พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
พระเอกซึ่งเป็นหมอเจ้าของโรงพยาบาล และ เป็นมาเฟีย เขาถูกบังคับให้หมั้นกับนางเอก เธอเป็นนักเขียนนิยายอยู่ในสำนักพิมพ์แห่งหนึ่ง ทั้งคู่เคยเจอกันมาก่อนแล้ว
สำนักพิมพ์ you and me
แทนขับรถยนต์หรูสีขาวเข้ามาจอดหน้าสำนักพิมพ์ you and me หลังจากขับรถออกมาจากงานแต่งมิลินใช้เวลาเกือบชั่วโมงก็มาถึงซึ่งเวลาในขณะนี้สองทุ่มครึ่ง
" ขอบใจอีแทนที่มาส่ง" หวานกล่าวขอบคุณเพื่อนรักด้วยสีหน้าวิตก ทีแรกเธอกะจะขับรถกลับมาก่อนแต่แทนขออาสาขับมาส่งเพราะทั้งคู่ตอนไปก็ไปด้วยกันอีกอย่างแทนเองก็เป็นห่วงเธอที่ขับรถกลับดึก ๆ มันอันตราย
" เออ เลิกทำหน้างั้นได้แล้วเดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหรอก "
" อีแทนมึงนี่ปากหมา ฉันเครียดอยู่นะ!! "
" เออ ๆ ๆ ขอโทษไปได้แล้วกูรอที่รถ "
" ขึ้นไปด้วยกันไหม ?"
" อยากให้ขึ้น? "แทนเลิกคิ้้วถามอย่างกวนประสาทเพื่อนสาว
" อือ ฉันกลัวร้องไห้แล้วไม่มีใครปลอบ " หวานก้มหน้าตอบอย่างเศร้าใจและเธอยังกังวลกับเรื่องงานอีก
" อือก็ไป ไม่อยากเห็นคนแถวนี้ร้องไห้ขี้มูกโป่ง เออแล้วก็เลิกได้แล้วนะไอ้ขี้แงเวลาแก้ปัญหาอะไรไม่ได้เนี่ยหัดลองนั่งนิ่ง ๆ แล้วลองคิดหาวิธีแก้ปัญหาอื่นแทนการมานั่งร้องไห้ ปกติมึงก็ดูเข้มแข็งนะ "
" แกไม่ได้ด่าฉันใช่ไหม ?"
" กูแนะนำมึงไม่ใช่ด่า อย่าทำตัวโง่!"
"อีแทน!! "หวานแหวใส่เพื่อนรักทันทีอย่างไม่สบอารมณ์กับคำด่าของเพื่อนรัก
" รีบไม่ใช่เหรอ ยังจะมามองกูอีกจะไปไหมเนี่ย! "
"อือลง" หวานตอบแทนด้วยน้ำเสียงอ่อนก่อนจะเปิดประตูรถก้าวขาเรียวเล็กลงแล้วเดินเข้าไปในสำนักพิมพ์พร้อมกับแทนเพื่อนของเธอ
"หวาน ทันทีที่ทั้งสองมาถึงแพรวเธอเป็น บก. ของสำนักพิมพ์จึงเอ่ยเรียกพร้อมกับเหลือบสายตามองชายหนุ่มที่เดินมาพร้อมกับเธออย่างสงสัยว่าเป็นใคร
" ได้เรื่องว่ายังไงบ้างคะ?"
"มิ้มได้ข้อมูลบางส่วนมาแล้วว่าคอมหวานถูกแฮก "
" แล้วรู้ไหมว่าเป็นใคร? "
" เท่าที่พี่ดูจากแหล่งที่มา มันแฮกจากสัญญาณอินเทอร์เน็ตที่ร้านกาแฟ XXX แต่ยังไม่รู้ว่าเป็นใครต้องลองเจาะข้อมูลดูอีกที กราฟพูดขึ้นพร้อมกับหมุนโน๊ตบุ๊คมาให้ทุกคนดูภาพเส้นทางของแฮกเกอร์ "
" ค่ะ พี่กราฟ "
"หวานมีศัตรูที่ไหนหรือเปล่า "แพรวเอ่ยถาม
"หวานก็ไม่รู้เหมือนกันพี่แพรว "
"พี่ว่าคนที่จ้างแฮกเกอร์เอาข้อมูลนี่ต้องเป็นคนที่ต้องการผลงานของหวานมากแน่ ๆ "
"แล้วเราพอมีวิธีไหนที่จะแจ้งความเอาผิดกับสำนักพิมพ์ฝั่งนู้นได้ไหมคะ"
" ได้จ้ะ ต้องรวบรวมข้อมูลงานเขียนของเราไว้ให้มากที่สุด "
" ก่อนอื่นมึงหาคนทำก่อนไหมอีหวาน" แทนโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบแต่ก็ยังก้มหน้าเล่นโทรศัพท์อยู่ ทำให้ทุกคนหันไปมองตามเสียงพูดของแทน
"เดี๋ยวพี่จะเป็นคนหาข้อมูลของแฮกเกอร์และคนทำเองครับ "
" บอกให้เฮียกูจัดการดีกว่าเร็วกว่าเยอะ " คราวนี้แทนเงยหน้าขึ้นพูดอีกครั้งพร้อมกับจ้องมองไปที่กราฟด้วยสายตาดุดันก่อนจะแสยะยิ้มมุมปาก เขาพอจะมองออกว่ารุ่นพี่ของหวาน นั้นคิดเกินกว่าเพื่อนร่วมงาน
" ไม่อยากรบกวน "
" นั่นสิหวานเดี๋ยวพี่ช่วยหาเองอีกอย่างงานของเราคู่แข่งเยอะ "
"มึงอยากรู้ภายในหนึ่งวัน หรือมึงจะรอ ไม่รู้ว่าจะได้วันไหนไอ้คนทำมันคงทิ้งข้อมูลให้ค้นหาได้ง่าย ๆ หรอกนะ "
" ว่าไงหวาน? " มิ้มเพื่อนของเธอถามขึ้นอีกครั้งเมื่อเห็นสีหน้าลังเลของเธอ อือ งั้นเดี๋ยวให้คุณเทวินช่วยก็ได้ค่ะพี่กราฟ หวานกล่าวกับรุ่นพี่ด้วยสีหน้าเกรงใจเมื่อต้องปฏิเสธความช่วยเหลือ
" งั้นพี่กราฟก็ช่วยมิ้มรวบรวมข้อมูลเอาผิดพวกนั้น "
กราฟพยักหน้าตอบรับแค่นั้น ก่อนจะตวัดสายตาไม่พอใจที่ถูกขัดมองไปที่แทน แต่แทนเองก็ได้แต่แสยะยิ้มร้ายมุมปากอย่างสะใจ
" หวานรู้จักคุณเทวินด้วยเหรอ? " แพรวเอ่ยถามอย่างสงสัยเมื่อเธอไม่คิดว่าหวานจะรู้จักกับนักธุระกิจใหญ่และมีอำนาจอย่างเทวินที่มีชื่อเสียงโด่งดังในแวดวงธุระกิจ
" ค่ะ คุณเทวินเป็นสามีของเพื่อนหวานเองที่แต่งงานวันนี้ "
" ว้าว ไม่คิดเลยว่าที่หวานไปงานแต่งวันนี้จะเป็นงานแต่งของคุณเทวิน " มิ้มโพล่งขึ้นด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น หวานเธอก็ได้แต่ยิ้มบาง ๆ ให้เพื่อนเธอเท่านั้นก่อนจะเอ่ยขอบคุณทุกคน
" ขอบคุณทุกคนมากนะคะ "
" ไม่เป็นไรหวานยังไงเราก็ทำงานที่เดียวกัน " แพรวตอบรับด้วยรอยยิ้มพร้อมกับตบไหล่หวานเบา ๆ เพื่อให้กำลังใจ
" แล้วนั่นใครหวาน? " เมื่อจบการสนทนาเรื่องงาน มิ้มเธอจึงเอี่ยวหน้ากระซิบถามหวานพร้อมกับเบี่ยงสายตาไปทางแทนที่นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ตรงเก้าอี้ข้าง ๆ หวานแวบหนึ่ง
" อ๋อเพื่อน ลืมแนะนำเลยค่ะนี่แทนเพื่อนหวานเอง "
เธอแนะนำให้ทุกคนรู้จักกับแทนพร้อมกับสะกิดแขนแทนให้สนใจเธอและคนอื่น ๆ ที่นั่งประชุมกันอยู่กลางห้องทำงาน เขาจึงเงยหน้าขึ้นยิ้มให้ทุกคนอย่างขอไปทีก่อนจะกับมาเล่นโทรศัพท์ต่อทำให้หวานถึงกับยิ้มแห้งให้ทุกคนทันทีที่เพื่อนเธอทำเป็นไม่สนใจ และ ทุกคนก็พยักหน้าเป็นเชิงเข้าใจ
หนึ่งชั่วโมงต่อมา ---
ครืนนน ครืนนนน
ระหว่างที่เธอกำลังจะกลับบ้านหลังคุยงานเสร็จโดยมีแทนขับรถมาส่งเสียงโทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้น หวานจึงหยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าสะพายข้างของเธอขึ้นมาเมื่อเห็นเป็นเบอร์ของผู้เป็นพ่อเธอจึงช่างใจอยู่นานแต่ก็ยังไม่กดรับสาย
" ใครโทรมาทำไมไม่รับ? "
" พ่อ "
" ก็รับสิมึงจะมัวแต่จ้องโทรศัพท์ทำไม? "
" ไม่อยากรับคงโทรมาเรื่องแต่งงาน ฉันเบื่อ " หวานพูดขึ้นด้วยสีหน้าเครียดอีกครั้งเมื่อพูดถึงเรื่องแต่งงานก่อนจะทำการปิดเครื่องโทรศัพท์โดยไม่รับสายจากนั้นจึงเก็บเข้ากระเป๋าสะพายข้างของเธอ เธอได้แต่ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่อย่างเบื่อหน่าย
" เฮ้อออ! "
" ทำใจซะยังไงมึงก็ต้องได้แต่งอยู่ดี "
" มึงหาคำพูดดีกว่านี้ได้ไหมอีแทน! " หวานแหวใส่เพื่อนรักอย่างหงุดเหงิดอีกครั้ง
" ก็มันจริง " แทนตอบแค่นั้นจากนั้นทั้งคู่ก็เงียบจนมาถึงบ้านหวาน
" ขอบใจที่มาส่ง "
" อือ เข้าบ้านได้แล้วอย่าคิดมากแล้วแอบร้องไห้อีกล่ะ "
" ร้องแน่ " เธอทิ้งท้ายคำพูดแค่นั้นใส่เพื่อนรักอย่างไม่จริงจังนักด้วยใบหน้าอมยิ้มก่อนจะเปิดประตูก้าวขาลงจากรถและเดินเข้าบ้านแต่ก็ไม่วายที่จะเอี่ยวหลังมาโบกมือบ้ายบ่ายให้เพื่อนรักที่กำลังจะขับรถออกไป
" ฉันจะทำให้พี่เธอรู้จักการสูญเสียเหมือนที่มันทำกับพี่ชายฉัน คนทรยศ อย่างมันต้องตาย หรือการตายสำหรับมันจะง่ายไป เธอคิดว่าไงล่ะ ? " "อย่าทำอะไรพี่ชายลินเลยนะคะ "
เขาแต่งงานกับเธอเพราะผลประโยชน์ แต่เธอแต่งงานกับเขาเพราะรัก อีกทั้งพี่สาวยังเป็นแฟนเก่าของเขา....
" ถ้าฉันยังไม่เบื่อเธอก็ไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธ...นอกจากเธอจะนอนถางขาให้ฉันเอาจนกว่าฉันจะเบื่อไปเอง! "
“โดนกูเปิดบริสุทธิ์ตั้งแต่คืนเข้าหอ จนถึงตอนนี้มี คxx ของไอ้ตัวไหนกระแทกส่วนนั้นของมึงบ้างแล้วล่ะ?”
ยัยเด็กขาดสารอาหารคนนี้หรอ คือลูกสาวคนใหม่ของแม่.. เด็กอะไร ขวางหูขวางตาชะมัด เจอหน้ากันเอาแต่ก้มหน้าหลบตา แต่ทำไมยัยเด็กนี่ถึงสวยวันสวยคืน..ถ้าเขาจะแอบกินเด็กของแม่..จะผิดไหม
เจ้าของร่างเดิมถูกท่านย่าตัวเอง ขายให้ชายพิการด้วยเงินเพียงห้าตำลึง จึงคิดสั้นไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทำให้วิญญาณของเซี่ยซือซือทะลุมิติมาเข้าร่างแทน ชีวิตในโลกนี้บิดามารดาล้วนตายไปแล้ว เหลือเพียงน้องสาวกับน้องชายร่างกายผอมแห้งหิวโซสองคน เธอต้องช่วยพวกเขาให้รอด ก่อนจะถูกคนชั่วพวกนี้ขายทิ้งไปแบบเธอ 1 : ทะลุมิติ แคว้นจ้าว หมู่บ้านตระกูลแซ่อวี่ ภายในบ้านสกุลเซี่ย “ท่านพี่รีบกินเร็วเข้า” เสียงเด็กเล็กดังก้องอยู่ข้างหูอย่างน่ารำคาญ ว่าแต่ฉันมีน้องชายตั้งแต่เมื่อไหร่กัน รู้สึกได้ถึงอะไรแข็ง ๆ มาแตะที่ริมฝีปาก ทว่ายังลืมตาไม่ขึ้น “ท่านพี่กินสิ ๆ” เซี่ยซือซือรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งศีรษะ พยายามที่จะเปิดดวงตาขึ้นมอง เจ้าของเสียงเล็ก ๆ ด้านข้าง “ท่านพี่ ๆ ท่านพี่อย่าตายนะ ลืมตาสิท่านพี่” “นังตัวดีออกมาเดี๋ยวนี้นะ !” เสียงเอะอะโวยวายดังหนวกหูเซี่ยซือซือเป็นอย่างมาก ปัง ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นเรื่อย ๆ เซี่ยซือซือลืมตาขึ้นจนได้ พลันสมองกลับมีเรื่องราวพรั่งพรูเข้ามาไม่ขาดสาย จนต้องกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด อ๊าก ! “พี่รอง !” เด็กน้อยเซี่ยซือหยางในวัยสามหนาวเรียกพี่สาวพร้อมเบะปากอยากร้องไห้ “ท่านพี่ !” เซี่ยซานซานทิ้งบานประตูที่ตัวเองดันไว้ หันกลับมาดูพี่สาวด้วยความตกใจ “ท่านพี่ ๆ ท่านเป็นอะไร อย่าทำให้พวกข้าตกใจสิท่านพี่ !” ผลัวะ ! มีคนถีบประตูบานเก่าผุพังเข้ามาภายในห้อง เด็กทั้งสองรีบเข้าไปขวางผู้บุกรุกไม่ให้ทำร้ายพี่สาว แม่เฒ่าเซี่ย เซี่ยจิ่วเม่ย หน้าตาแลดูดุร้าย ไม่ใช่หญิงชราใจดีแต่อย่างใด ด้านหลังของแม่เฒ่าเซี่ยยังมีลูกสะใภ้บ้านใหญ่ กับบ้านรองเดินตามมา ท่าทางดุดันเอาเรื่อง “ไอ้พวกบ้านสามตัวดี กล้าลักขโมยอาหารเอาไว้กินเอง ยังเห็นแม่เฒ่าอย่างข้าอยู่ในสายตาหรือไม่ ไอ้พวกหมาป่าตาขาว ดูซิวันนี้ข้าจะจัดการพวกเจ้าอย่างไร” “ท่านย่าพวกข้าไม่ได้ขโมยนะ นี่เป็นหมั่นโถวของท่านพี่ ท่านพี่ไม่สบายข้าแค่เก็บไว้ให้ท่านพี่เท่านั้นเอง” เซี่ยซานซานยังเป็นเด็กหญิงวัยสิบหนาว แต่นางข่มความกลัวตอบโต้ผู้ใหญ่ในบ้านออกไป “หึ กฎบ้านก็มีบอกอยู่แล้วถ้าพลาดมื้ออาหารไปก็คืออด แต่พวกเจ้ากลับแหกกฎ แอบยักยอกอาหารเก็บไว้กินเอง ยังมีหน้ามาเถียงท่านแม่อีก ท่านแม่ท่านต้องลงโทษคนบ้านสามนะเจ้าคะ ไม่เช่นนั้นข้าไม่ยอมจริง ๆ ด้วย ตอนนั้นยวี่เฟยของข้านางได้พลาดมื้อเย็นไป ท่านก็ไม่ให้นางกินนะเจ้าคะ” สะใภ้บ้านรองนามว่าจงอี้ซิน ย้อนรำลึกถึงเรื่องลูกสาววัยแปดปีของตัวเองขึ้นมา “ดูเจ้าเด็กพวกนี้สิท่านแม่ กางแขนปกป้องพี่สาวตัวเอง ช่างน่าสมเพชไม่รู้จักสำเหนียกกำลังตัวเอง ถุย !” หลินพ่านเอ๋อสะใภ้บ้านใหญ่มองดูเด็กทั้งสองพร้อมถ่มน้ำลายใส่ตรงหน้า แม่เฒ่าเซี่ยมองลูกสะใภ้ทั้งสองสลับกันไปมา เดินตรงไปกระชากหมั่นโถวเย็นชืดแถมแข็งปานหิน ออกจากมือของเซี่ยซือหยาง “แง ๆ ๆ” เด็กน้อยถูกแย่งของกินของพี่สาวไป ถึงกับแผดเสียงร้องลั่น “เจ้าคนชั่ว ! เอามานะ ของท่านพี่ข้า” กำปั้นน้อย ๆ ทุบไปยังต้นขาของแม่เฒ่เซี่ย “เจ้าเด็กเนรคุณกล้าตีข้ารึ นี่นะ !” แม่เฒ่าเซี่ยเตะทีเดียวเซี่ยซือหยางก็กระเด็นไปติดกับผนังห้อง “น้องเล็ก !” เซี่ยซานซานรีบวิ่งไปอุ้มน้องชายขึ้นมากอดไว้ด้วยความตกใจ “ท่านย่า น้องเล็กยังเด็กไม่รู้ความ เหตุใดท่านถึงได้ใจร้ายเช่นนี้” “แง ๆ ๆ” เสียงร้องไห้ของเด็กน้อยฟังแล้วน่าสงสารจับใจ ดวงตาที่ปิดไว้ก่อนหน้าของเซี่ยซือซือ ลืมขึ้นหลังจากค้นพบว่า ตัวเองได้ทะลุมิติมายังอดีตอันไกลโพ้นแล้วจริง ๆ หลังจากหลับตาลืมตาอยู่หลายหน เรียบเรียงความคิดที่ไหลเข้ามาไม่ยอมหยุด เมื่อค่อย ๆ จัดการกับมันได้ ความเจ็บปวดที่ศีรษะก่อนหน้าจึงบางเบาลง และมองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างเฉยชา ครบสูตรของการทะลุมิติจริง ๆ มีท่านย่าผู้ชั่วร้าย ขนาบข้างด้วยป้าสะใภ้เลวทั้งสอง ครั้นหันไปมองน้องสาวในวัยสิบขวบของตัวเองกับน้องชายตัวน้อย ทั้งตัวดำเมี่ยมเหมือนไม่ได้อาบน้ำมาเป็นเดือน ร่างกายผอมแห้งเหลือแต่กระดูก เสื้อผ้าเก่าขาดมีรอยปะชุนเต็มไปหมด เส้นผมแห้งกรังเหมือนไม่ผ่านน้ำมานาน ยกมือของตัวเองขึ้นมาดู ไม่ได้มีสภาพต่างกันแม้แต่น้อย ครั้นเงยหน้ามองป้าสะใภ้ใหญ่ร่างกายอวบอ้วนเต็มไปด้วยก้อนไขมัน ป้าสะใภ้รองแม้ไม่ได้อ้วนแต่ก็ไม่ได้ผอม ยิ่งแม่เฒ่าเซี่ยด้วยแล้ว ร่างกายบึกบึนเหมือนคนกินดูอยู่ดีมาตลอด “ท่านแม่ดูอาซือมองท่านสิเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่เห็นสายตาเย็นเยียบของคนที่นอนอยู่บนเตียงก็อดแปลกใจไม่ได้ ดูเยือกเย็นจนไม่น่าไว้ใจ “เจ้าอย่าคิดว่ากระโดดน้ำตายแล้วทุกอย่างจะจบนะอาซือ ข้ารับเงินคนบ้านถานมาแล้ว ถ้าเจ้าตายข้าจะให้อาซานไปแทนเจ้า” คำพูดของแม่เฒ่าเซี่ยทำให้ดวงตาของเซี่ยซือซือเบิกกว้าง ท่านย่าของนางขายนางให้คนบ้านถานในราคาแค่ห้าตำลึง เจ้าของร่างเดิมไม่อยากไปเป็นเมียคนพิการ เลยไปกระโดดน้ำฆ่าตัวตาย ทว่าเธอที่มาจากยุคปัจจุบันกลับเข้ามาแทนที่เจ้าของร่างนี้ เจ้าของร่างเดิมว่ายน้ำไม่เป็น จึงได้ขาดอากาศตายใต้น้ำ แต่เธอที่เข้ามาสวมร่างกลับพาร่างนี้ขึ้นมาจากน้ำได้ โชคชะตาคงเล่นตลกให้เธอกับเจ้าของร่างเดิมมีชื่อเดียวกัน “ท่านย่าอาซานยังเด็กนัก ท่านอย่าได้ทำเช่นนั้นเลย” นานมากกว่าที่นางจะเอ่ยออกมา “มันอยู่ที่เจ้าอาซือ ข้าขอเตือนเอาไว้ อีกสองวันคนบ้านถานจะมารับตัวเจ้าแล้ว อย่าให้เกิดเรื่องขึ้น ไม่อย่างนั้นข้าจะส่งอาซานไปแทนเจ้า แล้วขายซือหยางทิ้งเสีย” แม่เฒ่าเซี่ยจ้องหน้าเซี่ยซือซือแบบอาฆาต เด็กนี่ก่อนหน้าดูอ่อนแอไร้ทางสู้ ทำไมวันนี้ถึงได้ดูแปลกตาไปนัก “ท่านแม่เจ้าคะ ท่านจะลงโทษคนบ้านสามเรื่องหมั่นโถวนี่อย่างไรเจ้าคะ” สะใภ้ใหญ่ยังไม่ยอมปล่อยสามพี่น้องไปง่าย ๆ “พรุ่งนี้งดอาหารบ้านสาม” แม่เฒ่าเซี่ยเอ่ยแล้วหันหลังเดินออกจากห้องของเด็กน้อยทั้งสามไป โดยมีสะใภ้ใหญ่เดินตามไปด้วย “พวกเจ้าได้ยินแล้วใช่ไหม จำใส่หัวเอาไว้ดี ๆ ด้วยล่ะ” สะใภ้รองหมุนตัวตามหลังไปติด ๆ “ท่านพี่ต่อไปท่านอย่าทำเช่นนี้อีกนะเจ้าคะ ข้ากับน้องเล็กจะทำอย่างไร ถ้าท่านไม่อยู่” เซี่ยซานซานปล่อยเสียงร้องไห้ในทันที
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เจียอี หญิงสาวที่เติบโตมาในชนบทกับคุณตาคุณยาย เธอมีช่องในโซเซียลถ่ายทอดชีวิตชนบท การทำไร่ ทำนา ทำสวน ทำอาหาร จนมีผู้ติดตามเกือบล้านคน แต่แล้วในหนึ่งที่เธอถ่ายทำตอนขึ้นเขาหาของป่า เธอพลัดตกจากเขาจนวิญญาณของเธอทะลุมิติไปในยุคโบราณ
นายหัวอารัณย์พยายามบอกับตัวเองว่า เพลงขวัญ ยังเด็ก และไม่ใช่สเปค แต่แล้วก็ต้องกลืนน้ำลายตัวเองเมื่อได้ลิ้มรสชาติหญ้าอ่อน เขาติดใจจนอยากจะกินซ้ำ ๆ แล้วเธอจะทนเขาได้นานแค่ไหน...... ******************************************************* "ขออีกครั้งเดียวนะ ....ครั้งเดียวนะเพลง" นายหัวหนุ่มทำเสียงอ้อนกลับ เพราะร่างกายของเขาต้องการปลดปล่อยออกมาให้ได้มากที่สุด "จะไม่ปรานีเพลงหน่อยเหรอคะ เพลงไม่ไหวแล้ว" "ปากเธอบอกให้ปรานี แต่ตอดถีึแบบนี้ฉันชักไม่แน่ใจแล้วว่า เธอต้องการแบบไหนกันแน่!"
หลังจากแต่งงานมาสามปี เสิ่นเนียนอันคิดว่าตนเองสามารถเอาชนะใจโฮ่วอวินโจวได้ แต่กลับพบว่าเขามีเพียงคนรักแรกอยู่ในใจ "ฉันจะปล่อยเธอไปหลังจากที่เธอคลอดลูก" ในวันที่เสิ่นเนียนอันมีปัญหาในการคลอดบุตร โฮ่วอวินโจวได้พาผู้หญิงอีกคนออกจากประเทศด้วยเครื่องบินส่วนตัว "ไม่ว่าคุณจะชอบใครก็แล้วไป สิ่งที่ฉันเป็นหนี้คุณ ฉันคืนให้หมดแล้ว" หลังจากที่เสิ่นเนียนอันจากไป โฮ่วอวินโจวก็เสียใจ "กลับมาหาฉันอีกครั้งได้ไหม"
© 2018-now MeghaBook
บนสุด