“ชื่ออะไร ?” “วารินค่ะ” เธอตอบแต่กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม “อยากมีเงินใช้มั้ย ?” ถ้าผมถูกใจใคร ผมก็จะไม่ลังเลที่จะชักจูงผู้หญิงพวกนั้นด้วยเงิน อย่างที่ผมกำลังยื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงตรงหน้า “…คะ ?” ท่าทางซื้อบื้อของเธอดูจะไม่เข้าใจที่ผมพูดสักเท่าไหร่ ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ กับผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้แบบหลวมๆ “คะ คุณทิสเหนือคะ” เธอดูจะตกใจมากพอสมควร รีบผลักผมให้ออกห่าง แต่ผมยังคงโอบเอวเธอไว้อยู่ “เรียกฉันว่า คุณเหนือ” “ฉันสามารถให้เงินเธอใช้ได้ไม่ขาดมือ สนใจมั้ยหื้ม…” ผมก้มหน้าลงสูดกลิ่นความหอมตรงซอกคอของเธอ โตขนาดนี้แล้วยังใช้แป้งเด็ก น่าตลกสิ้นดี! “ระ ริน แค่มาฝึกงานค่ะ ไม่ได้ต้องการแบบที่คุณเหนือว่า” เธอปฏิเสธอย่างไม่ใยดีข้อเสนอของผม “เธอไม่สนใจ ?” “มะ ไม่ค่ะ รินขอตัวก่อนนะคะ” เธอดันมือผมที่โอบเอวเธออยู่ออก จากนั้นก็รีบเดินออกไปจากห้องทันที ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธผมซะด้วยสิ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากได้เธอมาอยู่ในกำมือ อวดเก่งดีนัก!
Talk ทิศเหนือ
ก๊อกๆ เสียงเคาะห้องทำงานดังขึ้น ในขณะที่ผมกำลังนั่งทำงานอยู่
“เข้ามา”
สิ้นสุดเสียงของผมประตูห้องก็ถูกเปิดเข้ามา เผยให้เห็นร่างอรชรของผู้หญิงในชุดนักศึกษา เดินถือแฟ้มเอกสารตรงมายังโต๊ะทำงานของผม
“เอกสารที่คุณทิศเหนือต้องเซ็นวันนี้ค่ะ พอดีพี่เอมติดธุระเลยฝากให้ฉันเอามาให้”
“เป็นนักศึกษาฝึกงานคนใหม่สินะ” ผมถามผู้หญิงตรงหน้า สายตาโฟกัสหน้าอกสองเต้าของเธอที่มันแน่นซะจนเม็ดกระดุมจะกระเด็นออกจากกัน ท่าทางซื้อบื้อของเธอมันช่างขัดกับเสื้อที่ใส่อยู่ซะจริงๆ
“…ค่ะ”
“ชื่ออะไร ?”
“วารินค่ะ” เธอตอบแต่กลับไม่กล้าเงยหน้าขึ้นมาสบตากับผม
“อยากมีเงินใช้มั้ย ?” ถ้าผมถูกใจใคร ผมก็จะไม่ลังเลที่จะชักจูงผู้หญิงพวกนั้นด้วยเงิน อย่างที่ผมกำลังยื่นข้อเสนอให้กับผู้หญิงตรงหน้า
“…คะ ?” ท่าทางซื้อบื้อของเธอดูจะไม่เข้าใจที่ผมพูดสักเท่าไหร่
ผมลุกขึ้นจากเก้าอี้ แล้วเดินเข้าไปใกล้ๆ กับผู้หญิงตรงหน้า ก่อนจะใช้มือโอบเอวเธอเอาไว้แบบหลวมๆ
“คะ คุณทิสเหนือคะ” เธอดูจะตกใจมากพอสมควร รีบผลักผมให้ออกห่าง แต่ผมยังคงโอบเอวเธอไว้อยู่
“เรียกฉันว่า คุณเหนือ”
“ฉันสามารถให้เงินเธอใช้ได้ไม่ขาดมือ สนใจมั้ยหื้ม…” ผมก้มหน้าลงสูดกลิ่นความหอมตรงซอกคอของเธอ โตขนาดนี้แล้วยังใช้แป้งเด็ก น่าตลกสิ้นดี!
“ระ ริน แค่มาฝึกงานค่ะ ไม่ได้ต้องการแบบที่คุณเหนือว่า” เธอปฏิเสธอย่างไม่ใยดีข้อเสนอของผม
“เธอไม่สนใจ ?”
“มะ ไม่ค่ะ รินขอตัวก่อนนะคะ” เธอดันมือผมที่โอบเอวเธออยู่ออก จากนั้นก็รีบเดินออกไปจากห้องทันที
ดูเหมือนว่าเธอจะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ปฏิเสธผมซะด้วยสิ มันยิ่งทำให้ผมรู้สึกอยากได้เธอมาอยู่ในกำมือ อวดเก่งดีนัก!
Talk วาริน
“รินเป็นอะไรทำไมถึงหน้าซีดขนาดนั้น” พี่เอมท้วงขึ้น ทำให้ฉันมีสติ
“ปะ เปล่าๆ ค่ะ”
พี่เอมคือรุ่นพี่ในบริษัทที่สอนงานให้กับฉัน ซึ่งตอนนี้ฉันอยู่ในฐานะนักศึกษาฝึกงาน
“แล้วเอกสารล่ะ ให้คุณเหนือเซ็นหรือยัง”
“หะ ให้แล้วค่ะ”
“เป็นอะไรหรือเปล่า คุณเหนือพูดอะไรให้ตกใจหรือเปล่า” พี่เอมยังคงย้ำถามด้วยสีหน้าที่เปป็นห่วง
“ไม่ค่ะ คุณเหนือไม่ได้พูดอะไร” ฉันปฏิเสธไปอีกครั้งแล้วพยายามทำหน้าให้ดูปกติที่สุด
“โอเคๆ ถ้าอย่างนั้นพี่ไปทำงานแล้วนะ ^_^”
“ค่ะ”
ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อพี่เอมเดินไปไกลแล้ว
จริงๆ ก่อนจะมาฝึกงานที่นี่ฉันก็พอจะได้ยินคำบอกเล่าจากเพื่อนมาบ้างแล้วว่า เจ้าของบริษัทนี้ชอบกินกับนักศึกษาฝึกงาน แล้วก็เป็นเสือผู้หญิง แถมยังเป็นผู้ชายที่เย็นชาดุจน้ำแข็ง
มาฝึกงานที่นี่ร่วมเดือน นี่คือครั้งแรกที่ฉันได้ประจันหน้ากับเจ้าของบริษัทอย่างคุณทิศเหนือ ทำเอาหัวใจแทบจะหยุดเต้น ยิ่งได้ยินคำที่เขาพูดมันยิ่งทำให้รู้สึกกลัวขึ้นมาจับใจ
สวัสดีดีฉันชื่อ วาริน หรือ ริน
ฉันพยายามทำงานอย่างหนักเพื่อส่งตัวเองเรียนให้จบ และรักษาน้องที่ป่วย ส่วนพ่อกับแม่เสียไปเมื่อห้าปีที่แล้ว ชีวิตของฉันไม่มีใครนอกจากน้องสาวที่ฉันรักและหวงแหนมากที่สุด
เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ฉันก็ต้องไปที่โรงพยาบาลเพื่อไปเยี่ยมน้องสาว
“ทำไมวันนี้ถึงมาเร็วจังละคะ” นาลิน น้องสาวของฉันทักขึ้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า ใบหน้าของเธอซีดเผือดเหมือนคนไม่มีแรง
เวลาที่ฉันมาเยี่ยมน้องฉันก็ต้องใจแข็งปั้นหน้ายิ้ม แต่พอกลับไปบ้านฉันก็มักจะร้องไห้ออกมา ฉันสงสารน้อง อยากให้คนที่ป่วยคือตัวฉันเองมากกว่า
“วันนี้รถไม่ค่อยติดน่ะ ^_^” ฉันยกมือขึ้นลูบหัวน้องสาว “เป็นยังไงบ้าง ดีขึ้นบ้างมั้ย”
นาลินส่ายหน้าไปมาช้าๆ “เจ็บเนื้อเจ็บตัวไปหมดเลยพี่ริน”
“อดทนหน่อยนะ เดี๋ยวก็หาย คนเก่งของพี่”
“หนูอยากไปโรงเรียนจังเลยค่ะ นอนอยู่แบบนี้มันน่าเบื่อ”
“เอาไว้หายดีก่อนนะ ^_^”
ฉันนั่งคุยเล่นเป็นเพื่อนน้องสาวจนกระทั่งนาลินนอนหลับไป
ตอนนี้นาลินเรียนอยู่ ม.6 ปีหน้าก็จะขึ้นมหาวิทยาลัย แต่ด้วยความที่เธอป่วยออดๆ แอดๆ มาตั้งแต่เด็ก ทำให้ต้องเข้าออกโรงพยาบาลอยู่บ่อยครั้ง และครั้งนี้หนักที่สุด เพราะตอนนี้ก็สองอาทิตย์กว่าแล้วที่นาลินนอนอยู่โรงพยาบาล
“ฉันสามารถให้เงินเธอใช้ได้ไม่ขาดมือ สนใจมั้ยหื้ม…”
บ้าที่สุด ทำไมฉันถึงเอาแต่คิดถึงคำพูดของคุณเหนือแบบนี้กัน มันไม่ใช่เรื่องที่ฉันจะต้องเก็บมาใส่ใจไม่ใช่หรือไง เขามันคนหัวงู เลิกฟุ้งซ่านสักทีวาริน!
เกริ่น.... ....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~ ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว ผม: เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า ...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ !! ผมกดท่อนเอ็นเข้าไปที่ช่องเสียวสีชมพูชวนหลงไหลนั้น กึด~ “อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ “เชี้ย...เลือด !!” ผมมองหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอนอนน้ำตาคลอ ตัวสั่นไปหมด "อยากได้เท่าไหร่...แลกกับเซ็กส์ครั้งนี้" เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้น "กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง"
เกริ่น.... ....ยะ..อย่านะ..พี่กำลังเข้าใจผิดอยู่..อึก..~ ผมไม่สนใจที่เธอพูด ผู้หญิงคนนี้แสดงละครเก่งจริงๆ ผมเกือบจะเชื่อเธอแล้วว่าเธอไม่ได้ขายตัว ผม: เลิกเล่นได้แล้ว เรามามีความสุขกันดีกว่า ...ยะ..อย่า..หนูไม่ได้ขายตัวจริงๆ หนูไม่ได้แสดงละครอะไรทั้งนั้น หนูพูดเรื่องจริง ปล่อยหนูไปเถอะ !! ผมกดท่อนเอ็นเข้าไปที่ช่องเสียวสีชมพูชวนหลงไหลนั้น กึด~ “อ๊า~ เข้าอยากจังวะ” ผมก็มมองดูรอยเชื่อมระหว่างผมกับเธอ “เชี้ย...เลือด !!” ผมมองหน้าผู้หญิงคนนั้น เธอนอนน้ำตาคลอ ตัวสั่นไปหมด "อยากได้เท่าไหร่...แลกกับเซ็กส์ครั้งนี้" เธอเงียบไม่ตอบผม เอาแต่นอนสะอื้น "กูถามว่ามึงจะเอาเท่าไหร่ แลกกับความบริสุทธิ์ของมึง"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
เสียงกระเส่าในยามค่ำคืน ไม่ได้มีแค่เสียงเดียวแต่มีถึงหลายคน สตรีนางน้อยที่อยู่บนเตียงหันมองสตรีที่จูบแม่ทัพปีศาจ นางพึ่งจะเป็นมือใหม่ที่ใหม่จนไม่กล้าทำสิ่งใด ได้แต่มองเขาเสพสมสตรีอื่นต่อหน้านาง เสียงเนื้อกระทบเนื้อที่ดังไม่หยุด ยิ่งทำให้นางประสาทเสีย หากแต่ว่าหากนางยังนิ่งมองอยู่เช่นนี้ เกรงว่าพรุ่งนี้จะไม่มีที่นอน เมื่อเป็นเช่นนี้ก็จัดเลยสิจะรออะไร ใช่ว่านางจะทำไม่เป็นเสียหน่อย
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
หลังจากดูแลสามีมาเป็นเวลาสามปี เมื่อเห็นสามีสอบติดขุนนาง เฉียวชูเยว่ก็นึกว่าชีวิตดีๆ จะมาแล้ว แต่กลับไม่รู้ว่าสามีเป็นคนโลภ และเจ้าชู้ เพื่อจัดการปัญหาให้สามี เฉียวชูเยว่เสียตัวให้กับจักรพรรดิโหดร้ายโดยไม่ได้ตั้งใจ เพื่อชีวิตและอนาคตของสามี นางได้แต่อดทนเอาไว้ จากนั้น สามีของนางก็ได้รับการยกย่องจากจักรพรรดิ และถูกเลื่อนตำแหน่งเรื่อยๆ เมื่อสามีของนางกำลังเพลิดเพลินอำนาจและสาวสวยนั้น นางกำลังรับใช้กับจักรพรรดิอย่าง้อยใจ แต่ไม่คาดคิดว่าความพยายามของนางได้แลกกับใบหย่าจากสามี ในวันแต่งงานของสามี นางถูกฆาตกรไล่ตามและตกลงไปในโคลน เมื่อนางหมดหวังนั้น จักรพรรดิก็มายืนอยู่ตรงหน้านาง "มาเป็นคนของข้าสิ และจะไม่มีใครกล้ารังแกเจ้าอีก!"
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"