เรื่องราวความรักของเดย์ บอดี้การ์ดหนุ่มคู่ใจของแทนไท กับสาวน้อยยูมิ เด็กสาวข้างบ้านของพรพระพาย เจอหน้าเป็นต้องทะเลาะกัน กลายเป็นคู่กัดประจำบ้าน จากเรื่อง รักร้าย มาเฟียลูกติด
ยูมิ ยลดา สาวน้อยวัย 17 ปี เท่าที่จำความได้แม่ของเธอมีสามีมาแล้วสองคน ไม่รวมพ่อชาวญี่ปุ่นที่เธอไม่เคยเห็นหน้า มีเพียงคำบอกเล่าของ รตี ผู้เป็นแม่เท่านั้น
...พ่อของเธอกลับประเทศของเขาไปตั้งแต่แม่ตั้งท้องเธอ เธอไม่เคยรู้ว่าทำไมพ่อถึงทิ้งเธอกับแม่ไป เพราะแม่ไม่เคยให้เหตุผล แต่เธอก็ไม่เคยร้องคร่ำครวญหาพ่อ
ตอนยลดาอายุ 5 ขวบ แม่ของเธอพามาเช่าบ้านหลังใหม่ ทำให้เธอได้เจอกับพี่สาวใจดี พาย พรพระพาย เธอมักจะมาเล่นที่บ้านของ พรพระพายเป็นประจำ จริงๆ แล้วแทบจะกินนอนที่บ้านพรพระพายด้วยซ้ำ
แม่ของยลดาไม่ค่อยมีเวลาให้ กลางคืนก็ออกไปทำงานปล่อยให้เธอที่เป็นเด็กนอนหลับอยู่บ้านเพียงลำพัง เธอจึงชอบมานอนกับ พรพระพาย เพราะความที่ยลดาได้ใกล้ชิดกับพรพระพายจึงซึมซับนิสัยดีๆ ของพรพระพายไว้มาก ถ้าไม่มีพรพระพายเธอคงเป็นเด็กใจแตกไปแล้ว แต่แล้ววันหนึ่งพี่พายของเธอก็ต้องไปอยู่ที่อื่นเพราะพ่อแม่ประสบอุบัติเหตุเสียชีวิตทั้งคู่
แม่ของยลดาทำงานร้านอาหาร จะออกไปทำงานช่วงเย็นกว่าจะกลับก็ดึกดื่น บางวันก็กลับมาในเวลารุ่งเช้า เหมือนดั่งวันนี้ที่แม่ของเธอกลับมาพร้อมผู้ชายคนใหม่
"ยูมิ นี่น้าวุธจะมาอยู่กับเราที่นี่ ไหว้น้าเขาสิ" แม่พาผู้ชายคนใหม่มาแนะนำให้ยลดารู้จัก เธอเพียงปรายตามอง ไม่ให้ความสนใจ นั่งดูทีวีรายการโปรดของเธอต่อ
"นี่แกไม่ได้ยินที่ฉันพูดเหรอ" รตีถามเสียงดังลั่นด้วยความไม่พอใจที่ลูกสาวทำเป็นเฉยเมย
"นี่ลูกสาวพี่เหรอ โตเป็นสาวแล้วนะเนี่ย หน้าเหมือนตุ๊กตาเลย" ผู้ชายของรตีพูดขึ้น แต่สายตาที่เขามองมาทางยลดามันเหมือนเสือที่เจอเหยื่ออันโอชะ
"ทำไม สนใจ?" รตีหันไปมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่พอใจนัก
"พี่ก็รู้ว่าผมไม่ชอบเด็ก ชอบแบบพี่มากกว่า" วุธบอก ก่อนจะก้มลงไปขบเม้มที่ใบหูของรตี
"อายยูมิมันบ้างสิ" รตีพูดด้วยความเขินอายราวกับสาวแรกรุ่น
"ไม่เห็นต้องอายเลยคนรักกัน" วุธพูดพร้อมทั้งซุกไซ้ซอกคอของรตี แต่สายตาของเขายังคงจับจ้องมาที่เด็กสาว
"นี่ พี่จั๊กจี้" รตีเอ่ยว่า แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม ก่อนจะพากันเดินหายเข้าห้องนอนไป
"อื้อ...วุธ...พี่เสียว...อ๊า...ดูดนมพี่แรงๆ...อื้ม...แบบนั้น...อ๊า"
"พี่นี่ร้อนแรงจัง...ผมอยากจะกระแทกพี่แรงๆ แล้ว...อ๊า"
เสียงร้องครวญครางของรตีกับวุธ ทำให้ยลดาไม่อาจทนนั่งฟังอยู่ได้ เธอจำใจต้องเดินหนีออกไปนอกบ้าน ทั้งที่อยากจะนั่งดูทีวีรายการโปรดต่อให้จบ
ทุกครั้งที่รตีไม่อยู่บ้าน วุธมักจะเข้ามาถึงเนื้อถึงตัว พูดจาสองแง่สองง่ามกับยลดา เธอพยายามที่จะหลบเลี่ยงตลอด เธอเคยบอกผู้เป็นแม่ แต่แม่ของเธอไม่เคยเชื่อ กลับกลายเป็นว่าเธอเป็นฝ่ายให้ท่า อยากได้ผัวของแม่ ยลดาจึงไม่เคยบอกอีกเลย ได้แต่คอยระวังตัวเอง อยู่ให้ห่างจากผู้ชายคนนี้
แต่แล้ว ขณะที่ยลดานอนเล่นเกมในสมาร์ตโฟน จู่ๆ วุธก็เปิดประตูห้องนอนของเธอเข้ามา ทั้งที่เธอล็อคประตูแล้ว แต่เขาใช้กุญแจสำรองไขเข้ามา
"เข้ามาทำไม ออกไปนะ" ยลดาเอ่ยปากไล่เสียงดัง
"น้าก็แค่จะเข้ามาถามว่ายูมิกินอะไรหรือยัง" วุธถามราวกับห่วงใยแต่สายตาเหมือนพวกหื่นกาม
"ไม่ต้องมายุ่ง ออกไปจากห้องยูมินะ" ยลดาหวาดกลัวถอยหนีไปชิดหัวเตียง
"อย่าเล่นตัวไปหน่อยเลยน่า น้าจะทำให้ยูมิมีความสุขที่สุด" วุธค่อยๆ เดินเข้ามาหายลดาช้าๆ
"ออกไปนะ ไม่งั้นยูมิจะร้องให้แม่ได้ยิน" ยลดาข่มขู่ น้ำเสียงของเธอแฝงไปด้วยความหวาดกลัว
"เรียกให้คอแตกอีแก่นั่นก็ไม่ได้ยินหรอก"
"แม่! แม่!" ยลดาตะโกนเรียกคนเป็นแม่เสียงสุดเสียง
"น้าบอกแล้วว่าอีแก่มันไม่ได้ยินหรอก อีแก่มันออกไปทำงานแล้ว ไม่มีทางมาขัดขวางความสุขของเราหรอกหนูยูมิ" วุธพูดเหมือนพวกโรคจิต
"แม่!" ยลดาตะโกนเรียกเสียงดังลั่น ก่อนจะรีบวิ่งลงจากเตียงเพื่อจะออกจากห้องนอน
หมับ!
วุธวิ่งตามกระชากแขนของยลดา แล้วจับเธอเหวี่ยงลงไปบนเตียงอย่างแรง จนเธอทั้งเจ็บทั้งจุก
"โอ๊ย! อย่าเข้ามานะ" ยลดาร้องด้วยความเจ็บ พยายามหาทางหนี แต่ก็ถูกดึงข้อเท้าไว้ วุธตามขึ้นมาคร่อมตัวเธอไว้ เธอพยายามดิ้นรนสุดกำลัง แต่ก็โดนเขายึดข้อมือไว้กับเตียง
"เป็นของน้าเถอะนะ น้าจะทำให้ยูมิมีความสุขจนลืมไม่ลงเลย" น้ำเสียงอันหื่นกระหาย พร้อมทั้งพยายามซุกไซ้ซอกคอของเด็กสาว
"ไม่นะ! ช่วยด้วย! ใครก็ได้ช่วยยูมิด้วย" เสียงร้องขอความช่วยเหลือดังลั่นห้อง
ยลดาพยายามดิ้นหนีสุดชีวิต เธอกระแทกเข่าไปที่กล่องดวงใจของไอ้ผู้ชายบ้ากาม เมื่อได้โอกาสตอนมันนอนตัวงอด้วยความจุก เธอก็คว้าแจกันที่ตู้ข้างเตียงทุ่มไปที่หัวของมัน จนเลือดไหลอาบ
"โอ๊ย! อีเด็กบ้า" เสียงของมันร้องลั่นด้วยความเจ็บปวด
ยลดาได้ทีรีบวิ่งหนี เธอวิ่งมาถึงหน้าประตูบ้าน ก็เห็นคนเป็นแม่เดินกลับมา เธอจึงวิ่งไปแอบที่ห้องเก็บของ
"ว๊าย! มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมวุธถึงเป็นแบบนี้ เลือด!" รตีร้องลั่นด้วยความตกใจเมื่อเห็นแจกันแตกกระจาย และเลือดสีแดงสดไหลออกมาจากหัวของสามีหนุ่ม
"ก็ฝีมือลูกสาวพี่น่ะสิ ผมแค่เข้ามาเตือนว่าให้อ่านหนังสือบ้าง ไม่ใช่นั่งเล่นแต่เกม คงไม่พอใจ เลยคว้าแจกันมาทุ่มใส่หัวผมเนี่ย พี่รีบพาผมไปหาหมอก่อนเถอะ เลือดจะไหลหมดตัวแล้ว"
"ไปๆ ดูสิเลือดออกเยอะเลย" รตีที่ปักใจเชื่อพูดอย่างเป็นห่วง
"นังลูกไม่รักดี อย่าให้เจอตัวนะ แม่จะเอาให้ตายคามือเลย ดูสิมาทำวุธขนาดนี้" รตีประกาศกร้าว ก่อนจะพยุงวุธออกไป
ยลดาเห็นดังนั้นจึงรีบออกมาจากห้องเก็บของ เธอตัดสินใจหนีออกจากบ้าน เธอรีบเข้าไปเก็บเสื้อผ้าสองสามชุดยัดใส่กระเป๋าเป้ แล้วก็หยิบกระปุกออมสินของเธอไปด้วย รีบออกจากบ้านไปทันที ด้วยกลัวว่าแม่ของเธอจะกลับมาเสียก่อน
มาเฟียหนุ่มมีธุรกิจในเครือมากมาย มีลูกชายวัย 3 ขวบที่เกิดจากผู้หญิงที่เขารัก แต่เธอทิ้งเขากับลูกไปกับผู้ชายที่รวยกว่า เขาจึงกลายเป็นผู้ชายเย็นชา เห็นผู้หญิงเป็นเพียงที่ระบายความใคร่ จนได้มาเจอเธอ... ....................... แทน แทนไท มาเฟียหนุ่มในวัย 29 ปี เจ้าของธุรกิจมากมายทั้งถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย มีลูกชายวัย 3 ขวบที่เกิดจากผู้หญิงที่เขารักมาก แต่เธอก็ทิ้งเขากับลูกไปกับผู้ชายคนอื่นที่ในเวลานั้นรวยกว่าเขา ซึ่งในตอนนั้นลูกชายอายุเพียง 1 เดือนเท่านั้น ทำให้เขากลายเป็นผู้ชายเย็นชา เห็นผู้หญิงเป็นเพียงที่ระบายความใคร่ และนั้นก็เป็นแรงผลักดันให้เขาทำทุกวิถีทางที่จะเป็นหนึ่งในด้านธุรกิจ เขาใช้เวลาเพียงแค่ 3 ปี ก็กลายเป็นนักธุรกิจหนุ่มที่มั่งคั่งร่ำรวยที่สุดคนหนึ่ง ทำให้มีผู้หญิงยอมพลีกายให้เขานับไม่ถ้วน พาย พรพระพาย หญิงสาวในวัย 22 ปี พึ่งเรียนจบ ชีวิตของเธอต้องพลิกพลัน จากเด็กที่มีพร้อมทุกอย่าง แต่แล้วอุบัติเหตุทางรถยนต์ก็พากชีวิตของพ่อกับแม่เธอไปตลอดกาล ในตอนที่เธอกำลังเรียนมหาวิทยาลัยปี 2 แต่ยังโชคดีที่พ่อแม่ของเธอยังมีเงินประกันชีวิต ที่จะสามารถส่งเธอเรียนจนจบมหาวิทยาลัยได้ เมื่อเรียนจบเธอได้เข้าทำงานในตำแหน่งเลขานุการของบริษัทในเครือแทนไท คอร์ปอเรชั่น อาชิ ด.ช.อินทัช เด็กชายวัย 3 ขวบ ลูกชายของแทนไทกับดารินเป็นเด็กที่เฉลียวฉลาด ดูโตกว่าเด็กในวัยเดียวกัน แต่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ได้นิสัยของผู้เป็นพ่อมาเต็มๆ แต่ในความเป็นจริงแล้วอาชิเป็นเด็กร่าเริง คุยเก่ง อ้อนเก่ง เมื่ออยู่กับพรพระพาย
หลินตงหยาง อายุ 27 ปี เติบโตมากับแม่เพียงสองคน ในวัยเด็กหลินตงหยางเคยมีพ่อผู้ให้กำเนิดแต่หลังจากที่พ่อได้งานใหม่ในเมืองหลวงพ่อที่เคยมีก็ไม่มีอีกแล้ว พ่อกลับมาหย่าขาดกับแม่ทันทีที่ไปทำงานในเมืองหลวงได้เพียง 2 เดือน ด้วยให้เหตุผลในการหย่าว่า แม่กับและเขาคือตัวถ่วงความเจริญในชีวิตพ่อ สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากแค่พ่อหน้าตาหล่อเหลาและเป็นที่ถูกใจของลูกสาวหัวหน้างาน เพื่อตำแหน่งงานและความเป็นอยู่ที่สบายขึ้น พ่อเลือกที่จะทิ้งภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากที่ผ่านเรื่องยากลำบากมาด้วยกัน หย่าขาดกับภรรยาเพื่อไปแต่งงานใหม่ มีชีวิตใหม่ในเมืองหลวง โดยทิ้งคนข้างหลัง ทิ้งภรรยาที่เคยสาบานว่าจะอยู่ครองคู่กันตลอดไป ในปีที่เขาเรียนจบมหาวิทยาลัย แม่ก็ล้มป่วยและจากเขาไปในที่สุด สาเหตุที่หลินตงหยางเสียชีวิต เพราะทำงานหนัก อาชีพโปรแกรมเมอร์ตัวเล็กๆ อย่างเขา ต้องพยายามทำงานให้ได้ตามที่หัวหน้าสั่งมา ในที่สุดเขาก็พัฒนาเกมกำลังภายในของบริษัทได้สำเร็จ หลินตงหยางนอนหลับไปด้วยความสบายใจ แต่ทว่าพอเขาลืมตาตื่นขึ้นมาอีกที นี่ไม่ใช่คอนโดหรูย่านใจกลางเมืองปักกิ่ง หลังคามุงหญ้านี่คืออะไร มันควรจะเป็นเพดานสีขาวสิ เมื่อมองไปรอบๆ ห้องนี่คืออะไร นี่มันไม่ใช่ผนังที่ทำมาจากคอนกรีต มันคือดินเหนียว หลินตงหยางคิดว่าตัวเองฝันไป เขาหลับตาลงอีกครั้งแล้วลืมตาขึ้น ทุกอย่างยังเหมือนเดิม มารดามันเถอะ เขามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง หลังจากแน่ใจแล้วว่าไมไ่ด้ฝัน ตอนนั้นเองเขารู้สึกปวดหัวขึ้นมาอย่างรุนแรง และในหัวของเขามีภาพเหตุการณ์ของเด็กชายที่ชื่อเดียวกับเขา หลินตงหยาง อายุ 10 ขวบ เรื่องราวชีวิตตั้งแต่เกิดจนตายไปของเด็กชาย ทำเอาหลินตงหยางกำมือแน่น ก่อนจะสบถออกมา “พ่อสารเลว เฉินซื่อเหม่ยชัดๆ” และตามมาด้วยเสียงร้องไห้ของน้องสาว สาเหตุที่เด็กชายหลินตงหยางเสียชีวิต เพราะถูกผู้ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นย่าแย่งผักป่าและทุบตี ทั้งๆ ที่คนพวกนั้นได้ตัดขาดพับพวกเขาสามแม่ลูกแล้ว แต่ยังมิวายข่มเหงรังแก
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"
เซิ่งหนานหยินเกิดใหม่แล้ว ชาติที่แล้ว เธอถูกชายชั่วหักหลัง ถูกชายเสแสร้งใส่ร้าย โดนครอบครัวสามีเล่นงาน จนทำให้เธอล้มละลายและเป็นบ้าไป ในท้ายที่สุด เธอเสียชีวิตอย่างน่าสลดใจด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้ 9 เดือน แต่คนร้ายกลับทำเงินได้มากมาย และใช้ชีวิตทั้งครอบครัวอย่างมีความสุข เกิดใหม่ครั้งนี้ เซิ่งหนานหยินคิดตกอล้ว อะไรที่ว่าพระคุณช่วยชีวิต คนรักในใจอะไรกัน ล้วนไม่ต้องไปสน เธอจะจัดการชายชั่วหญิงร้าย สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูลเก่าของตนเองขึ้นมาใหม่อีกครั้งและนำตระกูลเซิ่งไปสู่จุดสูงสุดของชีวิต สิ่งที่แตกต่างออกไปก็คือ คนที่หยิ่งมาตลอดในชาติที่แล้ว กลับเป็นฝ่ายริเริ่มมาหาเธอ "เซิ่งหนานหยิน การแต่งงานครั้งแรกผมไม่ทัน การแต่งงานครั้งที่สองก็ต้องถึงคิวผมแล้วสินะ"
"คุณต้องการเจ้าสาว ส่วนฉันก็ต้องการเจ้าบ่าว ทำไมเราไม่แต่งงานกันล่ะ?" ภายใต้เสียงเยาะเย้ยของทุกคน ถังเลี่ยน ซึ่งถูกคู่หมั้นของเธอทอดทิ้งในพิธีแต่งงาน กลับแต่งงานกับเจ้าบ่าวพิการข้างบ้านที่ถูกรังเกียจ ถังเลี่ยนคิดว่าอวิ๋นเซินเป็นชายหนุ่มที่น่าสงสาร และเธอสาบานว่าจะให้ความรักใคร่แก่เขาและตามใจเขาหลังแต่งงาน ใครจะรู้ว่าเขาแกล้งเป็นแบบนั้น... ก่อนแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "เธอต้องสนใจเงินของผมถึงยอมแต่งงานกับผม ผมจะหย่ากับเธอหลังจากที่ผมใช้ประโยชน์เธอเสร็จ" หลังแต่งงาน อวิ๋นเซินว่า "ภรรยาของผมต้องการหย่าทุกวัน แต่ผมไม่อยากหย่า ทำอย่างไรดีล่ะ"
ตลอดระยะเวลาสามปีของการแต่งงาน เธอรู้สึกสิ้นหวัง ที่ถูกบังคับให้เซ็นใบหย่า ทั้งๆที่เธอกำลังท้อง เธอใจสลายกับความไร้มนุษยธรรมของเขา กระทั่งเธอออกไปจากชีวิตของเขา เขาเพิ่งรู้ตัวว่าเธอคือรักแท้ของเขา ไม่มีวิธีใดที่จะเยียวยาหัวใจที่บอบช้ำของเธอให้หายขาดได้ เขาจึงมอบความรักทั้งหมดของเขาให้แก่เธอเพื่อชดเชย
เพราะคิดว่าเป็นความฝัน ฉินหร่านจึงร่วมมือบรรเลงเพลงรักอย่างไม่ได้ตั้งใจ ไฉนตื่นขึ้นมาถึงมีสามีเป็นของตัวเอง อีกทั้งสามีนางยังตาบอดอีกด้วย! แต่นั่นไม่น่าตกใจ เท่ากับที่นางมาอยู่ในร่างเด็กสาวในยุคจีนโบราณ ที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ อีกทั้งร่างนี้ถูกขายให้มาเป็นภรรยาของชายตาบอด แต่ไหนๆ ก็มาแล้วจึงจะใช้ชีวิตให้ดี ส่วนสามีนะหรือ หล่อขนาดนั้น แซ่บขนาดนี้ เดินหน้าเกี้ยวสามีสิ จะรออะไร!