งานแต่งอาจไม่ใช่จุดจบของความรัก ถ้ามันไม่ได้เกิดขึ้นจากความเต็มใจตั้งแต่แรกของทั้งสองฝ่าย *********************** เมื่อการแต่งงาน คือจุดเริ่มต้นของปัญหาทั้งหมด เมื่อเริ่มต้นจากไม่ได้รัก แต่กลับมารักในวันที่ต้องหย่า
1
หวังดี
“ภณนายไปเรียนมหาวิทยาลัยมา ณิศาเขาไม่เหมือนเดิมแล้วนะ”
ปาลิดาตัดสินใจมาเตือนเพื่อน ซึ่งเป็นเพื่อนที่เธอแอบหลงรักมาตั้งแต่เด็ก ๆ
“ไม่เหมือนเดิมยังไง ดิวนี่เธอโตแล้วนะ ยังจะไม่เลิกอิจฉาณิศาเขาอีกเหรอ”
ปาลิดาคิดแล้วว่า กันตภณไม่มีทางเชื่อในสิ่งที่เธอมาเตือนเขา และสุดท้ายเธอเองนั่นแหละที่จะเป็นฝ่ายโดนว่าให้ช้ำใจกลับมา
“นายจะคิดจะว่าอะไรเรา ก็ตามใจ แต่หัดเปิดหูเปิดตาดูบ้าง เผื่อจะโง่น้อยลง” หญิงสาวเริ่มมีอารมณ์
“ได้ แต่เธอก็ควรจะไปลดความขี้อิจฉาลงบ้าง อย่างไรเราก็เป็นเพื่อนกันมานานทั้งสามคน ณิศาเขาไม่เคยว่าเธอเลยสักคำ มีแต่เธอที่คอยจะมาใส่ร้ายเขาตลอดเวลา”
ชายหนุ่มรักและเชื่อใจในตัวแฟนสาวมาก เพราะเขากับเธอ ตกลงคบกันเป็นแฟนมาเกือบสิบปีแล้ว
กันตภณเขาจำได้เมื่อตอนเด็กๆ ปาลิดาแอบชอบเขาถึงขนาดเขียนจดหมาย มาวางไว้ที่ใต้โต๊ะทุกวัน และวันที่เขาตัดสินใจเป็นแฟนกับณิศา ดิวก็เอาแต่ร้องไห้และอาละวาดใส่ณิศาหาว่าแย่งเขาไปจากเธอ
“ฉันยอมรับ ว่าเมื่อตอนเด็กๆ ฉันมันขี้อิจฉา แต่ตอนนี้ฉันโตแล้ว จำไว้นะว่าฉันมาเตือนนายแล้ว”
ถึงแม้จะเตรียมใจมาบ้าง ว่าชายหนุ่มไม่มีทางเชื่อเธอแน่นอน แต่พอเจอเข้าจริงๆ ปาลิดาก็อดเสียใจไม่ได้
เมื่อเพื่อนสนิทในวัยเด็กขี่จักรยานกลับบ้านไป ภณก็อดคิดกับคำพูดที่ปาลิดาพูดไม่ได้ เพราะตัวเขาเอง เข้าไปเรียนมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพไม่ค่อยได้กลับมา แต่ณิศาก็ยังคงติดต่อกับเขาตามปกติ แต่มันก็คงไม่เหมือนตอนที่อยู่ด้วยกัน
“ภณคะ วันนี้ณิศาทำขนมบัวลอยมาฝากด้วย”
หญิงสาวชูปิ่นโตที่เธอทำขนมเอามาฝากแฟนหนุ่ม ที่กำลังจะออกไปช่วยงานพ่อของเขาที่ไร่
“ขอบคุณมากครับ น่ารักที่สุดเลยแฟนภณ”
หญิงสาวโผเข้ากอดคอแฟนหนุ่ม และหอมแก้มเขาอย่างที่เธอไม่เคยทำมาก่อน ทำให้ชายหนุ่มอดคิดตามคำพูดของปาลิดาไม่ได้ ว่าคนรักของเขาไม่เหมือนเดิม
“ภณคะ ตอนนี้ชาวบ้านแถวนี้เขาพากันขายที่ดินให้กับคุณนิรัชคนสนิทของนายอำเภอกันหลายคนเลยนะคะ เพราะเขาให้ราคาดีมาก”
ณิศาทำท่าออดอ้อน พูดจาน่าเชื่อถือ เพื่อหวังโน้มน้าวจิตใจคนรักให้สนใจในสิ่งที่เธอพูด
“ที่ดินของผมก็เหลือไม่มาก ส่วนมากพ่อก็ขายให้กำนันไปหมดแล้ว” กันตภณอธิบาย
“ชาวบ้านหลายคน ก็รับเงินจากคุณนิรัชแล้วเอาไปซื้อที่คืนจากกำนันแล้วเอามาขายต่อให้คุณนิรัชกันนะ ภณไม่สนใจบ้างเหรอ ได้กำไรสบายๆเลย” ณิศายังโน้มน้าวใจต่อไป
“ผมว่ามันดูปวดหัว ถ้าเขาอยากได้ก็ให้เขาไปซื้อกับกำนันเอาเองแล้วกัน ผมขอตัวไปทำไร่ก่อนนะ ขอบใจมาสำหรับบัวลอย รับรองผมจะกินให้หมดเลย” ชายหนุ่มคว้าปิ่นโตและรีบขี่รถจักรยานยนต์ตามไปช่วยพ่อที่ไร่ที่อยู่ไปอีกหมู่บ้านหนึ่ง
“เอ้าทำไมมาช้าล่ะลูก” วิมลถามลูกชายเพราะวันนี้เขาตามมาช่วยช้ากว่าทุกวัน
“ณิศาเขาเอาบัวลอยมาฝากครับพ่อ และชวนคุยเรื่องขายที่เลยเพลินไปหน่อย” ลูกชายเล่าให้ผู้เป็นพ่อฟัง
“เมื่อวันก่อน แฟนลูก มันก็มาพูดกับพ่อ ไม่รู้ไอ้คนที่ชื่อนิรัชมันจะอยากได้ที่ดิน ที่เราขายให้พ่อกำนันไปทำอะไร พ่อก็บอกณิศามันไปว่าอยากได้ก็ให้ไปซื้อกับพ่อกำนันเอาเอง”
“ผมก็บอกไปอย่างนั้นเหมือนกัน ปวดหัวเนาะ ” ลูกชายส่ายหัวกับเรื่องนี้
ก่อนที่นารีแม่ของกันตภณจะป่วย ครอบครัวของเขามีที่ดินจำนวนมาก ถือได้ว่าเป็นครอบครัวที่มีฐานะครอบครัวหนึ่งในตำบลเลย แต่เพราะวิมลต้องการรักษาภรรยาให้ดีที่สุด เขาจำเป็นต้องเปลี่ยนที่ดินให้เป็นเงิน จึงได้ตัดสินใจขายที่ให้กำนัน และสัญญาใจกันไว้ ว่าถ้ามีเงินเมื่อไหร่วิมลจะมาซื้อคืน
“พ่อดิวไปพูดกับภณแล้ว แต่ไม่มีประโยชน์เลย” ปาลิดากลับบ้านมาบ่นให้พ่อฟัง
“อยู่ดี ๆ ลูกจะให้เขาเชื่อคนที่มาพูดถึงแฟนเขาในทางที่ไม่ดีเหรอ ของแบบนี้มันต้องใช้เวลา” กำนันสอนลูกสาว
“ไม่ใช่แค่ไม่เชื่อนะพ่อ กลับมาว่า ว่าหนูเป็นคนขี้อิจฉา แอบชอบเขาตั้งแต่เด็ก ๆ พอเขาไปชอบกับณิศาหนูก็เลยมาใส่ความ”
คนเล่ายืนกอดอกด้วยความโมโห และน้อยใจ ที่คำพูดและความหวังดีไม่มีค่าเลย
“ไม่ต้องกลัวหรอกลูก ถ้าวิมลมาซื้อที่คืนตอนนี้ พ่อจะยังไม่ยอมขายให้ พ่อก็อยากจะรู้จัง ว่าไอ้คนสนิทนายอำเภอ มันชื่ออะไรนะ”
“นิรัชจ๊ะพ่อ”
“เออ..นิรัช มันจะอยากได้ที่ดินเพียงแค่บางแปลงทำไม พอมันได้ไป พ่อก็เห็นมันจ้างรถมาขุด แล้วก็ทิ้งที่ไว้แบบนั้น”
นิรัชเคยมาติดต่อขอซื้อที่ของวิมลพ่อของกันตภณกับกำนันไปแล้วรอบหนึ่ง แต่กำนันปฎิเสธ เพราะเขาจะขายที่คืนให้กับเจ้าของเท่านั้น ด้วยความที่กำนันสมยศก็มีบารมีและลูกน้องมากกว่านายอำเภอเสียอีก นิรัชจึงไม่กล้ามาอีก
“แล้วลูกล่ะ ยังชอบเจ้าภณอยู่ไหม พ่อก็อยากได้มาเป็นเขยเหมือนกัน การศึกษา นิสัยใจคอ หาไม่ได้ง่ายๆนะผู้ชายแบบนี้”
ผู้เป็นพ่อถามแทงใจดำลูกสาว ตลอดสิบปีที่ผ่านมา ไม่มีวันไหนเลย ที่ปาลิดาจะหยุดรักกันตภณ ต่อให้มีหนุ่มๆ มาตามจีบเธอมากมาย เพราะทั้งตำบลไม่มีใครสวยมากไปกว่าเธออีกแล้ว
“ยังชอบอยู่ แต่คงไม่มีประโยชน์อะไร ภณเขายังมั่นคงในรักที่มีให้กับณิศา ถึงแม้ตอนนี้เขายังไม่รู้ความจริง ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง ระหว่างที่เขาไปเรียนต่อ แต่ถึงแม้เขาจะรู้ดิวว่าเขาก็ไม่เลิกกับณิศาหรอก”
เมื่อความรักมันบังตาอารมณ์หึงก็เกิดขึ้นอย่างไม่รู้ตัวเพียงค่ำคืนเดียวที่กวีท่านประธานหนุ่มมองเห็นนักศึกษาฝึกงานที่เขาหลงรักเดินเคียงคู่มากับชายอื่นเขาก็ตัดสินใจมอบความเป็นสามีให้เธอ บัวชมพูอยากจะหนีไปให้ไกลจากคนใจร้าย...แต่เขาดีกับเธอทุกอย่างหนี้บุญคุณครั้งนี้เธอคงไม่มีทางตอบแทนได้หมด ความรักเริ่มก่อตัวขึ้นแต่ทุกอย่างกลับต้องพังลงเมื่อความจริงบางอย่างปรากฏในวันเดียวกับที่เธอรู้ตัวว่ากำลังอุ้มท้องสายเลือดของท่านประธานอยู่ V V V “กล้าทำแบบนี้ในที่ทำงานไม่กลัวว่าใครจะเห็นแล้วเอาไปฟ้องคุณแม่และผู้หญิงที่มากับท่านวันนั้นหรือคะ” บัวชมพูมองจ้องหน้าแบบท้าทายในเมื่อวันนี้เขาดูถูกเธอ กล่าวหาว่าเธอกำลังนอกใจไปมีคนอื่น หญิงสาวก็อยากจะแสดงให้เขารู้เหมือนกันว่าเขาเองก็ไม่ได้มีอะไรดีไปกว่าเธอ “ผมไม่กลัวอะไรทั้งนั้นไม่ว่าผมจะนอนกับใครมันก็สิทธิ์ของผม ใครอยู่ได้ก็อยู่ ใครอยู่ไม่ได้ก็ไปแต่สำหรับคุณ..อย่าลืมที่คุณเคยบอกว่าอยากตอบแทนในสิ่งที่ผมทำให้ถ้าอยากเป็นคนอกตัญญูก็แค่เก็บเสื้อผ้าแล้วไปจากผมก็เท่านั้น” กวีรู้ดีว่าคำขู่นี้ยังได้ผลเพราะครอบครัวของบัวชมพูยังคงต้องการความช่วยเหลือจากเขาซึ่งนับจากวันนั้นวันที่กวีเดินทางไปเยี่ยมแม่ของหญิงสาวที่บ้าน พ่อของบัวชมพูก็พูดคุยติดต่อธุระกับกวีด้วยตัวเองโดยที่ไม่ผ่านลูกสาวอีกเลยบัวชมพูอยากจะห้ามพ่อ แต่เธอก็ไม่รู้จะใช้เหตุผลข้อไหนจึงทำได้แค่ใช้ร่างกายและหัวใจของตัวเองในการตอบแทนทุกอย่างที่กวีทำให้กับครอบครัวของเธอ V v
ภูริดล นักธุรกิจหนุ่ม เขาทำทุกอย่างไม่เคยมีคำว่าไม่สำเร็จยกเว้นเรื่องเดียวคือการมีครอบครัวที่มีความสุขตามที่บิดาต้องการเพราะนั่นไม่ใช่สิ่งที่เขาปรารถนา พิรฎา สาวน้อยที่ต้องการมีชีวิตอิสระหลุดพ้นจากครอบครัวที่เธอไม่เคยมองว่ามันอบอุ่นและเธอก็ตัดสินใจเดินออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่ด้วยการยอมเซ็นสัญญาเป็นภรรยารับจ้าง *************** “ปิดไฟได้แล้ว” คนหล่อร่างใหญ่กึ่งนอนกึ่งนั่งอยู่บนเตียงมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยแววตาเจ้าชู้จนคนถูกมองถึงกับอายต้องหลบสายตาทันที “คุณง่วงก็นอนไปก่อนเลยฉันยังไม่ง่วงว่าจะนั่งทำอะไรเพลินๆ” หญิงสาวพยายามหาเรื่องมาถ่วงเวลาเพราะเธอรู้ว่าหลังจากที่ไฟในห้องถูกปิดลงทุกดวงอะไรจะเกิดขึ้นและถึงเวลานั้นเธอก็คงทำได้แค่เพียงยอมเขาเท่านั้น “ปล่อยค่ะคุณดล พิมพ์ว่าเราอย่าเพิ่ง...” หญิงสาวสะดุ้งสุดตัวด้วยความตกใจเมื่อถูกอีกฝ่ายลุกขึ้นจากเตียงนอนมาอุ้มร่างของเธอและโยนลงบนที่นอนก่อนที่เขาจะเอาตัวเองมาค่อมร่างเล็กของเธอไว้พร้อมกับขึงมือทั้งสองข้างของเธอไว้เหนือศีรษะ ******************* “สัญญามันควรจะจบในเมื่อคุณก็ได้ฉันเป็นเมียแล้ว” หญิงสาวในชุดนอนสายเดี่ยวผ้าเบาหวิวกำลังยื้อแย่งกระดาษสัญญาจากมือของชายหนุ่มที่นุ่งเพียงแค่ผ้าเช็ดตัวผืนเดียว “เด็กก็คือเด็กตอนที่เซ็นไม่เคยคิดจะอ่านทุกอย่างให้ละเอียดอยากรู้ใช่ไหมว่าทำไมสัญญาฉบับนี้ยังต้องมีต่อไป เอาไปอ่าน อ่านให้ดีและหวังว่าจะตาสว่างขึ้นอย่าโวยวายอะไรในสิ่งที่ตัวเองเซ็นไปแล้ว” พิรฎารีบรับสัญญาจากมือของอีกฝ่ายมาอย่างรีบรอน หญิงสาวกวาดสายตาอ่านอย่างละเอียดหัวใจของเธอแทบจะหลุดลงมากองอยู่ที่พื้นเมื่อความจริงคือนอกจากเธอจะต้องเป็นภรรยารับจ้างของเขาแล้วเธอยังจะต้องอุ้มท้องและคลอดลูกของเขาให้สำเร็จสัญญาฉบับนี้ถึงจะเป็นอันสิ้นสุดโดยที่ตัวเธอเองจะไม่มีสิทธิ์ใดๆในตัวเด็กน้อยที่เกิดมา *************************** ความรักเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้มารู้อีกที อีกฝ่ายก็ท้องแล้วทำไงดีล่ะทีนี้ในเมื่อไม่มีใครอยากให้สัญญาสิ้นสุดอยากให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้ตลอดชีวิตแต่ความจริงบางอย่างที่ภูริดลไม่เคยได้รับรู้มันทำให้ชายหนุ่มเริ่มไม่แน่ใจว่าตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกันหญิงสาวที่เขานอนกอดทุกคืนมีอะไรบ้างที่เธอโกหกและอะไรบ้างที่เป็นความจริง ฝากติดตามความรักของชายจอมดุกับสาวจอมเถียงด้วยนะคะ เช้าตรู่ฤดูหนาว
เขาต้องการมีลูกแต่ไม่ต้องการมีครอบครัว การมีภรรยาเป็นเรื่องเลวร้ายสำหรับเขา ความรักนำมาแต่ความทุกข์ และไม่เคยทำให้ใครได้รู้จักความสุขที่แท้จริง ภาคินถูกมารดาใส่ความคิดนี้มาตั้งแต่วัยเยาว์ เพราะพ่อของเขาทิ้งครอบครัวไปแต่งงานใหม่ทำให้แม่ต้องสู้ทนเลี้ยงเขามาด้วยความลำบาก แต่…. วันนี้มารดาของเขากลับยื่นคำขาดต้องการทายาทสืบสกุลด้วยอาการป่วยของผกาทำให้เธอตัดสินใจให้ลูกชายเร่งผลิตทายาทให้ได้ก่อนที่เธอจะจากโลกนี้ไป แล้ว.. ขนมผิงสาวน้อยตกงานเธอไม่มีทางเลือกเท่าไหร่เพราะพ่อของเธอกำลังป่วยหนักต้องการใช้เงินในการรักษาเธอจึงยอมเซ็นสัญญาทั้งที่มันสุดแสนจะเจ็บปวดหัวใจ ***เป็นแม่ของลูกให้เขาที่ไม่ใช่ภรรยาและไม่มีสิทธิ์เป็นกระทั่งคนรัก*** */* รักหวาน ๆ โรแมนติกกับบรรยากาศของสะปันฝากติดตามกันด้วยนะคะ*/* .....เทพพิสุทธิ์...
**กินเด็กเขาว่าอมตะ** เธอหนีจากไฟที่แผดเผามาซบอกกว้างที่แสนอบอุ่น ความรักที่เกิดขึ้นตั้งแต่ค่ำคืนแรก ทุกอย่างมันควรจะจบลงแค่นั้น.....ทว่าสัมผัสรักที่ทั้งคู่มอบให้แก่กันมันมีความสุขเกินกว่าจะตัดใจ ********* “อืม...แดน” ใบหน้าที่คมภายใต้ผิวขาวค่อย ๆ ใช้ปลายลิ้นเลื่อนต่ำลงมาก่อนที่เขาจะจัดการกับเสื้อตัวบางที่ขวางกั้นเส้นทางที่เขาจะได้ใช้สองมือสัมผัสกับเนื้อนุ่มของอกอิ่มของหญิงสาวที่กำลังนอนหลับตาพริ้มในที่สุดอาภรณ์ทั้งส่วนบนและส่วนล่างก็ถูกถอดกองไว้ข้าง ๆ ก่อนที่แดนไตรจะสาละวนกับยอดที่ชูช่อแข็งตั้งรับสัมผัสของลิ้นอุ่นแสนหวานของเขา */* */* */* ความรักครั้งใหม่ทำให้เธอตัดสินใจที่จะเดินออกจากความเจ็บปวด.....ทุกอย่างกำลังจะลงเอยด้วยดี...ถ้าชายหนุ่มที่เธอหวังให้เป็นที่พักใจสุดท้ายเขาไม่ใช่ลูกชายของศัตรูอดีตสามีเธอ จบ Happy นะคะ ปะหนัน
ชายคนเก่าในร่างใหม่ เขากลับมาเพื่อลองใจเธอ การพิสูจน์หัวใจของหญิงสาวมันอาจเป็นการมองหารักแท้สำหรับปองภพ แต่สำหรับดาวิกามันคือความหลอกลวงและทำร้ายหัวใจของคนที่รอเขามาถึง5 ปี ************** “สาแก่ใจแล้วหรือยังกับแผนการพิสูจน์รักแท้ของพี่ แต่สำหรับดามันคือการดูถูก ถึงดาจะจนแต่ก็ไม่ได้กระหายความรวยจนลืมฟังเสียงหัวใจ เสียแรงที่รู้จักกันมาเกือบสิบปี พี่มันก็แค่ผู้ชายที่รักแต่ตัวเอง” ปองภพยืนฟังดาวิกาต่อว่าเขาจนจบ เขายอมรับทุกคำด่าทอของหญิงสาว “ใช่พี่เห็นแก่ตัว พี่คิดแต่ในมุมของตัวเอง ถูกแล้วที่ดาจะโกรธพี่แต่ขอร้องอย่าเกลียดพี่ได้ไหม พี่พร้อมจะทำตามข้อเสนอของดาทุกอย่างที่พูดบนเวที แล้วเวลาจะเป็นเครื่องพิสูจน์ ว่าผู้ชายคนนี้ใช่พี่ภพคนเดิมไหม” หญิงสาวกำมือแน่น มองสบตาคนรักด้วยดวงตาที่แดงกร่ำ น้ำใส ๆ ไหลคลอตาแต่หญิงแกร่งอย่างดาวิกาไม่มีทางร้องไห้ต่อหน้าใครแน่ ๆ “โอกาสมีแค่ครั้งเดียว ถ้าทำมันไม่ได้ ก็อย่าใช้คำว่าขอโทษเลย เพราะมันคงไม่ใช่ความพลั้งพลาดแต่มันคงเป็นสันดานลึก ๆ ที่เพิ่งแสดงออกมา” ***เมื่อได้รับโอกาส ก็อยู่ที่ตัวเองแล้ว ว่าจะรักษามันไว้หรือปล่อยรักให้หลุดมือไป**** /*/ความเผ็ดเราก็มี ความหวานเราก็เยอะ ฝากผลงานของปะหนันด้วยนะคะ/*/
เหมันต์เจ้าของไร่ชาที่รักในชีวิตโสดเป็นที่สุดแต่กลับดันมามีใจให้กับลูกสาวเพื่อนแม่ ที่รักการทำขนมมากที่สุดในชีวิต แต่เขาก็เลือกที่จะปากแข็งและทำทุกอย่างตรงข้ามหัวใจ ******************************************** ความรักที่ไม่ชัดเจน ก็ไม่มีค่าพอที่รั้งอีกฝ่ายให้อยู่ได้ ถ้ารักเป็นเพียงแค่คำพูดแต่มันไม่เคยถูกแสดงผ่านการกระทำ ***************** “เอาไงเอากันวะ ต้องคุยให้รู้เรื่อง ดูสิถ้าเป็นผัวเมียกันแล้วจะกล้าไปไหนอีกไหม” ห้องนอนที่ปิดไม่สนิทอยู่แล้ว ถูกดันให้เปิดออกกว้างด้วยแรงของชายหนุ่มที่กำลังหึงขึ้นหน้า “ตกลงจะไปจริง ๆ ใช่ไหม” เหมันต์อยู่ดี ๆ ก็ถามคำถามที่คนฟังยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย เพราะทิพย์นารียังไม่ได้พูดเรื่องนี้กับลุลา หญิงสาวหันมามองหน้าคนถามลับหันกลับไปนั่งพับผ้าต่อ ยิ่งสร้างอารมณ์ความโกรธให้กับเหมันต์ให้รุนแรงขึ้น ร่างหนาโถมเข้าใส่คนร่างเล็กที่กำลังนั่งพับผ้าโดยไม่รู้ตัวว่าจะโดนอีกฝ่ายทำรุนแรงใส่ เหมันต์จัดการผลักร่างบางนอนลงกับเตียงนอน โดยที่ตัวเขาเองลืมไปเลยว่าประตูห้องยังปิดไม่สนิท ลุลาได้แต่พยายามใช้มือปัดป้องตัวเองจากการบุรุก โดยที่เธอยังคงไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น อยู่ดี ๆ ทำไมอีกฝ่ายถึงได้ทำท่าโมโหและทำกับเธอแบบนี้ เสื้อเชิ้ตสีขาวถูกดึงออกจากกันกระดุมทุกเม็ดหลุดออกจากตัวเสื้อ กางเกงขาสั้นถูกถอดโดยง่ายทั้งที่เจ้าตัวก็ขัดขืนเต็มกำลัง ชายหนุ่มซุกไซ้ซอกคอยาว สองมือจับมือของลุลาขึงไว้กับที่นอน เมื่อปากหนาสัมผัสกับเรือนร่างของหญิงสาว ลุลาก็เป็นเหมือนเทียนที่ถูกไปแล้วหลอมละลาย เสียงของคนไม่เต็มใจดังจนทิพย์นารีต้องเดินออกจากห้องมาดู แต่ตอนนั้นคนตัวเล็กก็อ่อนระทวยไปหมดแล้ว คนเป็นแม่ที่เคยผ่านรสชาติแบบนี้มาก่อนแล้ว ทำได้แค่ปิดประตูให้สนิทด้วยเสียงที่เบาที่สุด ***หากเปรียบฉากรักของทั้งคู่เป็นเหมือนภาพยนตร์ ก็คงเป็นหนังสงครามที่ยิงกันได้ทั้งวัน***
หลังจากแต่งงานได้ 2 ปี ในที่สุดเจียงเนี่ยนอันก็ตั้งครรภ์สักที ความดีอกดีใจของเธอแต่กลับแลกกับคำขอหย่าของสามี หลังจากการสมคบคิด เธอนอนในกองเลือด และต้องการขอร้องเขาให้ช่วยเด็กเอาไว้ แต่กลับไม่สามารถติดต่อกับอีกฝ่ายได้ ด้วยความสิ้นหวังเธอจึงออกจากประเทศไป ต่อมาในงานแต่งงานของเจียงเหนียนอัน คุณกู้เสียการควบคุมและคุกเข่าลง ดวงตาของเขาแดงก่ำ "มีลูกของฉัน แล้วเธออยากจะแต่งงานกับใครกัน?"
ในวันครบรอบแต่งงาน เหวินซือถูกเมียน้อยของสามีวางยาและไปมีอะไรกับคนแปลกหน้า เธอสูญเสียความบริสุทธิ์ไป แต่เมียน้อยคนนั้นกลับตั้งท้องลูกของสามี ภายใต้ความกดดันต่างๆ เหวินซื่อสูญรู้สึกสิ้นหวังและตัดสินใจหย่า แต่สามีของเธอกลับไม่แยแสโดยคิดว่าเธอกำลังเล่นลูกไม้อยู่ หลังจากการหย่ากัน เหวินซือกลายเป็นจิตรกรที่มีชื่อเสียงและมีผู้ชายนับไม่ถ้วนที่ตามจีบเธอ อดีตสามีไม่ยอมและขอคืนดีไปถึงที่ จากนั้นก็ว่า เธออยู่ในอ้อมแขนของคนใหญคนโตคนหนึ่ง และชายคนนั้นก็พูดอย่างสงบว่า "ดูให้ดี นี่คือพี่สะใภ้ของนาย"
คนอื่นเขาข้ามมิติมาเป็นนางร้ายแล้วได้กับพระเอก ทว่าหวางเสี่ยวเหยาเข้าร่างนางร้ายแล้ววิ่งตามตัวประกอบชายแสนจืดจาง เพื่อตามเขามาปลูกผักซะงั้น…
มังกร หนุ่มหล่อหน้าใสลูกชาวไร่ชาวนา อายุ 22 ปี ที่ได้รับทุนเรียนดีจนจบมหาวิทยาลัย ได้แบกร่างกายพาหัวใจอันแตกสลายกลับบ้านเกิดทันทีในวันที่จบการศึกษา เพราะบิดามารดาได้เสียชีวิตกระทันหันทั้งคู่หลังจากกลับจากการนำข้าวไปขายและโดนสิบล้อที่เบรคแตกเสียหลักพุ่งชนรถของพ่อแม่ของมังกร เมื่อสูญเสียพ่อและแม่ไปอย่างกระทันหันเขาจึงกลับบ้านเกิดเพื่อไปทำไร่ทำนาสานฝันของพ่อแม่และนำความรู้ที่ได้เรียนมากลับมาพัฒนาที่ดินมรดกในบ้านเกิด หากแต่ว่ามังกรยังไม่ทันได้ทำอะไรเขากลับตายลงอย่างไม่ทันตั้งตัว ตายแบบไม่ตั้งใจและไม่เต็มใจที่สุด เขาจำได้เพียงแค่ว่าหลังจากเดินทางกลับมาถึงบ้านเกิดเขาได้ไปไหว้พ่อกับแม่ที่วัดในหมู่บ้าน แล้วก็กลับมานอนแต่พอเขากลับตื่นขึ้นมาในร่างของเด็กชาย อายุ 8ขวบ กับบ้านพุๆพังๆ เขาตื่นมาในร่างของคนอื่นไม่พอ แล้วเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่นี่มันที่ไหน และใครพาเขามา แล้วมังกรจะทำยังไงต่อไปกับชีวิตที่อยู่ในร่างเด็กชายยากจนคนนี้ มาติดตามชีวิตใหม่ของมังกรกันต่อไปค่ะ
หลังจากแต่งงานกันมาสามปี เวินเหลี่ยงก็ยังไม่เคยได้ความรักจากฟู่เจิ้งแต่อย่างใดเลย เมื่อรักแรกของเขากลับมา สิ่งที่รอเธออยู่คือหนังสือการหย่า "ถ้าฉันมีลูก คุณยังเลือกหย่าไหม?" เธออยากจับโอกาสสุดท้ายนี้ไว้ แต่แล้วมีแต่คำตอบที่เย็นชาว่า "ใช่" เวินเหลี่ยงหลับตาและเลือกที่จะปล่อยมือ ...ต่อมาเธอนอนอยู่บนเตียงคนไข้ด้วยความสิ้นหวังและลงนามในข้อตกลงการหย่า "ฟู่เจิ้ง เราไม่ได้เป็นหนี้กันอีกต่อไปแล้ว..." ชายที่มีความเด็ดขาดและเย็นชามาโดยตลอดนอนอยู่ข้างเตียงขอร้องให้อีกฝ่ายกลับมาด้วยเสียงแผ่วเบา "เหลียง ได้โปรดอย่าหย่าได้ไหม?"
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"