ดาวน์โหลดแอป ฮิต
หน้าแรก / โรแมนติก / พฤษภาหวนรัก
พฤษภาหวนรัก

พฤษภาหวนรัก

5.0
77 บท
33.4K ชม
อ่านเลย

ค่ำคืนหนึ่งที่เขาและเธอตกลงเป็นของกันและกัน ต่างฝ่ายต่างเผยความรู้สึกที่ซ่อนเร้นแอบรัก ทว่าชะตาชีวิตกลับเล่นตลก ทำให้ทั้งสองคนต้องพลัดจาก ผ่านไปได้ไม่นาน เธอได้ยินข่าวว่าเขากำลังจะแต่งงานกับคนที่คุ้นเคย เธอเองก็รู้จัก และผู้หญิงคนนั้นกำลังท้องเสียด้วย ความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งในค่ำคืนแห่งความทรงจำ กลับฝากตรวนรักทายาทของเขาได้ติดท้องของเธอมาด้วย หญิงสาวจำต้องเก็บเอาไว้เป็นความลับตลอดไป แม้จะรักเขามากเพียงใด แต่ก็ไม่อาจหวนกลับไปทำให้เขาลำบากใจได้ ทว่าชะตาชีวิตกลับมาพลิกผันซ้ำเติมกลั่นแกล้งเธออีกครั้ง เมื่อรู้ว่าตัวเองกำลังจะตาย เธอจะฝากชีวิตของลูกชายตัวน้อยเอาไว้กับใคร ถ้าไม่ใช่พ่อของเด็ก การหวนกลับมาพบกันอีกครั้ง เรื่องราวจะเป็นอย่างไร มันจะเศร้าจะโศก หรือว่าจะเต็มอิ่มไปด้วยความสุข มาติดตามกันได้ค่ะ

สารบัญ

บทที่ 1 ตามหาหัวใจ

ปาตรี กรมจาริณ เดินหาลูกสาวจนทั่วบ้าน แต่ก็ไม่เห็น เขาเอะใจจึงได้เข้าไปในห้องนอนของเธอ ผู้เป็นพ่อมุ่งไปที่ตู้เสื้อผ้า ทันทีที่เขาเปิดตู้ ปาตรีก็แทบเข่าทรุด

ปรียาที่ได้ยินเสียงเอะอะของพี่ชายอยู่นานแล้ว ได้รีบเข้ามาดู

“ปี่ดูมันสิ มันหนีพี่ไปแล้ว” ใบหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ ใจพะว้าพะวังหาลูกสาวทั้งเป็นห่วง และโกรธที่ภรมัยขัดคำสั่ง

ปรียาตรงเข้าไปหาพี่ชาย จับแขนของเขา แล้วฉุดให้นั่งลงไปบนเตียง บีบจับมือของพี่ชายที่กำลังโกรธจัด

“ฉันไม่เห็นด้วยที่พี่ห้ามลูกมาตลอดชีวิตของแก อย่างไรเสียสองคนนั้นก็เป็นแม่ลูกกัน เราจะเอาความขัดแย้งของพี่กับพี่เมี่ยงมาเป็นข้ออ้างที่จะให้สองแม่ลูกเขาพบกันไม่ได้ พี่ให้เก๋มันไปทำตามหัวใจของมันเถอะนะ นะพี่นะ”

พี่ชายไม่พูดอะไร ได้แต่กำหมัด ลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องนั้นไป หัวใจแค้นที่ยังคุกรุ่นไปด้วยไฟโกรธายังไม่จางหาย เพียงแค่ทะเลาะกัน เข้าใจผิดกัน ทำไมต้องทิ้งลูก นี่คือสิ่งที่ปาตรีติดอยู่ในหัวใจ

ภรมัย หรือว่า เก๋ กรมจาริณ นั่งกำใบสมัครในมือแน่น แม้ว่าเธอจะส่งใบสมัครมาทางอีเมลเรียบร้อยแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ฝ่ายบุคคลก็ยังอยากให้เธอกรอกใบสมัครอยู่ดี

หัวใจใต้แผงอกสั่นระรัว ในอีเมลตอบรับเธอเข้าทำงานแล้ว ถ้ามานั่งเขียนใบสมัครอีก เธอเกรงว่าจะไม่ได้ ภรมัยหันไปมองรอบ ๆ ก็มีอยู่หลายคนที่กำลังทำแบบเดียวกับเธอ

“คุณภรมัยเชิญสัมภาษณ์ค่ะ”

ภรมัยลุกขึ้นยืนด้วยใจตุ้ม ๆ ต่อม ๆ เธอหนีออกมาจากบ้าน พร้อมกับเงินเก็บที่เก็บได้ทั้งชีวิต สี่หมื่นบาท เธอจะอยู่ที่นี่ได้สักกี่เดือน ถ้าไม่มีงานทำ หญิงสาวเดินเข้าไปสัมภาษณ์งานด้วยความมุ่งมั่น เธอตั้งใจเรียนเต็มที่เพื่อที่จะได้หางานง่าย ๆ และมาไกลถึงที่นี่

ผ่านไปสามสิบนาที ภรมัยก็เดินออกมาด้วยรอยยิ้ม

“ผ่านไหมคะ” มีคนหนึ่งรีบถาม

ภรมัยยิ้มกว้างและพยักหน้า “ค่ะ” ตอบสั้น ๆ แต่ในหัวใจลิงโลด ภรมัยมุ่งมาหาทำงานที่เชียงใหม่ โดยที่เธอไม่เคยฟังคำทัดทานของคุณพ่อ เพียงความหวังเดียวในใจ หญิงสาวอยากมาตามหาแม่ณัฐฐา หรือว่าแม่เมี่ยง แม่ที่ได้ยินแค่ชื่อ กับรูปถ่ายตอนที่อุ้มเธอที่อายุได้หนึ่งขวบ แม่จากภรมัยมาตั้งแต่เธออายุได้เพียงสองขวบ

กระเป๋าที่พะรุงพะรัง มีทั้งเป้ ทั้งกระเป๋าใบเล็ก และกระเป๋าใส่โน้ตบุ๊กอีก หญิงสาวคนนั้นจึงถาม

“มาจากไหนคะ แล้วจะไปพักที่ไหน” ชุดที่เธอคนนั้นใส่ ดูจะเป็นคนทำงานทำความสะอาดที่นี่

ภรมัยหันมาตอบในทันที เธอกำลังหนักใจในเรื่องที่หลับที่นอนอยู่เหมือนกัน “กำลังจะไปหาอยู่พอดีค่ะพี่”

“ที่ใกล้ที่สุดตอนนี้ก็เป็นที่พักของลุงเทียนนะคะ เดินออกไปแล้วเลี้ยวซ้ายไม่ถึงสามร้อยเมตรค่ะ เดือนละสองพันห้าร้อยบาทเอง เป็นที่พักหลายเดือน พี่ก็พักอยู่ที่นั่น แต่อยู่กันสองคนกับแฟน”

“มีห้องว่างหรือคะ” หายใจออกมาแบบโล่ง

“ลุงแกเขียนป้ายเอาไว้อยู่ค่ะ เห็นว่าว่างสองห้อง”

ภรมัยรีบยกมือไหว้ขอบคุณพี่คนนั้นทันที

“ไม่เป็นไร จะได้เป็นเพื่อนบ้านกัน”

“เก๋ไปก่อนนะคะ เอ่อ... พี่”

“พี่ชื่อพี่นาค่ะ ศรีนา”

“ค่ะพี่นา”

ภรมัยคุยกับพี่ศรีนาอีกสักพัก ก่อนจะขอตัวเดินไปยังบ้านพักของลุงเทียน

ระหว่างที่เธอเดินไป ภรมัยก็ครุ่นคิดมาตลอด คนที่จะให้เบาะแสเกี่ยวกับแม่เมี่ยงของเธอได้ มีคนเดียวที่อาปรียาให้ชื่อมา นายเทียน นาถสุรีย์

บริษัททัวร์ที่ชื่อแพงกิ้ง คือจุดมุ่งหมายที่ภรมัยมาสมัครทำงาน เพราะอยู่ในอำเภอบ้านเกิดของแม่

ภรมัยภาวนาตลอดการเดินไปยังบ้านพักของลุงเทียน ว่าให้คุณลุงเจ้าของหอพักนั่นเป็น ‘นายเทียน นาถสุรีย์’ เถอะ

เมื่อมาถึงที่หน้าบ้านหลังนั้น

“สวัสดีค่ะ มีใครอยู่ไหมคะ” เธอตะโกนถามไปในทันทีภรมัยหยุดยืนอยู่หน้าบ้าน ใกล้กับเพิงหมาแหงนที่ทำให้คนมานั่งพัก ภรมัยถือโอกาสวางสัมภาระของเธอลงไป น้ำหนักของสิ่งของที่เธอรวบรวมใส่กระเป๋ามาคือสามารถอยู่รอดได้โดยที่ไม่ต้องไปหาหรือพึ่งพาผู้อื่น

เธอเดินไปด้านใน และตะโกนถามอีกครั้ง

“มีใครอยู่ไหมคะ หนูมาเช่าบ้านค่ะ” ภรมัยใช้มือป้องปากตะโกนอีกหลายที

ต่อมาไม่นาน มีคุณลุงคนหนึ่ง ผมสีขาวโพลนเกือบทั้งหัว มีสีดำแซมอยู่แค่เล็กน้อยเท่านั้น

“ลุงคะ หนูมาเช่าบ้านค่ะ เห็นว่า คุณลุงมีห้องเช่าเหลือ”

รอยยิ้มที่เปิดเผยออกมาบนใบหน้าที่แสนใจดี ท่านรีบยกมือรับไหว้หญิงสาว

“มาทำอะไรแถวนี้ ถึงจะมาเช่าบ้าน” ลุงพูดไป พลางเอาชายผ้าขาวม้าขึ้นมาเช็ดเม็ดเหงื่อที่พราวไปทั้งหน้า

สองคนสบตากัน คุณลุงคนนั้นถึงกับยกมือขึ้นมาขยี้ตาด้วยท่าทีชะงักงัน ก่อนจะเอ่ยปาก

“หนูเหมือนน้องสาวของลุงมาก เหมือนจนลุงคิดว่าลุงตาลาย ว่า ตอนนี้เธอไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์แล้ว เธอมีหน้าผากกว้าง ๆ นูน ๆ แบบนี้แหละ ตัวไม่สูง ผิวขาว หน้าตาหมวย” คุณลุงพูดถึงผู้หญิงคนนั้นด้วยรอยยิ้ม และมีใบหน้าเปี่ยมสุข

“ลุงคงจะรักน้องสาวของลุงมาก”

“รักสิ ชีวิตของเธอน่าสงสารมาก ๆ” พอคิดได้ ท่านก็เงียบเสียง ก่อนจะเปลี่ยนเรื่องคุย

“หนูจะมาเช่าบ้านใช่ไหม”

ภรมัยงงงวยในสิ่งที่ลุงเล่า แต่เธอก็รีบตอบ

“ค่ะ หนูเพิ่งได้งานทำ เป็นไกด์ที่บริษัททัวร์แพงกิ้งน่ะค่ะ บริษัทเพิ่งจะรับหนูเมื่อกี้นี้เอง และให้เริ่มงานวันจันทร์ค่ะ”

“แล้วหนูเป็นคนที่ไหน ชื่ออะไร”

หน้าตาของเธอเหมือนแม่ที่เป็นคนเหนือมาก มักจะมีคนทักถามว่าเป็นคนที่ไหน ตอนที่อยู่ปักษ์ใต้

“หนูมาไกลน่ะค่ะ มาจากภูเก็ต”

“ภูเก็ต” ลุงเทียนทำตาโต

“แล้วทำไมถึงมาหางานทำแถวนี้ บ้านป่าอยู่ในดงกันดาร” สายตาของท่านพินิจใบหน้าของภรมัยไปด้วย ท่าทางเอียงคอ และจ้องเข้ม

“มีอะไรหรือเปล่าคะคุณลุง”

ท่านส่ายหน้า ปากพึมพำ “ท่าจะไม่ใช่”

“มีอะไรหรือคะคุณลุง”

“ตามลุงมาสิ”

อ่านต่อ
img ไปดูความคิดเห็นเพิ่มเติมที่แอป
ออกใหม่ล่าสุด: บทที่ 77 ยอมทั้งใจ   06-27 11:52
img
img
ดาวน์โหลดแอป
icon APP STORE
icon GOOGLE PLAY