ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / มามี้ของข้าไม่อ่อนโยน
มามี้ของข้าไม่อ่อนโยน

มามี้ของข้าไม่อ่อนโยน

5.0
5 บท
11 ชม
อ่านเลย

เกี่ยวกับ

สารบัญ

เธอถูกทำร้ายโดยสามีและชู้จนเสียลูกในท้องไป ครานี้เธอกลับได้ลูกโดยไม่ต้องท้องมีหรือที่เธอจะไม่รักและปกป้องเด็กคนนี้ ว่าแต่พ่อของเด็กคือใครกัน….

บทที่ 1 งานมงคล

เสียงประทัดดังสนั่นไปทั่วบริเวณ ตลอดจวนแม่ทัพถูกตกแต่งไปด้วยคำมงคลและประดับประดาไปด้วยผ้าสีแดงงดงาม ผู้คนเริ่มทยอยเข้ามาร่วมงานมงคลนี้อย่างคับคั่ง

“นี่เจ้ารู้หรือไม่”

“รู้อะไรงั้นหรือ”

“เขาลือกันว่า เหตุที่ท่านแม่ทัพตะวันออกหยางเฟยหย่าต้องแต่งกับคุณหนูใหญ่จวนเซวียนั้นล้วนแล้วแต่เพราะจำใจเท่านั้น”

“จำใจงั้นหรือ...แต่การแต่งงานของตระกูลใหญ่ ๆ ส่วนมากแล้วหากมิใช่เพราะผลประโยชน์ก็ไม่สามารถเป็นเรื่องอื่นไปได้มิใช่หรือ”

“เจ้าไม่รู้อะไร เมื่อครั้งอดีตเสนาบดีเซวียนั้นเคยช่วยเหลืออดีตแม่ทัพหยางซึ่งเป็นบิดาของแม่ทัพหยางเฟยหย่าไว้ ดังนั้นอดีตแม่ทัพหยางจึงได้ปฏิญาณไว้ว่าหากมีบุตรชายจะให้หมั้นหมายและแต่งงานกับบุตรีคนโตของตระกูลเซวีย”

“เช่นนี้ก็ถูกต้องแล้วมิใช่หรือ”

“เจ้าเนี่ยนะ ช่างไม่รู้อะไรจริง ๆ”

“อะไร ไหนเจ้าลองเล่ามาสิ เท่าที่ข้ารู้มาคุณหนูใหญ่ตระกูลเซวียนั้นทั้งงดงามและอ่อนโยนมีความเป็นกุลสตรี เช่นนี้แล้วจะไม่เหมาะกับแม่ทัพหยางได้อย่างไร ทั้งสองตระกูลก็ล้วนแล้วแต่มีหน้ามีตาอีกทั้งยังฐานะทัดเทียมกัน อายุของทั้งสองก็....เหมาะแก่การออกเรือน เช่นนี้แล้วยังจะมีสิ่งใดไม่เหมาะอีก”

“เจ้านี่ก็เหลือเกิน หากเป็นเช่นเจ้าว่าข้าคงจะสบายใจมากกว่านี้ ดูเหมือนในจวนเซวียนั้นไม่สงบเท่าใดนัก หากคุณหนูใหญ่เซวียไม่รีบแต่งงานเข้าจวนแม่ทัพเสียแต่ตอนนี้ เกรงว่าอีกไม่นานอาจจะไม่ได้ออกเรือนกับคนดี ๆ เช่นแม่ทัพหยางก็เป็นได้”

“ทำไมกัน”

“ดูเหมือนตอนนี้หลังบ้านของจวนตระกูลเซวียจะไม่สงบเท่าไหร่นัก”

“เจ้านี่ก็ช่างรู้มากเสียเหลือเกิน นั่น ๆ ขบวนเจ้าสาวมาแล้ว”

ขบวนเจ้าสาวถูกรับเข้าจวนแม่ทัพตามประเพณีทุกอย่างถูกจัดอย่างเรียบง่ายแต่ยิ่งใหญ่ ในมุมลับตาไม่ไกลออกไปกลับมีสตรีดวงหน้างดงามยืนหน้าตาบูดบึ้งมองพิธีแต่งงานนั้นอย่างอิจฉาริษยา

“คุณหนู”

“ทำไม ทำไมไม่ใช่ข้า ทำไมท่านพ่อต้องให้นางแต่งงานกับคนที่ข้าหมายปอง ทั้ง ๆ ที่ข้าแอบชอบท่านแม่ทัพก่อนพี่หญิงและนางเองก็รู้เรื่องนี้”

“แต่คุณหนูเจ้าคะ เรื่องนี้เป็นนายท่านที่จัดการทั้งหมด แม้คุณหนูจะถูกใจท่านแม่ทัพแต่งานแต่งงานในครั้งนี้คุณหนูใหญ่เองก็ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ อีกทั้ง......ในสัญญาหมั้นหมายก็ได้กล่าวไว้ว่าต้องเป็นบุตรีคนโตของภรรยาเอกเท่านั้น”

“ก...”

ทันทีที่เซวียอินจะกรี๊ดกลับถูกบ่าวรับใช้คนสนิทรีบนำผ้าปิดปากและลากตัวออกจากตรงนั้นทันที หญิงสาวดิ้นรนและสะบัดตัวให้หลุดพ้นแต่กลับสู้แรงของบ่าวรับใช้ไม่ได้แม้แต่น้อย จนเมื่อพ้นจากผู้คนแล้วบ่าวรับใช้คนสนิทของหญิงสาวจึงได้ปล่อยตัวคุณหนูของตน

“อาลัว นี่เจ้ากล้า...”

“คุณหนู บ่าวเพียงทำตามคำสั่งของอนุจินเท่านั้น หากคุณหนูทำเช่นนั้นต่อหน้าผู้คน พวกเขาจะมองคุณหนูเช่นไร”

“นี่เจ้ากล้าสอนข้าหรือ”

“มิได้เจ้าค่ะ บ่าวเพียงพูดตามคำสั่งของอนุจินก็เท่านั้น”

อาลัว บ่าวรับใช้คนสนิทของเซวียอินที่อนุจินใช้ให้ดูแลบุตรสาวของนาง นางรู้ว่าเซวียอินมีนิสัยอย่างไรแม้จะพยายามแก้ไขแต่เป็นเพราะการตามใจของนางจึงทำให้บุตรสาวมีนิสัยเอาแต่ใจมาตั้งแต่เล็ก วิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้คือต้องหาคนที่ไว้ใจได้คอยดูแลและช่วยให้บุตรสาวของนางผ่านพ้นสถานการณ์ที่ทุกข์ยากเหล่านั้นไปให้ได้

“ข้าไม่เข้าใจท่านแม่ เหตุใดถึงต้องยอมให้พี่หญิงใหญ่แต่งกับท่านแม่ทัพแทนข้า ทั้ง ๆ ที่ท่านแม่สามารถพูดแทนข้าก็ได้แล้วแท้ ๆ”

“ดูเหมือนสัญญามิสามารถเปลี่ยนแปลงได้ แต่ฮูหยินจวนแม่ทัพนั้นในอนาคตสามารถเปลี่ยนได้อย่างแน่นอนเจ้าค่ะ”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร”

“เรื่องนี้บ่าวไม่สามารถพูดอะไรมากได้ เพียงแต่อนุจินได้ให้บ่าวแจ้งคุณหนูว่า ให้ทำตัวดี ๆ จนกว่าเรื่องนี้จะจบลง แล้วตำแหน่งฮูหยินจวนแม่ทัพจะเป็นของคุณหนูอย่างแน่นอน”

เมื่อได้ยินบ่าวรับใช้คนสนิทพูดจบเซวียอินยกยิ้มก่อนจะจัดแจงตนเองและเดินนำอาลัวไปยังงานพิธีอีกครั้งดั่งไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

เสียงกรีดร้องในห้องที่มีหญิงรับใช้เดินพลุกพล่านได้ทำให้เซวียอินมองด้วยรอยยิ้ม

“คุณหนู ดูเหมือนคุณหนูใหญ่ใกล้จะคลอดแล้วนะเจ้าคะ”

“หมอตำแยมาหรือยัง”

“เห็นว่ากำลังไปตามอยู่เจ้าค่ะ”

“หากหมอตำแยมาแล้ว เจ้ารีบพามาหาข้าก่อน”

“เจ้าค่ะ”

“ถึงท่านแม่จะให้ข้ามาอยู่เป็นเพื่อนพี่หญิงใหญ่ยามนี้ แต่ใครจะรู้ว่านางจะรอดหรือไม่ อีกทั้งท่านแม่ทัพเองก็มิได้อยู่จวน เรื่องนี้ต้องขอบคุณท่านแม่ที่คิดและลงมือแทนข้า ฮึ ๆ”

ฮูหยินเซวียที่จู่ ๆ ก็ล้มป่วยอย่างไม่ทราบสาเหตุจึงทำให้ไม่สามารถมาอยู่เป็นเพื่อนบุตรสาวยามคลอดได้จึงทำให้เซวียอินที่เป็นสตรีได้รับคำสั่งให้มาอยู่เป็นเพื่อนพี่สาวของนาง ครั้งแรกที่ทราบนั้นนางตั้งใจจะปฏิเสธ แต่เมื่อมารดาของนางบอกแผนการบางอย่างแก่นางแล้ว รอยยิ้มร้านจึงผุดขึ้นและทำให้นางได้มาเหยียบจวนแม่ทัพนี้

“คุณหนู หมอตำแยมาแล้วเจ้าค่ะ”

สตรีมากอายุค่อย ๆ เดินมาก่อนจะคำนับสตรีที่อ่อนวัยกว่า

“มีใครเห็นนางหรือไม่”

“ไม่มีเจ้าค่ะ”

“ที่นี่มีนางเป็นหมอตำแยเพียงคนเดียวงั้นหรือ”

“เจ้าค่ะ ดูเหมือนตอนนี้จะมีเพียงนางคนเดียวเท่านั้น”

เซวียอินพยักหน้าช้า ๆ ให้กับอาลัว หญิงรับใช้คนสนิทได้ล้วงเอาถุงเงินมอบให้กับหมอตำแยนั้นก่อนจะกระซิบบางอย่างแก่นาง สตรีมากอายุพยักหน้าช้า ๆ ก่อนจะคำนับขอบคุณแล้วเดินหายไปอย่างรวดเร็ว

“เพียงเท่านี้....ทุกอย่างก็จบ”

ขณะที่ทุกอย่างเป็นไปตามที่หญิงสาวต้องการนั้น จู่ ๆ กลับมีเสียงร้องอย่างดีใจของบ่าวรับใช้ในห้องคลอดดังขึ้นจนทำให้เซวียอินอดไม่ได้ที่จะเดินไปด้านหน้าประตู

“เกิดอะไรขึ้น”

“ฮูหยินคลอดแล้วเจ้าค่ะ ฮูหยินคลอดแล้ว”

บ่าวรับใช้บอกด้วยรอยยิ้มดีใจ

“เป็นเด็กผู้ชายเจ้าค่ะ เป็นเด็กผู้ชาย”

บ่าวอีกคนเอ่ยขึ้น เซวียอินบีบมือของตนจนเลือดซึมใต้แขนเสื้อที่ปกปิดอยู่ แม้ใบหน้าจะฝืนยิ้มให้กับบ่าวไพร่นั้น ‘บ้าจริง เช่นนี้แล้วจะทำอย่างไรต่อไปดี’ ขณะนั้นเองหญิงรับใช้อีกคนได้เดินหน้าตาตื่นเข้ามาเรียกบ่าวก่อนหน้านี้

“พวกเจ้ารีบเข้าไปดูฮูหยินเร็วเข้า ดูท่าจะไม่ดีเสียแล้ว”

“ด้านในเกิดอะไรขึ้น”

สตรีเหล่านั้นรีบเดินเข้าไปด้านในอย่างรวดเร็ว ไม่มีเสียงตอบรับจากด้านในขณะที่เซวียอินเอ่ยถาม แม้ใจหนึ่งจะอดไม่ได้ที่จะห่วงสตรีผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นพี่สาวพ่อเดียวกัน แต่ความรู้สึกตื่นเต้นและดีใจก็มิได้หายไปแม้แต่น้อย

สตรีในอาภรณ์ไว้ทุกข์ได้คุกเข่าอยู่ข้างโลงศพ ในมือของนางนั้นอุ้มเด็กน้อยที่ลืมตาดูโลกได้เพียงไม่กี่วัน เด็กน้อยในอ้อมแขนของนางกลับนอนหลับสนิท ขณะนั้นจู่ ๆ กลับมีม้าเร็วได้วิ่งมาหยุดหน้าจวน

“ไม่ทราบว่าฮูหยินหยางอยู่ที่ใด”

ทหารหนุ่มที่ลงจากหลังม้ารีบเอ่ยขึ้น ทุกคนจึงหันไปทางเซวียอินที่ตอนนี้อุ้มเด็กชายตัวน้อยไว้ในอ้อมแขน

“ฮูหยิน...พี่หญิงใหญ่ของข้าเพิ่งเสียชีวิตจากการคลอดบุตร ตอนนี้ท่านพ่อท่านแม่มิได้อยู่ที่นี่ ท่านแม่ทัพเองก็มิมีผู้ใหญ่ในจวน เช่นนั้นข้า....”

“เช่นนั้นท่านก็รับไปก็แล้วกัน”

ชายหนุ่มล้วงจดหมายออกมาจากอกเสื้อก่อนจะลาจากไป เซวียอินที่ตอนนี้แม้จะทำทีเศร้าสร้อยแต่ลึก ๆ นางกลับรู้สึกภูมิใจที่ได้มีอำนาจในจวนแม่ทัพนี้ ‘กำจัดได้คนหนึ่ง แต่กลับมีตัวยุ่งยากอีกคนเกิดขึ้นมา แต่ก็ไม่เป็นไร รอท่านแม่ทัพกลับมาข้าจะจัดการเขี่ยเจ้าออกไปเอง’ หญิงสาวส่งเด็กน้อยให้อาลัวอุ้มก่อนจะค่อย ๆ บรรจงแกะจดหมายนั้น

“คุณหนู”

อาลัวเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นใบหน้าขาวซีดของคุณหนูตนและมือที่สั่นน้อย ๆ ของหญิงสาว

“ท่านแม่ทัพได้รับบาดเจ็บหนัก ไม่รู้ว่าจะรอดหรือไม่และไม่สามารถกลับจวนได้ในตอนนี้”

เซวียอินพูดขึ้นเบา ๆ ก่อนจะร่ำไห้ด้วยเสียงอันดัง

“ไม่นะ หลานข้ามิใช่ดาวแห่งความโชคร้าย ไม่จริง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นแค่เรื่องบังเอิญก็เท่านั้น”

เมื่อมีเสียงร่ำไห้อันดังจึงทำให้ผู้คนที่กำลังเดินเข้ามาร่วมงานต่างพากันมองและซุบซิบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในทันที ข่าวเรื่องเด็กที่เกิดมาก็ทำให้ยายป่วย แม่ตายและพ่อบาดเจ็บหนักจนไม่รู้ว่าจะเป็นหรือตายได้แพร่ไปอย่างรวดเร็ว เรื่องราวของเด็กที่เป็นดาวแห่งความโชคร้ายจึงได้ถูกเล่าต่อ ๆ กันจนกลายเป็นที่หวาดกลัวของทุกคน

“เพี๊ยะ”

เสียงฝ่ามือปะทะแก้มน้อย ๆ อย่างแรงจนร่างของเจ้าของแก้มนั้นกระเด็นล้มลง

“ทะ ท่านน้า”

“ข้าไม่กล้าเป็นน้าของเจ้าหรอก ข้ากลัวความโชคร้ายของเจ้าจะมาตามติดข้า อาลัว ข้าบอกให้เจ้าสอนมันให้เรียกข้าว่าอย่างไร”

“ข้าบอกเจ้าให้เรียกว่าคุณหนูเซวียอย่างไรล่ะ”

“ขอรับ คุณหนูเซวีย”

“ดีมาก จงจำไว้ว่าข้าคือคุณหนูเซวียผู้มีพระคุณของเจ้า”

“ขอรับ”

“กลับไปทำงานของเจ้าให้เรียบร้อย หากยังไม่เสร็จก็ไม่ต้องกินข้าว”

“ขอรับ”

เด็กน้อยหน้าตามอมแมมสวมเสื้อผ้าขาดวิ่นที่ดูย่ำแย่ยิ่งกว่าขอทานค่อย ๆ ลุกขึ้นก่อนจะเดินโซเซออกไปทำงานของตนที่ไม่ต่างจากบ่าวในจวน น้ำตาของเด็กชายค่อย ๆ รินไหลเป็นทาง ‘เพราะข้าเป็นดาวแห่งความโชคร้าย ท่านแม่และท่านพ่อจึงต้องจากข้าไป ทุกอย่างล้วนเป็นความผิดข้า ที่ข้าโดนมันก็ถูกต้องแล้ว ฮือออออ’

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY