“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
1
“ออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้เลย จะกี่แสนกี่ล้านฉันก็ไม่ขาย แล้วไม่ต้องมาพูดกับฉันอีกแล้วนะ มากี่ครั้งฉันก็จะบอกคำเดิมว่าไม่ขาย” น้ำเสียงที่แสดงความหงุดหงิดและรำคาญใจ ถูกระบายออกมาจากเรียวปากอิ่มสวยได้รูปของหยาดน้ำค้าง หญิงสาววัยยี่สิบสี่ปี ผู้ครอบครองกรรมสิทธิ์ที่ดินนับร้อยไร่ของปู่ที่เพิ่งจากโลกนี้ไปได้ไม่ถึงหนึ่งปี ที่ดินผืนนี้มีค่าขึ้นมาทันที เมื่อทางราชการคิดจะปรับปรุงพื้นที่โดยรอบเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์
เนื่องจากป่าที่อยู่ในบริเวณนี้ค่อนข้างอุดมสมบูรณ์ มีสัตว์น้อยใหญ่อาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีน้ำตกที่สวยงามแห่งหนึ่งของโลก มีความสูงเกือบสองร้อยเมตร เวลาน้ำตกลงมากระแทกกับผืนน้ำด้านล่าง ทำให้เกิดระลอกคลื่นลูกใหญ่ นักท่องเที่ยวจึงชอบมาล่องแก่งที่นี่กันอย่างเนืองแน่นในช่วงฤดูฝน ส่วนช่วงหน้าร้อนจะมีคนมาเดินป่ากันมาก ทั้งตั้งแคมป์เดินเข้าไปในป่าลึกโดยมีเจ้าหน้าที่และนายพรานฝีมือดีคอยดูแลความปลอดภัยให้
ส่วนหน้าหนาว ความงามของดอกไม้หลากหลายชนิดบานสะพรั่ง ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณ อีกทั้งทะเลหมอกในช่วงฤดูหนาว ที่มองลงมาจากหน้าผาสูง จุดชมวิวที่สวยงามยังเป็นแรงดึงดูดมหาศาลให้นักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมที่นี่ นักลงทุนจึงเข้ามากว้านซื้อที่ดินของชาวบ้านละแวกนี้หลายราย ซึ่งทุกคนต่างได้ราคาที่พอใจเป็นเศรษฐีใหม่กันไปหลายครอบครัว ที่ดินของปู่สมปองจึงเป็นที่ดินอีกผืนที่มีคนสนใจ เนื่องจากอยู่ติดริมถนนสายหลัก และยังเป็นทางเข้าของวนอุทยานอีกด้วย จึงเป็นที่ดินที่สวยที่สุดและราคาแพงมากที่สุด
“นะครับลองฟังข้อเสนอข้อใหม่ก่อนดีกว่านะครับคุณหยาดน้ำค้าง ข้อเสนอข้อนี้ผมคิดว่าคุณน่าจะพอใจ” ทนายเกรียงไกรพยายามโน้มน้าว
“บอกว่าไม่ไงพูดไม่รู้เรื่องเหรอถ้าฉันคิดจะขายฉันคงขายไปตั้งแต่คุณยื่นข้อเสนอให้ไร่ละสองแสนแล้ว แต่นี่ฉันพูดว่าไม่ขายก็คือไม่ขาย กลับไปบอกนายทุนของคุณด้วยว่า ถ้าอยากได้ที่ดินของฉันมากนัก ก็มาก้มลงกราบอ้อนวอนฉัน แล้วฉันจะยอมขายให้ในราคาตามท้องตลาดไร่ละหนึ่งเเสนห้าหมื่นบาท ถ้านายทุนของคุณกล้าทำ ฉันก็กล้าขายที่ดินให้” เกรียงไกรถึงกับสะอึกกับคำพูดของหญิงสาวตรงหน้า ไม่คิดเลยว่าจะได้ยินคำนี้ มันช่างเป็นวาจาที่ไม่มีทางเป็นไปได้ยิ่งนัก หยาดน้ำค้างคงไม่รู้หรอกว่าเจ้านายของเขามีนิสัยอย่างไร อยากได้อะไรก็ต้องได้ ในเมื่อพูดดีๆ แล้วไม่ยอมรับฟัง ก็เห็นต้องใช้กำลังบ้างแล้ว
“ไงพูดไม่ออกเลยล่ะสิ ทีหลังไม่ต้องมาอีกนะ รำคาญ” ประตูรั้วอัลลอยด์ถูกปิดลงเสียงค่อนข้างดัง ทำให้ทนายผู้เก่งกล้าฝีปากเยี่ยม เดินคอตกกลับไปขึ้นรถ งานที่เขาคิดว่าง่ายกลับไม่ง่ายเหมือนกับที่คิดไว้ หยาดน้ำค้าง ใจแข็งยืนกรานคำเดียวว่าไม่ขาย หากเขานำคำพูดของหญิงสาวเจ้าของที่ดินไปบอกกับเจ้านายหนุ่ม มีหวังต้องเต้นเป็นเจ้าเข้าแน่นอน
<><><><><><><><>
หยาดน้ำค้างเดินทางมาที่ทำงานด้วยความหงุดหงิดใจเป็นอย่างมาก หญิงสาวไม่เคยคิดเลยว่าการที่เธอครอบครองที่ดินที่ปู่สมปองทิ้งไว้ให้ เนื่องจากเธอต้องรบรากับญาติทางฝ่ายปู่ ที่ล้วนแล้วแต่หิวเงินทั้งสิ้น ด้วยความ ใจดีและไม่อยากมีปัญหา หยาดน้ำค้างได้แบ่งที่ดินให้กับพี่น้องของปู่สมปองคนละสิบห้าไร่เท่าๆ กัน หากแต่ทางฝ่ายพี่น้องยังไม่พอใจ ต้องการได้อีกคนละยี่สิบไร่ เนื่องจากขณะนี้เธอถือครอบครองอยู่มากกว่าสองร้อยไร่
หญิงสาวปฏิเสธเพราะรู้ดีว่าญาติของปู่นั้น หวังที่จะนำที่ดินไปขายต่อ ไม่ได้ทำให้เกิดประโยชน์ให้แก่ครอบครัว ตามความตั้งใจของปู่สมปองที่สั่งเสียกับเธอไว้ว่า ให้หลานสาวที่เขารักมากที่สุดและไว้ใจที่สุด รักษาที่ดินผืนนี้ไปชั่วลูกชั่วหลาน อย่าขายทิ้งเพราะเห็นแก่เงิน ให้ทำที่ดินผืนนี้ให้เกิดประโยชน์ ไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่าสิ่งที่ตัวเองพยายามจะรักษาไว้ จะสร้างปัญหาให้กับเธอมากขนาดนี้
“เป็นอะไรน้ำค้าง หน้าตาไม่ค่อยดีเลย หรือว่าเรื่องเดิม” บัวบุษยาถามเพื่อนรักที่เดินเข้ามาในร้านด้วย สีหน้าบึ้งตึง
“ก็เดิมๆ มีแต่คนมาขอซื้อที่ ไม่ได้ติดประกาศขายเสียหน่อย มากันอยู่ได้” สาเหตุที่ทำให้นายหน้าค้าที่ดินเหล่านี้มาหาเธอถูก คงหนีไม่พ้นญาติของปู่สมปองที่เป็นคนบอก อาจจะแลกกับเงินเพียงน้อยนิดที่อีกฝ่ายยื่นให้ หรือไม่ก็ตามแต่ญาติจอมงกจะเรียกร้อง
“ก็คงเป็นพี่น้องของปู่สมปองนั่นแหละที่เป็นคนบอก แต่ละคนปากสว่างทั้งนั้น หิวเงินอีกต่างหาก” เพื่อนสนิทพูดเสริม
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นว่าแต่วันนี้มีแขกพิเศษเหรอ”
“อืมใช่เห็นพวกพี่ก้อยบอกว่าเป็นว่าที่หุ้นส่วนใหม่ของที่นี่น่ะ จะมาดูการทำงานและศึกษาระบบงานก่อน ถ้าถูกใจแล้วค่อยตัดสินใจซื้อหุ้นมั้ง” บัวบุษยาเอ่ยตอบ พร้อมกับจัดเรียงตู้เอกสารของบริษัทให้เป็นระเบียบ
“มันก็จริงเนอะ จะซื้อหุ้นทั้งที่มันก็คงต้องดูรายละเอียดกันลึกๆ หน่อย อีกอย่างคุณสันติไม่ได้ขายหุ้นส่วนตัวแค่หมื่นสองหมื่น แต่ขายเป็นสิบๆ ล้าน มันก็ต้องศึกษาผลได้ผลเสียกันหน่อย”
“ใช่คุณสันติก็ไม่ได้เดือดร้อนเงินอะไร อีกอย่างบริษัทก็ไม่มีปัญหาทางด้านการเงิน แต่ทำไมต้องขายหุ้นด้วยก็ไม่รู้ เป็นเจ้าของคนเดียวน่าจะดีกว่า ไม่ต้องแบ่งผลกำไรให้ใครด้วย รับคนเดียวเต็มๆ” บัวบุษยาอดสงสัยไม่ได้ กิจการของที่นี่ไม่มีปัญหาอะไรน่าหนักใจ ทุกอย่างราบรื่น ผลกำไรก็อยู่ในระดับที่ดีมาก มีลูกค้าแวะเวียนเข้ามาใช้บริการและเป็นสมาชิกสปอร์ตคลับแห่งนี้เป็นจำนวนมาก จนต้องขยายให้ใหญ่ขึ้นด้วยซ้ำ ให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า แล้วเหตุใดจึงคิดจะขายหุ้น
“เมียสั่งมาแน่นอน” หยาดน้ำค้างพูดอย่างไม่สงสัย เพราะสันติกลัวภรรยาอย่างกับอะไรดี ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
“ช่างเถอะ เรื่องของเจ้านาย เรามันลูกจ้างไม่เกี่ยวกัน บัวไปก่อนนะ” บัวบุษยาขอตัวไปทำหน้าที่ของตน ปล่อยให้หยาดน้ำค้างเจ้าหน้าที่ฝ่ายต้อนรับลูกค้า จัดเรียงแฟ้มเอกสารของลูกค้าต่อจากเธอ
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์
ทะลุมิติมาในนิยายยุค 80 ว่ายากลำบากแล้วเธอยังต้องมาเลี้ยงลูกแฝดและวางแผนหนีชะตาชีวิตที่นักเขียนระบุให้ตายอย่างทรมานภายใต้เงื้อมมือของพ่อตัวร้ายอีก สวรรค์!ยังจะมีตัวละครทะลุมิติใดบัดซบเท่าเธออีกหรือไม่
หลังจากแต่งงานกันมาสองปี สามีของเธอไม่เคยเหยียบเข้าไปในบ้านและมองดู 'ภรรยาขี้เหร่' ของเขาเลย แถมเขาก็มีเรื่องอื้อฉาวกับดาราหน้าใหม่หลายคนทุกวัน ซูเหว่ยทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอตัดสินใจปล่อยเขาไป ต่อไปก็ต่างคนต่างไปเลย แต่เมื่อเธอเสนอเรื่องหย่า... ฟู่เหยียนอันพบว่านักออกแบบในบริษัทนั้นสะดุดตาเป็นพิเศษ เขาค่อยๆ ทำความรู้จักกับเธอเรื่อยๆ จนกระทั่งวันหนึ่งเขาค้นพบตัวตนที่แท้จริงของเธอเข้า เขาเสียใจแล้ว
หน้าตาก็หล่อเหลา เท่าที่ปั้นหยาอยู่ด้วยก็คิดว่าคงจะดูไม่ผิด ฐานะคุณไม่ใช่ธรรมดา แต่ปั้นหยาก็ยังไม่รู้หรอกนะว่าถึงขั้นไหน จะหาผู้หญิงมานอนด้วยเมื่อไหร่ก็ได้ แต่จะบอกอะไรให้นะคะคุณฮัมดีนขา...” ปัณฑารีย์เขย่งเท้าขึ้นเล็กน้อย เพื่อให้ริมฝีปากแนบชิดกับใบหูฮัมดีน “ถึงปั้นหยาจะไม่ใช่ผู้หญิงที่ดีนัก แต่ก็รักตัวเองเป็น แล้วผู้ชายอย่างคุณ ปั้นหยาไม่เลือกมาดูแลชีวิตปั้นหยาหรอกค่ะ คุณแก่และน่าเบื่อเกินไป” ปึก!! เข่าเล็กกระทุ้งขึ้นไปเตะกึ่งกลางกายใหญ่ ถึงจะไม่รุนแรงอะไรมากนัก แต่ก็ทำให้ฮัมดีนเจ็บได้ไม่น้อย “ช่วยไม่ได้นะคะคุณฮัมดีน คุณเป็นคนสอนให้ปั้นหยาทำแบบนี้เอง”
ตลอดสิบปีที่ฉู่จินเหอรักเหลิ่งมู่หยวนฝ่ายเดียว เอาใจใส่กับเขาอย่างเต็มที่ แต่เธอไม่เคยคิดว่าที่แท้เธอเป็นแค่ตัวตลกคนหนึ่งเท่านั้น ที่สำนักงานเขตเพื่อทำการหย่า เหลิ่งมู่หยวนมองดูฉู่จินเหอด้วยความเย็นชาและพูดอย่างเหยียดหยามว่า "ถ้าเธอคุกเข่าลงและขอร้องฉัน ฉันอาจจะให้โอกาสเธอกอีกครั้ง ฉู่จินเหอเซ็นอย่างไม่ลังเลและออกจากตระกูลเหลิ่ง สามเดือนต่อมา ฉู่จินเหอปรากฏตัวอย่างเปิดเผย ในเวลานั้น เธอเป็นประธานเบื้องหลังของ LX นักออกแบบลับที่ล้ำค่าที่สุดในโลก และเจ้าของเหมืองที่มีมูลค่าหลายร้อยล้าน ทางตระกูลเหลิ่งคุกเข่าลงและขอร้องให้คืนดีและขอการให้อภัย ฉู่จินเหอแยู่ในโอบกอดของซีอีโอโจว ซึ่งเป็นคนใหญ่คนโตในโลกธุรกิจอย่างมีความุข เธอเลิกคิ้วพลางเยาะเย้ย "ฉันในตอนนี้ไม่ใช่คนที่พวกคุณมาเกี่ยวข้องได้"
ตายด้วยเงื้อมมือของเพื่อนร่วมสาขา เนเน่ เนตรนภา จึงทะลุมิติมาอยู่ในร่างเด็กน้อยวัยสิบหนาวที่ป่วยตาย นามเซี่ยซูเหยา มีบิดา พี่สาว พี่ชายที่เป็นห่วงนางมากกว่าสิ่งใด
ชูจี้ถูกเก็บไปอุปการะตั้งแต่ยังเด็ก ซึ่งถือเป็นความฝันของเด็กกำพร้าทั่วไปอย่างชูจี้ แต่ชีวิตหลังจากนั้นมันไม่ได้มีความสุขดั่งที่ชูจี้คิดฝันไว้เลย เธอต้องอดทนถูกเย้ยหยันและการทำทารุณจากแม่บุญธรรมของเธอ แต่ก็ยังโชคดีที่เธอได้รับความเมตตาจากคนใช้สูงวัยคนหนึ่งในบ้านหลังนั้น ชึ่งเป็นคนคอยดูแลและเอาใส่เธอเหมือนแม่แท้ ๆ ของเธอ จนกระทั่งคนใช้จากไปด้วยอาการป่วย ชูจี้ก็ถูกบังคับให้แต่งกับผู้ชายที่ไม่เอาการเอางานแทนลูกสาวแท้ ๆ ของพ่อแม่บุญธรรมของเธอเพื่อชดใช้ค่ารักษาพยาบาลของคนใช้ เรื่องราวจะเป็นเช่นเดียวกับซินเดอเรลล่าหรือไม่? อย่างไรก็ตาม ชายที่เธอจะแต่งงานด้วยนั้นไม่เหมือนเจ้าชายเลยสักนิดนอกจากรูปร่างหน้าตาของเขาที่สามารถเทียบเท่ากับเจ้าชายได้เท่านั้นเอง ลู่เหยี่ยนเป็นลูกชายนอกสมรสของครอบเศรษฐีครอบครัวหนึ่ง เขาใช้ชีวิตไปวันๆ (พอลอดไปด้วยค่ะ)มาโดยตลอด ที่เขาตกลงแต่งกับชูจี้ก็เพราะอยากจะทำให้ความปรารถนาสุดท้ายของแม่ของเขาสมหวังเท่านั้น แต่ในคืนวันแต่งงาน เขากลับพบว่าเจ้าสาวคนนี้มีพฤติกรรมที่ผิดกับที่เคยได้ยินได้ฟังมา โชคชะตาจะบันดาลให้พวกเขาเป็นอย่างไร และลู่เหยี่ยนจะเป็นดั่งที่เราคิดหรือไม่ สิ่งที่น่าประหลาดใจคือลู่เหยี่ยนมีหลายอย่างที่คล้ายๆ กับมหาเศรษฐีที่ใหญ่ที่สุดในเมืองนี้อย่างพิลึก สุดท้ายแล้ว ลู่เหยี่ยนจะสามารถรู้ได้หรือไม่ว่าชูจี้ คือเจ้าสาวจำเป็นที่ต้องได้แต่งงานแทนพี่สาวของเธอ การแต่งงานของพวกเขาจะเป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวสุดโรแมนติกหรือวิบากกรรมของชีวิต โปรด ติดตามและค้นหาชีวิตและเรื่องราวของทั้งสองคนด้วยกันเถอะ