เคนคู่หมั้นของริกะจังนอกใจเธอไปแอบคบกับผู้หญิงอีกคน ริกะจังจับได้แต่ก็อดทนไว้เพราะรักเขา วันหนึ่งเธอไปงานเลี้ยงรุ่นได้พบแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ใจของริกะอยากจะเอาคืนเคนเธอจึงเผลอใจให้กับแฟนเก่า ตัวอย่างบางตอน "ผมใส่แล้วนะ" "อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า" ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
"ผมใส่แล้วนะ"
"อื๊อ เร็ว ๆ หน่อยสิคะเสียวจะแย่แล้ว อ๊า อ๊า"
ชายหนุ่มหล่อเหลาคนหนึ่งคล่อมร่างของหญิงสาวสวยผิวขาวหุ่นดี หน้าอกตูมอย่างช้า ๆ ในขณะที่มือเรียวบีบหน้าอกของตนเองคลายความอยากพร้อมทั้งเลียปากอย่างกระหาย
"ขอลิ้นหน่อยสิคะที่รัก อยากดูดลิ้นจัง"
เธอออดอ้อน แต่ดูเหมือนว่าชายหนุ่มคนนั้นจะไม่ใส่ใจคำขอ เขากระแทกร่างลงมาไม่กี่ครั้งก็ฟุบลงบนหน้าอกของเธอ
"ผมขอโทษนะครับ คงเหนื่อยเกินไปหน่อยเสร็จเร็วเลย"
ริกะผู้ที่เพิ่งเริ่มบทรักถึงกับหัวเราะในลำคอ เธอกล้ำกลืนความอยากของตัวเองเอาไว้ได้แต่พยักหน้าอย่างยอมรับ
"ไม่เป็นไรค่ะ พักนี้งานคุณยุ่งไม่ได้พักเลยนี่คะ ฉันเข้าใจ"
เป็นความเข้าใจมาเกือบสามเดือนแล้วสำหรับเธอ ริกะนอนมองเพดานเมื่อ เคน คู่หมั้นหนุ่มนอนหลับไปแล้ว ในขณะที่น้องสาวของเธอยังชื้นแฉะและเธอยังต้องการอยู่มาก
ในที่สุดหญิงสาวก็ลุกขึ้นเปิดลิ้นชักคว้าดิลโด้อันยักษ์แล้วถ่างขาของตัวเองออก เธอเปิดระบบสั่นค่อยยัดดิลโด้เข้าไปข้างในช้า ๆ
ทันทีที่ปลายดิลโด้สัมผัสเนื้อสาวก็ทำให้ริกะถึงกับสั่นระริกแล้วครางออกมา
"อ๊า เสียวจังเลย อ๊า ที่รักของริกะเสียวจังเลย อยากเลียจังเลย อ๊า"
ถึงริกะจะครางเสียวขนาดไหน คนที่นอนหมดสภาพอยู่ข้าง ๆ ก็ไม่มีวี่แววว่าจะตื่น เธอยัดดิลโด้เข้าไปลึกขึ้น มือข้างหนึ่งบีบนมตัวเองแล้วเขี่ยหัวนมใบหน้าดูทรมานเป็นอย่างยิ่ง
สิ่งที่เธอคิดในตอนนี้กลับไม่ใช่ใบหน้าของแฟนนุ่มที่กำลังจะแต่งงานกัน แต่กลายเป็นใบหน้าของ ฮาจิ แฟนเก่าสมัยมหาวิทยาลัยที่เลิกกันด้วยเหตุผลที่เธอก็จำไม่ได้
เธอคิดถึงบทรักที่ถึงอกถึงใจของเขา
หลายวันต่อมา
ริกะปารูปที่เธอจ้างนักสืบไปตามสืบแฟนของเธอทิ้งลงถังขยะ จากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไปของเขาทำให้ริกะเกิดสงสัย และแล้วก็เป็นจริงอย่างที่เธอคิด ริกะนั่งลงอย่างเจ็บช้ำ เธอร้องไห้อย่างหมดสภาพจนกระทั่งหลับไปในวันที่เขาอ้างงานและไม่กลับบ้าน
ทั้ง ๆ ที่เธอรู้ว่าเขากำลังอยู่กับผู้หญิงคนนั้น
ริกะตื่นขึ้นมาในสภาพสะลึมสะลือ ได้ยินเสียงตั้งปลุกในวันนี้เธอมีงานเลี้ยงรุ่นเพื่อนสมัยมหาวิทยาลัยที่ไม่ได้เจอกันมาหลายปี ริกะรีบอาบน้ำแต่งตัวออกจากบ้านไปตั้งแต่เช้า
เธอแวะเข้าสปานวดตัวเพื่อผ่อนคลาย ถึงจะยังเสียใจจนไม่อยากพบใคร แต่วันนี้ในบรรดาเพื่อนเก่าของเธอยังมีแฟนเก่าที่ไม่ได้เจอกันหลายปีรวมอยู่ด้วย
จู่ ๆ ริกะก็อยากพบเขา
วันนี้เธอแต่งตัวสวยด้วยเดรสลายจุดราคาแพง บรรจงใส่น้ำหอมกลิ่นยั่วยวนทั้งที่ไม่เข้าใจตัวเองว่ากำลังหวังอะไรกันแน่ เมื่อถึงงานเลี้ยงเพื่อนของเธอมาถึงก่อนหลายคนแล้ว
เสียงทักทายดังขึ้นทันที
"ริกะมาแล้ว โอว้เธอสวยจังเลยแต่ก่อนว่าสวยแล้วตอนนี้ยิ่งสวยกว่าเดิมอีก"
ริกะเป็นสาวสวยเรียบร้อยตั้งแต่สมัยเรียน แต่เบื้องหลังผู้หญิงเรียบร้อยคนนี้กลับตรงกันข้ามกับที่ใคร หลาย ๆ คนคิด
และแล้วคนที่เธอรอคอยก็มาถึง ริกะตกใจมากเมื่อเห็นว่าเขาดูหล่อเหลามากกว่าเดิมอีก ตั้งแต่เขามาถึงก็เอาแต่จ้องเธอจนเธอหน้าแดง และเพื่อน ๆ ของเธอก็ดูเหมือนว่าจะรู้เห็นเป็นใจ จัดให้ริกะกับแฟนเก่าที่ชื่อว่า ฮาจินั่งด้วยกัน
ในตอนแรกที่นั่งดื่มและร้องเพลงในบรรยากาศมืดสลัว ดูเหมือนว่าเขายังคงสุภาพและพูดคุยกับเธอถึงเรื่องราวปัจจุบัน จนกระทั่งกลางดึกเพื่อนหลายคนเมาฟุบแล้ว
ริกะใบหน้าแดงก่ำฮาจิค่อย ๆ ขยับเข้าหาเธอ เขาเอื้อมมือมาโอบเอวเธอใบหน้าหล่อเหลาของเขาอยู่ใกล้เธออย่างแนบชิด จนเพื่อนคนหนึ่งแซวขึ้นมาว่า
"ฮาจินายกับริกะยังคบกันอยู่เหรอ สายตาที่พวกนายมองกันนี่ทำฉันร้อนเป็นไฟเลย"
และแล้วเพื่อนคนนั้นก็ฟุบหลับไป
ริกะมองหน้าฮาจิ ยิ่งมองเขาก็ยิ่งดูน่าหลงใหล ฮาจิมองเธอเช่นกัน เขาจับมือของเธอแล้วบอกว่า
"ผิวขาว ๆ ของริกะเป็นสีแดงอีกแล้ว เหมือนเดิมสินะดื่มแล้วตัวแดงทุกที"
"อื้ม แต่ก็ดื่มเก่งขึ้นกว่าเดิมมากแล้ว"
จู่ ๆ ฮาจิก็พูดขึ้นว่า
"เราสองคนความจริงเลิกกันเพราะอะไรนะ ฉันไม่ได้อยากเลิกกับเธอสักหน่อย"
ริกะหัวเราะ
"ไม่รู้สิจำเรื่องที่ทะเลาะกันไม่ได้แล้วตอนนั้นยังเรียนอยู่ด้วยกันทั้งคู่ หลังสอบเสร็จก็ไม่ได้คุยกันแล้วนี่"
ฮาจิจับแหวนหมั้นในมือของริกะเล่น ริกะเพิ่งเห็นเหมือนกันว่าเธอลืมถอดแหวนเฮงซวยนี้ ในขณะที่นิ้วเรียวของเขาไล้ที่ปลายนิ้วของเธอเบา ๆ ฮาจิก้มลงกระซิบชิดใบหูของริกะ
"แฟนเธอเขารักเธอมากเท่าฉันหรือเปล่า เขารู้หรือเปล่าว่าเธอชอบแบบไหน เขาทำให้เธอครางได้เหมือนฉันหรือเปล่า เขาบี้นมให้เธอมั๊ย เขาเลียให้เธอครางเหมือนฉันหรือเปล่า"
"ฮาจิ อย่าพูดเลย เราเลิกกันนานแล้วนะ"
ริกะหน้าแดง คิดถึงสิ่งที่เขาพูดแล้วเธอก็อดรู้สึกเสียวที่ตรงช่องส่วนนั้นไม่ได้ เขากำลังเล้าโลมเธอด้วยคำพูด
"ไม่พูดไม่ได้หรอก อยากเอาริกะแบบนั้นตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว นอนฝันถึงตลอดเลยรู้มั๊ย อัดอั้นจนทนไม่ไหวแล้ว ริกะไม่คิดถึงเรื่องของเราบ้างเลยเหรอ"
ริกะถึงกับตกใจ ไม่ใช่เธอคนเดียวที่ยังคิดถึงเขาจนเก็บเอาไปฝัน แต่ฮาจิก็เป็นเหมือนกัน แต่เธอก็ต้องโกหกเขาออกไป
"ไม่เลย ฉันมีคู่หมั้นแล้วนะคิดถึงคนอื่นไม่ได้หรอก"
"ริกะดูสิ มันน้อยใจแล้วนะ แต่มันยังสู้มืออยู่เลย"
ฮาจิลูบน้องชายของตัวเองช้า ๆ ยั่วยวนริกะเป็นอย่างยิ่ง ในใจของริกะอยากจะดึงกางเกงของเขาลงมาแล้วยัดเจ้ายักษ์ที่อยู่ในนั้นเข้าปากของเธอ แล้วดูดให้อร่อย
แต่เธอก็ยังอายอยู่มาก ทั้งยังตำหนิตัวเองที่คิดเรื่องแบบนี้กับเขา ถึงคู่หมั้นจะนอกใจแต่พวกเธอยังไม่ถอนหมั้นกันสักหน่อย
"แต่ก่อนเธอชอบดูดไม่ใช่เหรอ จำได้ว่าดูดจนแตกคาปากทุกครั้งเลยไม่คิดถึงบ้างเหรอ"
ริกะหน้าแดงก่ำ คำพูดเชิญชวนให้คิดไปไกลและสัมผัสอันวาบหวามของเขาทำให้เปียกแฉะ ฮาจิรู้ดีว่าจะกระตุ้นเธอยังไง เธอกำลังเมาสองจิตสองใจว่าตัวเองจะกระทำต่ำทรามเหมือนผู้ชายที่ขึ้นชื่อว่าเป็นคู่หมั้นของเธอได้มั๊ย
ทั้ง ๆ ที่ในใจเรียกร้องขนาดนี้ เธอมั่นใจแล้วว่าตัวเองยังชอบและคิดถึงฮาจิขนาดไหน เธอร้อนวูบวาบไปทั้งตัว ตอนนี้เธอแน่ใจแล้ว่าตัวเองนั้น....
อยากจะทำอะไรกับเขาจะแย่แล้ว
ฮาจิเหมือนยังยั่วเธอไม่พอ เขาไต่นิ้วเข้ามาที่เรียวขาของเธอ ลูบไล้ช้า ๆ ยังกระซิบออกมาอีก
"เขานอกใจริกะไม่ใช่เหรอ ทำไมยังจะแต่งกับเขาอีกล่ะ ในเมื่อเขาไม่ดีก็เลิกกับเขาสิ คืนนี้จะจัดให้ริกะอิ่มไปเลย ลืมคนนั้นน่ะ ดีหรือเปล่า"
คำพูดของฮาจิทำให้ริกะตกตะลึง
สาเหตุที่เขาได้ดูแลเด็กคนนี้นั่นเป็นเพราะพ่อแม่ของเอยและพี่ชายของเอยเป็นเพื่อนสนิทของเขา ครอบครัวเอยจากไปด้วยอุบัติเหตุทางรถยนต์ตั้งแต่เอยอายุได้เพียงสิบขวบเท่านั้น ญาติของเอยก็ไม่มีใครเหลียวแลทำให้เขาซึ่งสนิทกับครอบครัวของเอยที่เห็นเอยมาตั้งแต่เล็ก ๆ เกิดความสงสารจึงได้ขอให้พ่อแม่ของเขารับเอยมาเลี้ยงดู และพ่อแม่ของเขาก็ตกลง หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ย้ายไปอยู่ต่างประเทศ จึงทิ้งให้เขาและเอยอยู่ด้วยกันที่เมืองไทยตามลำพัง นับตั้งแต่นั้นเขาก็กลายเป็นพี่ชายของเอยเต็มตัว แต่วันนี้เมื่อเอยโตขึ้น เธอกลับไม่เห็นบุญคุณและคิดจะจากเขาไปง่าย ๆ ทั้ง ๆ ที่นับวันเขาจะรักเธอจนกระทั่งถอนตัวไม่ขึ้นและเฝ้ารอเธอเติบโตมานานขนาดนี้ ++++++ “อ๊า...เฮียอย่านะ อย่าทำหนู” สาวน้อยส่งเสียงครางเล็ดลอดออกมาเพราะความเสียวซ่าน และเอ่ยห้ามแต่น้ำเสียงของเธอคล้ายกระตุ้นเขายิ่งขึ้นไปอีก “เอยอยากใช่หรือเปล่า หนูก็ต้องการเฮียใช่ไหม” “ไม่...อย่านะเฮีย หนูไม่ได้ต้องการเฮีย เฮียเป็นพี่ชายหนูนะ” “ต่อไปเฮียจะเป็นผัวหนู แล้วจะเอาหนูแรง ๆ ให้หนูไปไหนไม่ได้ต้องร้องหาเฮียเท่านั้น” คำพูดของเขาทำให้เอยหวาดกลัว แต่ในความรู้สึกนี้กลับมีความอยากรู้อยากเห็นอย่างประหลาด หญิงสาวผลักเขาออกเมื่อธนเดชดึงชุดนอนของเธอจนขาด แต่แรงของเขามีมากกว่าตอนนี้เธอจึงยืนเปลือยต่อหน้าเขา เอยยืนน้ำตาไหลพราก เมื่อเขาเห็นเขาจึงเหยียดยิ้มมุมปากอย่างผู้ชนะ “ฉันเกลียดแก อื้อ อื้อ”
หนานอันพริตตี้สาวสู้ชีวิตอายุยี่สิบปีแอบชอบผู้ชายคนหนึ่งอย่างหนักและอยากได้เขามาเป็นแฟนใจจะขาด แต่ดูเหมือนว่าเขาจะไม่สนใจเธอ หญิงสาวได้ไปดูดวงแม่หมอคนนั้นจึงบอกให้เธอมาขอพรที่ศาลเจ้าเล็ก ๆ ในอำเภอแห่งหนึ่งที่ห่างไกลเพื่อให้เธอสมหวังและต้องไปในวันที่ฟ้ามืดที่สุดของเดือนในอีกสองวันข้างหน้าถึงจะเห็นผล หนานอันเชื่อแม่หมอเพราะอยากได้ผัว เธอจึงไม่รอช้ารีบคว้ากระเป๋าเป้เดินทางมายังศาลเจ้าทันที เมื่อหนานอันเข้าไปภายในศาลเจ้าก็พบว่า มีสตรีสูงวัยคนหนึ่งอายุราวหกสิบกว่าปีกำลังกวาดศาลเจ้าอยู่ ...... "ได้ของสิ่งนี้ไปต้องสมหวังอย่างแน่นอน" คุณยายพูดพร้อมกับรอยยิ้ม น้ำเสียงนี้ฟังดูเยือกเย็นเป็นอย่างยิ่ง หนานอันยิ้มให้คุณยายจู่ ๆ ขนแขนของเธอก็ตั้งชันขึ้นมา เธอกำลังจะลุกขึ้นในตอนนั้นก็เกิดฟ้าผ่าเปรี้ยงลงมา หนานอันหวีดร้องด้วยความตกใจทว่าเมื่อหันไปมองคุณยายเธอไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว หนานอันประหลาดใจมากร้องเรียกคุณยายอยู่หลายคำ แต่ว่าในตอนนี้เธอก็ไม่มีเวลาให้คิดสิ่งใดแล้วเพราะเกิดสิ่งที่ไม่คาดคิดขึ้นเมื่อฟ้าผ่าลงมาที่ศาลเจ้าเข้าอย่างจังหนานอันที่อยู่ด้านในจึงถูกฟ้าผ่าไปด้วยและสติดับวูบลงไปทันใด ไม่รู้ว่านานเท่าใดที่หนานอันตกอยู่ในความมืดมิด และเมื่อเธอตื่นขึ้นมาทุกอย่างรอบกายของเธอก็ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป...
เซียวหนานอยู่ในระดับต่ำสุดขององค์กรลับที่แผ่ขยายสายข่าวไปทุกแว่นแคว้น นางเป็นเด็กกำพร้าไร้บิดามารดาที่ถูกเก็บมาให้เป็น นกกระจอกสืบข่าว เรียกได้ว่าเป็นชนชั้นที่วรยุทธ์ต่ำต้อยและต้องทำงานเอาตัวเข้าแลกเพื่อหาข่าวให้กับเบื้องบน ดังนั้นนกกระจอกเช่นนางจึงมีมากมายแทรกซึมเข้าไปในจวนขุนนางต่าง ๆ โดยที่ไม่มีผู้ใดล่วงรู้ สิ่งที่นางฝึกฝนมาตลอดหลายปีมานี้ก็คือการเอาใจบุรุษ บำรุงร่างกาย ฝึกฝนศาสตร์ทั้งห้าให้เชี่ยวชาญ และฝึกวิชาเสพสังวาสให้บุรุษติดใจ แม้ว่าจะไม่เคยทำกับบุรุษจริง ๆ แต่ขนาดของแท่งหยกของบุรุษนางล้วนได้สัมผัสมาแล้วจากแท่งหยกของเทียมและแท่งหยกบุรุษของจริงที่นางไม่เคยเห็นหน้าว่าคนพวกนั้นคือผู้ใด เพราะพวกนางต้องมอบกายให้กับเหยื่อคนแรกที่นับว่าส่วนใหญ่จะเป็นชนชั้นสูง ดังนั้นจึงไม่อาจร่วมประเวณีกับบุรุษอื่นก่อนที่จะได้รับมอบเหยื่อจากนายใหญ่
องค์หญิงใหญ่รั่วเสียน ต้องปกป้องบัลลังก์ของน้องชายที่ขึ้นครองราชย์ในวัยเพียงแค่ 4 ขวบ ดังนั้นนางจึงต้องหาทางมัดใจเสนาบดีกัวผู้กุมอำนาจราชสำนักเอาไว้ให้ได้ ทว่าบุรุษผู้นี้กลับไม่ต้องการแต่งงานกับนาง เขายังทำตัวดั่งบิดาหาบุรุษไว้ให้นางอีก รั่วเสียนจึงต้องฝึกฝนการยั่วยวนเขาเพื่อหาวิธีมัดใจบุรุษผู้นี้เอาไว้ให้ได้ และนางก็ต้องตกใจเมื่อเสนาบดีกัวกลับมีถึงสองคน! +++ นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายจีนโบราณประเภทนิยายรักสำหรับผู้ใหญ่ เป็นเรื่องแต่งขึ้นจากจินตนาการไม่ได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์ใด ๆ ดังนั้นภายในจะมีฉาก เนื้อหา เน้นหนักที่เรื่องเพศระหว่างชายหญิง มีการร่วมรักกันตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป (3P) และอาจมีความไม่สมเหตุสมผลบ้าง ขอให้ผู้อ่านใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ
คำโปรย หลังจากบิดามารดาเสียชีวิต จูเมยได้ถูกท่านอาบุญธรรมรับเลี้ยง ท่านอาผู้เปี่ยมด้วยความอ่อนโยนและเมตตา ได้กลายเป็นเสาหลักเพียงหนึ่งในชีวิตนาง หัวใจที่อ่อนโยนของจูเมยเริ่มเต้นแรงเมื่ออยู่ใกล้ท่านอา แต่ท่านอาคิดอย่างไรกับนางกันแน่? หรือว่าความรักนี้เป็นเพียงความรู้สึกที่นางมีอยู่เพียงฝ่ายเดียว? เมื่อหัวใจต้องเผชิญกับความไม่แน่นอน จูเมยกลับรู้สึกเจ็บปวดกับความรู้สึกนี้ "ท่านอา...อย่าดีต่อข้ามากนักได้หรือไม่" นิยายเรื่องนี้เป็นนิยายรักจีนโบราณ มีดราม่าเล็กน้อยช่วงเริ่มต้น จบสุขนิยม ไม่มีนอกกายนอกใจ เป็นความรักฟิน ๆ ระหว่างท่านอาและหลานสาว(บุญธรรม)ตัวน้อยของตนเอง
เรื่องย่อ จื่อเม่ยเป็นนักเขียน และได้เข้าไปอยู่ในนิยายที่ตัวเขียนเขียนเอาไว้ในฐานะตัวประกอบในนิยายที่ออกมาเพียงสองตอนก็ตาย นางถูกตัวร้ายกักขังเอาไว้ในจวน เจื่อเม่ยรู้ว่าเขาต้องตายและจำทำให้นางตายไปด้วย นางจึงต้องหาวิธีหนีจากเขาเพื่อเอาตัวรอด! นิยายเรื่องนี้เป็นแบบสุขนิยมนะคะ พระเอกจะธงแดงในตอนแรก ๆ เพราะนางเป็นตัวร้ายตามเนื้อเรื่องนะคะ หลังจากนั้นก็รักเมียที่สุดในโลกค่ะ ไม่มีนอกกายนอกใจค่ะ แนะนำตัวละคร จื่อเม่ย นักเขียนที่ย้อนไปอยู่ในโลกนิยายในร่างของอนุจื่ออิน จื่ออิน อนุของตัวร้ายที่ออกมาแค่สองตอนก็ตาย และคนที่จื่อเม่ยมาใช้ร่างกาย ซีเฉิน / องค์ชายสี่ /ซีอ๋อง ตัวร้ายที่ต้องตายในตอนจบ ซีหลาน บุตรชายอายุ 5 ขวบของตัวร้าย รั่วหนิง พระชายาที่ซีเฉินไม่เคยเหลียวแล เหล่าหลง และ เหล่าอี้ องครักษ์ฝาแฝดของซีเฉิน ผู้จงรักภักดี ซีกุ้ยเฟย แม่ของซีเฉิน นางมีความแค้นที่ฝ่าบาทเคยทอดทิ้ง จึงคิดจะแก้แค้นทุกคนและสั่งสอนให้ซีเฉินบุตรชายชิงบัลลังก์ หยางโจวซือ / องค์ชายหก / หยางอ๋อง พระเอกของเรื่องที่จื่อเม่ยวางเอาไว้ในนิยาย
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
เมื่อพวกเขาพบกันอีกครั้ง ฟู่หนานเซียวก็ขจัดความหวาดระแวงและความเย่อหยิ่งให้หมดแล้ว และกอดเมิ่งชิงหนิงอย่างแน่น "กลับมาอยู่กับผมดีมั้ย?" เธอเคยเป็นเลขาของเขา และเป็นคู่นอนของเขาในตอนกลางคืนด้วย ใช้ชีวิตแบบนี้กินเวลาสามปี เมิ่งชิงหนิงทำตามที่เขาบอกโดยตลอด ราวกับสัตว์เลี้ยงที่ว่าง่าย จนกระทั่งฟู่หนานเซียวประกาศว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนอื่น เธอจึงตัดสินใจให้พ้นจากความรักที่ไร้ค่าของตนเองและเตรียมจะจากไป แต่ใครจะไปรู้ว่า มีเหตุไม่คาดคิดเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ความพัวพันของเขา การตั้งครรภ์ของเธอ และความโลภของแม่เธอค่อยๆ ผลักเธอลงสู่นรก สุดท้ายก็โดนทรมานอย่างหนัก เมื่อเธอกลับมาในอีกห้าปีต่อมา เธอก็ไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไป แต่เขาตกอยู่ในความบ้าคลั่งห้าปี
เมื่อสองปีที่แล้ว เพื่อช่วยคนรักในใจ พระเอกถูกบังคับให้แต่งงานกับนางเอก ในใจของเขา เธอเป็นคนน่ารังเกียจและแย่งคนรักของคนอื่น เขาเลยเย็นชาต่อเธอมาตลอด แต่กลับอ่อนโยนและเอาใจใส่กับคนรักในใจถึงเป็นเช่นนี้ เธอยังคงรักเขาอย่างเงียบ ๆ เป็นเวลาสิบปี ต่อมาตอนที่เธอรู้สึกเหนื่อยและอยากจะท้อแท้นั้น เขากลับตื่นตระหนก... เมื่อเธอกำลังจะตายขณะตั้งท้องลูกของเขา ในที่สุดเขาก็ตระหนักว่าผู้หญิงที่เขายอมเอาชีวิตตัวเองไปแลกนั้นก็คือเธอโดยตลอด
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
คุณท่านเสียว คุณชายยอดเยี่ยมที่โด่งดังในเมือง B ได้แต่งงาน แต่มีข่าวลือว่าเจ้าสาวมีรูปร่างหน้าตาที่น่าเกลียดและมีฐานะต่ำต้อย สามปีมานี้ เขาปฏิบัติกับเธออย่างเย็นชาและทำเหมือนเป็นคนแปลกหน้า เจียงซิงซิงอดทนกับความเย็นชาอย่างเงียบ ๆ เธอยังคงรักเขาอย่างสุดหัวใจ เสียสละความนับถือตนเองและยอมละทิ้งตัวตนของเธอเอง จนกระทั่งวันหนึ่ง สุดที่รักของเขากลับประเทศ เขได้สารภาพว่าเขาแต่งงานกับเธอเพียงเพื่อช่วยชีวิตคนรักในใจของเขาเท่านั้น เจียงซิงซิงเสียใจและผิดหวังมาก เธอจึงเซ็นเอกสารหย่าและจากไปด้วยความเศร้าใจ สามปีต่อมา เจียงซิงซิงผู้สวยงามจนน่าทึ่งกลับมาอีกครั้ง ได้กลายมาเป็นศัลยแพทย์ที่ดีที่สุดและเป็นยอดฝีมือด้านเปียโน อดีตสามีรู้สึกเสียใจ และกอดเธอแน่นท่ามกลางสายฝน เสียงของเขาสั่นเครือ "ที่รัก คุณเป็นของผม..."
กู้ชิงเฉิงเชื่อมั่นมาตลอดว่าตราบใดที่เธอประพฤติตัวดี สักวันหนึ่ง เธอก็จะสามารถชนะใจมู่ถิงเซียวให้ได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อเสิ่นถัง รักแรกที่เขาคิดถึงมาตลอดกลับมา ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป กู้ชิงเฉิงเป็นคนว่าง่ายสอนง่ายจริงๆ เธอจัดงานแต่งงานด้วยคนเดียว และนอนคนเดียวในห้องผ่าตัดเพื่อรับการรักษาฉุกเฉิน มีข่าวลือว่าเธอบ้าไปแล้ว อันที่จริงเธอบ้าไปแล้วจริงๆ ที่รักใครสักคนอย่างไม่ละอายขนาดนี้ ต่อมา ทุกคนลือกันว่า กู้ชิงเฉิงป่วยหนักและกำลังจะเสียชีวิต มู่ถิงเซียวถึงสูญเสียการควบคุมอย่างสิ้นเชิง "ฉันไม่ปล่อยให้เธอตาย" แต่เธอกลับยิ้มอย่างนิ่งๆ ว่า "ดีจังเลย ฉันเป็นอิสระแล้ว" ใช่แล้ว ไม่ต้องการกู้ชิงเฉิงอีกแล้ว"