(อึ... ไม่ไปดีกว่า พี่เกรงใจคุณบูเธอ เราสองคนจะไปฮันนีมูนกันไม่ใช่เหรอ จะให้พี่ไปเป็นก้างขวางคอพวกเธอทำไมล่ะ)
(แหม... นาน ๆ จะได้ไปเที่ยวผ่อนคลายสักทีหนึ่ง)
(ไม่เป็นไร นายไม่รู้อะไร พี่ปิดต้นฉบับแล้วนะ พรุ่งนี้ ทางสำนักพิมพ์ก็จะโอนเงินก้อนแรกมาให้พี่แล้วจ้า)
พร้อมกับส่งสติกเกอร์หน้ายิ้มปากจะฉีกไปให้น้องชายด้วย
(พี่นี่จริง ๆ เลย คุณบู เธอจะให้รถไปใช้ก็ไม่เอา ชวนไปเที่ยวก็ไม่เอา เฮ้อ) น้องชายบ่นต่อ
(นี่นาย พี่ขอเตือนนายเรื่องหนึ่งนะ แค่เราอายุน้อยกว่าคุณบูเธอถึงสิบปี ก็เป็นที่ครหามากมายแล้ว และถ้ายิ่งเราไปเอาอะไรของเขามาอีก พี่คิดว่ามันไม่น่าจะเป็นเรื่องที่ดีนัก)
เธอพูดกับน้องชายเรื่องนี้เสมอ และย้ำนักหนาว่า น้องชายของเธอรักบูรณีจริง ๆ หรือเปล่า ไม่ใช่เพียงแค่เห็นว่าเธอรวย และหวังจะรวยทางลัด
สาเหตุหนึ่งที่ อติคุณเข้าไปตีสนิทก็เพราะเรื่องที่บ้านหลังนี้ที่เธออยู่ บ้านกำลังจะถูกยึด งานของอรุณวนาเป็นงานที่ได้เงินไม่แน่นอน ได้เปอร์เซ็นต์จากยอดขาย หลังจากที่ได้เงินต้นฉบับมาแค่ไม่กี่หมื่นเท่านั้น
และเธอยังต้องทำน้ำพริกขายออนไลน์ และหาของตามตลาดสำเพ็ง ตลาดจตุจักร ของที่ดูแปลก และหายากมาขายในออนไลน์ เพื่อส่งน้องชายคนเดียว คือ อติคุณเรียน
เมื่อเขาเรียนจบก็ได้ไปทำงานเป็นเลขาฯ หน้าห้องของบูรณี จนปิ๊งปั๊งกัน และตกลงแต่งงานกันเมื่อสองสัปดาห์ที่ผ่านมานี่เอง
อรุณวนาก็ได้ยินคำซุบซิบที่ผู้คนจงใจพูดให้เธอได้ยิน ในเรื่องความเหมาะสม และวิจารณ์ในเรื่องที่อติคุณหวังรวยทางลัด และกลายมาเป็นหนูตกถังข้าวสารเพราะได้แต่งงานกับเศรษฐี
(พี่น่ะคิดมาก ไม่เอาแล้ว ไม่คุยแล้ว ไม่ไป ก็ไม่ไปครับ) น้องชายตัดบท เพราะตื๊อไป ยังไงเขาก็ยังคงได้คำตอบเดิม คือคำว่า ไม่ไป
(อีกอย่าง ผมขอให้พี่นาสบายใจได้ครับ ผมรักคุณบูเธอจริง ๆ ไม่ได้ตั้งใจมาหลอก)
ประโยคสุดท้ายที่น้องชายส่งมาให้ ทำให้เธอยิ้มออกมาได้อีกครั้งหนึ่ง
(ดีแล้วล่ะ ไปเที่ยวให้สนุกนะ)
อรุณวนาละสายตาจากมือถือ ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นหาของมาทำกิน พอกินเสร็จ ก็นั่งพุงกางอยู่ตรงนั้นอยู่สักพัก เธอยกหน้ามองไปรอบ ๆ บ้าน บ้านที่เคยมีทุกคนอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา พ่อ แม่ เธอ และน้องชาย
“พ่อจ้ะ แม่จ๋า นายเอาเงินจากเมียของนาย ไปไถ่ถอนบ้านหลังนี้ออกมาจากธนาคารแล้วนะคะ พ่อกับแม่ไม่ต้องกลัวแล้วล่ะ ว่าหนูจะไม่มีที่อยู่ นายได้แต่งงานกับคุณบู ทั้งสองคนรักกันค่ะ แต่เรื่องที่หนูหวัง หนูจะหาเงินก้อนที่คุณบูให้ไปไถ่ถอนบ้าน มาใช้คืนเธอให้เร็วที่สุด พ่อจ้ะ แม่จ๋า นายมีความสุขไปแล้วนะคะ หนูก็ส่งน้องให้ถึงฝั่งแล้ว ต่อไปหนูจะทำเพื่อตัวเองบ้าง” พูดไปก็นึกถึงหน้าพ่อกับแม่ที่มีแต่รอยยิ้มเอ็นดูส่งมาให้เธอ
“หนูรู้ค่ะ ว่าพ่อกับแม่ยังคงต้องเป็นห่วงหนูแน่ ๆ แต่ไม่ต้องเป็นห่วงหนูไปนะคะ หนูอยู่คนเดียวได้ และก็จะพยายามใช้ชีวิตแบบพอเพียงและสมถะ ไม่ฟุ่มเฟือย และจะใช้เงินที่ได้จากการเขียนนิยายนี่แหละให้พอยาไส้ ”
ทันใดนั้น ความคิดของเธอก็แวบขึ้นมา
‘แกจะหาผัวเหรอ’
อรุณวนาแสยะยิ้มออกมาให้กับตัวเอง
‘แหม... ก็ฝังตัวอยู่แต่ในบ้าน นั่งแหมะอยู่ที่หน้าคอม แล้วจะหาผู้ชายเจอได้ยังไง พูดเป็นเล่น’
‘ก็ในเว็บฯ หาคู่ไง เข้าไปดูสิ’
‘โอ้ย ไม่เอาหรอก มีแต่พวกหลอกลวง บ้าบอ’
ด้วยการอยู่คนเดียวจนชิน ทำให้พูดกับตัวเองเหมือนเป็นคนบ้า
“ไปรดน้ำต้นไม้ดีกว่า วันนี้พวกต้นไม้คิดถึงน้ำแย่แล้ว” พูดไปก็พาตัวเองออกไปจากบ้าน ตรงดิ่งไปที่ก๊อกน้ำ แล้วเปิดก๊อก พลางดึงสายยางไปรดน้ำต้นไม้นานาพรรณที่เธอปลูกเอาไว้โดยรอบบ้าน ฮัมเพลงไปอย่างมีความสุข
ด้านนอกรั้ว มีสายตาหนึ่งที่ไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย มองมายังตัวเธอ เขามาเมียงมองเธอทำไม เขาต้องการอะไร
ด้วยความมืด ทำให้อรุณวนาไม่เห็นเขาคนนั้น
ชายหนุ่มจ้องมองหญิงสาวที่ตัวกลม ๆ หัวฟู ๆ เหมือนผมเผ้าเหล่านั้นไม่ถูกการหวีมาเสียเลย และการแต่งเนื้อแต่งตัวยิ่งกว่ายายเพิ้ง เหมือนมนุษย์ป้ายังไงยังงั้น เขาพ่นลมหายใจออกมาแรง ๆ ก่อนจะกลับไปขึ้นรถของเขาที่จอดห่างจากจุดนี้ไปเกือบร้อยเมตร และมุ่งตรงไปยังผับกึ่งร้านอาหารของเขาที่เปิดให้บริการอยู่ในตอนนี้