เมื่อน้องสาวฝาแฝดแสนอ่อนแอต้องแต่งเข้ามาเป็นฮองเฮาเพื่อมาสืบเรื่องราวการตายของวงศ์ตระกูลที่แท้จริง และได้มาเจอกับฮ่องเต้ที่มีปมฝังใจจนกลายเป็นคนขี้ระแวง แฝดผู้พี่จึงต้องปลอมตัวเป็นน้องสาวเพื่อมาจัดการกับสนมที่ข่มเหงน้องสาวฝาแฝดของนางและต่อกรกับฮ่องเต้ที่ไม่สนใจใยดีฮองเฮาของตนเอง แถมยังต้องตามสืบหาความจริง แต่นางจะสามารถทำได้สำเร็จดั่งที่ตั้งใจไว้จริงหรือ?
“ฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ ไทฮองไทเฮาให้ชิงกงกงมาเชิญเสด็จไปทอดพระเนตรฮองเฮาพ่ะย่ะค่ะ” เกากงกงขันทีรับใช้ของหนิงเฉิงฮ่องเต้พูดด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เพราะรู้ดีว่านายเหนือหัวของตนไม่อยากเสด็จไปเจอสวี่ฮองเฮา
“นางเป็นอันใดอีก” เขาเงียบไปครู่หนึ่ง เมื่อไม่ได้ยินคำตอบจากเกากงกงจึงได้เอ่ยต่อ
“เจ้าไปบอกชิงกงกงให้ไปทูลเสด็จย่าว่าหากฮองเฮาไม่ป่วยหนักใกล้ตายจริง ๆไม่ต้องให้คนมาเชิญเราอีก” หนิงเฉิงฮ่องเต้กล่าวด้วยน้ำเสียงฉุนเฉียว
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะไปบอกชิงกงกงเดี๋ยวนี้”
เมื่อเกากงกงพูดจบก็ถอยหลังออกไปจากห้องทรงอักษรทันที เพราะเขารู้ดีว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้อารมณ์ไม่สู้ดีนัก ทุกคนในวังหลังล้วนรู้ดีว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้ไม่ได้ชอบพอสวี่ฮองเฮา บางทีอาจจะถึงขั้นเกลียดเลยก็ว่าได้ แต่หากอยู่ต่อหน้าเหล่าขุนนางในงานเลี้ยงก็ยังรักษาหน้าของสวี่ฮองเฮาอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นเขตวังหลังที่ไม่มีผู้คนภายนอกเข้ามาวุ่นวายก็จะรู้กันดีว่าสวี่ฮองเฮาไม่ได้มีอำนาจอันใดเลย แม้แต่นางกำนัลอาวุโสก็ยังกล้ารังแกสวี่ฮองเฮาอยู่บ่อยครั้ง
เมื่อผ่านไปไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม ไทฮองไทเฮาก็เสด็จมายังห้องทรงอักษรของหนิงเฉิงฮ่องเต้ด้วยตนเอง เกากงกงรีบเอ่ยบอกถึงการมาของไทฮองไทเฮาให้หนิงเฉิงฮ่องเต้ได้รับรู้ หนิงเฉิงฮ่องเต้รีบลุกจากเก้าอี้ทรงอักษรไปรับเสด็จโดยทันที ถึงจะรู้ว่าเสด็จย่าของเขามาด้วยเรื่องอันใดก็ตาม
“เหตุใดเจ้าจึงได้ใจดำเช่นนี้ ย่ารู้ดีว่าเจ้าไม่ชอบนาง แต่ถึงอย่างไรนางก็เป็นฮองเฮาของเจ้า” ไทฮองไทเฮาต่อว่าหนิงเฉิงฮ่องเต้ทันทีที่เห็นหน้าเขา
“เสด็จย่าก็รู้ว่าหลานแต่งตั้งนางให้เป็นฮองเฮาตามเงื่อนไขที่รับปากเหลียนอ๋องเอาไว้ ในเมื่อนางได้เป็นฮองเฮาแล้วยังจะเอาอันใดอีก”
“เฉิงเอ๋อร์ ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงสตรีที่อ่อนแอเท่านั้น นางเดินทางไกลมาแต่งเป็นฮองเฮาของเจ้า เจ้าจะเอาใจใส่นางเสียหน่อยเป็นไรไป ย่ารู้ว่าเจ้าถูกเหลียนอ๋องบังคับแต่ดีกับนางหน่อยเถอะ สุขภาพนางไม่สู้ดีนักอย่างไรเสียเจ้าก็ควรจะไปดูนางเสียหน่อย”
“เสด็จย่าใจจริงหลานก็อยากทำดีกับนาง ถึงจะแต่งกับนางเพื่อทำตามข้อตกลง แต่นางไม่ใช่สตรีที่แสนดีและอ่อนโยนอย่างที่ท่านเห็น”
ไทฮองไทเฮาเงยหน้ามองหลานชายด้วยความสงสัย และคิดไตร่ตรองถึงนิสัยที่ผ่านมาของสวี่ฮองเฮา สำหรับหญิงชราผู้นี้สวี่ฮองเฮาไม่ใช่สตรีที่มีพิษสงอันใดหนำซ้ำนางยังค่อนข้างขี้โรค นางอ่อนโยนพูดจาอ่อนหวาน นางไม่ชอบยุ่งวุ่นวายกับใครและมักให้อภัยกับคนง่ายๆเสมอ เพียงแค่พวกเขาขอโทษนางก็จะไม่ถือสา และไม่ติดใจคิดเล็กคิดน้อย แต่เหตุใดหลานชายตนจึงได้เอ่ยเช่นนี้
“เหตุใดเจ้าจึงคิดเช่นนี้ เจ้าช่วยบอกยายแก่คนนี้ให้เข้าใจหน่อยได้หรือไม่”
เมื่อหนิงเฉิงฮ่องเต้ได้ยินเสด็จย่ากล่าวเช่นนี้จึงคิดได้ว่า เสด็จย่าอาจจะเข้าใจเขาผิด คิดว่าเขาว่าเสด็จย่าเป็นยายแก่เลอะเลือนที่ดูคนไม่ออก จนถูกสตรีอ่อนแอผู้หนึ่งหลอกได้
“เสด็จย่าหลานรู้ว่าท่านอยู่วังหลังพบเจอกลอุบายมากมายของสตรีมาไม่ถ้วน ตอนแรกหลานเองก็คิดจะครองคู่กับนาง ดูแลนางในฐานะฮองเฮาให้ดี แต่หลานเพิ่งปราบกบฏและขึ้นครองบัลลังก์ได้ไม่นานมัวแต่ยุ่งกับราชกิจและจัดการความวุ่นวายในท้องพระโรง อีกทั้งนางยังร่างกายไม่แข็งแรงหลานจึงได้แต่ให้หมอหลวงและนางกำนัลขันทีคอยดูแลนาง แต่กลับมีคนมารายงานว่านางแอบให้นางกำนัลคนสนิทที่ติดตามมาจ้างวานพ่อค้าให้ส่งจดหมายไปถึงเหลียนอ๋องก็ทำให้หลานแปลกใจ หลังจากนั้นหลานจึงให้คนคอยสอดส่องนาง นางส่งจดหมายให้เหลียนอ๋องอีกหลายครั้ง หลานจึงรู้ว่านางมีแผนการร้ายซ่อนอยู่”
หนิงเฉิงฮ่องเต้เงียบไม่พูดต่อ ไทฮองไทเฮาได้แต่มองหน้าหลานชายอยู่พักหนึ่งจึงระบายลมหายใจออกมายาวๆ นางรู้ดีว่าเหตุการณ์ต่างๆมากมายที่เกิดขึ้นกับเขาในเวลาไม่ถึงแปดเดือนที่ผ่านมานี้ อาจทำให้หลานชายของเขาเปลี่ยนไป กลายเป็นคนที่มองโลกในแง่ร้ายและขี้ระแวงมากขึ้น แต่เรื่องนี้จะโทษเขาก็ไม่ได้
ขณะพี่ชายที่เขาคิดว่าแสนดี อ่อนโยน ฉลาด เป็นบุรุษหนึ่งเดียวในใจที่เขาอย่างเดินตามรอยเอาเป็นแบบอย่าง อีกทั้งยังเติบโตมาด้วยกันจึงสนิทกันมาก ถึงจะคนละมารดาแต่ก็รักใคร่กันราวกับมีมารดาคนเดียวกัน แต่ในที่สุดก็เป็นเขาเองที่ต้องลงมือสังหารพี่ชายที่เขารักและนับถือด้วยมือตนเอง นับประสาอะไรกับฮองเฮาที่แต่งเข้ามาเพราะข้อตกลง เขาย่อมสงสัยและระแวงไม่กล้าเปิดใจพูดคุยถามไถ่กับนางโดนตรงอยู่แล้ว
ในฐานะที่นางเป็นไทฮองไทเฮานางเองก็เข้าใจว่าการเป็นฮ่องเต้นั้นไม่ง่าย ถึงจะมีอำนาจอยู่ในมือแต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะนอบน้อมอย่างเคารพด้วยใจจริง ยังมีผู้คนอีกไม่น้อยที่อยากนั่งตำแหน่งนี้ ผู้คนรอบกายแม้แต่สตรีที่นอนเคียงข้างก็ใช่ว่าจะเชื่อใจได้ แต่ในฐานะย่านางเองก็ไม่อยากเห็นหลานชายไร้คนที่เคียงข้างคอยดูแลและไว้ใจได้ ในสายตาของนางที่พบเจอสตรีในวังหลังมามากกลับคิดว่าสวี่ฮองเฮา จะเป็นสตรีที่ดีที่อยู่เคียงข้างหลานชายของนางได้
“เช่นนั้นเจ้าบอกย่าได้หรือไม่ ว่านางเขียนจดหมายว่าอย่างไร จึงทำให้เจ้าหมางเมินนางเช่นนี้” หญิงชรามองหน้าหลานชายบ่งบอกถึงความใคร่อยากรู้
ตั้งแต่หนิงเฉิงฮ่องเต้ขึ้นครองราชย์ก็ไม่ค่อยไว้ใจใคร แต่เขารู้ดีว่าเขาสามารถเชื่อใจไทฮองไทเฮาได้อย่างแน่นอน เขาจึงเล่าเนื้อหาในจดหมายนั้นให้เสด็จย่าของเขาฟัง
“นางบอกกับเหลียนอ๋องว่านางคงทำให้พ่อบุญธรรมของนางต้องผิดหวังแล้ว เพราะนางคงไม่มีโอกาสได้ตั้งครรภ์กับหลาน เหลียนอ๋องคงไม่มีโอกาสได้เป็นท่านตาอย่างที่นางได้รับปากเหลียนอ๋องเอาไว้”
ไทฮองไทเฮาเมื่อได้ยินเช่นนี้จึงเข้าใจในสิ่งที่หลานของตนคิด เขาคงกลัวประวัติศาสตร์จะซ้ำรอยอีกเป็นแน่ จึงได้ใจดำกับนางถึงจะให้หมอหลวงคอยดูแลแต่ไม่แม้แต่จะไปเยี่ยมเยียนนาง
หนิงเฉิงฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าของผู้เป็นย่าราวกับเข้าใจความรู้สึกและความคิดของเขา เขาจึงได้เอ่ยต่อ
“เสด็จย่าอย่าได้หวงเลยถึงอย่างไรนางก็เป็นฮองเฮาของหลาน หากนางไม่ลงมือทำอันใดที่จะทำให้บัลลังก์นี้สั่นคลอน หลานย่อมไม่ทำร้ายนางและอำนาจในวังหลังก็ยังเป็นของนางเพียงแต่หากนางยังแสร้งแกล้งทำเป็นผู้ถูกรังแก หลานก็คงทำได้เพียงนั่งดูละครเรื่องนี้ต่อไป”
‘สวรรค์หรือโชคชะตาที่เล่นตลก คนอื่นทะลุมิติมามีแต่คนรุมรัก ทว่าตั้งแต่ข้าฟื้นมามีแต่คนอยากจะฆ่า ในเมื่อข้าอยากเป็นเพียงคุณหนูเสพสุขไปวัน ๆ แต่บารมีไม่ถึงวาสนาไม่อำนวย เช่นนั้นข้าจะทำตามลิขิตฟ้า กลายเป็นนางร้ายอย่างที่สวรรค์ต้องการ’
ย้อนเวลากลับมาก็ดี หรือจะเป็นเพียงฝันหนึ่งก็ช่าง แต่ข้ารู้แล้วว่าการงมงายกับความรักข้างเดียวนั้นมันช่างน่าเวทนายิ่งนัก ในเมื่อข้าพยายามมามากแล้วแต่ท่านกลับไม่เห็นค่า เช่นนั้นก็พอเท่านี้เถอะ
เมื่อเพื่อนรักที่ไว้ใจแอบทรยศคบกับชายที่ตนรัก และชายที่ตนรักกลับรังเกียจตนจนไม่แม้แต่จะแตะต้องเนื้อตัวเธอ สิ่งที่เธอทำได้คือต่างคนต่างอยู่ แต่ในวังหลังแห่งนี้เธอจะทำอย่างนั้นได้จริงหรือ? ตัวอย่างเนื้อเรื่อง “เจ้ามีอันใดจะกล่าวหรือไม่... สนมหลี่กุ้ยเฟย” น้ำเสียงราบเรียบก่อนจะเน้นที่ละคำในประโยคท้ายอย่างหนักแน่น “ฮองเฮาแน่ใจแล้วหรือเพคะ ว่าจะให้หม่อมฉันทูลทุกอย่างต่อหน้าข้าราชบริพารเหล่านี้ หากมีข่าวแพร่ออกไปอีก ฮองเฮาทรงทนฟังคำนินทาเหล่านั้นได้หรือไม่” หลี่ฟางซินกล่าวพร้อมยิ้มอ่อนๆ หลี่ฟางซินย่อมรู้ดีว่าเย่วลี่อิงคงได้ยินคำนินทาเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนแล้วจึงได้พูดเน้นย้ำ หวังจะกระตุ้นให้นางลงมือทำร้ายตน “คำนินทาเรื่องใดกัน เรื่องที่เจ้าเป็นนางอสรพิษนะหรือ เหตุใดเราจะทนฟังไม่ได้เล่า” เย่วลี่อิงตรัสพร้อมยักไหล่อย่าไม่แยแส มีหรือเย่วลี่อิงจะดูไม่ออกว่า ข่าวลือที่แพร่ออกไปนั้นมาจากผู้ใด หากเป็นแต่ก่อนนางย่อมไม่คิดว่าเป็นสหายคนสนิทของนางเป็นแน่ แต่บัดนี้นางรู้แล้วว่าหญิงที่ยืนตรงหน้านางหาใช่สตรีอ่อนหวานแสนดีอย่างที่นางรู้จักไม่ “หม่อมฉันเป็นนางอสรพิษตั้งแต่เมื่อใดกันเพคะ หม่อมฉันและฝ่าบาทมีใจรักใคร่กันมาเนิ่นนาน หากไม่ใช่เพราะฮองเฮาใช้ความดีของท่านแม่ทัพทูลขอให้ฮ่องเต้องค์ก่อนพระราชทานงานแต่ง วันนี้ตำแหน่งฮองเฮาก็ไม่แน่ว่าจะเป็นของใคร” “เจ้านางแพศยา หากเจ้ามีใจให้ฝ่าบาท แล้วทำไมไม่บอกข้า ยังแสดงแกล้งเป็นแม่สื่อนำของที่ข้ามอบให้ฝ่าบาท ฝากผ่านพี่ชายเจ้าช่วยมอบของให้ฝ่าบาทแทนข้า” เย่วลี่อิงเริ่มพูดด้วยอารมณ์ขุ่นเคือง “ของอันใดกันเพคะ หม่อมฉันไม่เคยนำของ ของพระองค์มอบให้ฝ่าบาทเลยนะเพคะ ยิ่งให้พี่ชายช่วยส่งแทนให้ยิ่งมิเคย” น้ำเสียงเยาะเย้ยบวกกับรอยยิ้มยียวนของหลี่ฟางซินทำให้เย่วลี่อิงหัวเสียมากขึ้น “นี้เจ้าเอาของของเราไปทิ้งอย่างนั้นหรือ” “ฮองเฮาพูดถึงเรื่องอะไรเพคะ หม่อมฉันไม่เห็นรู้เรื่องเลย พระองค์อย่าได้ใส่ความหม่อมฉันสิเพคะ” “นี้เจ้า”
"นางเป็นบุตรีผู้สูงศักดิ์ของฮูหยินเอกของจวนเสนาบดี นางมีหน้าตาโดดเด่น ทั้งอ่อนโอนและมีน้ำใจไมตรีต่อผู้อื่น แต่... นางทำดีต่อป้าของนาง นางกลับฆ่าแม่ของนางตาย นางรักเอ็นดูน้องสาวของนาง แต่น้องสาวกลับแย่งสามีของนางไป นางคอยสนับสนุนและดูแลสามีของนางอย่างสุดหัวใจ แต่สามีกลับทำให้นางตายทั้งกลม...ตระกูลฝ่ายมารดาของนางก็ถูกประหารชีวิตทั้งตระกูลด้วย นางตายตาไม่หลับและสาบานว่าหากมีชาติหน้า นางจะไม่เมตาตาต่อใครอีก ใครก็ตาม กล้ามาทำร้ายข้า ข้าจะล้างแค้นด้วยชีวิตทั้งตระกูลของพวกเจ้า เมื่อเกิดใหม่อีกครั้ง นางอายุได้สิบสี่ปี นางสาบานว่าจะต้องเปลี่ยนชะตากรรมและแก้แค้นชาติก่อน ป้านางใจ้ร้าย นางจะใจร้ายกลับยิ่งกว่านาง นางคิดจะได้ครองตำแหน่งฮูหยินงั้นเหรอ บอกเลยไม่มีทาง! ส่วนน้องสาวชอบผู้ชายชั่ว ๆ นักไม่ใช่หรือ ได้!ข้าจะยกให้เลย ส่วนชายชั่วนั่น ข้าจะทำให้เจ้าไม่สามารถมีทายาทได้อีกตลอดทั้งชาติ!แต่ข้าจะแก้แค้น เหตุใดเจ้าต้องมาช่วยข้าด้วย?"
ในชีวิตชาติที่แล้ว เพื่อช่วยรักแรกของตัวเอง คนชั่วสามคนได้ทำลายพลังการต่อสู้ของนาง ตัดแขนขาของนางออก ตัดเส้นเลือดของนางและปล่อยเลือดของนางไหลออกมาทั้งอย่างนั้น และทรมานนางจนตาย เมื่อเกิดใหม่ครั้งนี้ นางวางแผนอย่างรอบคอบ โดยสาบานว่าจะให้พวกเขาได้สัมผัสกับความทุกข์ทรมานที่นางเคยประสบมา! รักแรกที่ไร้เดียงสาอะไรกัน ที่จริงก็เป็นเพียงผู้หญิงที่ตีสองหน้าเก่ง อยากจะไต่ขึ้นไปสูงเหรอ งั้นก็จะให้เจ้าปีนขึ้นไป ยิ่งปีนขึ้นสูงมากเท่าไร ตอนตกลงมาก็จะยิ่งเจ็บมากเท่านั้น! พวกสวะสมควรได้รับบาปกรรมของพวกสวะ พวกมันทำชั่วกับนางไปชั่วชีวิตหนึ่ง นางจะทำให้พวกมันไม่ตายดี พวกคนที่เจ้าเล่ห์ ตีสองหน้าเก่ง นางจะจัดการกับทุกคน! แต่นางไม่เคยคิดเลยว่าในการแก้แค้นของนาง นางจะไปมีเรื่องกับเสด็จอาที่เป็นเจ้าแผนการเข้า ที่วัน ๆ ต้องการให้นางจูบและกอดเขาตลอดทั้งวัน ในขณะที่นางแก้แค้นคนชั่วนั้นยังสามารถสนิทสนมกับเสด็จอาด้วย ในความจริงแล้ว การที่เป็นผู้หญิงชั่วๆ ก็มีความสุขมาทีเดียวกว่าที่คิดเลย!
ในสายตาของเขา เธอเป็นคนขี้โกหก ในสายตาของเธอ เขาเป็นคนไร้หัวใจ เดิมทีถังหว่านคิดว่าเธอคือคนพิเศษหลังจากอยู่กับเสิ่นติงหลานมาสองปี แต่สุดท้ายก็พบว่าตัวเองเป็นแค่ของเล่นที่สามารถทิ้งได้อย่างตามใจเมื่อไม่มีค่าอีกต่อไป จนกระทั่งถังหว่านเห็นว่าเสิ่นติงหลานพาคนรักของเขาไปตรวจครรภ์ เธอจึงยอมแพ้แล้ว เธอหยุดติดตามเขาอีก แต่จู่ๆ เขากลับไม่ยอมปล่อยเธอไป "ถ้าคุณไม่เชื่อฉัน ทำไมคุณไม่ปล่อยฉันไปล่ะ?" ชายผู้เคยหยิ่งยะโสขนาดนั้น ตอนนี้ก้มหัวลงและขอร้องว่า "หวานหว่าน ฉันผิดไปแล้ว โปรดอย่าทิ้งฉันไป"
ว่าที่ลูกสะใภ้ไฟแรงสูงเธอต้องเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกับว่าที่พ่อผัวหม้ายร้างเมียมานายอรมปี
เฉียวลู่ นักแสดงแถวหน้าของจีนมีข่าวฉาวออกมาทำให้ทางต้นสังกัดของเธอสั่งให้เธองดออกสื่อชั่วคราว จึงเป็นโอกาสที่หาได้ยากสำหรับคนงานยุ่งตลอดทั้งปีของเธอที่จะได้พักผ่อน เฉียวลู่เดินทางกลับบ้านเกิดของเธอและการกลับไปครั้งนี้ทำให้ชีวิตของเฉียวลู่เปลี่ยนไปตลอดการ ฉีหมิงเยี่ยน อนุชาองค์เล็กของฮ่องเต้แห่งแคว้นฉี ถูกลอบปลงพระชนม์ระหว่างที่เดินทางมาทำหน้าที่เจรจาสงบศึกกับเเเคว้นเซียว เพราะได้รับบาดเจ็บสาหัสทำให้ชินอ๋องความจำเสื่อมและได้รับการช่วยเหลือจากพ่อลูกตระกูลเฉียว เซียวยิ่น ฮ่องเต้แคว้นเซียวมีพระสนมมากมายเเต่กลับไม่สามารถให้กำเนิดพระโอรสได้โหรหลวงได้ทำนายเอาไว้ว่า ในอนาคตองค์รัชทายาทที่แท้จริงจะกลับมาเซียวยิ่นจึงมีรับสั่งให้ทหารออกตามหาพระโอรสและอดีตฮองเฮาของตนอย่างลับๆ ฉินอี้เหยา ได้รับบาดเจ็บสาหัสร่างลอยตามแม่น้ำมาพร้อมกับเด็กทารกในอ้อมแขนเมื่อฟื้นขึ้นมานางจึงแสร้งจำเรื่องราวในอดีตไม่ได้ เพื่อให้นางและบุตรชายมีชีวิตรอดต่อไป
เสิ่นชิงกลายเป็นลูกสาวของชาวนาจากคุณหนูที่ร่ำรวยของตระกูลเสิ่นในชั่วข้ามคืน ลูกสาวตัวจริงใส่ร้ายเธอ คู่หมั้นของเธอทำให้เธออับอาย และพ่อแม่บุญธรรมของเธอก็ไล่เธอออกจากบ้าน... ทุกคนต่างรอที่จะหัวเราะเยาะเธอ ทว่าเธอกลับกลายเป็นทายาทของตระกูลเศรษฐีในเมืองอย่างกะทันหัน นอกจาดนี้ เธอยังมีตัวตนหลากหลาย เช่น หัวหน้าแฮ็กเกอร์ระดับนานาชาติ นักออกแบบเครื่องประดับชั้นนำ นักเขียนผู้ยิ่งใหญ่ที่ลึกลับ และอัจฉริยะด้านการแพทย์! พ่อแม่บุญธรรมเสียใจกับการตัดสินใจของตนและบังคับให้เธอแบ่งทรัพย์สินครึ่งหนึ่งให้เพราะพวกเขาเลี้ยงดูเธอมา เมื่อเสิ่นชิงหยิบกล้องออกมาแล้วบันทึกท่าทางอันน่าเกลียดของพวกเขา อดีตคู่หมั้นรู้สึกเสียใจและพยายามจะคืนดีกับเธอ เสิ่นชิงหัวเราะเยาะ "เขาคู่ควรงั้นเหรอ" จากนั้นก็ไล่เขาออกจากเมือง ในที่สุด ผู้มีอำนาจแห่งเมืองก็พูดอ้อนวอนเบาๆ "ไม่จำเป็นต้องแต่งเข้าตระกูลผม เดี๋ยวผมไปหาเอง"