิบปี
"จะหย่าเมื่อไหร่ล่ะวันนี้เลยไหม" ชาติมองหน้าภรรยาที่อยู่ร่วมกันมาด้วยความรู้สึกเฉยชาเพราะเขาหมดรักภรรยาคนนี้แล้วตอนนี้เขารักปานวาดภรรยาใหม่ของเขารวมทั้งปิ่นปักลูกสาวของเขาที่เขารักยิ่งกว่าแก้วตาดวงใจ
"แม่!!!! แม้ร้องไห้ทำไมใครทำอะไรแม่" เด็กชายชานนท์หรือนนท์วัยห้าขวบวิ่งเข้าบ้านมาหลังจากคนขับรถไปรับมาจากโรงเรียนพอเข้าบ้านมาเขาก็เห็นแม่ของตนเองยืนร้องไห้เขารีบถามด้วยความเป็นห่วง
"นนท์ ฮือออ พ่อของลูกพาเมียน้อยเข้ามาในบ้านของเรา ฮืออ ฮืออออ"
"ปานวาดไม่ใช่เมียน้อยเธอบอกลูกให้มันดีๆ" ชาติโมโหภรรยาที่เธอบอกกับลูกชายว่าปานวาดเป็นเมียน้อย เขาไม่อยากให้ปานวาดรู้สึกไม่ดีรวมถึงลูกสาวของเขาด้วย
"จะไม่ใช่ได้ยังไงในเมื่อคุณจดทะเบียนแต่งงานกับฉันแล้วมันก็ต้องเป็นเมียน้อย"
"คุณพ่อมีเมียน้อยเหรอครับ"
"ตานนท์แกห้ามเรียกน้าปานวาดว่าเมียน้อยเป็นอันขาดไม่อย่างงั้นฉันจะทำโทษแกจำไว้"
ปล.เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชานนท์จากเรื่อง เพื่อนร้ายทวงคืนรัก นะคะ
แจ้งก่อนอ่าน.....เรื่องนี้มีคำหยาบคายและมีการกระทำที่รุนแรงในบางEPเพราะฉะนั้นใครโลกสวยหรือไม่ชอบนิยายแนวนี้โปรดเลื่อนผ่านXX เขาเอื้อมมือไปที่หัวเตียงแล้วหยิบซองสี่เหลี่ยมเล็กๆ ที่ฉันคุ้นตาออกมาเพราะฉันเคยเก็บเศษซากของมันมาก่อน มันคือถุงยางอนามัย "คุณธามคะ อย่า!!!" ฉันกำลังจะบอกกับเขาว่าอย่าทำเพราะฉันรู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรแต่เขากลับเข้าใจไปอีกอย่าง "ทำไม หรืออยากเอาสดกับกู อย่าหวังเลยว่ากูจะยอมสดกับคนอย่างมึง" สวบ!!!! ปึ่ก!!!!! "ไม่ กรี๊ดดดดดดด" ฉันกรีดร้องออกมาอย่างสุดเสียงเมื่อเขาสอดใส่ท่อนเอ็นเข้าไปจนสุดทางฉันเจ็บแปลบไปทั้งร่างกาย จนน้ำตาไหลออกมาด้วยความเจ็บปวด "เชี่ย!!! มึง ไม่เคยเหรอวะ" คุณธามก้มมองดูจุดเชื่อมต่อแล้วอุทานออกมา
เรื่องนี้เป็นเรื่องของพี่บอมคนดีเพื่อนสนิทอัยวาคุณแม่ของน้องเอิงซึ่งมีคุณพ่ออย่างพี่ภูที่หวงลูกสาวยิ่งกว่าอะไร มาลุ้นความรักต่างวัยของคู่นี้กันนะคะใครชอบแนวโคแก่กินหญ้าอ่อนห้ามพลาดเด็ดขาด ภูผาอัยวาอยู่ในเรื่อง กลลวงร้ายซ่อนรัก นะคะ
"เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนฉันจะไม่รับผิดชอบอะไรทั้งนั้น" "ค่ะ" ฉันฝืนความรู้สึกแล้วตอบออกไป ฉันไม่คิดว่าพี่ภูจะรับผิดชอบอะไรอยู่แล้วคำพูดของเขาเมื่อคืนฉันยังจำขึ้นใจ "และฉันก็หวังว่าเธอจะไม่เอาเรื่องที่เกิดขึ้นไปฟ้องแม่ฉันอีกว่าฉันรังแกเธอ" "ค่ะ" "สรุปก็คือเธอห้ามเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเด็ดขาดเพราะไม่อย่างนั้นฉันจะเอาเรื่องที่เธอเคยโกหกไปบอกพ่อเธอรวมถึงย่าเธอด้วยว่าเธอโกหกสร้างเรื่องหาว่าฉันล่วงเกินเธอทั้งที่ตอนนั้นฉันไม่ได้ทำ เธอคิดเอาก็แล้วกันว่าย่าเธอจะผิดหวังแค่ไหนที่หลานสาวสุดที่รักของท่านสร้างเรื่องโกหกหน้าด้านๆ เพื่อจับผู้ชาย" ฉันก้มหน้าแล้วน้ำตาก็ไหลออกมาอีกครั้ง "เข้าใจที่พูดใช่ไหม" "อื้มมม" ฉันตอบเขาได้แค่นั้นเพราะพูดอะไรไม่ออกกลัวเขาจะรู้ว่าตอนนี้ฉันกำลังร้องไห้อยู่ "แต่ความผิดของเธอยังไม่หมดฉันยังไม่พอใจเพราะฉะนั้นเธอต้องมาที่นี่ทุกครั้งที่ฉันต้องการ แต่ถ้าเธอดื้อไม่ยอมมาฉันจะไปลากตัวเธอถึงบ้านไม่เชื่อก็คอยดู" "พี่ติดใจอัยก็บอกว่าเถอะไม่ต้องเอาเรื่องผิดไม่ผิดมาเป็นข้ออ้างหรอก" ฉันโต้กลับเพราะฉันไม่อยากให้พี่ภูคิดว่าฉันกลัวเขา "เธอพูดว่าไงนะฉันเนี่ยนะติดใจเธอ เหอะพูดผิดพูดใหม่ได้นะ"
"เพลง ฮึก ฮึกเพลง" น้ำเสียงสะอื้นด้วยความเจ็บปวดเมื่อเห็นคนที่ตัวเองรักอยู่ในสภาพนี้ "พะ พี่ไทม์เหรอคะ" มือบางลูบไปที่ใบหน้าของชายหนุ่มอย่างสะเปะสะปะ "พี่เองครับ ฮือออ เพลงพี่ขอโทษพี่ขอโทษพี่มันเหี้ยพี่มันเลวเพลงให้อภัยพี่ได้มั้ย" เขาจับมือคนรักแล้วนำมาแนบแก้มที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา "พี่รู้ได้ยังไงว่าเพลงอยู่ที่นี่" "พี่รู้ได้ยังไงไม่สำคัญ แต่พี่จะพาเพลงไปรักษาต่างประเทศที่นั่นหมอเก่งมากเพลงต้องหาย"
"เธอชอบเพื่อนฉันเหรอวะ เหอะดูสารรูปตัวเองซะก่อนเหอะยัยอ้วนก่อนจะมาบอกรักใครไอ้คิมมันหล่อขนาดนั้นเธอคิดว่ามันจะมาชอบผู้หญิงที่ทั้งอ้วนทั้งขี้เหร่แบบเธองั้นเหรอห๊ะ อย่างเธอมันไม่มองให้เปลืองลูกกะตาหรอกตัดใจจากมันซะเถอะ" "แต่...ฉันชอบคิมจริงๆนะ" "อย่างเธอถ้าอยากให้ไอ้คิมชอบมันก็พอมีวิธีอยู่นะอยากรู้มั้ยฉันจะบอก" "บอกมาสิ" "ข้อหนึ่งเธอคงต้องไปตายแล้วเกิดใหม่" "ห๊ะนายว่าอะไรนะ!!!" "ฟังฉันยังพูดไม่จบ ฉันยังมีข้อสองให้เธอเลือกนั่นก็คือเธอต้องไปศัลยกรรมให้มันดูดีกว่านี้ไม่แน่ไอ้คิมมันอาจจะหันมาสนใจเธอก็ได้ แต่..ฉันว่าเบ้าหน้าอย่างเธอคงไปไม่รอดทำไปก็แค่นั้นเปลืองเงินเปลืองแรงหมอเปล่าๆ เพราะฉะนั้นเธอตัดใจจากมันซะ" เรื่องนี้เป็นเรื่องราวของชมจันทร์พยาบาลสาวสวยกับอาร์ตเพื่อนสนิทของคิมหันต์จากเรื่อง ชังรักเมียรับใช้ นะคะ
"ลิล ลิลจำพี่ได้มั้ย" "พี่ พี่เหรอ" "ครับพี่เอง พี่คิมไงสามีของลิล" "สามี สามี" แววตาว่างเปล่าจ้องผมไม่วางตาก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความหวาดกลัว "ไม่ ไม่ กรี๊ดดดด ไม่ออกไป ฮืออออ ออกไป ฮืออออ"
หนุ่มใหญ่วัย 42 เจ้าของโรงแรมและรีสอร์ตระดับ 5 ดาว ผู้ทรงอิทธิพลแห่งขุนเขา ดุดัน โหดและดินเถื่อน ต้องมาพ่ายแพ้ให้กับสายตาและรอยยิ้้มแสนหวาน ของสาวน้อยวัย 19 เธอคือ made mind day เธอคือคนที่ทำให้วันเครียดๆ ของเขากลายเป็นสีชมพู รอยยิ้มของเธอทำให้เขาไม่มีวันลืม นอนไม่หลับ และเฝ้ารอที่จะได้เห็นรอยยิ้มนั้นอีกครั้ง “ปวดท้องอีกแล้วค่ะ อื้อ! พอปวดมันก็ไหลออกมาอีก” “บอกอาเลย ให้อาทำยังไง” “ไปร้านสะดวกซื้อ ซื้อผ้าอนามัยให้วีได้ไหมคะ” “ไอ้เขตไปร้านสะดวกซื้อ เร็ว” พ่อเลี้ยงหนุ่มสั่งอย่างรีบร้อน ก่อนจะประคองมนัสวีเขามากอดปลอบไปก่อนเพราะไม่รู้จะทำอย่างไร “ครับๆ” ว่าแล้วเขตแดนก็ขับรถไปพาร้านสะดวกซื้อทันทีซึ่งหาไม่ยาก “ถึงแล้ว ให้อาซื้ออะไรบ้างบอกมาซิ” ครั้นจะให้หนุ่มๆ ไปซื้อก็มีความรู้เท่ากันนั่นแหละ สู้เขาไปจัดการเองดีกว่า “ได้เหรอคะ วีกลัวคุณอาจะ...” “ไม่เป็นไรวีเดินไม่ไหว ไหนกางเกงน่าจะเปื้อนแล้ว” “เอาแบบกลางวัน ยาว 30 cm. 1 ห่อนะคะ แล้วกลางคืนยาว 35 cm. ค่ะ ถ้าหาไม่เจอบอกพนักงานก็ได้ค่ะ” “โอเคจ้ะ” ได้หรือไม่ได้เขาก็รับปากไปก่อนก็แล้วกัน ว่าแล้วจึงรีบลงจากรถพุ่งตัวเข้าไปในร้านในทันที เพียงไม่กี่ล็อกก็เจอผ้าอนามัยแต่ “คุณพระคุณเจ้ามีเป็นร้อย เอ่อ ไงดีวะ” ด้วยความไม่แน่ใจ กลัวหยิบไปผิด ต้องรวบรวมความกล้าและทิ้งความอายไปถามพนักงาน ไม่งั้นเมียเขาม่ได้ใส่ผ้าอนามัยแน่ๆ เชียว “ขอโทษทีครับ คือ ผม... มาซื้อผ้าอนามัยให้... ภรรยา แต่ไม่รู้ว่าต้องเลือกยี่ห้อไหนขนาดอะไรหรือแบบไหนถึงจะดี”
ทุกคนรู้ดีว่า บุตรีคนโตที่ไม่เป็นที่โปรดปรานในจวนโหวอันติ้งแห่งเมืองหลวง ทำให้แม่แท้ๆ ของตนต้องเสียชีวิต เป็นคนที่ถูกมองว่าเป็นตัวโชคร้าย ก่อนแต่งงานก็ทำให้แม่เลี้ยงฝันร้ายอยู่หลายวัน ออกเดินทางไปทำบุญนอกเมืองก็ถูกโจรจับตัวไป แต่ใครจะคิดว่าโชคร้ายกลับกลายเป็นโชคดี นางเปลี่ยนนิสัยไปอย่างสิ้นเชิง ไม่ยอมให้ใครมารังแกอีกต่อไปที่แท้ซูชิงซวู่ ผู้สุดยอดสายลับที่ทะลุมิติมาเผชิญกับพ่อที่เย็นชา แม่เลี้ยงที่ชั่วร้าย คู่หมั้นที่นอกใจน้องสาวต่างแม่ แต่ไม่เป็นไร คอยดูว่าเธอจะจัดการพวกชั่วช้า และเอาคืนทุกอย่าง ทว่าทำไมท่านอ๋องผู้นั้นถึงมองมาที่เธอด้วยสายตาแปลกๆ นั่นล่ะเผ่ยเสวียนจู: บุญคุณที่ช่วยชีวิต ไม่มีสิ่งใดตอบแทนได้ นอกจากเอาตัวไปแลก
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"
เจน ไอไออายุยี่สิบปี ถึงเพิ่งรู้เป็นครั้งแรกว่าแท้จริงแล้วตัวเองคือคุณหนูตระกูลมหาเศรษฐี แต่ยังไม่ทันดีใจได้นาน ก็ได้รู้ว่าพ่อแม่แท้ ๆ จะให้เธอไปแต่งงานแทนคุณหนูตัวปลอมคนนั้น กับผู้ชายพิการ อารมณ์ร้าย แถมครอบครัวก็ใกล้จะล้มละลายอีกต่างหาก? ถ้าไม่ใช่เพราะต้องการช่วยยายที่ป่วยอยู่ เธอคงไม่ยอมทนแบบนี้หรอก แต่หลังจากแต่งงานไป เจน ไอไอถึงค่อย ๆ รู้ว่าผู้ชายที่ว่าพิการ อารมณ์ร้าย และกำลังจะล้มละลายนั่น แท้จริงแล้วกลับเป็นเจ้าพ่อผู้ทรงอิทธิพลที่ทั้งหลงและเอาใจภรรยาสุด ๆ ! แย่แล้ว! พวกเขาทำข้อตกลงกันไว้ว่าสองปีหลังจากนี้จะต้องหย่ากัน! ซือเชียนฮานโอบเจน ไอไอไว้แน่น แล้วเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแสนอ่อนโยนว่า “ที่รัก…เธอตัดใจหย่ากับฉันได้จริงเหรอ?” เจน ไอไอลูบเอวพลางพูดว่า “ไม่หย่า ไม่หย่าแล้วได้ไหม?”
ในการแต่งงานที่ทำข้อตกลงไว้ เจียงหว่านเป็นฝ่ายที่มีใจให้อีกฝ่ายก่อน แต่ตอนที่เธอต้องการเผยเสี้ยนมากที่สุด เขากลับอยู่เคียงข้างคนรักในใจของเขา ในท้ายที่สุด เจียงหว่านก็ตัดสินใจหย่า และเริ่มต้นชีวิตใหม่ เมื่อเผยเสี้ยนรู้สึกตัวขึ้นมา เธอก็จากไปแล้ว เมื่อเผชิญหน้ากับคู่แข่งที่เข้าคิวเพื่อรับป้ายหมายเลข เผยเสี้ยนหยิบเงินร้อยล้านออกมาและพูดว่า "หว่านหว่าน คู่รักก็ต้องเป็นคู่เดิมเราแต่งงานใหม่อีกครั้งได้ไหม"
ที่งานหมั้น มู่ซินยวี่ดื่มเหล้าเข้าไปจนรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งตัว เมื่อเห็นเงาร่างที่คุ้นเคย เธอจึงพุ่งเข้าไปหาและจูบอย่างหลงใหล “คุณสามีจ๋า ฉันอยาก...” หลังจากเกิดอะไรบ้าคลั่งมาคืนหนึ่ง เมื่อตื่นขึ้นมาก็พบว่าชายที่อยู่ข้างกายเธอคือ เสิ่นเจียสวี่ ลูกพี่ลูกน้องนักบินของคู่หมั้น! “ตอดรัดแน่นมาก ชอบมากเลยเหรอ?”พอเสียงแหบ ๆ เบา ๆ นี้ลอยเข้าหูมา ที่น่ากลัวกว่านั้นคือเสียงคู่หมั้น เสิ่นเจียหวิน ตะโกนโวยวายอยู่หน้าประตู เสิ่นเจียสวี่เอาเสื้อสูทคลุมหัวเธอเพื่อพาเธอออกมาแต่ก็ยื่นเงื่อนไขโหดร้าย “มาเป็นกิ๊กของฉัน ไม่งั้น...ลองเดาดูสิว่าตระกูลเสิ่นจะมองเธอเป็นหญิงสำส่อนยังไง ?” มู่ซินยวี่กัดฟันรับข้อเสนอ แค่อยากจะหลุดพ้นจากสถานการณ์นี้ แต่กลับพบว่าเสิ่นเจียสวี่คือกัปตันเครื่องบินของเธอ ในห้องพักบนเครื่องบินสูงหมื่นเมตร เขาจับเอวเธอ "คิดหนีเหรอ? เที่ยวบินนี้ฉันเป็นเป็นหลัก" เธอกล้ำกลืนเอาไว้เพื่อรักษาบริษัทที่แม่ทิ้งไว้และพ่อที่ป่วยหนักของเธอ แต่กลับได้ยินเสิ่นเจียหวินเยาะเย้ยว่า “คุณหนูที่ตกอับ เล่นสนุกแค่แป๊บเดียวก็เบื่อแล้ว!” และเห็นเขากอดมู่อยู่อู่ น้องสาวบุญธรรม พร้อมทุ่มเงินฟุ่มเฟือย! มู่ซินยวี่รู้สึกใจหาย เอาล่ะ การหมั้นนี้ เธอไม่เอาแล้ว เธอหันหลังไปหาเสิ่นเจียสวี่ที่มีอำนาจมากกว่า “ช่วยฉันถอนหมั้น ฟื้นฟูบริษัท แล้วฉันจะยอมตามใจคุณ” ชายหนุ่มมีประกายตาแห่งความต้องการเป็นเจ้าของ “ตกลง จำไว้ จากนี้ไป เธอต้องเป็นของฉันเท่านั้น” ตั้งแต่นั้น ชีวิตของมู่ซินยวี่ก็เปลี่ยนแปลงไปอย่างสิ้นเชิง
© 2018-now MeghaBook
บนสุด
GOOGLE PLAY