เมื่อฉันถูกรุกรานจากเด็กรุ่นน้องที่ขยันมาหาฉันอยู่ตลอด ไม่รู้ว่าเขาคิดจะทำอะไร รู้แค่ว่าเขามันเป็นเด็กสายเคี้ยว แต่ถ้าจะมาจับฉันทำเมีย ฝันไปก่อนนะเบบี๋! เพราะฉันไม่สนใจ... ไม่คิดจะมองใคร คนที่มองมีอยู่คนเดียว เพื่อนสนิทที่ไม่เคยคิดอะไรกับฉันเลยสักนิด "อาร์" เด็กคนนั้นเริ่มรุกฉันมากขึ้น "โย" เพื่อนที่ฉันแอบรักก็หงุดหงิดใจ เลยประกาศบอกทุกคนว่าฉันคือเมียของเขา หากแต่ว่ามันไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีใจสักนิด เพราะเขาเองก็ให้ฉันจีบรุ่นน้องให้เพื่อเป็นการตอบแทน ความเสียใจนำพามาซึ่งความผูกพันบางอย่าง ในขณะที่ฉันเศร้า อาร์กลับทำให้ฉันยิ้มออก และขณะเดียวกันเพื่อน (ที่แอบรัก) ก็เปลี่ยนไปราวกับไม่ใช่เพื่อนคนเดิมอีกต่อไป
-AR TALK-
จู่ๆ ก็รู้สึกชอบใครสักคนขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ แถมคนที่ชอบดันเป็นผู้หญิงที่สวยมาก แสบมากและดุมาก เพื่อนของผมมองว่าผมเป็นมาโซคิสม์ แต่ความจริงผมไม่ใช่แบบนั้นนะ ก็แค่ยอมให้คนเดียวเท่านั้นที่เล่นผมแรงๆ ได้ ยัยก็อตซิล่า
ผมชื่อ ‘อาร์’ อยู่มหาลัยปีสี่คณะนิเทศศาสตร์ แก็งของผมมีทั้งหมดสี่คน คือแก็งสายเคี้ยวประกอบไปด้วย เซซัส (มีเมียแล้ว) นัม (มีเมียแล้ว) ผม (ยังเคี้ยวไปเรื่อย) และบอล (เจ้าพ่อสายเคี้ยว) ไอ้ซัสกับไอ้นัมต่างพากันมีเมียแล้ว เหลือก็แต่ผมกับไอ้บอลที่ยังคงลอยไปลอยมาอยู่ แต่คงยกเว้นผมที่กำลังจะอยากมีเมียกับเขาบ้าง ถึงแม้ว่าเมียที่ถูกใจ ดันดุเหมือนหมาก็ตามที
“คิดไรของมึงวะไอ้อาร์ มาเที่ยวนะ ไม่ได้ให้มานั่งคิดนู่นคิดนี้”
“เออกูรู้น่า มึงแดกเหล้าไปเหอะไอ้บอล ไม่ต้องมาเสือกเรื่องของกู” ไอ้บอลเบ้ปากกอดสาวสวยข้างกาย ซึ่งผมเองก็มีด้วยนะ กะว่าจะเคี้ยวให้หายอยากซะหน่อย
“ไอ้ซัสกับไอ้นัมแม่งติดเมียเกิน ชวนมาแดกไม่ยอมมา”
“มึงก็รู้คนมันกำลังเห่อเมีย ไอ้นัมก็เพิ่งจะคืนดีกับเมียนะมึงอย่าลืม”
“เออว่ะ”
ผมกระดกเหล้าเข้าปาก กระทั่งสายตาไปปะทะเข้ากับร่างบอบบางที่สวมชุดเดรสสุดเซ็กซี่สีดำ ใบหน้าสวยคม ดวงตาที่มีเสน่ห์ ไหนจะหุ่นที่ดีมากจนสายตาคนในนี้มองเธอเป็นตาเดียวกัน ไม่เว้นแม้แต่ผม
“นั่นมัน... เพื่อนโฟมปะวะ?”
“มั้ง”
“เฮ้ยๆ รอไรเล่า จับเคี้ยวแม่งเลย จะได้หายซ่า”
“พ่อมึงสิ! กูไม่ทำแบบนั้น”
“อือหือ อย่าบอกนะว่ามึงจริงจังอะ จะหนีกูไปมีเมียอีกคนใช่มะวะไอ้อาร์!”
“ไม่ใช่ กูไม่ทำแบบนั้นกับยัยก็อตซิล่าหรอก แค่รู้สึกอยากแกล้งมากกว่า ไม่ชอบขี้หน้ากูเพราะอะไร? ไม่เข้าใจ”
“อย่าว่าแต่เธอไม่ชอบหน้ามึงเลย กูเองก็ไม่ชอบหน้ามึงเหมือนกัน” ผมหรี่สายตามองไอ้บอล มันหัวเราะออกมาจนผมลุกขึ้นหนีสาวสวยข้างกายตรงไปหาร่างบอบบางที่กำลังยืนเต้นอยู่
ปึก
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ... นาย”
“ไงครับ มาเที่ยวคนเดียวเหรอ คุณดาวเหนือ” สองมือของผมโอบรอบเอวเล็กๆ และจับจ้องใบหน้าของเธอซึ่งแต่งแต้มอย่างสวยงาม ปกติเจอเธอที่มหาลัยเธอจะหน้าสดอยู่เสมอ แต่หน้าสด หน้าแต่งเธอก็สวยอยู่ดีล่ะนะ ดาวตบมือผมออกจากเอวและเดินหนีไปแต่ผมก็คว้าต้นแขนเธอเอาไว้
“ปล่อย หรืออยากเจ็บตัว”
“นั่นสิ ผมไม่โดนคุณต่อยผมนอนไม่หลับอะ”
“โรคจิตนะ”
“ครับ งั้นขอสักหมัดสิ แต่ไม่เอาดีกว่า ขอเป็น...” ผมยิ้มกว้างดึงร่างของเธอให้เข้ามาใกล้ โน้มใบหน้าลงไปแนบชิดกับแก้มเธอ กลิ่นหอมจากร่างกายทำเอาผมร้อนไปหมด ริมฝีปากเฉียดไปยังใบหูซึ่งเจาะหูเยอะไม่ต่างจากผมเลยสักนิด
“ขอเป็นคุณทำให้ผมเจ็บตัวบนเตียงดีกว่า น่าจะเร้าใจกว่ากันนะ คุณว่าจริงเปล่า?”
ตุ้บ
“อ๊าก!”
“งั้นไข่นายก็สูญพันธ์ไปก่อนจะได้เจ็บตัวบนเตียงกับฉันล่ะกันเนาะ” สองมือกุมเป้าตัวเองเมื่อเข่าสวยๆ กระทุ้งเข้ามาเต็มแรง รอยยิ้มร้ายของเธอเหยียดให้ผมเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจะจากไปพร้อมกับใครบางคน
ใช่ ใครบางคนที่ผมไม่ชอบขี้หน้า เพื่อนสนิทของเธอที่ใกล้ชิดเธอมากไปจนผมคิดไม่ตกว่า ‘เพื่อน’ จะมีอะไรมากกว่าคำๆ นี้หรือเปล่า?
รุ่งเช้าที่แสงแดดกระจ่างสาดส่องเข้าใบหน้าเต็มๆ เพราะคอนโดที่ผมอยู่นั่นสูงเฉียดฟ้า กระจกที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบ ผมลุกขึ้นนั่งบิดตัวไปมามองร่างกายตัวเองซึ่งแข็งแกร่งและรอยสักตรงสะโพก ผมเป็นพวกไม่นิยมสักอะไรมากมายเหมือนกับไอ้ซัส ไอ้นัมหรือไอ้บอล ไอ้เวรพวกนั้นสักทั้งตัวก็ว่าได้ แต่ผมแค่สักนิดหน่อยพอให้รู้ว่าสักก็เกินพอ เช้านี้อากาศมันร้อนจนผมต้องเข้าห้องน้ำไปอาบน้ำ หวังให้น้ำเย็นๆ ชโลมจิตใจและร่างกายให้กลับมาฟื้นคืนชีพ หลังจากเมื่อคืนเคี้ยวหมากฝรั่งเกือบตลอดทั้งคืน ผมไม่มีรสนิยมพาสาวมาเคี้ยวที่ห้อง เพราะผมคิดว่าห้องคือพื้นที่ส่วนตัวของผม คนไม่สำคัญจะไม่มีสิทธิ์แม้แต่จะเข้ามาในห้อง ยกเว้นพวกเพื่อนสารเลวที่ชอบมาขัดจังหวะการนอนหลับ มือซ้ายเอื้อมไปหยิบมือถือที่กำลังชาร์จแบตไว้อยู่ (ได้โปรดอย่าทำตาม ถ้าไม่อยากตาย) ผมกดเข้าไปที่ Application ไลน์ ก่อนจะไล่ดูก็มีข้อความมากมายจากหมากฝรั่ง แต่มีเพียงแค่หนึ่งเดียวเท่านั้นที่สามารถหยุดสายตาของผมไว้ได้
‘ดาวเหนือ’
ใบหน้าสวยคม ผมสีดำบลอนด์สั้นปะบ่า ริมฝีปากแดงระเรื่อ ดวงตากลมโต หุ่นทรงไม่ต้องพูดถึง เธอมีส่วนสูงที่สมส่วน ถึงแม้จะถูกปิดบังด้วยชุดนักศึกษาตัวใหญ่และเสื้อช้อปประจำคณะสถาปัตยกรรม หากแต่ก็ไม่สามารถพ้นสายตาของผมไปได้เลยสักนิด ผู้หญิงที่ผมรู้สึกถูกใจตั้งแต่ครั้งแรกที่เจอกัน ผมไม่เคยเจอผู้หญิงที่ไหนที่แสบ ซ่าและกล้าบ้าบิ่น แถมยังชอบทำร้ายร่างกายผมเสมอเวลาที่เจอกัน เมื่อคืนก็เป็นอีกครั้งที่เธอทำร้ายร่างกายผม
ผมโรคจิตมะ... ที่ชอบให้เธอทำร้ายร่างกาย หรือผมจะเป็นมาโซคิสต์อย่างที่พวกเพื่อนผมพูด
นิ้วมือเรียวกดเข้าไปขอเธอเพิ่มเพื่อนทันทีถึงแม้ว่าเธอจะลบไลน์ของผมไปแล้วเนื่องจากต้องใช้มันทำธุระให้กับไอ้นัมในตอนนั้น ผมกดเข้าไปในกล่องแชทและส่งสติ๊กเกอร์ตุ๊กตาหมีอุ้มหัวใจไปให้และตามด้วยข้อความที่หวังว่าเธออ่านคงจะปรี๊ดแตก ใช่ ผมหวังให้เธอเป็นแบบนั้นล่ะ
‘คุณดาวเหนือของผม เพิ่มผมเป็นเพื่อนด้วยนะครับ ห้ามบล็อกนะ ไม่งั้นผมจะคิดว่าคุณกลัวผม’
รอยยิ้มปรากฏขึ้นยามมองไปยังกล่องแชท ซึ่งยังไม่มีคนอ่าน ผมวางมือถือไว้บนอ่างล้างหน้าตามเดิมและเอนศีรษะหนุนผ้าขนหนูที่รองไว้ตรงขอบอ่างกุชชี่ ฝ่ามือทั้งห้าเสยผมสีดำสนิทซึ่งไถข้างหนึ่งข้างและทำลวดลายสวยงามไว้ เผยให้เห็นต่างหูสีดำสนิทเกือบเต็มใบหู ไอ้บอลหาเรื่องผมอย่างหนักเมื่อรู้ว่าตอนนี้ผมกำลังเดินเข้าหาดาวเหนืออย่างเต็มกำลัง ส่วนไอ้นัมรายนั้นรู้ดีว่าผมคิดอะไรอยู่ หากแต่ก็ยังคงเงียบปากไว้ ไม่อยากทำให้สิ่งที่ตัวเองคิดต้องพังทลาย ผมรู้ดีว่าดาวเหนือไม่มีทางหันมามองเด็กสายเคี้ยวอย่างผม เพราะเราสองคนไม่ได้มีโมเมนต์ดีๆ ร่วมกันเหมือนกับไอ้ซัส ไอ้นัม แต่ผมสามารถทำให้มีโมเมนต์แบบนั้นได้นะ
ถ้าเธอเปิดใจรับผมบ้าง มองข้ามผมไปก็คงดี แต่ผมรู้... รู้ว่าเธอไม่ชอบผู้ชายอย่างผม ไม่ชอบผู้ชายทุกคน แต่ทำไม ทำไมถึงได้ยกเว้นแค่คนเดียวที่สนิทสนมมากซะจนผมสงสัย แต่ทว่าผมรู้ดีว่าเธอก็ต้องสนิทกับเพื่อนตัวเองเป็นธรรมดา ขนาดไอ้นัมยังหึงเมียตัวเองที่สนิทกับเถื่อนมากเกินไป ทั้งที่ทั้งคู่เป็นเพียงแค่เพื่อนกันเท่านั้น ถึงแม้ว่าเถื่อนจะเคยชอบโฟมก็ตามที แต่กรณีของดาวเหนือและโย มันไม่ใช่ไง สองคนนั้นสนิทสนมกัน ไม่มีเรื่องแบบนั้นแน่ผมมั่นใจ
เพราะดาวเหนือ ไม่สนใจผู้ชายที่ไหนแม้แต่เพื่อนของตัวเอง
ช่วงนี้เป็นช่วงหยุดการเรียนเนื่องจากมหาลัยมีการปรับปรุงตึกเรียนก็เลยหยุดเป็นเวลาสองสัปดาห์ พวกผมก็เลยสบายหน่อย แต่เอาความจริงมีแต่ผมกับไอ้บอลเนี่ยล่ะที่ว่าง เพราะไอ้ซัสไม่ได้เรียน ดูแลผับ กกเมีย ไอ้นัมเรียน แต่กกเมีย พาเมียไปหาพ่อแม่เมียที่ไร่ชา ก็เหลือเพียงแค่ผมสองคนที่ยังโสดเคี้ยวไปเรื่อย แต่ตอนนี้ผมอยู่คนเดียวเพราะโทรไปหาไอ้บอลเจ้าพ่อสายเคี้ยว (ฉายาที่พวกผมตั้งให้) มันนอนกกหมากฝรั่งอยู่ที่บ้านสองคน เข้าใจยังว่าทำไมผมถึงยกฉายาเจ้าพ่อสายเคี้ยวให้มัน เพราะพวกผมสามคนยังสู้ความเลวทราม ต่ำช้า สันดานหมาอย่างไอ้บอลไม่ได้ สองเท้าของผมก้าวมาในห้างสรรพสินค้าเพื่อมาหาอะไรกินรองท้อง อันที่จริงคือสาวโทรมานัดให้มากินข้าวด้วย และคงจะจบบนเตียงที่ห้องของหล่อนก็เป็นได้
“พี่คะ หนู... ขอเบอร์หน่อยได้ไหมคะ?” สาวน้อยน่ารักวัยแรกแย้มเดินตรงมาหาผมพร้อมกับเพื่อนสาว ผมทำได้เพียงแค่ยกยิ้ม
“ขอโทษนะหนู พี่ไม่นิยมกินเด็ก อย่าเสียเวลากับพี่เลย เดี๋ยวจะเสียตัวเปล่าๆ”
“แต่หนูอยากเสียตัวให้พี่” อือหือ... เด็กสมัยนี้ร้อนแรงจริงแหะ สายตาที่เธอมองผมแปรเปลี่ยนจากแอ๊บเป็นสายตายั่วยวน ผมไล่สายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้าเอียงองศาคอมองเธออย่างยิ้มๆ
“ไม่ล่ะ ให้ฟรีพี่ก็ไม่เอา” ผมยกยิ้มก่อนจะเดินสะบัดหน้าออกไปอย่างหล่อ เอิ่ม ชมตัวเองก็เป็นวุ้ย! ผมมาหยุดที่ร้านอาหารไทยซึ่งเป็นร้านโปรดของผมมักจะชวนพวกมันกินบ่อยๆ แต่หลังจากที่ต่างคนต่างมีภารกิจต้องทำก็เลยไม่ค่อยได้มาเจอสักเท่าไหร่
“พี่อาร์คะ ทางนี้ค่ะ” สาวสวยน่ารักอย่างจัสมินโบกมือเรียกให้ผมไปนั่งที่เก้าอี้ติดกระจก เธอเป็นรุ่นน้องผมอายุเพียงแค่สิบเก้าปี ส่วนผมยี่สิบสองเมื่อสองวันก่อน เพราะเลยวันเกิดผมมาแล้ว
“สั่งเลยนะคะ จัสหิวแล้ว”
เกิดอะไรขึ้น!เมื่อจู่ๆ แม่ดันส่งใครไม่รู้มาดูแลผม ทั้งที่ผมไม่ได้ต้องการเลยสักนิดกับคำว่า 'ว่าที่คู่หมั้น’ จะมาดูแลผมนับจากนี้เป็นต้นไป เฮ้ย บ้าไปแล้ว สายเคี้ยวอย่างผมไม่มีวันแต่งงานหรอกนะเว้ย ! ฝันไปเถอะว่าจะหยุด 'พี่บอลสายเคี้ยว' ไปได้ แถมสาวเจ้าที่เป็นคู่หมั้นผม อายุเพียงแค่สิบเจ็ดปี! แม่กำลังให้ผมแต่งงานกับเด็กเหรอวะ ไม่มีทางหรอกเป็นไงเป็นกัน! จะทำให้ทนไม่ได้ จนต้องถอนหมั้นไปเลย... คอยดู “อยากมีผัวจนตัวสั่นเลยหรือไง? อายุแค่นี้ไปเรียนให้จบดีกว่ามะ” “ไม่ได้อยากมีผัวจนตัวสั่นหรอกค่ะ เพียงแต่หนูต้องมาทำหน้าที่ของตัวเองก็เท่านั้น” ในเมื่อมาทำเพราะหน้าที่ ผมก็จัดให้แล้วกัน... จัดการให้หายไปจากชีวิตของผมไง หึ
วี บีทีเอสเป็นต้นเหตุ! เพราะนักร้องเกาหลีที่เมียผมคลั่งไคล้นักหนา เป็นเหตุทำให้ผมเริ่ม "เบื่อ"มันมากขึ้นทุกวัน ลำพังคบกันก็แทบจะไม่มีเวลาให้กันอยู่แล้วเพราะเธอเรียนหนัก แต่เวลาอยู่ด้วยกันทำไมจะต้องพูดถึงแต่วี บีทีเอส! มันเป็นใครวะไม่รู้จักเว้ย! เห็นมันนิ่งกับผม แต่กับวีแตกต่างกันฉิบหาย นักร้องเกาหลีกับผัว? เป็นคุณจะเลือกใคร มันไม่ใช่เพียงเพราะเบื่อ แต่มันดันมีเงาของใครอีกหลายคนเข้ามานับไม่ถ้วน ผลสุดท้ายถ้าไม่ใช่แบบที่คิด ปัญหาที่เกิดขึ้นคำว่า 'เบื่อ' คงถึงทางตัน "นาย... มีคนอื่นใช่ไหม" "เปล่า" "ถ้าไม่ นายจะบอกเลิกฉันทำไม"
ผู้หญิงก็เหมือนกับหมากฝรั่ง พอเคี้ยวเสร็จจนหมดรสชาติก็แค่คายทิ้ง พลาด! ต้องใช้คำว่าพลาด เพราะฉันดันไปตกหลุมพรางของตัวเอง กะจำทำให้คนที่แอบหลงรักรู้สึกอะไรกับตัวเองบ้าง แต่ดันไปรู้สึกกับผู้ชายสารเลวอย่าง 'เซซัส' ผู้ชายสายเคี้ยว เคี้ยวหมดทุกอย่างที่เป็นผู้หญิง ยกเว้นฉันไว้! แต่การร่วมมือกับเขาทำภารกิจบางอย่าง มันก่อให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีต่อหัวใจตัวเอง ต้องรีบทำให้สำเร็จ ก่อนที่ 'จิน' คนนี้จะหันเหไปสนใจไอ้บ้าเคี้ยวไม่เลือกอย่างเขา "เหมือนโดนฟันแล้วทิ้งเลยอะ" เหอะ ใครกันแน่ที่ฟันใคร "เธอต่างหากปะ ลากฉันขึ้นเตียง ใครผิดไหนตอบ"
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
เมื่อนางย้อนยุคกลายเป็นพระชายาคังที่ถูกขังอยู่ในโรงขังคนบ้า เพิ่งมาถึงฉินเซิงก็กำจัดคนสองคนที่ต้องการทำร้ายนาง นางบุกเข้าไปในงานแต่งงานของคู่รักชั่วชาสองคนนั้นในชุดแดง นางหยิ่งผยองและยั่วยุ ทำให้ชายชั่วโกรธจนกัดฟันแน่นแต่กลับทำอะไรไม่ได้ และหญิงร้ายนั้นก็เกลียดชังอย่างมากทว่าเอาคืนไม่ได้ ท่านอ๋องจิ้นได้เห็นสถานการณ์ทั้งหมดนี้ เขาโค้งงอริมฝีปาก สตรีนางนี้ช่างแตกต่างจากคนอื่นจริงๆ ถูกใจเหลือเกิน เขาจะเอาชนะใจนางและให้ชีวิตที่ดีแกนาง
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"