“ไม่นะ อย่านะ ฉันไม่ได้ตั้งใจ ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ คุณได้พระคืนไปแล้วนี่ ปล่อยฉันไปเถอะ ฮือ...อย่าทำอะไรฉันเลย อย่าทำฉันเลย” หมอนวดสาวยังคงอ้อนวอนไม่หยุด มีหรือที่รัฐภูมิจะใจอ่อน เมตตาสาวตรงหน้าง่ายๆ เขาปล่อยเธอแน่ แต่ไม่ใช่ตอนนี้และเวลานี้ สิบแปดมงกุฎอย่างจันยาวีร์ต้องเจอคนอย่างเขา ร้ายมาร้ายกลับและเพิ่มความร้ายมากเป็นร้อยเท่า เท้าเล็กพยายามถีบ กระแทกไปที่ร่างหนาดูเหมือนว่าจะถีบลมมากกว่า มันไม่ช่วยอะไรเลยจริงๆ เพราะตอนนี้เขาขึ้นมานั่งคร่อมร่างเธออีกครั้งหนึ่งแล้ว “ยานี้จะทำให้ร้อนรุ่มอย่างมากมาย เลือดในกายเธอจะสูบฉีดจนเธอกระสับกระส่าย กระหายไปด้วยความใคร่แบบสุดๆ เธออยากจนแทบจะถ่างขารอให้ผู้ชายมากระทุ้ง ขอให้มีความสุขกับความร่านที่กำลังจะเกิดขึ้นกับเธอนะ ยาออกฤทธิ์เต็มที่เมื่อไหร่ ฉันจะมาสนองตอบความอยากให้เธอเอง รับรองถึงอกถึงใจไปสามโลก หมอนวดอย่างเธอคงผ่านศึกมาไม่ใช่น้อย คงมีวิธีบังคับความร่านของตัวเองนะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเจอกันนะแป้ง” จันยาวีร์เม้มปากเป็นเส้นตรงแน่น เพื่อไม่ให้เขานำยานั้นใส่เข้าไปในปากของเธอ ทว่ามันไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเขาเลยที่จะทำให้ปากของเธอเปิดอ้าออก เพียงแค่รัฐภูมิใช้ฝ่ามือบีบไปบนแก้มของเธอทั้งซ้ายขวาอย่างแรง หญิงสาวระบมปวดแก้มไปหมด แรงบีบที่มากมายทำให้ปากที่เม้มค่อยๆ คลายตัวออก จนในที่สุดปากของเธอก็อ้าออก ชายหนุ่มหน้าดุรีบใส่ยาปลุกเซ็กส์เข้าไปในช่องปากสาวบังคับให้เธอกลืนมันลงไปด้วยการนำฝ่ามือใหญ่มาปิดทับที่ริมฝีปาก ยาที่อยู่ในปากไม่ได้ถูกกลืนลงไปในลำคอ แต่มันละลายเมื่อสัมผัสโดนความชื้นของน้ำลายที่อยู่ภายใน ความขมของเม็ดยาที่เริ่มละลายในปาก ทำให้สาวเจ้าร้องไห้ออกมาทันที คิดในใจว่าเธอจะต่อต้านยาประเภทนี้ได้อย่างไร รัฐภูมิกระตุกยิ้มอย่างพอใจ ขยับร่างกายลงมายืนอยู่ริมเตียง มองดูร่างสาวที่ร้องไห้ตัวโยนด้วยความสะใจ เจอแค่นี้มันยังน้อยไป ริอาจเข้ามากระตุกหนวดเสือถึงที่ ไม่ถูกเสือขย้ำกินก็คงเป็นไม่ได้ เสืออย่างเขาฆ่าได้หยามไม่ได้อยู่แล้ว เขาหมุนตัวก่อนจะขยับร่างกายเดินไปยังห้องน้ำ อาบน้ำอย่างสบายใจ ผิวปากอย่างอารมณ์ดี ยาเซ็กส์ชนิดนี้เขาซื้อมาจากตลาดมืดแห่งหนึ่งในประเทศฝรั่งเศส เป็นยาปลุกเซ็กส์ชนิดใหม่ล่าสุดที่กำลังเป็นที่นิยมในขณะนี้ สาเหตุที่เขาซื้อยาชนิดนี้มาไม่ใช่ว่าเขาจะใช้เอง พันกรเพื่อนสนิทของเขาเป็นคนฝากซื้อ เพื่อจะนำไปให้พี่เขยที่มีอาการนกเขาไม่ขัน ต้องพึ่งยาปลุกเซ็กส์ขณะที่ดำเนินกิจกรรมทางเพศ ห้านาทีต่อมาหลังจากที่ยาปลุกเซ็กส์เริ่มละลายในปากและตัวยาไหลเข้าไปในลำคอสาว อาการแปลกๆ ก็เกิดขึ้นกับจันยาวีร์ คลื่นความร้อนบางอย่างแผ่กระจายไปทั่วร่างกายของเธอ แทรกลึกไหลซึมเข้าไปตามเซลล์ต่างๆ เม็ดเลือด ลุกลามลึกเข้าไปถึงกระแสเลือดที่เร่งสูบฉีดด้วยอัตราที่เร็วกว่าปกติ จันยาวีร์รู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัว ความร้อนที่ได้รับทำให้เธอต้องการที่จะถอดเสื้อผ้าออก ความปรารถนาทางอารมณ์ที่เธอไม่เคยรู้จักมาก่อนกำลังกระจายอาบไปทั่วร่าง ความเป็นอิสตรีเพศกระตุกและเต้นเร่าอยู่ตลอดเวลา เธอมีความรู้สึกว่าต้องการร่วมเพศกับผู้ชายสักคน เพื่อมาบำบัดอาการที่เป็นอยู่นี้ให้ดีขึ้น ต้องการให้เขานำปาก ลิ้นประโลมจูบไปทั่วร่างสาว และต้องการฝ่ามือของเขาลูบไล้นวดเฟ้นไปตามผิวกายของเธอ และความปรารถนามากที่สุดก็คือ ต้องการให้เขาฝังกายลึกเข้าไปในกลีบสาว ขยับเขยื้อนกายด้วยความรุนแรง กระแทกกระทั้นให้ถึงอกถึงใจ
1
“แกจะกลัวอะไรนักหนานังแป้ง แค่เข้าไปในห้อง เอายาที่อยู่ในซองนี้เทใส่ลงไปในน้ำ พอเหยื่อหลับแกก็ฉกพระเครื่องมา แค่นี้เองง่ายจะตายไป” เสียงไม่พอใจของประภาพรรณนักต้มตุ๋นมากฝีมือตวาดใส่หน้านักต้มตุ๋นรุ่นน้อง
“ก็พี่มิวบอกแป้งว่า ให้แป้งมาดูพระเฉยๆ ไม่ใช่เหรอ ไม่ได้ให้ลงมือเองซะหน่อย แป้งก็เลยกลัว แป้งไม่เคยทำอย่างนี้นี่คะ ทุกทีก็แค่เอาพระเก๊ไปขาย”
จันยาวีร์หรือแป้ง สตรีวัยยี่สิบห้าปีนักต้มตุ๋นรวมสังกัดเดียวกับประภาพรรณโต้กลับเสียงเบา เธอได้รับโทรศัพท์จากเสริมบุญพี่ชายของมารดาผู้มีพระคุณอีกคนหนึ่งของเธอว่า ให้มาช่วยดูพระเครื่องที่คอนโดแห่งนี้ แต่ไม่ได้บอกว่าให้มาทำงานเป็นนกต่อ เธอจึงอิดออดที่จะทำงานนี้
“ถ้าฉันดูพระเครื่องเป็นเหมือนแกและนวดเป็นเหมือนแกกับนิด ฉันคงไม่ให้พ่อโทรไปหาแกหรอกนังแป้ง พอดีนิดมันมาไม่ได้ มันปวดท้องเมนส์ฉันก็เลยต้องให้พ่อโทรไปบอกแก ให้แกมาที่นี่ยังไงล่ะ อย่าเรื่องมากนะน่ารำคาญ ทำตามที่ฉันบอกก็พอ เอ้า...ยา”
ผู้พูดยัดซองยาขนาดเล็กใส่มือของจันยาวีร์ที่ยืนหน้าซีดหน้าเซียวไม่อยากทำงานนี้ เดิมที่แผนของประภาพรรณก็คือ ส่งให้นิดหรือนิโรบลหนึ่งในนักต้มตุ๋นในแก๊งเข้าไปหาเหยื่อที่มีพระเครื่องตามใบสั่งในฐานะหมอนวด จากนั้นก็วางยาตามแผนแล้วฉกพระเครื่องตามที่ต้องการแค่นี้งานก็เรียบร้อย ทว่าแผนของเธอเปลี่ยนไปหมดเนื่องจาก นิโรบลปวดท้องประจำเดือนไม่สามารถมาทำงานนี้ได้ เธอจึงให้บิดาโทรศัพท์ไปหาจันยาวีร์มาทำหน้าที่แทนนิโรบล
“แป้งไม่ทำไม่ได้เหรอพี่มิว?” เธอยังหวังลึกๆ ว่าประภาพรรณคงจะรำคาญแล้วยกเลิกแผนการทั้งหมด
“ไม่ทำไม่ได้ แกอย่าลืมสิว่าเราต้องส่งของเสี่ยหาญวันมะรืนนี้แล้ว ถ้าไม่ได้ตามออเดอร์มีหวังถูกด่าเปิง เสียลูกค้าหมด อีกอย่างพ่อฉันรับเงินมัดจำไว้มาแล้วห้าแสน แล้วเงินนั่นก็หมดไปครึ่งหนึ่งเพราะเอาไปให้พ่อแกน่ะ เพราะฉะนั้นแกต้องร่วมรับผิดชอบด้วย ถ้าฉันทำเองได้ ฉันคงไม่ง้อไม่ให้แกทำหรอกนังแป้ง อย่าเรื่องมากช่วยกันทำมาหากินหน่อย จำใส่หัวเอาไว้ด้วยว่า แกกับพ่อแม่พี่น้องของแกต้องพึ่งพ่อของฉัน ถ้าพ่อฉันไม่มีงานไม่มีเงิน แกกับครอบครัวแกจะอยู่ยังไง”
คำพูดของประภาพรรณทำให้จันยาวีร์ไม่อาจคัดค้านอะไรได้ เสริมบุญยึดอาชีพนี้มานานยี่สิบปี เดิมทีเป็นแค่ลูกจ้างต่อมาเมื่อมีฝีมือและเริ่มหาลูกค้าเองได้ เขาจึงแยกตัวออกมารับงานเอง มีลูกค้ากระเป๋าหนักหลายรายมาขอให้เขาช่วยหาพระเครื่องตามใบสั่ง แต่ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เสริมบุญจะรับงาน เขาเลือกรับงานเฉพาะที่ได้เงินค่าจ้างเยอะและคุมทุน หากได้ค่าจ้างไม่ถึงหนึ่งแสนก็จะไม่ทำ งานนี้ได้ยินมาว่าได้ค่าจ้างเป็นล้าน เนื่องจากใบสั่งงานนี้คือพระเครื่องเบญจภาคี หายากและราคาแพงมากด้วย
เงินทุกบาททุกสตางค์ที่เสริมบุญหามาได้ บางส่วนก็เจียดมาให้ครอบครัวของเธอ เป็นเพราะเกริงบิดาของเธอไม่ทำงานเป็นหลักแหล่ง ทำงานไม่ทน ปิยะผู้เป็นพี่ชายก็มีนิสัยเหมือนบิดาไม่มีผิด พึ่งพาอาศัยไม่ได้ซ้ำร้ายยังหาเรื่องเดือดร้อนมาให้ตลอดเวลา ทัดชัยน้องชายเพียงคนเดียวของเธอก็ยังเด็กเกินไปที่จะช่วยแบ่งเบาภาระของครอบครัว มาลีมารดาที่เคารพรักก็ยึดอาชีพหมอนวดมีรายได้ไม่แน่นอน แล้วแต่ว่าจะมีลูกค้ามากน้อยแค่ไหนต่อวัน รายได้หลักจึงตกอยู่กับเธอที่ต้องดูแลทั้งเรื่องกินอยู่ และหนี้สินที่ไม่ได้ก่อ ดีที่ว่ายังมีเสริมบุญผู้เป็นลุงคอยช่วยเหลืออยู่เนืองๆ
เสริมบุญไม่ได้ช่วยเหลือเรื่องความเป็นอยู่เท่านั้น ยังยื่นมือเข้าช่วยเหลือเรื่องหนี้สิน เงินค่ามัดจำครึ่งหนึ่งที่เสริมบุญรับมาก็นำไปจ่ายหนี้สินที่เกริงผู้เป็นบิดาติดหนี้โต๊ะบอล และที่สนามม้ารวมๆ แล้วก็ร่วมสองแสนกว่าบาท ที่ชำระหนี้ให้เพราะเสริมบุญเห็นแก่มาลีน้องสาวและเธอ ไม่อย่างนั้นเสริมบุญไม่มีทางช่วยเกริงเด็ดขาด ข้อนี้เองที่ทำให้จันยาวีร์ไม่มีทางปฏิเสธงานนี้ได้
“พี่มิวแน่ใจนะคะว่าเหยื่อรายนี้มีพระเครื่องเบญจภาคีจริงๆ?”
จันยาวีร์ถามย้ำ คนที่พระเครื่องเบญจภาคีไว้ในครอบครอง มักจะไม่ประกาศให้ใครรู้ เนื่องจากพระเครื่องชุดนี้มีราคาสูงมาก เป็นที่ปรารถนาของนักเลงพระทุกคน ใครมีไว้ในครอบครองต้องเก็บไว้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นอาจจะถูกขโมยหรือว่าปล้นได้
“ก็จริงน่ะสิ คุณรัฐภูมิมีพระเครื่องเบญจภาคีจริง ฉันสืบมาแล้ว แกอย่าถามมากถามมายได้มั้ย อย่าลืมดูให้ละเอียดล่ะว่าใช่ของแท้หรือเปล่า แล้วนี่เอากล้องส่องพระมาหรือเปล่า?” ประภาพรรณตอบพร้อมกับถามในประโยคสุดท้าย
“เอามาค่ะ อยู่ในตะกร้า พี่มิวแล้วถ้าคุณคนนั้นเค้าไม่ยอมดื่มน้ำล่ะ แป้งจะทำยังไง?”
เธอหมายถึงตะกร้าที่ใส่อุปกรณ์การนวด ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันนวดตัวกลิ่นต่างๆ ซึ่งเป็นสูตรเฉพาะของมารดาที่ถ่ายทอดสูตรและเคล็ดลับในการนวดให้ลูกสาวเพียงคนเดียวได้เรียนรู้ และเธอถามต่อถึงแผนการที่อาจจะคลาดเคลื่อน
“แกนี่เรื่องมากจริงๆ ถามโน่นถามนี่ตลอดเลย สมองน่ะมีมั้ย?” ผู้พูดนำนิ้วชี้มาจิ้มที่ขมับของคู่สนทนา ออกแรงดันจนศีรษะของจันยาวีร์เอนตามแรงดัน
“ถ้าโง่มากจนหาทางออกไม่ได้แกก็นอนกับมันไปเลยก็แล้วกันง่ายดี เอายาที่ฉันให้แกทาที่หัวนมของแก เพราะมันไม่มีกลิ่นไม่มีรสเหยื่อมันไม่รู้หรอกว่าแกวางยามัน พอมันดูดนมแกไม่ถึงหนึ่งนาทีรับรองหลับกลางอากาศ นิดมันทำบ่อยวิธีนี้น่ะ”
วิธีที่ประภาพรรณแนะนำมาเรียกความตกใจให้กับจันยาวีร์อย่างมากมาย สีหน้าของเธอเริ่มซีด นึกหวาดหวั่นและกลัวการที่จะขึ้นไปทำงานตามที่ญาติสาวสั่ง
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
หยางจื้อซี เด็กกำพร้าจากศตวรรษที่21 ถูกองค์กรมืดเลี้ยงดูจนเติบโตและทำให้เธอกลายเป็นมนุษย์กลายพันธ์ ในระหว่างที่ถูกส่งตัวไปทำภารกิจลับ เธอกลับถูกคนในองค์กรมืดหักหลังและถูกฆ่าโดยเพื่อนสนิทที่เธอไว้ใจมากที่สุด ก่อนสิ้นใจเธอถามเพื่อนสนิทว่าทำไม แต่ไม่ได้รับคำตอบจากปากของอีกฝ่าย สิ่งที่เธอได้รับคือรอยยิ้มที่ดูถูกเหยียดหยามและ คำว่า “โง่” จากปากของอีกฝ่ายเท่านั้น หลังจากที่ตายไปแล้วสิ่งที่เธอคิดไว้ คงจะเป็นนรกหรือที่ไหนสักแห่งที่เป็นโลกหลังความตาย แต่ทว่ามันกลับไม่เป็นเช่นนัน เธอตื่นขึ้นมาในร่างของ หยางจื้อซี เด็กหญิงอายุ เพียง 13 ขวบปีในหมู่บ้านป่าหมอก ในดินแดนโบราณล้าหลังที่ไม่มีในประวัติศาสตร์ คล้ายกับว่าเป็นโลกคู่ขนานที่อยู่อีกมิติหนึ่ง เธอตื่นขึ้นมาในบ้านที่ผุพัง ครอบครัวยากจน มีแม่ที่อ่อนแอและเจ็บป่วย มีพี่น้องที่อายุน้อย มีปู่ย่าตายายที่เห็นแก่ตัวและใจร้าย มีลุงที่เห็นแก่ได้ป้าสะใภ้ที่เต็มไปด้วยความละโมบโมบโลภมาก หยางจื้อซี คิดว่านับจากนี้ไปชีวิตจะต้องอยู่ได้ด้วยตัวเอง หากใครมารังแกก็แค่ทุบตี เธอไม่เชื่อว่าด้วยพลังที่ติดตัวเธอมาจากชาติที่แล้วจะไม่สามารถอยู่รอดได้ในโลกล้าหลังแห่งนี้
เมื่อเซิ่งหนิงเตรียมจะบอกฮั่วหลิ่นเกี่ยวกับการตั้งครรภ์ของเธอ ทว่ากลับพบเขาช่วยพยุงผู้หญิงอีกคนลงจากรถอย่างเอาใจใส่... เคยคิดว่าตนเองอยู่เคียงข้างฮั่วหลิ่นคอยดูแลเขามาสามปี สักวันหนึ่งเขาจะมาสามารถสร้างความประทับใจให้กับเขา แต่สุดท้ายเป็นตนเองที่คิดเองเออเองไปฝ่ายเดียว เซิ่งหนิงตายใจแล้วจากไป สามปีต่อมา ข้างกายของเธมีผู้ชายอีกคนหนึ่ง และฮั่วหลิ่นเสียใจมาก เจาพูดด้วยความโศกเศร้า "เซิ่งหนิง เรามาแต่งงานกันเถอะ" เซิ่งหนิงยิ้มอย่างเฉยเมย "ขออภัยนะคุณฮั่ว ฉันมีคู่หมั้นแล้ว"
แต่งงานกันเป็นเวลาสามปี เสิ่มชูคิดว่าต่อให้ป๋อมู่เหนียนจะใจแข็งสักแค่ไหนก็ควรจะอ่อนลงได้ด้วยความรักที่เธอมีกับเขามาโดยตลอด แต่เมื่อเขาบังคับให้เธอคุกเข่าลงในหอบรรพบุรุษของตระกูล เสิ่มชูถึงตระหนักว่าแท้ที่จริง ผู้ชายคนนี้ไม่มีหัวใจ คนที่ไม่มีหัวใจ เธอยังจะอาลัยอาวรณ์อยู่อีกทำไม? ดังนั้น เมื่อป๋อมู่เหนียนขอให้เธอเลือกระหว่างการคุกเข่าและการหย่าร้าง เสิ่มชูจึงเลือกการหย่าร้างไปโดยไม่ได้ลังเล เธอยังสาวยังสวยอยู่เช่นนี้ ทำไมจะต้องมาเสียเวลากับไอ้ผู้ชายคนนี้ด้วย!มิสู้กลับบ้านไปสืบทอดมรดกพันล้านของตระกูลจะดีกว่า
วิญญาณแพทย์นิติเวชที่มีชื่อเสียงในศตวรรษที่ 21 ได้เข้ามาอยู่ในร่างคุณหนูของจวนเสนาบดีอย่างบังเอิญ ผู้คนกล่าวหาว่านางไม่เชี่ยวชาญด้านการแพทย์และทำให้บุตรชายของแม่ทัพตาย ด้วยเหตุนี้ฮ่องเต้ต้องการฆ่านางเพื่อให้คำอธิบายกับแม่ทัพ! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนหยิ่งยโสและเจ้ากี้เจ้าการ ทุกคนเกลียดนาง และครอบครัวของนางต้องการไล่นางออก! ผู้คนกล่าวหาว่านางเป็นคนเลวทรามและไร้ความปรานี วางยาน้องสาว และพ่อของนางต้องการโบยนางจนตาย! ในความเป็นจริงหากอยากจะกล่าวหาผู้ใดสักคน มันก็หาข้ออ้างได้ทั่ว แต่นางเป็นคนไม่ยอมใคร นางผอมบางนางหนึ่งปลุกปั่นโลกด้วยความสามารถอันทรงพลังตนเอง ท่านอ๋องกล่าวว่า หากได้เจ้ามาครอบครอง ข้ายอมทรยศทุกคนในโลก นางกล่าวว่า เพื่อท่าน ต่อให้ทุกคนในโลกเกลียดข้า ข้าก็ยอม
เธอก็รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่เคยสนใจ แต่ก็ยังดึงดันอยากจะอยู่ใกล้ ต่อให้เธอเป็นเมียแต่งเขาก็คงไม่มีวันเปลี่ยนใจ เพราะเหตุนี้เธอจึงตัดสินใจจากไปในคืนแต่งงาน "จากนี้ไปเราไม่มีอะไรติดค้างกันอีก" 🥀