ความรักมันเริ่มต้นมาจากหอพักเมื่อ 'ซินดี้' ได้มาเจอกันกับ 'เหนือ' รูมเมทคนใหม่ของเธอเอง จนเกิดเรื่องราวมากมายขึ้นภายในห้องพัก เธอที่ถูกตีหน้าว่าเป็นมือที่สามโดยที่ไม่รู้ตัว กับเขาที่ต้องมาหาแฟนเพื่อตบตาพ่อและแม่
Sindy | Talk
"ในตอนนี้ สถานะของฉันคืออะไร!"
"ในตอนนี้ ฉันยังสำคัญอยู่ไหม"
"แต่พอใครถาม! ไม่เหมือนที่คุยกันไว้"
"เธอตอบเขาฉันเป็นแค่พี่น้องกัน!"
เสียงเพลงในร้านเหล้าดังกระหึ่มพวกนักศึกษาวัยรุ่นต่างพากันมารวมตัวที่นี่กันในคืนวันอาทิตย์ ฉันเองเป็นหนึ่งเสียงที่กำลังแหกปากร้องเพลงอย่างบ้าคลั่งหลังจากที่สาดแอลกอฮอล์ใส่คอไปหลายต่อหลายแก้วแล้ว จริงสิฉันลืมแนะนำตัวไปเสียสนิทเลย ฉันชื่อซินดิ้ อยู่ปีสองคณะบัญชี ฉันว่าพูดแค่นี้ก็น่าจะจำกันได้แล้วนะ
ฉันเองก็พึ่งจะอกหักมาหมาดๆ มั้งนะ แต่ขอมีฟิวส์อกหักกับเขาหน่อยแล้วกัน นี่ไม่ได้จะมั่นหน้านะแต่อยากมีอารมณ์อกหักบ้าง แบบนาน ๆ จะมีแบบนี้สักทีอะ ละที่ฉันต้องมานั่งกินเหล้าหน้าโง่เป็นไอ้โบ้อยู่แบบนี้ก็เพราะ พี่ภูริช แฟนของฉันที่เขาไม่เคยจะบอกกับใครเลยว่าเป็นแฟนกับนอกจากบอกว่าเราเป็น แค่ พี่ น้อง กัน
จนล่าสุดที่เล่นทำเอาฉันต้องเลิกกับเขาก็เพราะอยู่ ๆ ฉันก็กลายเป็นเมียน้อยเขาเฉย อยากนั่งหัวเราะให้กับตัวเองเหมือนกันนะที่โง่เป็นไอ้โบ้อยู่นมนาน โง่ที่ไปเป็นเมียน้อยเขาแบบไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขามีเมียแล้วอะดิ หน้าหงุดหงิดชะมัดเลยโว้ย
"เป็นยังไงล่ะมึง ไปโง่เป็นเมียน้อยอีพี่ภูของมึงหนะ" น้ำเสียงของเพื่อนฉันคนหนึ่งพูดออกมาอย่างสมน้ำหน้า
"กูไม่ได้โง่ เขาเรียกว่า ไม่รู้"
"หรอวะมึง กูเห็นเพื่อนกูเป็นหมาอยู่ตั้งนานอะ ไม่เรียกว่าโง่จริงดิ" แนทพูดย้ำจนฉันเองก็อดจะหมั่นไส้มันไม่ได้เหมือนกัน ทำได้เเต่ทำเสียงจิ๊อยู่แบบนั้น
"นี่ซินดี้" ฟิล์มเอ่ยเรียกฉัน "กูว่ามึงเลิกคบไอ่พวกผู้ชายแบบอีพี่ภูของมึงเหอะ แต่ละคนที่มึงคบมาเนี่ยจะมีดี ๆ สักคนไหมฮะ"
"กูเห็นด้วยค่ะสาว" แนทเสริมพร้อมพยักหน้าอย่างเห็นด้วย เอาจริงๆฉันก็ไม่ได้อยากคบหรอกพวกคนที่ผ่าน ๆ มาหนะ แต่พอดีว่าเขารวยไง และอวยใหญ่เว่อร์
"ก็เขารวยแล้วอวยห้าหกไงมึง จะให้กูปล่อยไปหรอ"ฉันพูดอย่างขบขันก่อนที่เพื่อนฉันมันจะพากันส่ายหน้าไปมาแล้วแสยะยิ้มให้
เอาจริงๆฉันก็ไม่ได้คบคนที่เงินหรอกนะ คือไม่ได้เป็นคนที่มีสเป็กตายตัวอะค่ะ แต่บางที่คนที่เข้าหาก็มีตัวพวกรวย ๆ ทั้งนั้น ก็เลยขอสูบเลือดสูบเนื้อมาหน่อยละกัน เวลาที่เลิกกันไปฉันจะได้ไม่ต้องเสียใจมาก
"ละสรุปคืนนี้มึงจะนอนหอกูหรอ" แนทเอ่ยถามขึ้นมา
"อืม กูก็ไม่รู้เหมือนกันอะมึง ค่อยดูอีกทีแล้วกัน"
"เอ้า ไหนว่ามึงต้องไปทำความรู้จงความรู้จักกับรูมเมตใหม่ไม่ใช่รึไง" ก็จริงที่ฉันต้องไปทำความรู้จักกับรูมเมตใหม่ แต่คงไม่ใช่วันนี้หรอกเพราะคงต้องเจอกันอีกนาน ค่อยไปทำความรู้จักกันวันอื่นก็คงยังไม่สายหรอก แต่อีกใจฉันเองก็อยากรีบไปทำความรู้จักกับเขานะ เห็นว่าพึ่งย้ายเปลี่ยนหอมาละก็เปลี่ยนบ่อยเสียด้วย แถมยังยังได้ยินมาว่าเขาหล่ออีกด้วยแหละ
"พวกมึงเดี๋ยวกูมานะ ไปเข้าห้องน้ำแปปนึง" อยู่ ๆ ก็รู้สึกปวดฉี่ขึ้นมาเลยรีบเดินออกไปเข้าห้องน้ำที่หลังร้าน เพราะมันเงียบที่สุด และน้อยคนที่จะรู้เลยหละว่าด้านหลังมีห้องน้ำอยู่ เลยค่อยข้างเงียบเหมาะที่จะมาทำธุระกับเรื่องอย่างว่าอะนะ
ฉันเดินสาวเท้ามาเรื่อย ๆ จนมาถึงจุดหมายก็รีบจ้ำอ้าวเดินเข้าไปทำธุระให้เสร็จ แล้วจึงเดินออกมาล้างมือที่อ่างล้างมือด้านนอก ในหัวก็พลางนึกถึงเรื่องที่ฉันพึ่งเจอมา คิดแล้วก็ยังหงุดหงิดไม่หาย อย่าให้ฉันเจอนะพี่ภู ฉันจะขอตบหน้าสักทีเถอะ ล้างมือเสร็จก็สะบัดน้ำออกแล้วจึงจัดผมจัดชุดให้เรียบร้อยก่อนจะเดินออกไป
แต่ก่อนที่ฉันกำลังจะเดินเข้าไปด้านในร้านก็ต้องมาเจอกับภาพบาดตาบาดใจ พี่ภูกำลังกอดจูบนัวเนียกับผู้หญิงคนหนึ่งอยู่อย่างเร่าร้อนทีเดียว แต่ดูเหมือนทั้งคู่จะไม่ได้สนใจคนรอบข้างหรือคนที่เดินผ่านไปมาเสียเท่าไหร่นัก จึงไม่ได้หยุดการกระทำลงหรือไปทำกันที่อื่น ฉันสะบัดหน้าไล่ความคิดออกไป ก่อนที่ภาพตรงหน้าจะทำให้ฉันรู้สึกหงุดหงิดไปมากกว่านี้
จึงรีบเดินออกมาเลย โดยที่ไม่เข้าไปในร้าน พร้อมทั้งทักข้อความไปบอกเพื่อนว่าขอกลับก่อน แล้วจึงเดินขึ้นรถยนต์ที่ขับมาตั้งแต่ค่ำ ๆ ออกไปเพื่อกลับหอทันที แต่ในใจดันรู้สึกหน่วง ๆ ขึ้นมา ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น ตอนที่เห็นพี่ภูกับคนอื่นด้วย ทั้งที่ก็จบกันไปแล้ว และฉันเองก็ไม่ควรจะไปรู้สึกอะไรกับเขาอีกแล้ว แต่ก็นะแผลมันยังสดอยู่ ก็คงจะต้องใช้เวลาละมั้ง
@หอพัก
ฉันขับรถไปจอดในที่ประจำด้านหลังหอ ก่อนจะเดินขึ้นบันไดมาเรื่อย ๆ ประมาณสองชั้นได้ แล้วจึงเดินไปที่ห้องสุดท้ายฝั่งซ้ายมือ ห้อง 509 ก่อนจะหยิบกุญแจออกมาไข เพราะก่อนจะออกจากห้องมา ฉันจัดการล็อคเอาไว้แล้ว เพราะกลัวว่าจะมีขโมยขึ้นมา พอไขประตูได้ก็เปิดออกแล้วเดินเข้าไปด้านใน ก่อนจะปิดประตูลง แล้วเดินเข้าไปด้านในตัวห้อง และเดินตรงไปที่โซฟากลางห้อง เพื่อล้มตัวลงนอน แต่จู่ ๆ ดันมีเสียงที่ดังขึ้นมาจนทำให้ฉันสะดุ้งเด้งตัวขึ้นมานั่ง
"นี่เธอช่วยลุกขึ้นมาหน่อย" เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นมา จนทำให้ฉันต้องเด้งตัวขึ้นมาจากโซฟาตัวโปรด แล้วจ้องมองชายหนุ่มที่พึ่งจะเรียกฉันเมื่อกี้นี้ ฉันไล่สายตามองสำรวจเขาตั้งแต่หัวจรดส้นเท้า ให้ตายเถอะ!
หมอนี่หน้าตาดีเป็นบ้าเลย
"อะไร มองฉันทำไม" ตานั่นถามฉันก่อนจะเดินเข้ามายืนอยู่ที่ปลายโซฟา โดยจ้องมาที่ฉันเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก็ไม่พูด
"นาย นายเป็นรูมเมตใหม่ฉันเหรอ" ฉันเอ่ยถามอยากตะกุกตะกักเมื่อถูกจับได้ว่ากำลังแอบมองเขาอยู่
"อืม ที่หลังปิดประตูห้องก็ช่วยปิดให้มันเบาๆหน่อย มันกวนคนอื่นเขา" หมอนั่นพูดก่อนจะตั้งท่าหันหลังเดินกลับเขาห้องนอนตัวเอง
"เฮ้ย นี่เดี๋ยวดิฉันยังไม่รู้จักนายเลยนะเว้ย" ฉันตะโกนพูดตามหลังเขาไปเสียงดังอย่างโมโห นี่พึ่งมาก็มาขึ้นเสียงสั่งฉันเลยงั้นเหรอ คิดว่าตัวเองหน้าตาดีแล้วคิดจะทำอะไรก็ได้หรือไง
"เหนือ" เขาตอบเสียงเบา ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องตัวเองแล้วปิดประตูใส่เสียงดังพอควร
คนอะไรวะเย็นชาเป็นบ้า กะอีแค่ถามชื่อต้องทำเหมือนฉันไปบีบคอให้พูดด้วยอะ ไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกดิ ฉันก็ไม่ได้อยากรู้มากหรอกนะ เหอะ!
อวิ๋นหลาน นักฆ่าอันดับหนึ่งแห่งศตวรรษที่ 25 ได้ข้ามภพและเกิดใหม่ในร่างของหญิงสาวผู้ไร้ประโยชน์ซึ่งมีชื่อเดียวกันในจวนเทพเจ้าแห่งสงคราม รากวิญญาณถูกทำลายไป? บำเพ็ญวิชาไม่ได้? คู่หมั้นถอนหมั้น? ทุกคนหัวเราะเยาะนาง? การควบคุมอสูร ยาพิษ ยาลูกกลอนปีศาจ อาวุธลับ...นางจัดการได้อย่างสบายๆ อดีตผู้ไร้ค่า แต่บัดนี้มาแก้แค้นชาาเจ้าชู้ เอาคืนทุกคนที่รังแกตนเอง ได้ประสบความสำเร็จ และขึ้นไปสู่จุดสูงสุด ผู้แข็งแกร่งอย่าคิดจะทำอะไรตามใจ ผู้อ่อนแออย่าท้อแท้ กล้ามารุกรานข้า งั้นก็อย่าหาว่าข้าไม่เตือนก็แล้วกัน เขาเป็นจ้าวแห่งอาณาจักรปีศาจ ชอบเอาใจนาง นางฆ่าคน เขาช่วยปิดปาก นางทำลายศพ เขาช่วยกำจัดหลักฐาน เขายอมทำทุกอย่างเพื่อนาง ชีวิตนี้ยอมร่วมทุกข์ร่วมสุขไม่ทอดทิ้งกัน
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
คนเราบางครั้งก็หวนนึกขึ้นมาได้ว่าตายแล้วไปไหน ซึ่งเป็นคำถามที่ไร้คำตอบเพราะไม่มีใครสามารถมาตอบได้ว่าตายไปแล้วไปไหน หากจะรอคำตอบจากคนที่ตายไปแล้วก็ไม่เห็นมีใครมาให้คำตอบที่กระจ่างชัด ชลดา หญิงสาวที่เลยวัยสาวมามากแล้วทำงานในโรงงานทอผ้าซึ่งตอนนี้เป็นเวลาพักเบรค ชลดาและเพื่อนๆก็มานั่งเมาท์มอยซอยเก้าที่โรงอาหารอันเป็นที่ประจำสำหรับพนักงานพักผ่อน เพื่อนของชลดาที่อยู่ๆก็พูดขึ้นมาว่า "นี่พวกแกเวลาคนเราตายแล้วไปไหน" เอ๋ "ถามอะไรงี่เง่าเอ๋ ใครจะไปตอบได้วะไม่เคยตายสักหน่อย" พร "แกล่ะดารู้หรือเปล่าตายแล้วไปไหน" เอ๋ยังถามต่อ "จะไปรู้ได้ยังไง ขนาดพ่อแม่ของฉันตายไปแล้วยังไม่รู้เลยว่าพวกท่านไปอยู่ที่ไหนกัน เพราะท่านก็ไม่เคยมาบอกฉันสักคำ" "อืม เข้าใจนะแก แต่ก็อยากรู้อ่ะว่าตายแล้วคนเราจะไปไหนได้บ้าง" "อืม เอาไว้ฉันตายเมื่อไหร่ จะมาบอกนะว่าไปไหน" ชลดาตอบเพื่อนไม่จริงจังนักติดไปทางพูดเล่นเสียมากกว่า "ว๊าย ยัยดาพูดอะไร ตายเตยอะไรไม่เป็นมงคล ยัยเอ๋แกก็เลิกถามได้แล้ว บ้าไปกันใหญ่" พรหนึ่งในกลุ่มเพื่อนโวยวายขึ้นมาทันที แต่ใครจะรู้ว่าหลังจากวันนั้นที่คุยกันที่โรงอาหารจะเป็นการคุยเล่นกันวันสุดท้ายของชลดา เพราะหลังจากเลิกงานกลับมาชลดาก็เสียชีวิตระหว่างเดินทางกลับหอพักด้วยสาเหตุวัยรุ่นยกพวกตีกันและมีการยิงกันเกิดขึ้นและชลดาคือผู้โชคร้ายที่ผ่านทางมาพอดี ท่ามกลางความเสียใจของเพื่อนๆ เอ๋ได้แต่หวังว่า ชลดาคงไม่มาบอกกับเธอจริงๆหรอกใช่ไหมว่าตายแล้วไปไหน
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
เนี่ยหลิง ตายแบบ งงๆ และได้ไปเกิดใหม่แบบ งงๆ ในโลกลมปราณของผู้ฝึกตนและพร อีก สอง ข้อ พร้อมธนู และลูกธนูหนึ่งชุด แหวนมิติเก็บของหนึ่งวง อย่าถามหา เหตุผล ว่าทำไม เนี่ยหลิงก็ไม่รู้เช่นกัน หวังว่า มันจะดี