เสิ่นชิงชิว หลานสาวของเศรษฐีที่รวยที่สุดในเมืองไห้ คบหาอยู่กับลู่จั๋วมาเป็นเวลาสามปีแล้ว แต่ความจริงใจของเธอกลับสูญเปล่า ลู่จั๋วปฏิบัติกับเธอเพียงในฐานะหญิงบ้านนอกคนหนึ่ง และทอดทิ้งเธอในวันแต่งงาน โดยไปหารักแรกของเขา หลังจากเลิกรากันอย่างเด็ดขาด เสิ่นชิงชิวก็กลับมามีสถานะเป็นสาวรวยอีกครั้ง ได้รับมรดกมูลค่าหลายร้อยพันล้าน และเริ่มต้นชีวิตที่รุ่งโรจน์ที่สุด แต่แล้วมักจะมีคนโผล่มาทไให้กับเธอหงุดหงิดอยู่เสมอ! ขณะที่เธอกำลังจัดการกับผู้ร้าย คุณชายฟู่ผู้มีอำนาจนั้นก็ปรบมือและโห่ร้องว่า "ที่รักของฉันสุดยอดมากจริงๆ"
ในที่สุด เสิ่นชิงชิวก็ได้แต่งงานกับลู่จั๋วสักที
เพลงงานแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์ขึงขังกำลังบรรเลงอยู่ เสิ่นชิงชิวที่สวมชุดแต่งงานสีขาวบริสุทธิ์ ค่อย ๆ ก้าวเดินอย่างช้า ๆ ไปบนบนพรมแดงเพื่อไปหาลู่จั๋วที่อยู่อีกทางด้านหนึ่ง
ลู่จั๋วสวมสูทสีขาว แสงสีทองสาดส่องลงมาบนร่างกายของเขา ทำให้เขาเหมือนถูกแสงอ่อน ๆ เคลือบเอาไว้ชั้นหนึ่ง ทำให้ออร่าที่อ่อนโยนและสง่างามของเขาดูโดดเด่นขึ้นมาอย่างสมบูรณ์แบบมาก ดุจดั่งชายหนุ่มในตอนนั้นไม่มีผิดเลย
พวกเขารู้จักกันมาสามปีแล้ว ซึ่งในช่วงเวลาสามปีนี้พวกเขาผ่านร้อนผ่านหนาวกันมาด้วยกัน ในที่สุดเธอก็ได้สมหวังดั่งที่ปรารถนาเสียที
มีเพียงสิ่งเดียวที่น่าเสียดายก็คือ การแต่งงานครั้งนี้ของเธอกลับไม่เป็นที่พอใจและไม่ได้รับคำอวยพรใด ๆ จากครอบครัวของเธอ
ทันทีที่ลู่จั๋วเดินเข้ามาและยื่นช่อดอกไม้ให้เธอ เบ้าตาของเสิ่นชิงชิวก็มีน้ำตาของความรู้สึกปลื้มปิติเอ่อล้นขึ้นมาอย่างกลั้นเอาไว้ไม่อยู่
“เจ้าบ่าว คุณเต็มใจที่จะแต่งงานกับผู้หญิงคนนี้ไปเป็นภรรยาของคุณและให้คำมั่นสัญญาในการสมรสหรือไม่? ไม่ว่าจะในยามเจ็บป่วยหรือสุขภาพแข็งแรงดี หรือว่าจะด้วยเหตุผลใด ๆ ก็แล้วแต่ คุณจะรักเธอ ดูแลเธอ เคารพเธอ ยอมรับเธอและซื่อสัตย์ต่อเธอตลอดไปหรือไม่ครับ?” บาทหลวงที่ยืนบนเวทีมองไปที่คู่บ่าวสาวที่อยู่ตรงหน้าด้วยสายตาอ่อนโยน
เสิ่นชิงชิวพยายามข่มอาการหัวใจเต้นแรงเอาไว้ สายตามองไปที่ลู่จั๋วด้วยความคาดหวัง อยากจะได้ยินคำยืนยันจากปากของเขา
สีหน้าของลู่จั๋วดูบึ้งตึงอย่างมาก เขาไม่ได้ตื่นเต้นขนาดนั้น แล้วก็เอาแต่ลังเลไม่ยอมพูดออกมาสักที
ทันใดนั้นเอง…...
“พี่ แย่แล้ว!” จู่ ๆ ลู่เยียนที่ร้องไห้หนักมากจนตาพร่าก็วิ่งปรี่เข้ามาจากด้านนอกและมาขัดจังหวะคำพูดของลู่จั๋วเอาไว้ เธอเหมือนเด็กที่กำลังสะอึกสะอื้นอย่างแรงมาก “พี่เนียนเย้า เธอ เธอ…..”
เสิ่นชิงชิวรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาในทันที เธอมองไปที่ลู่จั๋วด้วยความกังวลโดยไม่รู้ตัว มือที่จับลู่จั๋วอยู่กระชับแน่นขึ้นเล็กน้อยโดยสัญชาตญาณ
เสิ่นชิงชิวรู้ดีว่า ชื่อซุนเนียนเย้ามีความสำคัญกับลู่จั๋วมากเพียงใด
เพราะผู้หญิงคนนั้นคือคนรักฝังใจของลู่จั๋ว เป็นความรักที่ชีวิตนี้ลู่จั๋วไม่มีทางได้สมหวัง
ตอนนั้นที่ตระกูลลู่ตกอับ เพื่อโอกาสในการไปต่างประเทศ ซุนเนียนเย้าจึงเลือกที่จะทอดทิ้งลู่จั๋วไป ส่วนลู่จั๋วเองก็เป็นคนที่ทะนงตัวเข้ากระดูกดำอยู่แล้ว ด้วยความโกรธเขาจึงเลือกที่จะตัดการติดต่อทั้งหมดกับซุนเนียนเย้า แล้วก็หันมาเลือกเสิ่นชิงชิวแทน
แต่เมื่อเดือนที่แล้ว จู่ ๆ ซุนเนียนเย้าก็โผล่มาซะอย่างนั้น
สีหน้าของลู่จั๋วเปลี่ยนไปในทันที เสียงที่ตึงเครียดของเขาฟังดูตื่นตระหนกอย่างมาก “เย้าเย้าเธอเป็นอะไรเหรอ!”
“พี่เนียนเย้ามีเลือดออกเยอะมาก ทำยังไงก็ไม่ยอมหยุดสักที หมอบอกว่ามีความเป็นไปได้สูงมากที่เธอจะตกอยู่ในอันตราย!” ลู่เยียนพูด
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ลู่จั๋วก็สะบัดมือของเสิ่นชิงชิวออกและรีบสาวเท้าวิ่งออกไปอย่างรวดเร็วมาก
“คุณไปไม่ได้นะคะ!” เสิ่นชิงชิวก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว แล้วก็จับมือของลู่จั๋วไว้แน่น ร่างกายของเธอสั่นเทาอย่างควบคุมไม่ได้ สายตาของเธอจับจ้องไปที่เขาอย่างไม่คาดสายตาเลย “ลู่จั๋ว วันนี้เป็นพิธีแต่งงานของเรานะคะ คุณแน่ใจเหรอว่าจะไปน่ะ?”
เสียงกระซิบกระซาบของผู้คนที่มาร่วมงานและสายตาที่มองมาที่เธออย่างเยาะเย้ยและเสียดสีเหล่านั้น มันเหมือนกับมีดแหลมเล่มหนึ่งที่แทงทะลุเข้ามาในหัวใจของเธอไม่มีผิด
เธอมองไปที่ลู่จั๋วด้วยเบ้าตาที่แดงก่ำ น้ำเสียงของเธอมีความอ้อนวอนและอ่อนน้อมอยู่ “ลู่จั๋ว จัดการงานแต่งงานให้เสร็จก่อนได้ไหม?”
“เย้าเย้าต้องมาถูกรถชนและเข้าโรงพยาบาลเพราะเธอพยายามช่วยผมเอาไว้ ผมไม่สามารถทิ้งเธอไว้คนเดียวโดยไม่สนใจอะไรเลยได้หรอกนะ”
ลู่จั๋วพยายามสะบัดมือของเสิ่นชิงชิวออก แต่แล้วกลับพบว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาดื้อดึงอย่างมาก สีหน้าของเขาจึงดูเคร่งขรึมขึ้นมาอย่างควบคุมไม่อยู่ สายตาของเขาดูดุดันมากยิ่งขึ้น “เสิ่นชิงชิว คุณก็รู้ดีนี่ว่า การแต่งงานระหว่างคุณกับผมมันเป็นแค่ข้อตกลงเท่านั้น คุณแค่ทำหน้าที่เป็นคุณนายลู่ให้ดีก็พอ ส่วนเรื่องของผมคุณไม่จำเป็นต้องเข้ามาก้าวก่าย!”
ข้อตกลง……
รูม่านตาของเสิ่นชิงชิวหรี่ลงทันที เธอมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของลู่จั๋วอย่างไม่อยากจะเชื่อ แล้วแววตาที่ดูตกใจของเธอก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นความเย้ยหยันแทน
ทันใดนั้นมุมปากของเธอก็กระตุกขึ้นเผยรอยยิ้มถากถางออกมา ในน้ำเสียงที่อ่อนโยนนั้นมีความเศร้าปะปนอยู่ด้วย “ที่แท้ในสายตาของคุณ สิ่งที่เกิดขึ้นระหว่างเรามันก็เป็นเพียงการทำข้อตกลงร่วมกันอย่างนั้นเหรอ? !”
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
หลี่เมิ่งเหยาย้อนเวลามาอยู่ในร่าง ของเด็กสาววัยสิบสองปี ในวันที่มารดาอนุผู้โง่เขลา ถูกขับไล่ออกจากจวน โชคยังดีที่ตอนตาย นางสวมกำไลหยกโลกันตร์เอาไว้ มันจึงติดตามนางมาที่นี่ด้วย +++ 1 : มารดาโง่ จนถูกไล่ออกจากตระกูล จวนตระกูลหลี่เจ้าเมืองถัง สตรีสองนางถูกสาวใช้จับคุกเข่าลง ตรงหน้าของหลี่หงซวนเจ้าเมืองถัง ทั้งยังเป็นพ่อสามีของทั้งคู่อีกด้วย ท่านกำลังสอบสวนเรื่องของสะใภ้ใหญ่ของบ้านสาม ถูกฮูหยินรองกับอนุรวมหัวกันลอบทำร้าย ด้วยการวางยาขับเลือดในถ้วยน้ำแกงบำรุงครรภ์ ทำให้นางต้องสูญเสียทารกในครรภ์ไป “ท่านพ่อข้าไม่รู้จริง ๆ ว่านั่นเป็นยาขับเลือด ฮูหยินรองบอกว่าเป็นน้ำแกงบำรุงครรภ์ ให้ข้าเป็นคนนำไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ เป็นนางนั่นเอง นางหลอกข้า !” เฉาซูหลิ่งชี้นิ้วไปทางสตรีด้านข้าง ร้อนรนเอ่ยออกมาเหมือนคนไม่ได้รับความเป็นธรรม “อนุเฉาเจ้าอย่ามาใส่ร้ายข้านะ เจ้าทำคนเดียวทั้งนั้นไม่เกี่ยวกับข้าเลย” ฮูหยินรอง ถูซวงอี้ ชี้นิ้วใส่หน้าเฉาซูหลิ่งกลับคืน ต่างคนต่างโยนความผิดให้กัน ฮูหยินผู้เฒ่าหลิวเยี่ยนหนานโบกมือให้คนเข้ามา “ข้าให้โอกาสพวกเจ้าสองคนพูดความจริง แต่กลับไม่มีใครยอมรับความผิดแม้แต่คนเดียว มันน่าจับส่งทางการให้รู้แล้วรู้รอด” พ่อบ้านหลัวให้คนลากสาวใช้คนหนึ่งเข้ามา สภาพของนางถูกทรมานจนเนื้อตัวบวมช้ำไปหมด “เรียนนายท่านข้าให้คนไปค้นห้องสาวใช้ทุกคนในจวน พบเทียบยาซ่อนไว้ใต้หมอน จากห้องของสาวใช้คนนี้ขอรับ” ถูซวงอี้ถึงกับคุกเข่าต่อไปไม่ไหว ทิ้งตัวลงไปนั่งอยู่บนพื้น สาวใช้ที่ถูกทรมานจนสภาพน่าเวทนานั่น เป็นเสี่ยวอิงสาวใช้สินเดิมของนางเอง “ฮูหยินรอง ข้าขอโทษ ข้าทนต่อไปไม่ไหวจริง ๆ ข้าขอโทษ !” เสี่ยวอิงโขกศีรษะลงตรงหน้าของถูซวงอี้แรง ๆ น้ำตาไหลนองหน้าจน แทบไม่เป็นผู้เป็นคนอยู่แล้ว พ่อบ้านหลัวเอ่ย “ข้าให้คนไปถามที่หอโอสถแล้วขอรับนายท่าน เป็นเทียบยาขับเลือดจริง ๆ” หลี่หงซวนมองไปทางบุตรชายคนที่สามของตน พบว่าเขามีสีหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก สตรีที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้าคือฮูหยินรอง กับอนุภรรยาที่เขารักใคร่ไม่ต่างกัน เหตุใดถึงได้คิดร้ายต่อฮูหยินใหญ่ของเขาได้ เป็นเหตุให้เขาต้องสูญเสียลูกที่อยู่ในท้องของนางไป เดิมทีฮูหยินใหญ่ของเขาก็ตั้งท้องยากอยู่แล้ว เขารอมาตั้งนานกว่าจะมีวันนี้ได้ ไม่คิดมาก่อนว่าจะต้องสูญเสียไปเช่นนี้ “หย่วนเจ๋อนี่เป็นเรื่องในเรือนของเจ้า เจ้าอยากตัดสินเรื่องนี้ด้วยตัวเองหรือไม่” ผู้เป็นบิดาเอ่ยถามบุตรชาย “ไม่ ข้าไม่อยากเห็นหน้าพวกนางอีกต่อไป แล้วแต่ท่านพ่อเถอะขอรับ ข้าขอตัวไปดูฮูหยินใหญ่ก่อน” หลี่หย่วนเจ๋อคำนับบิดา สะบัดแขนเสื้อเดินจากไปในทันที หางตายังไม่แม้แต่จะมองสตรีทั้งสองนาง เฉาซูหลิ่งลนลานตามเขาไป “ท่านพี่ช่วยข้าด้วย ข้าไม่ผิดนะเจ้าคะ ท่านพี่ !” แต่ถูกบ่าวรับใช้ขวางทางเอาไว้ หลี่หงซวน “หยุดโวยวายได้แล้วอนุเฉา เจ้าเป็นคนถือถ้วยน้ำแกงใส่ยาขับเลือด ไปมอบให้ฮูหยินใหญ่ด้วยตัวเอง ยังคิดจะหนีความผิดนี้ไปได้อีกรึ” “ท่านพ่อขะข้าข้า...ไม่ผิด” เฉาซูหลิ่งทิ้งตัวไปด้านหลังอย่างหมดเรี่ยวแรง เดิมทีนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานของพ่อแม่สามีอยู่แล้ว เพราะไม่สามารถให้กำเนิดบุตรชายได้ ครั้นได้บุตรสาวก็นิสัยขี้ขลาดขี้กลัว ไหนเลยจะเชิดหน้าชูตาให้ตระกูลหลี่ได้ เฉาซูหลิ่งนั่งเหม่อลอย คล้ายคนจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ขณะที่หลี่หงซวนกำลังประกาศโทษทัณฑ์ของพวกนาง ถูซวงอี้กับคนของนาง ถูกขายออกจากจวน ไปอยู่หอนางโลมอย่างเงียบ ๆ ชาตินี้อย่าได้ก้าวเท้า กลับมาเหยียบที่จวนตระกูลหลี่อีก ส่วนเฉาซูหลิ่งถูกขับไล่ออกจากจวน ไปพร้อมกับบุตรสาว ให้ไปอยู่เรือนร้างของตระกูลหลี่ที่เมืองฉาง ห้ามกลับมาที่ตระกูลหลี่อีกชั่วชีวิต “ท่านพ่อท่านขับไล่ข้าไป ข้ายังพอรับได้ เหตุใดต้องขับไล่เหยาเอ๋อร์ไปด้วย นางเพิ่งจะสิบสองปีเองนะเจ้าคะ” เฉาซูหลิ่งนึกถึงบุตรสาวร่างกายผ่ายผอม นอนซมเพราะพิษไข้อยู่ เกิดนึกสงสารนางขึ้นมาจับใจ ฮูหยินผู้เฒ่าหันไปมองสามีเล็กน้อย นางเห็นเด็กสาวคนนั้นมาตั้งแต่เกิด แม้ไม่ได้เอ็นดูแต่ก็นับว่าเป็นสายเลือดเดียวกัน “ฮูหยินเรื่องนี้ข้าตัดสินใจไปแล้ว ไม่อาจคืนคำได้” คำพูดของประมุขของตระกูล มีหรือใครจะกล้าขัด เฉาซูหลิ่งปล่อยเสียงร้องไห้โฮออกมาดัง ๆ นางโง่งมจนทำให้บุตรสาว ต้องมารับเคราะห์กรรมตามไปด้วย “ลากตัวอนุเฉาออกไป หารถม้าสักคันให้คนส่งนาง ไปที่เรือนร้างเมืองฉาง” คำสั่งของหลี่หงซวนเป็นคำขาด บ่าวไพร่รีบทำตามในทันที ครั้นได้อยู่ด้วยกันเพียงลำพังกับฮูหยินผู้เฒ่า หลี่หงซวนถึงได้บอกเหตุผล ที่ต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ นั่นเพราะตระกูลจี้ได้ยื่นคำขาดมา ให้ขับไล่พวกเขาออกไปให้หมด อย่าให้เหลืออยู่แม้แต่ตนเดียว ไม่ต้องการให้คนที่ทำร้ายบุตรสาวของพวกเขา อยู่ระคายสายตาของจี้ชิวหรงอีกต่อไป ฮูหยินผู้เฒ่าแค่นออกมาหนึ่งคำ “อ้างเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ความจริงแล้วต้องการกำจัดอนุในเรือนบุตรสาวทิ้งให้หมด นี่กระทั่งเด็กคนหนึ่งก็ไม่เว้น แต่ก็เอาเถอะ เหยาเอ๋อร์อยู่ที่นี่ ก็ใช่จะมีประโยชน์อันใด นางไม่ได้อยู่ในสายตาของพวกเราด้วยซ้ำ ให้นางไปกับแม่ของนางนั่นแหละดีแล้ว” หลี่หงซวนนั้นเป็นเพียงเจ้าเมืองเล็ก ๆ มีตำแหน่งเป็นขุนนางขั้นที่ห้า ฝั่งตระกูลจี้บ้านเดิมของจี้ชิวหรงนั้น อยู่ในเมืองหลวงมีตำแหน่งใหญ่โตกว่าหนึ่งขั้น เรื่องนี้เขาจึงต้องขบคิด ถึงผลได้ผลเสียในอนาคตอีกด้วย การเสียสละอนุกับหลานสาวคนหนึ่ง เพื่อชดเชยให้แก่คนตระกูลจี้ นับว่าเป็นเรื่องสมควรทำแล้ว “ข้าก็คิดเช่นฮูหยินนั่นแหละ เพียงแต่สะใภ้สามแท้งคราวนี้ ไม่รู้จะยังสามารถตั้งท้องได้อีกหรือไม่ พวกเรารอดูไปก่อนดีกว่า หากนางไม่สามารถตั้งท้องได้จริง ๆ เราค่อยหาอนุมาให้หย่วนเจ๋อภายหลังก็ยังได้ ยามนั้นคนตระกูลจี้จะเอาอะไรมาง้างกับเราได้อีก” “จริงดังท่านว่าเจ้าค่ะ” ฝ่ายเฉาซูหลิ่งที่ถูกคนใช้ ลากตัวออกมาให้เก็บของในเรือน นางส่งเสียงเอะอะโวยวายตลอดทาง พร่ำบอกต้องการพบหลี่หย่วนเจ๋อให้ได้ แต่ถูกสาวใช้ขวางไว้ไม่ให้ไป นางจำใจกลับไปยังห้องนอนของตัวเอง รีบเก็บของสำคัญใส่ห่อผ้าเพื่อออกเดินทาง
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"