ความรักที่มาพร้อมกับคำว่าบุคคลต่างชนชั้น เมื่อเด็กหนุ่มธรรมดาผู้แสนจะยากจนข้นแค้น ได้มาพบกับคนที่เป็นเหมือนแสงสว่างในชีวิตยามที่ลำบาก และเกิดตกหลุมรักขึ้นมา ซึ่งมันก็บังเอิญกับที่ชายหนุ่มผู้เป็นเหมือนแสงสว่างให้กับเขา ก็ตกหลุมรักเขาเหมือนกันความรักของเขาทั้งสองเป็นเหมือนดั่งเทพนิยาย ที่เจอกันและรักกันอย่างมีความสุข แต่!! ความรักมันไม่ได้สวยงามและง่ายดายขนาดนั้น เมื่อมีรัก ก็ย่อมมีอุปสรรคเกิดขึ้น ฐานะที่ต่างกัน ความเห็นต่างของครอบครัวทำให้รักกันไม่ได้เพราะถูกกีดกันจนหมดหนทาง เขาจึงตัดสินใจที่จะหนีออกไปโดยไม่บอกกล่าว แต่ความบังเอิญหรือเพราะโชคชะตา ก็ทำให้เขาทั้งสองคนกลับมาพบเจอกันอีกครั้งในรอบหลายปี ด้วยความรู้สึกที่ยังคงเดิม แต่สถานะได้ต่างกันออกไป แล้วแบบนี้เขาสองคนจะยังรักกันได้ไหม ติดตามได้ใน Impossidble love ( ความรักที่เป็นไปไม่ได้ ) นิยายรักโรแมนติกดราม่า ที่จะทำให้คุณ เศร้า เสียน้ำตา และอบอุ่นหัวใจไปในคราเดียวกัน....
บทเริ่มเรื่อง
ในวันที่อากาศปกคลุมไปด้วยหิมะในยามฤดูหนาวได้มีร่างของคนสองคน ยืนอยู่ท่ามกลางหิมะที่ตกลงมาอย่างหนักหน่วง
"เย่วซิน...ฉันขอถามนายหน่อย ที่ผ่านมา นายเคยรักฉันบ้างไหม!!"
เสียงตะโกนเรียกร้องจนสุดเสียงดังขึ้นท่ามกลางอากาศที่หนาวเหน็บจนตัวสั่นเทา
"รักกัน....แล้วมันกินเข้าไปได้ไหมละ!!! หยุดเพ้อเจ้อได้แล้ว!!"
ร่างบาง ที่ถูกปกคลุมไปด้วยเสื้อผ้าหนาพอสมควร หันมามองซีห่าว แล้วตะโกนกลับไป พร้อมกับใบหน้าที่ฉีกยิ้มออกมาบางๆ เพื่อต้องการจะตอกย้ำคำพูดนั้นให้อีกฝ่าย ที่กำลังทรุดตัวลงไปนั่งกับกองหิมะ เชื่อว่านี่คือคำพูดที่ออกมาจากใจของเขาจริงๆ.........
ณ หมู่บ้านเล็กๆเเห่งหนึ่ง ในประเทศจีน
หมู่บ้านชนบทแห่งนี้ มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมแบบเก่าในสมัยของหลายราชวงศ์ บ้านเป็นหินสีขาวมีหลังคากระเบื้องสีเทาตัดกันอย่างสวยงาม ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการแวะมาเยี่ยมดอกพีชที่บานสะพรั่งตัดกับต้นชาสีเขียว แต่ในเวลานี้เป็นช่วงของฤดูหนาวที่หนาวเหน็บ หิมะที่ร่วงหล่นลงมา ทำให้เด็กชายคนหนึ่งต้องหนาวสั่นแล้วหาที่ซุกตัว
เย่วซิน เด็กน้อยอายุราวๆ17-18 ปี ร่างกายผอมบางผิดขาวซีด ยืนตัวสั่นเทาอยู่ท่ามกลางพายุหิมะที่โหมกระหนำ เหตุผลที่เขาต้องมายืนหลบหิมะใต้กองฟางข้างทางอยู่แบบนี้ เพราะเขาต้องออกไปที่ตลาดซึ่งห่างจากบ้านเขามากถึง5กิโลด้วยการเดินเท้าเปล่า เพื่อออกไปซื้อเนื้อวัวมาทำกับข้าวให้กับครอบครัวของเขาในเย็นนี้ แต่ทว่าเกิดพายุหิมะขึ้นระหว่างการเดินทางกลับ เขาเลยต้องวิ่งไปหาที่หลบจนตอนนี้ผ่านไปนับชั่วโมงแล้วที่เขาติดอยู่ตรงนั้น
"หวัดดี นายกำลังหลบพายุอยู่หรอ"
เสียงของใครคนหนึ่ง ทำให้เย่วซิน แหงนหน้าขึ้นมอง ก่อนจะพบกับเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกับเขา ร่างกายสูงผิวขาวผุดผ่องดูปราดเดียวก็รู้ว่าคงไม่ใช่คนแถวนี้ ยืนถือร่มพร้อมกับเสื้อผ้าที่หนาดูแล้วคงจะอบอุ่นน่าดู เด็กหนุ่มค่อยๆนั่งลงตรงหน้าของเย่วซิน เเล้วยื่นร่มกับผ้าพันคอสีเขียวที่หนานุ่มให้กับเย่วซินช้าๆ
"นายรับนี่ไว้นะ ที่พักฉันอยู่แค่นี้เองเดี๋ยวฉันวิ่งไปเเปบเดียวก็ถึงเเล้ว นายคงหนาวน่าดูสินะ"
เด็กหนุ่มคนนั้นพูดขึ้นแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
หลังจากที่ได้รับร่มและผ้าพันคอนั้นแล้ว พอดีกับที่พายุเริ่มจะสงบลง เย่วซินจึงรีบวิ่งเพื่อกลับให้ถึงบ้านของตัวเองทันที โดยที่ยังไม่ได้เอ่ยปากขอบคุณเด็กหนุ่มคนนั้นสักคำ
โคร่ม!!!
"ฉันให้แกไปซื้อวัวมาทำอาหารแค่นี้ ทำไมแกถึงได้กลับมาช้านัก ไอ่ลูกคนนี้!!!"
อาเหม่า พ่อของเย่วซินเมื่อเห็นเขากลับมาถึงเเล้ว กลับเขวี้ยงข้าวของภายในบ้านใส่ตัวของเย่วซิน จนเกิดเสียงดังโครมครามขึ้น
"พ่อครับ ข้างนอกเกิดพายุหิมะขึ้น ซิน แค่ไปหลบแปบเดียวเองนะครับ"
ร่างเล็กๆของเด็กน้อยค่อยๆลุกขึ้นมาหลังจากที่พึ่งถูกผลักลงไปกับพื้น พร้อมกับร่างกายที่เต็มไปด้วยบาดแผลจากการทุบตีของผู้ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเขา
"ยังจะเถียงอีกเรอะ ไอ่ตัวดี แกมานี่เลยนะ!!!"
อาเหม่าคว้ามือมาจับตัวของเย่วซินได้ เขาใช้กิ่งไม้ที่ล่วงหล่นตามพื้นดิน ตีไปที่หน้าขาเย่วซินซ้ำๆไปมาอยู่แบบนั้นหลายสิบที
"พ่อ...ซินเจ็บนะครับ ปล่อยซินไปเถอะนะ ฮืออ..."
เด็กน้อยเย่วซินร้องไห้คร่ำครวญออกมาด้วยความเจ็บปวด..น้ำตาไหลออกมาเป็นสาย แต่ก็ไม่ได้ความเห็นใจจากผู้เป็นพ่อเลยแม้แต่น้อย
"อาเหม่า!!! หยุดตีลูกได้แล้ว..เห็นไหมว่าซินมันช้ำไปทั้งตัวหมดแล้ว พี่ไม่สงสารลูกบ้างหรอ!!"
เจียอีแม่ของเย่วซิน และเป็นเมียของอาเหม่าเข้ามาห้ามเหตุการ์ณเอาไว้
"แม่ครับ..ฮืออ.."
"พอเถอะนะพี่ถือว่าฉันขอร้อง ซิน เข้าไปในบ้านเถอะลูก"
"เอ้า!!!! เอาเนื้อวัวนี่ไปแล้วรีบไปทำกับข้าวมาให้ฉันเดี๋ยวนี้!!!" อาเหม่าเขวี้ยงถุงที่บรรจุเนื้อวัวเอาไว้ให้เย่วซิน ก่อนจะไล่ให้ไปทำกับข้าว
อาเหม่า ถึงเขาจะขึ้นชื่อว่าเป็นพ่อของเย่วซินแต่หาใช่พ่อแท้ๆไม่ เขาเป็นเพียงพ่อเลี้ยงที่มีนิสัยขี้เหล้าเมายา ขี้โมโหและมักจะทำร้ายเย่วซินกับแม่อยู่ตลอดเวลา ถึงเจียอีจะเคยพยายามเลิกกับอาเหม่ามาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน แต่อาเหม่าก็ไปตามกลับมาแล้วทุบตีรุนแรงทุกครั้งโดยเฉพาะเย่วซิน และหากยังคิดจะไปจากเขากันอีก อาเหม่าก็ขู่ว่าจะฆ่าทั้งคู่ให้ตายไปตามๆกัน นั้นทำให้เย่วซินต้องอดทนอยู่ในสภาพแบบนี้เพื่อความปลอดภัยของผู้เป็นแม่และตัวเขานั้นเอง
"ซิน...เจ็บมากไหมลูก" เจียอีที่เดินตามลูกเข้ามาในห้องครัว ที่เริ่มจะพุพังเต็มที พูดขึ้น
"ฮึก!!!..ซะ..ซินไม่เป็นไรครับแม่ เเม่ไม่ต้องห่วงซินนะครับ"
"แม่ขอโทษนะซิน ทั้งหมดมันเป็นเพราะแม่ แม่ไม่น่า.."
"แม่ครับ ซินไม่เป็นไรจริงๆ แม่เข้าไปข้างในบ้านเถอะครับ ตรงนี้อากาศเย็นเดี๋ยวจะป่วยเอาได้ เดี๋ยวซินทำกับข้าวเสร็จ จะรีบยกเข้าไปให้นะครับ"
เย่วซินหันไปบอกกับผู้เป็นแม่แล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน..
"ซิน...ฮึก!! แม่ขอโทษ!!"
เจียอีโถมตัวเข้าไปกอดลูกชายตัวเล็กของเธอ ด้วยความรู้สึกผิด เธอไม่น่าทิ้งพ่อของเย่วซินเพื่อไปแต่งงานกับอาเหม่าเลย ทั้งหมดมันเป็นเพราะเธอคนเดียว..
โคร่ม!!! เสียงถีบประตูดังลั่นพร้อมกับอาเหม่าที่เดินเข้ามา
"นี่พวกมึงจะกอดกันร้องไห้อีกนานไหม!! กูหิวข้าว เมื่อไหร่จะเสร็จ ห๊ะ!!"
"สะ..เสร็จแล้วครับพ่อ ซินกำลังจะยกออกไป พ่อไปรอข้างนอกก่อนนะครับ"
"เออ!!! รีบๆกูหิว!!"
หลังจากนั้น เย่วซินก็ยกกับข้าวไปให้อาเม่าที่กำลังนั่งกินเหล้าอยู่ ก่อนจะเดินออกมาพร้อมกับปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาไม่หยุด
เช้าวันต่อมา
"ไอ่ซิน!!!! มึงอยู่ไหน!!"
เสียงอาเหม่าเอะอะโวยวายเเต่เช้าเรียกหาเย่วซิน ทำให้เด็กน้อยที่หลับอยู่ สดุ้งตัวลุกขึ้นก่อนวิ่งออกไปหาผู้เป็นพ่อ
"ครับ ครับพ่อ"
"มึงออกไปซื้อเหล้ามาให้กูเพิ่มซิ!! มันหมดแล้ว!!"
"แต่ซินไม่มีเงินแล้วนะครับพ่อ ซินไม่ได้ไปทำงานมา2วันเเล้ว เงินที่เหลือก็เอาไปซื้อเนื้อวัวให้พ่อเมื่อวานหมดแล้ว"
"นี่แกกล้าขัดฉันหรอไอ่ซิน!!" อาเหม่ากำลังจะพุ่งตัวเข้ามาทำร้ายเย่วซินอีกครั้ง
"หยุดนะอาเหม่า!!! ซิน..มาเอาเงินที่แม่ไปก่อนแล้วกันนะลูก"
เจียอี รีบเข้ามาห้ามเอาไว้แล้วยื่นเงินที่มีอยู่น้อยนิดให้เย่วซินไป
เมื่อเย่วซินมองออกไปข้างนอก หิมะสีขาวยังร่วงหล่นลงมาจากบนท้องฟ้าไม่หยุดหย่อน เขาเลยวิ่งเข้าไปในห้องนอน เเล้วหยิบเอาร่มกับผ้าพันคอสีเขียว ของเด็กหนุ่มตัวโตคนนั้น ที่เป็นคนหยิบยื่นให้เขาแล้วออกเดินทางท่ามกลางหิมะอันหนาวเหน็บนั้น
"อากง เอาเหล้าหนึ่งไหครับ" เย่วซินพูดขึ้นเมื่อถึงร้านค้าในหมู่บ้าน
"อั้ยหยาา!!! อาเย่วซิน ทำไมถึงได้มาซื้อเหล้าแต่เช้าแบบนี้กันละ ไออาเหม่ามันใช้เองมาอีกแล้วใช่ไหม"
"ครับกง"
เย่วซินพูดแล้วก้มหน้าลงเพื่อปกปิดรอยเเผลฟกช้ำบนใบหน้า
"เฮ้อ...เจียอีนะเจียอี ไม่น่าหลงผิดมาเอาไออาเหม่าเป็นผัวเลย สงสารมันจริงๆ"
"เท่าไหร่ครับกง"
"อะๆๆ กงไม่คิดเงินแล้วกัน ส่วนเงินที่จะเอามาซื้อเหล้าให้ไอ่เหม่า เองก็เอาไปซื้อกับข้าวกับปลามากินกับเเม่เองซะนะ กงให้ๆ"
"ขอบคุณนะครับกง อ๊ะ!!"
ระหว่างที่เย่วซินรับไหเหล้าจากอากงแล้ว เขาก็ดันถอยหลังไปชนกับใครบ้างคนที่ยืนอยู่ด้านหลัง เมื่อเขาหันหน้าไปมอง เขาก็พบกับเด็กหนุ่มตัวโตคนเดิม ที่ให้ร่มกับผ้าพันคอเขาเมื่อวาน
"นี่นายดื่มเหล้าด้วยหรอ" เด็กหนุ่มถามขึ้นแล้วมองไปที่ไหเหล้าในมือเย่วซิน
"อ๊ะ!! เปล่า เปล่านะ ซินแค่มาซื้อไปให้พ่อ" เย่วซินรีบปฏิเสธทันที
"อืม..นายอยู่แถวนี้หรอ"
"อื้ม!! ใช่"
"แล้วนายชื่ออะไรละ"
"เออ..เย่วซิน ฉันชื่อเย่วซิน"
"เย่วซิน ที่แปลว่าดวงจันทร์แห่งความสุขสินะ แต่นายดูไม่มีความสุขเลยนะเย่วซิน" เด็กหนุ่มพูดพร้อมกับจ้องไปตามร่างกายที่มีแต่รอยฟกช้ำของเย่วซิน
"หืม..นายรู้จักความหมายชื่อของเราด้วยหรอ"
"อืมม...เคยอ่านมานะ ฉันชื่อ ซีห่าว ที่แปลว่าความสามารถและมุ่งมั่น"
"ความหมายชื่อของนายเท่จังเลย"
"อืมม...นั่นสินะ"
"แล้วซีห่าวมาทำอะไรที่หมู่บ้านชนทบแบบนี้เหรอ ซินไม่เคยเห็นหน้าเลย"
"ฉันตามป๊าม๊ามาทำธุระแถวนี้นะ เลยมาเดินเล่นนิดหน่อย เมื่อวานก็ดันไปเจอลูกกระต่ายน้อยหลบอยู่ที่กองฟาง ไม่คิดว่าวันนี้จะยังเจออีก"
"ซีห่าวหมายถึงซินหรอ"
"555 ก็ใช่ไง นายนั้นแหละ"
"อื้มม......ขอบใจนะเรื่องเมื่อวาน"
"ไม่เป็นไรหรอก แล้ว.."
"อ๊ะ!!! ตายซิ ซินออกมานานเกินไปแล้วขอตัวก่อนนะซีห่าว แล้วเจอกันใหม่นะ"
เย่วซินรีบกุลีกุจอวิ่งออกไปทันที โดยที่ซีห่าวยังไม่ทันจะพูดจบ
"อ๊ะ..เดี๋ย..!!"
"เฮ้ออ...น่าสงสารอีจริงๆนะ อาเย่วซินเนี่ย ดูเนื้อตัวสิมีแต่แผลชกช้ำเต็มไปหมด"
"นั้นสิกง ไม่น่าเลยนะ ไม่รู้จะได้เรียนต่อกับเขารึเปล่า นี้ก็ใกล้จะจบม.6แล้วด้วย"
"อั๊ยหยา!! อีจะเอาเงินที่ไหนไปเรียนต่อละ ขนาดแค่เรียนมัธยมอียังต้องทำงานส่งตัวเองเรียนเลย"
เสียงของอากงและชาวบ้านแถวระเวกนั้นพูดขึ้นด้วยความสงสารในตัวของเย่วซินกันทั้งนั้น
โดยที่มีซีห่าวยืนฟังเรื่องราวของเย่วซินอยู่แบบนั้นเงียบๆ ก่อนค่อยๆเดินออกไป....
ความรักที่มาพร้อมกับคำสาป เมื่อเพลย์บอยเสือผู้หญิงอย่างเขาต้องมาแต่งงานกับคนที่ไม่รู้จัก และยังเป็นผู้ชายอกสามศอกเหมือนกัน เขาจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้งานแต่งเกิดขึ้น..
ความรักที่มาพร้อมกับความแค้น เมื่อแฟนสาวที่คบกันมานานมาดันมาฆ่าตัวตายในวันที่พึ่งคลอดลูกของตัวเอง ความเศร้าเข้ามาเยือนภายในจิตใจ และเริ่มเปลี่ยนเป็นความแค้น เขาจึงเก็บความแค้นนี้เอาไว้ในใจเพื่อรอวันที่จะชำระให้ตายตกไปตามกัน แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้ค้นพบว่าใคร คือสาเหตุที่ทำให้คนรักของเขาเลือกที่จะจบชีวิตลง การแก้แค้นจึงได้เริ่มต้นขึ้น!!! เขาจงใจที่จะใช้ตัวเองเพื่อเข้าหาคนที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด แล้วหลอกให้รักทำให้เฟมือนตายทั้งเป็นเพียงเพื่อแก้แค้นให้คนที่จากไป แต่เรื่องกลับไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะเขาดันตกหลุมรักให้กับศัตรูที่ไม่ควรรัก เรื่องราวอึดอัดใจจึงได้เกิดขึ้น เขาจะแก้แค้นต่อ หรือหยุดการกระทำเลวทรามที่กำลังทำอยู่ลง มาลุ้นไปพร้อมๆกันใน เงาแค้น นิยายโรแมนติกดราม่า ที่จะทำให้คุณเศร้าเคล้าน้ำตาไปกับเรื่องราวการแก้แค้นและฟินไปกับฉากของพระนางยามรักไปพร้อมๆกัน
ความสัมพันธ์ร่านสวาทชั่วข้ามคืน นำมาสู่ความน่าอึดอัดใจของรักสามเศร้าเมื่อเขาดันไปมีอะไรกับรุ่นพี่ในคณะเดียวกันที่มีแฟนอยู่แล้ว…
ต่อหน้าทุกคน เธอเป็นเลขานุการส่วนตัวของท่านประธาน โดยส่วนตัวแล้ว เธอเป็นภรรยาของเขา กู้เวยยีรู้สึกดีใจเป็นอย่างยิ่งเมื่อเธอทราบว่าตนเองตั้งครรภ์ ทว่าเธอกลับเห็นฟู่จิงเฉินกับรักแรกของเขาสิทสนมกัน... เธอจากไปอย่างเศร้าใจและตัดสินใจที่จะให้พวกเขาสมหวัง ต่อมา เมื่อฟู่จิงเฉินมองดูท้องที่ยื่นออกมาของเธอ และถามอย่างตื่นเต้นว่า "้กู้เวยยี นี่คือลูกของใคร!" เธอตอบอย่างหัวเราะเยาะ "มันไม่เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย อดีตสามี!"
เรื่องราวของใบหม่อนที่ทะลุมิติไปยังโลกสุดแปลกและสุดแสนจะแฟนตาซี ที่สำคัญดันไปเกิดใหม่ในตอนที่กำลังจะคลอดลูก ในชีวิตที่แล้วแม้แต่แฟนยังไม่มีแต่ทำไมพอได้เกิดใหม่ทั้งที ถึงให้เกิดมาในตอนที่กำลังจะคลอดลูกพอดี แล้วสาวโสดอย่างเธอจะทำยังไงดี คลอดลูกออกมาเป๋นแฝดสามว่าลำบากแล้ว แต่ครอบครัวนี้กลับยากจนข้นแค้น นี่ไม่ใช่ว่าพระเจ้ากลั่นแกล้งเธอเหรอ เธอไปทำอะไรให้พระเจ้าโกรธเคืองกัน
ถึงจะโกรธ เกลียด เคียดแค้นแค่ไหน แต่หัวใจไม่อาจต้านรักได้ ----------------------------------------- ไรยาค่อยๆ คลานไป ทันทีที่เจ้าบ่าวหันหน้ามา เพื่อจะยื่นมือให้เธอจับ จะได้ไม่ล้มนั้น ยิ่งจะทำให้เธอเกือบล้มไปเพราะเขาแล้ว ในหัวสมองก็ประมวลผลออกมาได้คำตอบทันที ว่าคนที่เธอเฝ้าครุ่นคิดว่าเป็นใครมาตลอดสองอาทิตย์นั้น แท้จริงก็คือใครกันแน่ในที่สุด ‘Mr. H. Hhemmhawattana ก็คือหรัญญ์ เหมวัฒน์’ ‘หรือพี่ฮั้นท์ของสาวๆ ที่เธอมักจะได้ยินเรียกขานกันนี่เอง’ ‘เขากลายมาเป็นเจ้าบ่าวเธอได้ยังไง’ ‘เขาจะมาแต่งงานกับเธอทำไม’ เท่าที่รู้มา เขาไม่ได้ร่ำรวยระดับร้อยล้านพันล้านแน่ๆ แล้วเขาไปทำอะไรมา ถึงได้มีเงินมากมายขนาดเอามาทุ่มซื้อหุ้นบริษัทของพ่อเธอได้ ไหนจะไถ่บ้านคืนให้ และอีกหลายต่อหลายอย่างที่เขาจ่ายไป รวมทั้งแหวนเพชรน้ำงามและไม่น่าจะต่ำกว่าห้ากระรัตบนพานดอกไม้ตรงหน้าเธออีก ---------------------------------------------------------------------------------------- ฮั้นท์ (หรัญญ์ เหมวัฒน์) นักธุรกิจหนุ่ม ผู้มีชีวิตที่พลิกผันจากเลวร้ายกลับกลายเป็นดี ซึ่งเขาเองก็ตั้งตัวไม่ทัน แต่ทั้งหมดนั้น มาจากความดี ความขยันหมั่นเพียรของเขา บวกกับโชคช่วย ถึงเวลาที่เขากลับมายืนอยู่จุดเดิม ในฐานะใหม่ ที่ใครต่อใครต่างงุนงง โดยเฉพาะเพื่อนๆ หรือแม้แต่กับผู้หญิงที่เคยเมนเขามาแล้ว และเขาก็จะทำให้ผู้หญิงพวกนั้นได้รู้ ว่าไม่ควรเมินเขาจริงๆ ---------------------- ย้า (ไรยา เจริญรัตชตะ) ทายาทนักธุรกิจหลายร้อยล้าน ที่ชีวิตพลิกผัน จากดีกลายเป็นเลวร้ายในไม่กี่ปี จนเธอกับครอบครัวก็ตั้งตัวไม่ติด รับภาวะย่ำแย่แทบไม่ทัน และถึงเวลาที่เธอจะต้องเลือก ระหว่างช่วยกู้ทุกอย่างของครอบครัวคืน กับทิ้งทุกอย่างไปแบบไม่เหลียวหลัง เพื่อไปเลียแผลหัวใจจากชายที่เธอรักแทบตาย สุดท้ายเธอจะเลือกทางเดินยังไง จะไปต่อหรือพอแค่นี้ ---------------------------------------------------------------------------------------- เมียแต่งท่านประธาน Chairman's Wife ตอนแรกคิดว่าจะให้นิยายที่เรื่องนี้มีแค่ชื่อภาษาอังกฤษเท่านั้นค่ะ ที่เหลือให้รี้ดไปตีความเอาเอง ว่าควรจะใช้ภาษาไทยว่าอะไรดี ระหว่าง แรงรัก - รั้งรัก - รังรัก และใช้นามปากกาพิมรภัค แต่สุดท้ายก็คิดชื่อใหม่ได้แล้วค่ะ และตัดสินใจใช้นามปากกาหลัก นั่นคือ กันเกราค่ะ เพราะแว้ปไปเขียนอวตารหลายเรื่องแล้ว และไม่ได้ออกนามปากกานี้นานแล้ว ส่วนแนวก็จะเพิ่มดราม่าเข้าไปอีก ซึ่งจะเป็น Signature ของกันเกราอยู่แล้ว รี้ดอยากได้มาม่าเจ้มจ้นแค่ไหน บอกกันได้เด้อ ----------------------------------------------------------------------------------------
"เราหย่ากันเถอะ"หนึ่งประโยคนี้ ทำให้ชีวิตการแต่งงานสี่ปีของฉินซูเหนียนกลายเป็นเรื่องตลก ในขณะนี้ ฉินซูเหนียนถึงตระหนักว่าสามีของเธอไม่เคยมีใจให้เธอ น้ำเสียงของเขาเย็นชา: "ตั้งแต่ต้นจนจบ ฉันมีเพียงหว่านหว่านอยู่ในใจ และคุณเป็นเพียงแผนชั่วคราวในการจัดการกับการแต่งงานในครอบครัวที่กำหนด" ด้วยความสิ้นหวัง ฉินซูเหนียนลงนามในใบหย่าอย่างไม่ลังเล ถอดผ้ากันเปื้อนของภรรยาที่ดีออก สวมมงกุฎของราชินีขึ้นมา และกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่ กลับมาอีกครั้ง เธอไม่ใช่คุณนายลี่ที่สวยแต่เปลือกอีกต่อไป แต่เป็นผู้หญิงที่แข็งแกร่งที่น่าทึ่งใจ เธอแสดงความสามารถต่อหน้าคนอื่นๆ และอดีตสามีที่หยิ่งก็ถามเธอว่า: "ฉินซูเหนียน นี่เป็นเคล็ดลับใหม่ของเธอในการดึงดูดฉันงั้นเหรอ" ก่อนที่เธอจะพูดอะไร ประธานลึกลับก็ดึงเธอเข้ามาในอ้อมแขนของเขาและประกาศไปว่า "ดูให้ชัดเจน นี่คือคุณนายฟู่ คนอื่นห้ามเข้าใกล้เธอ" ฉินซูเหนียนถึงกับพูดไม่ออก อดีตสามีก็ตกตะลึงไปด้วย
ฟาเบียน ฟรองซัว (ฟา) 32 ปีลูกเสี้ยว ไทย-ฝรั่งเศส-จีนผู้กว้างขวาง และร่ำรวยจากการทำชิปปิ้งตัวแทนผู้นำเข้าและส่งออกรายใหญ่ของไทยชายหนุ่มที่ขาดเรื่องบนเตียงไม่ได้แต่เขาเบื่อผู้หญิงที่จ้องจะจับเขา ทิพย์ดารา นวลพรรณ (ดาด้า) นางแบบและนักแสดงสาวมากความสามารถกำลังหัวเสียที่เธอถูกฟาเบียนตัดความสัมพันธ์เธอนั่งบ่นให้กับช่างประจำที่ร้านฟังฟาเบียนบอกเธอว่า "ถ้าผมหิว ผมจะซื้อกินเอง" เพราะคำว่าแต่งงานหรือผูกมัดไม่ใช่ทางของเขา ปองรัก พลอยรัตนา (จิล) 22 ปีเธอกำลังต้องการเงินเพื่อไปช่วยครอบครัวที่กำลังถูกฟ้องและถูกหุ้นส่วนโกงจำนวนเงินอาจจะไม่มากเท่าไหร่แต่มันก็ทำให้ครอบครัวที่เคยอยู่เย็นเป็นสุขต้องเดือดร้อน แทบหมดตัวอีกอย่างตอนนี้เธอก็ยังเรียนไม่จบเหลืออีกเทอมเดียวเท่านั้นด้วยความบังเอิญเธอได้บัตรกำนัลทำผมที่ร้านแห่งหนึ่ง..ฟรี จากเพื่อนรักสุจิรา เดชธนาดล (จิรา)ลูกเจ้าของร้านเพชรชื่อดังในเมืองไทย ชื่อและประวัติของ ฟาเบียนทำให้จิลเห็นทางออกหญิงสาวที่ยังบริสุทธิ์ เธอจะทำยังไงให้ครอบครัวกลับมาอยู่ดีเหมือนเดิมได้เธอยินดี...ทำเธอเดินเข้าไปเสนอขายพรหมจรรย์ให้กับเขาเงินที่เธอร้องขอ สำหรับ ฟาเบียน แค่เศษเงินแค่เห็นหน้าเธอ เขาก็ปิ๊งเสียแล้วฟาเบียน รับข้อเสนอและให้เธอมาเป็น...เมียพาร์ทไทม์ เริ่มต้นก็สนุกเสียแล้ว พลาดได้ไง ขอฝากผลงานเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจของนักอ่านที่น่ารักด้วยนะคะ
ในวันแต่งงาน เจ้าบ่าวของเฉียวซิงเฉินหนีไปกับผู้หญิงอีกคน เธอโกรธมาก จึงสุ่มหาชายคนหนึ่งมาแต่งงานด้วยทันที "ตราบใดที่คุณกล้าแต่งงานกับฉัน ฉันก็ยอมเป็นเมียคุณ" หลังจากแต่งงาน เธอได้ค้นพบว่าสามีของเธอคือลูกชายคนโตของตระกูลลู่ที่ขึ้นชื่อว่าไร้ประโยชน์ ชื่อลู่ถิงเซียว ทุกคนเยาะเย้ยว่า "เธอยนี่ช่วยไม่ได้จริงๆ" และผู้ชายที่ทรยศเธอก็มาเกลี้ยกล่อมว่า "ไม่เห็นต้องทำร้ายตัวเองเพราะฉันหรอก สักวันเธอต้องเสียใจแน่ๆ" เฉียวซิงเฉินหัวเราะเยาะและโต้ตอบว่า "ไปให้พ้น ฉันกับสามีรักกันมาก" ทุกคนต่าก็คิดว่าเธอเป็นบ้า ไปแล้ว อย่างไรก็ตาม เมื่อตัวตนที่แท้จริงของลู่ถิงเซียวถูกเปิดเผย ที่แท้เขาเป็นคนรวยอันดับต้นๆในโลก ในการถ่ายทอดสดทั่วโลก ชายคนนี้คุกเข่าข้างเดียว ถือแหวนเพชรมูลค่าหลักพันล้าน และพูดช้าๆ ว่า "คุณภรรยา ชีวิตที่เหลือนี้ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะ"