/0/16856/coverbig.jpg?v=7128d9522334b63804773997cefbf6df)
เดิมทีฟางจินซิ่วมีอวกาศติดตัวได้เปิดคลินิกการแพทย์แผนจีนในยุคปัจจุบันและเจริญรุ่งเรือง ไม่มีการแข่งขันหนัก และทำงานมีวันหยุด เธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย แต่แล้วมีวันหนึ่งที่เธอตื่นขึ้นมากลับข้ามมิติกลายเป็นชาวนาที่ฟมู่บ้านยากจน อีกทั้งได้เจอภัยแล้ง จากนั้นก็โดนขาย โชคดีที่ครอบครัวที่ซื้อเธอแตกต่างจากที่เธอจินตนาการไว้ เธอไม่ได้ถูกทารุณกรรม แต่ได้รับการดูแลอย่างดี ในยุคแห่งความขาดแคลนอาหาร และมีภัยแล้ง ฟางจินซิ่วตัดสินใจตอบแทนความเมตตาของครอบครัวนี้ แม่สามีป่วยหนัก? สำหรับปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอเก็บสมุนไพรและแช่ในสระศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งรักษาเธอให้หายดีภายในไม่กี่นาที ที่บ้านไม่มีอาหาร? ปัญหาเล็กๆ น้อยๆ เธอไปล่าสัตว์กับครอบครัวและโชคก็เข้าข้างเธอ ไม่ว่าเธอจะไปที่ไหน เหยื่อก็จะตกหลุมพรางเสมอ กินแต่เนื้อสัตว์โดยไม่มีผักหรือ? มันเป็นปัญหาเล็กๆ เทน้ำในสระศักดิ์สิทธิ์เพียงหยดเดียว ก็สามารถปลูกพืชได้ทุกชนิดและกินผักและผลไม้อะไรก็ได้ที่พวกเธอต้องการ ญาติที่อิจฉากำลังมาก่อเรื่องเมื่อเห็นว่าพวกเธอใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย สำหรับปัญหาเล็กน้อยนี้ เธอเรียกผู้ชายที่มีความแข็งแกร่งของเธอมาจัดการพวกเขา อะไร คุณถามว่าสามีของฉันทำไมเชื่อฟังได้ขนาดนี้? จงหวี่เดินเข้ามาด้วยสายตาเร่าร้อน "คุณภรรยา ตราบใดเจ้ายอมอยู่เคียงข้างข้าตลอดชีวิต ถึงเอาชีวิตข้าไปข้าก็ยอม"
ในปีแรกของรัชสมัยลี่ชิง เมืองซีโจวประสบภัยแล้งอย่างรุนแรง ทุ่งนาแห้งแล้ง ดินแตกร้าว ประชาชนไร้ซึ่งผลผลิตจนถึงขั้นต้องขายลูกชาย และลูกสาวกิน
ตระกูลฟางก็เช่นเดียวกัน
ขณะที่ฟางจิ่นซิ่วเพิ่งจะได้สติก็ถูกคนกระชากผมไปอย่างรุนแรง นางเจ็บจนลืมตาขึ้นมาทันที
“อย่ามาแกล้งตายหน่อยเลย แกล้งตายไปก็ไม่มีประโยชน์”
นางมองไปตามเสียง แล้วก็เห็นว่าผู้หญิงคนที่กำลังจับผมนางอยู่มีใบหน้าที่ดุร้ายอำมหิต สวมชุดผ้าหยาบบ่งบอกถึงฐานะที่ยากจน
“ฟางจิ่นซิ่ว ตลอดเวลาหลายปีที่ข้าเลี้ยงดูเจ้ามา ข้าถือว่าใจดี และเมตตากับเจ้ามามากพอแล้ว คนอื่นเขาขายลูกสาวให้กับแม่เล้ากันไปหมดแล้ว แต่เรายังรู้จักผิดชอบชั่วดีก็เลยเลือกที่จะหาบ้านผัวให้เจ้าแทนอย่างไรเล่า”
“เจ้าจะมาหาว่าข้าใจร้ายไม่ได้ ครอบครัวของเรามีเฮียใหญ่ของเจ้าเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว หมอบอกว่าขาที่หักของเขาสามารถรักษาได้ ขอเพียงแค่เรารวบรวมเงินได้ห้าตำลึง”
“เจ้าเป็นแม่หญิงไม่ว่ายังไงก็ต้องแต่งานออกเรือนอยู่แล้ว ตอนนี้มีคนยอมจ่ายเงินห้าตำลึงเพื่อซื้อเจ้าไป เจ้าก็คิดซะว่ามันเป็นการตอบแทนบุญคุณของพ่อเจ้า และข้าที่เลี้ยงดูเจ้ามาตลอดหลายปีที่ผ่านมาก็แล้วกัน”
ฟางจิ่นซิ่วที่ถูกดึงหัวรู้สึกปวดหัวอยู่ครู่หนึ่ง ความทรงจำของเจ้าของเดิมค่อย ๆ ฉายภาพขึ้นมา ความจริงแล้วนางได้เดินทางทะลุมิติข้ามภพข้ามชาติไปยังสมัยโบราณโดยไม่รู้ว่าเป็นช่วงสมัยใด
นางกลายมาเป็นลูกสาวคนที่สามของตระกูลฟางที่มีชื่อเดียวกัน
นางมีเฮียใหญ่อยู่คนหนึ่งชื่อว่าฟางเจี้ยนเหริน ปีนี้อายุสิบเก้าปี เขาเป็นคนโปรดของพ่อแม่ และเป็นลูกชายคนเดียวของตระกูลฟาง
นอกจากนี้ยังมีพี่สาวคนที่สองชื่อฟางหมิงเซี่ย ซึ่งเป็นฝาแฝดกันกับนาง มีอายุสิบแปดปี แต่พวกนางที่อยู่ในวัยเดียวกันกลับมีชะตากรรมที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
ฟางหมิงเซี่ยเป็นคนปากหวาน นิสัยเจ้าของร่างเดิมเป็นคนซื่อ และเงียบ ดังนั้นเวลาอยู่ในบ้านฟางหมิงเซี่ยจึงจะได้รับความโปรดปรานมากกว่านาง
นอกจากนี้ยังมีน้องสาวคนเล็กชื่อฟางเสี่ยวเฉา อายุสิบสามปี เป็นคนที่เวลาอยู่ที่บ้านจะไม่ได้รับความโปรดปรานเหมือนกันกับนาง ซึ่งสาเหตุที่ไม่ได้รับความโปรดปรานเป็นเพราะตอนที่ฟางเสี่ยวเฉาอยู่ในท้อง หมอดูบอกว่าเป็นลูกชายที่จะทำให้ครอบครัวเจริญรุ่งเรือง
แต่ผลปรากฏว่าพอคลอดออกมาแล้วนางกลับเป็นหญิงสาวที่ขี้โรคร่างกายอ่อนแอเสียอย่างนั้น
หวังซิ่วเม่ยที่เป็นแม่ของเจ้าของร่างเดิม ต้องการที่จะขายนางให้กับครอบครัวนายพรานแซ่จงที่อยู่บนภูเขา เพื่อนำเงินมารักษาขาของลูกชาย
ได้ยินมาว่าตระกูลจงก็ยากจนข้นแค้นมากเช่นกัน แล้วก็มีแม่ขี้โรคที่ร่างกายอ่อนแออยู่คนหนึ่งด้วย จงยวี่ที่เป็นลูกชายคนโตสามารถล่าสัตว์ได้ แต่เขาเป็นคนดุร้าย มีสมญานามว่ายักษ์
คนในหมู่บ้านยังพูดกันอีกว่าจงยวี่ผู้นี้ใช้เงินซื้อภรรยามาจากตระกูลฟาง เพราะเขาหาภรรยาไม่ได้ คาดว่าคงจะไม่มีใครทนรับการทรมานของเขาไหว หากเข้าไปในตระกูลจง ไม่ช้าก็เร็วอย่างไรก็ต้องตายเป็นแน่
เจ้าของร่างเดิมตกใจกลัว หนีไปกลางดึก แต่กลับถูกฟางต้าจู้ผู้เป็นพ่อแท้ ๆ ตามไป และใช้ไม้ตีอย่างแรงเพื่อจับตัวกลับมา
เมื่อนางลืมตาขึ้นมาก็กลับกลายเป็นคนที่มีชื่อแซ่เดียวกันเสียอย่างนั้น
ฟางจิ่นซิ่วรีบหาน้ำทิพย์จากภิภพที่นางบังเอิญได้มาก่อนจะข้ามภพมาที่นี่ เมื่อเห็นว่ามันยังอยู่ นางก็รู้สึกโล่งใจ
นางไม่รู้ว่าจงยวี่เป็นยักษ์หรือไม่ นางรู้แค่ว่าคนที่ฆ่าเจ้าของร่างเดิมคือฟางต้าจู้พ่อผู้ให้กำเนิดของนาง
ไม้ค้อนนั้นส่งนางขึ้นสวรรค์ไปเรียบร้อยแล้ว
หวังซิ่วเม่ยยังคงพูดเจื้อยแจ้วอยู่ข้างหูนางไม่หยุด
ฟางต้าจู้จึงเดินเข้ามาดึงภรรยาของเขาไป แล้วบอกให้นางสงบสติอารมณ์ลง
ถึงยังไงตระกูลจงก็เป็นครอบครัวนายพราน ไม่แน่ต่อไปจิ่นซิ่วอาจจะมีชีวิตที่ดีขึ้นก็ได้ ถึงเวลานั้นครอบครัวของพวกเขาก็จะได้รับผลประโยชน์ไปด้วยเช่นกัน
“เอาล่ะ เจ้าหยุดพูดก่อน”
เขาดึงฟางจิ่นซิ่วขึ้นมา และพูดว่า “จิ่นซิ่ว พ่อกับแม่ไม่มีทางเลือกจริง ๆ”
“ยังไงจงยวี่ผู้นี้ก็รู้วิธีการล่าสัตว์ ยุคสมัยนี้ หากเจ้าไปอยู่บ้านเขาก็ไม่ใช่ว่าเจ้าจะต้องตายอย่างที่คิดก็ได้”
“อย่าคิดที่จะหนีอีกเลย แล้วก็ห้ามหนีกลับบ้านมาเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”
“แต่ถ้าอนาคตมีชีวิตที่ดีขึ้น ปีใหม่เจ้าก็กลับมาเยี่ยมข้า และแม่ของเจ้าได้”
“การที่พวกเราเลี้ยงดูเจ้ามาจนเติบใหญ่เช่นนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ เลย เจ้าอย่าเนรคุณเด็ดขาด เข้าใจหรือไม่?”
ฟางจิ่นซิ่วแอบหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจ อย่าว่าแต่เจ้าของร่างเดิมโดนพ่อฆ่าตายเลย
ต่อให้จะไม่ตาย แต่เขาในฐานะพ่อกล้าที่จะมาพูดเรื่องแบบนี้กับลูกสาวของตัวเองที่ถูกขายออกไปได้อย่างไร
ในเมื่อคิดที่จะขายนางทิ้งแล้ว ยังจะห้ามไม่ให้นางลืมบุญคุณด้วยอย่างนั้นน่ะหรือ?
ช่างน่าขบขันสิ้นดี ต่อให้เขาจะขอร้องอ้อนวอนนางอย่างไร นางก็จะไม่มีวันกลับมาเป็นอันขาด
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
องค์หญิงสิบสามนามหลินฮุ่ยหมินสตรีผู้ที่งดงามโดดเด่นไม่เป็นรองผู้ใดแต่กลับมีฐานะต่ำต้อยในวังหลวงด้วยพระมารดาเสียชีวิตตั้งแต่นางยังเด็ก ท่ามกลางความคับแค้นใจนางยังต้องคำสาปร้ายต้องกลายร่างเป็นสัตว์ทุกคืนวันพระจันทร์เต็มดวง เขาคือ หยางเอ้อหลาง แม่ทัพหนุ่มผู้มีความสามารถรูปโฉมสง่างามและเป็นวีรบุรุษคนสุดท้ายของสกุลหยาง ทั้งยังเป็นที่รักเคารพของชาวเมือง ทว่าด้วยความสามารถและตำแหน่งใหญ่โต ฮ่องเต้มิอาจวางใจจึงได้คิดกำจัดเขาให้พ้นตำแหน่งเสีย โดยมอบสมรสพระราชทานให้หยางเอ้อหลางกับพระธิดาของตน เดิมทีชีวิตของคนสองคนย่อมไม่บรรจบ เมื่อสตรีที่หมายหมั้นกับหยางเอ้อหลางคือองค์หญิงใหญ่ที่ปักใจรักเขาตั้งแต่เยาว์วัย ทว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนั้น เมื่อคนทั้งคู่เกิดอุบัติเหตุจนคนเข้าพิธีสมรสกลายเป็นองค์หญิงสิบสาม ท่ามกลางความหวาดกลัวขององค์หญิงสิบสามที่กลัวความลับจะเปิดเผย ท่ามกลางหยางเอ้อหลางที่พยายามพาสกุลหยางให้รอดพ้น ท่ามกลางการแตกหักของความสัมพันธ์พี่น้องที่แสนรักใคร่ระหว่างองค์หญิงใหญ่และองค์หญิงสิบสามเพราะบุรุษเพียงผู้เดียว หลินฮุ่ยหมินจะทำเช่นใด เพื่อจะยุติเรื่องราวน่าเวียนหัวนี้
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
"ความรักทำให้คนตาบอด" เซิงเกอละทิ้งชีวิตที่สงบสุขเพื่อแต่งงานกับชายคนนั้น ยินยอมทำตัวเหมือนคนรับใช้ที่ไร้ตัวตนมาสามปีเต็ม แต่ในที่สุดเธอก็ตระหนักว่าความพยายามของเธอ มันไร้ประโยชน์สิ้นดี เพราะในใจของสามีตัวเองมีแต่รักแรกของเขา เซิงเกอรู้สึกผิดหวังอย่างมาก และขอหย่าอย่างเด็ดขาด "ถึงเวลาแล้ว ฉันไม่ปกปิดอีกแล้ว จะบอกความจริงให้" ทันใดนั้น โลกออนไลน์ก็ระเบิดขึ้นทันที มีข่าวลือว่าสาวรวยพันล้านคนหนึ่งหย่าร้างแล้ว ดังนั้น ซีอีโอนับไม่ถ้วนและชายหนุ่มรูปงามต่างรีบเข้าหาเธอเพื่อเอาชนะใจเธอ เฝิงอวี้เหนียนเห็นดังนั้นจึงทนไม่ไหวอีกต่อไปเลยจัดงานแถลงข่าวในวันถัดไป โดยขอร้องอย่างจริงจังว่า: ผมรักเซิงเกอ ขอร้องคุณภรรยากลับบ้านนะ