ความอิจฉาน้องสาวต่างมารดาคือจุดเริ่มต้นของแผนการ “ชิงไอศูรย์” มาเป็นของตน เธอจึงใช้เล่ห์เหลี่ยมง่ายๆ คือวางยานอนหลับเขา พอตื่นขึ้นมาก็จะติ๋งต่างว่า เขากับเธอมีอะไรกัน ทว่าแผนเกิดผิดพลาด ยาที่ผสมในไวน์กลับเป็นยาปลุกเซ็กซ์ ผลที่ออกมาคือ ไอศูรย์มีความสัมพันธ์ทางกายกับเธอจริงๆ ในที่สุด ชเนตตีได้แต่งงานกับเขาตามตั้งใจ ทว่าผลที่ออกมา ไม่ได้เป็นไปตามที่คิดไว้ “เนยใส่อะไรในแก้วไวน์ของพี่ใช่ไหม ไม่อย่างนั้นพี่จะไม่มีวันอยู่ในสภาพแบบนี้” เขาถามอีกครั้งเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบ เสียงที่ถามเข้มห้วน ใบหน้ายังคงเรียบตึง สายตาถมึงทึงใส่ร่างอวบที่ย่นคอหนีน้ำเสียงแผดกร้าว “ตอบพี่มา” “ใส่อะไร เนยไม่รู้เรื่อง…ฮือ…พี่เจย์ทำผิดแล้วอย่ามาโทษว่าเนยวางยาพี่นะ…ฮือ” เธอยังคงปากแข็งต่อไป หลบสายตาแข็งกร้าวพัลวัน
1
เด็กหญิงชเนตตีหรือน้องเนยวัยสิบสองปีเดินถือสมุดพกหรือสมุดประเมินผลการเรียนด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม เธอตั้งใจว่าจะนำผลการเรียนไปอวดบิดาที่อาศัยอยู่บ้านอีกหลังหนึ่งกับภรรยาน้อยและลูกสาวอีกสองคน
เธอเดินเรื่อยมาจนถึงบ้านหลังดังกล่าวที่มีความใหญ่โตไม่แพ้กับบ้านที่ชเนตตีและมารดาอาศัยอยู่ แต่จะต่างกันตรงที่ว่า บ้านหลังนี้มีความรักและความอบอุ่นเนื่องจากอยู่ด้วยกันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ต่างกับบ้านที่เธออาศัยอยู่ลิบลับเพราะบ้านหลังนั้นมีเพียงเธอกับสุภัทราผู้เป็นแม่เพียงสองคน บ้านหลังใหญ่ที่มีห้องหับถึงแปดห้อง กว้างเกินไปในความรู้สึกของเธอ
“อ้าว คุณหนูเนย มาหาคุณผู้ชายเหรอคะ” ป้าอุไรแม่บ้านวัยสี่สิบเจ็ดปีของบ้านกิตติธรรมเอ่ยทัก ชเนตตีที่กำลังจะเดินเข้าไปในตัวบ้าน
“ค่ะป้าอุไร เนยจะมาอวดคุณพ่อค่ะ เนยสอบได้ที่หนึ่งค่ะป้า” ชเนตตีได้ทีอวดอุไรที่ยิ้มกว้าง ยินดีกับผลการเรียนของอีกฝ่าย
“เก่งจังเลยค่ะ คุณสินต้องดีใจและภูมิใจในตัวคุณหนูเนยแน่ๆ เข้าไปบอกคุณสินเลยค่ะ คุณสินอยู่ในห้องรับแขกค่ะ”
แม้ว่าปากของอุไรจะพูดว่า สิโรจน์จะดีใจและภูมิใจกับผลการเรียนของลูกสาวคนโต แต่ในใจของนางรู้ดีว่า มันไม่เป็นเช่นนั้น
“เนยไปหาคุณพ่อก่อนนะคะ”
ชเนตตีเองก็หวังว่าบิดาจะภูมิใจในตัวลูกสาวคนนี้ และจะมอบรางวัลให้ตนตามคำมั่นสัญญา ด้วยความดีใจเธอจึงรีบวิ่งไปยังห้องรับแขกทันที
“คุณพ่อขา คุณพ่อ” เสียงของชเนตตีดังมาก่อนตัว ทำให้คนถูกเรียกละสายตาจากหนังสือพิมพ์ เหลือบตามองเจ้าของเสียงที่วิ่งเข้ามาหาตนเพียงนิด ก่อนจะสนใจหนังสือพิมพ์ที่ตนอ่านต่อไป “คุณพ่อคะ เนยสอบได้ที่หนึ่งค่ะ”
พอมาทรุดกายลงนั่งข้างร่างบิดา ชเนตตีก็รีบบอกพร้อมกับยื่นสมุดพกให้สิโรจน์ที่ปรายตามองสมุดเล่มนั้นแล้วตวัดดวงตามองลูกสาวคนโต แต่ไม่คิดจะหยิบสมุดมาเปิดดูความสำเร็จของลูก แม้แต่จะยิ้มหรือแสดงออกให้เห็นว่าเขาภูมิใจและดีใจ เรียบเฉยราวกับว่าไม่ได้ยินดียินร้ายกับเรื่องที่ได้รับรู้
“อืม เก่งดี” จะมีเพียงคำพูดสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงเรียบเย็น พูดจบก็หลุบตาอ่านหนังสือพิมพ์ต่อไป
ชเนตตีหน้าสลดลงทันตา หัวใจของเธอห่อเหี่ยวอย่างบอกไม่ถูก ถึงแม้ว่าจะชินกับความห่างเหินของบิดาที่มีต่อตน แต่พอได้เห็นและสัมผัสครั้งใด ความรู้สึกดังกล่าวก็กระจายเต็มหัวใจดวงเล็กๆ ทุกครั้ง
“คุณพ่อสัญญากับเนยว่า ถ้าเนยสอบได้ที่หนึ่ง คุณพ่อจะให้รางวัลเนยค่ะ” ชเนตตีทวงสัญญา คนถูกทวงอึ้งไปชั่วครู่ เมื่อรู้ว่าตนเองสัญญาไว้กับลูกสาวคนโต
“แล้วอยากได้อะไรล่ะ” สิโรจน์ถามอย่างเสียมิได้
“เนยอยากได้…” ยังไม่ทันที่ชเนตตีจะบอกสิ่งที่ตัวเองอยากได้ เสียงของชนกนันท์ก็ดังขึ้น พร้อมกับเจ้าของเสียงที่วิ่งเข้ามา
“คุณพ่อคะ คุณพ่อ” ชนกนันท์วิ่งเข้ามากอดร่างของบิดาที่รีบพับหนังสือพิมพ์ในมือตั้งแต่ได้ยินเสียงของลูกสาวคนรอง แล้วอ้าแขนรับร่างของคนเรียก “คุณพ่อขา นกสอบได้ที่สิบเอ็ดค่ะ นกเก่งไหมคะคุณพ่อ”
ไม่ใช่เรื่องบังเอิญที่ผลการเรียนของชเนตตีกับชนกนันท์ออกพร้อมกัน เป็นเพราะทั้งคู่เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน ชั้นเดียวกันแต่ต่างห้อง และวันนี้ก็เป็นวันที่ทางโรงเรียนประกาศผลการเรียนกับนักเรียนทุกคน
“ลูกสาวพ่อเก่งจังเลยครับ เก่งที่สุดเลย”
สิโรจน์ไม่เพียงแค่พูด ใบหน้าของเขายังเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้ม หอมแก้มของลูกสาวคนรองทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะรั้งมากอดไว้แนบอก การกระทำของเขาต่างกับที่รู้ว่าชเนตตีสอบได้ที่หนึ่ง ต่างกันลิบลับก็ว่าได้ ทั้งที่ผลการเรียนของบุตรสาวคนโตดีกว่าชนิดเทียบไม่ติด
“คุณพ่อจะให้อะไรนกเป็นรางวัลคะ” ชนกนันท์ถามบิดา
“แล้วนกอยากได้อะไรล่ะลูก บอกพ่อมาสิ พ่อจะรีบไปซื้อให้” เขาเอ่ยถามทันควัน
“นกอยากได้ตุ๊กตาบลายธ์ตัวใหม่ค่ะ” เธอตอบของที่อยากได้
“เอาแค่ตัวเดียวเหรอลูก พ่อซื้อให้สองตัวเลยนะ ให้รางวัลคนเก่งของพ่อ”
ผู้เป็นพ่อใจดีเพิ่มให้อีกหนึ่งตัว คนที่กำลังได้ตุ๊กตาตัวใหม่ดีใจยกใหญ่ หอมแก้มบิดาหลายครั้ง
“คุณพ่อน่ารักที่สุดในโลกเลยค่ะ นกรักคุณพ่อค่ะ”
ผู้พูดกอดร่างของบิดา ใบหน้าและน้ำเสียงบ่งบอกถึงความสุข จนทำให้ลูกที่ถูกลืมรู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจแกมอิจฉาน้อง รวมทั้งเสียใจอยู่ครามครันกับความเฉยเมยของบิดาที่มีต่อตน
“มาอ้อนอะไรคุณพ่อล่ะลูก”
หทัยชนกภรรยาน้อยของสิโรจน์และเป็นแม่ของชนกนันท์พูดขึ้นเมื่อเดินเข้ามาในห้องรับแขก สายตาของนางมองแต่สองพ่อลูก ไม่ได้ชายตาแลมองลูกของเมียหลวงเลยแม้แต่น้อย
“นกมาอวดคุณพ่อค่ะว่า นกสอบได้ที่สิบเอ็ดแล้วคุณพ่อก็จะซื้อน้องบลายธ์ให้นกสองตัวค่ะ” คนเป็นลูกตอบด้วยรอยยิ้ม
“ที่ห้องของนกก็มีตั้งหลายตัวแล้วนะลูก จะเอามาทำไมเยอะแยะคะ แม่ว่าเปลี่ยนเป็นซื้อเสื้อผ้าสวยๆ ดีไหมลูก”
คนเป็นแม่เห็นว่า ตุ๊กตาบลายธ์ที่ลูกสาวมีอยู่นั้นมีร่วมยี่สิบตัว เธอจึงคิดว่า หาซื้ออย่างอื่นบ้างจะเหมาะกว่า
“อย่าไปห้ามลูกเลยปิ่น นกเป็นผู้หญิงก็ต้องชอบตุ๊กตาไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าซื้อหุ่นยนต์สิถึงต้องห้าม”
สิโรจน์รักและตามใจลูกสาวทั้งสองคนที่เกิดกับหทัยชนกมาก เขาจึงค้านความคิดของภรรยา
“คุณพี่ก็ตามใจลูกแบบนี้ระวังเถอะจะเคยตัว”
หทัยชนกพูดเสียงติดงอน สิโรจน์จึงรั้งตัวภรรยามานั่งข้างๆ โดยดันร่างของชเนตตีให้ออกห่างร่างของตน เพื่อให้มีพื้นที่ว่างมากพอให้ภรรยาน้อยนั่ง ก่อนจะใช้ลำแขนโอบกอดและหอมนางอย่างเอาใจ
ชเนตตีที่รู้สึกตัวว่าตนเองเป็นส่วนเกิน หน้าเศร้าหมอง น้ำตาเอ่อคลอ หัวใจดวงน้อยสั่นไหว ความเสียใจน้อยใจอาบไปทั่วและลามลึกทุกอณูความรู้สึก มองร่างของหทัยชนกและชนกนันท์ที่อยู่ในอ้อมแขนของสิโรจน์ด้วยความเสียใจ
เด็กหญิงชเนตตีอยากไปอยู่ตรงนั้น อยู่ในอ้อมแขนของสิโรจน์ ต้องการให้ผู้เป็นพ่อกอดและหอม อยากรู้เหลือเกินว่า อ้อมแขนของสิโรจน์จะอบอุ่นสักเพียงใด เธอปรารถนาจะซึมซับความรู้สึกนั้นมานานตั้งแต่จำความได้ แต่ไม่เลย ไม่เคยได้สัมผัส วันนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุดของเด็กหญิงที่จะได้รู้ซึ้งถึงความรู้สึกที่ต้องการสัมผัส ทว่ามันคงไม่ได้เป็นไปตามที่คาดคิด
เพียงแค่ได้เห็นใบหน้าสวย สรีระหน้าฟัดของ พลอยพัตรา ทำให้ เฟอเดอริค มอโร อยากจะคว้าตัวเธอมาเป็นดอกไม้บนเตียงของเขาทันที คนเจ้าเล่ห์และเจ้าบุญทุ่มอย่างเขาจึงทำทุกอย่างที่จะได้ดอกไม้ดอกนี้มาเชยชม
"ฮือๆ .. ทำไมทำอย่างนี้กับรุ้ง ทำไมต้องเป็นเดียร์ ทำไม?" ความรู้สึกเสียงใจของหทัยชนกจะน้อยกว่านี้ หากคนที่เป็นภรรยาน้อยของสามีไม่ใช่เกวลิน...เพื่อนรักของเธอ
"คนอย่างเธอความเจ็บปวดแค่นี้มันยังน้อยเกินไป เธอต้องเจ็บเหมือนกับที่มินามิเจ็บ และต้องเจ็บยิ่งกว่าหลายร้อยเท่า ฉันจะทำให้เธอตายอย่างช้าๆ แต่ทุกข์ทรมานแสนสาหัส เธอจะไม่ได้ยินหรือสัมผัสกับความอ่อนโยนเมตตาจากฉัน สิ่งที่ฉันจะมอบให้เธอมีเพียงความเกลียดชังเท่านั้น จำใส่กะโหลกไว้" เรียวเหวี่ยงร่างงามไปที่เตียงนอนอย่างแรง มือหนาจับที่ข้อเท้าของเธอไว้แน่นเมื่อรู้ว่าเธอกำลังกระเถิบตัวหนี "หนีสิ หนีเลย ถ้าเธอหนี คนที่ตายเป็นคนแรกคือแม่ของเธอ ฉันจะให้แม่เธอตายเหมือนหมูเหมือนหมาข้างถนน เหมือนกับที่เธอฆ่าแม่ของฉัน" ดวงตาเขาเปล่งแสงแรงกล้าของความอาฆาต เมื่อนึกถึงข้อนี้อยากจะฆ่าหญิงสาวตรงหน้าให้ตายตามมารดาและคนที่เขารัก แต่ความตายอาจจะไม่ทำให้เขาสะใจ นอกจากกระกระทำต่อไปนี้ที่สะใจเขามากที่สุด ทรรศิกาหยุดดิ้นรนขัดขืน เขาจึงปล่อยข้อเท้าของเธอให้เป็นอิสระ จัดการปลดเปลื้องเสื้อผ้าต่อหน้าเธอ ความกลัวเริ่มเกาะกินจิตใจของเธอมากขึ้นเรื่อยๆ อยากจะวิ่งหนีออกไปจากที่นี่ แต่เมื่อนึกถึงมารดา ทำให้เธอก้มหน้ารับชะตากรรมที่กำลังจะเกิดขึ้น เรื่องที่คุณน่าจะสน
“ว้าย!!..” เธอร้องได้เพียงเท่านั้น ก่อนที่ปากของหยาดน้ำค้างจะถูกมือใหญ่ของใครบางคนปิดเอาไว้ ลำแขนอีกข้างรัดร่างน้อยไว้แน่น ก่อนจะลากไปที่พุ่มไม้รกข้างทาง “อย่าดิ้น อย่าร้อง ไม่งั้นจะจับปล้ำมันตรงนี้แหละ” เสียงที่พูดชิดเรียวหูสะอาด ทำให้เธอรู้ว่าเจ้าของเสียงนั้นคือใคร..เหมันต์ วิเศษเดโช เขาดันร่างเล็กให้แผ่นหลังแนบชิดกับต้นไม้ใหญ่ขนาดสี่คนโอบ ใช้ลำแขนกักร่างบางเอาไว้ “ปล่อยนะ” หญิงสาวพูดเสียงเบาทว่าหนักแน่น เธอไม่กล้าพูดเสียงดังมาก เพราะกลัวว่าคนที่เดินผ่านไปผ่านมาจะได้ยิน “ไปกล่อมพ่อหรือกล่อมลูกมาล่ะ ถึงได้อ้อยอิ่งเป็นชั่วโมงแบบนี้” น้ำเสียงของเหมันต์เขียวเหมือนกับใบหน้าที่เขียวคล้ำด้วยความโกรธ “มันเรื่องของฉัน..คุณไม่เกี่ยว..เราไม่มีอะไรต่อกันแล้ว คุณก็ได้ในสิ่งที่คุณต้องการแล้วนี่ จะมาเอาอะไรกับฉันอีก ปล่อยนะ ฉันจะกลับที่พัก” หยาดน้ำค้างพยายามดิ้นรนหนีพันธนาการที่รัดร่างอยู่ แต่ทว่าลำแขนของเขานั้นหาได้คลายออกไม่ ยิ่งรัดแน่นมากกว่าเก่า เมื่อได้ยินวลีของเธอ “ทำไมผมจะไม่เกี่ยว ในเมื่อน้ำค้างเป็นเมียของผม..เป็นเมีย หรือว่าจำไม่ได้ว่าเราสองคนมีความสุขกันมากแค่ไหน” เขาเท้าความหนหลังให้เธอได้ฟัง ฝ่ายหญิงนิ่งเงียบกับคำพูดของเขา เธอไม่เถียงว่ามีความสุขมากแค่ไหนเวลาได้อยู่ใกล้ชิดกับเรือนกายที่แสนแข็งแรงและอบอุ่น หากแต่ความทุกข์และความเสียใจที่เธอได้รับนั้นมันก็มากมายเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นความสุขหรือว่าความทุกข์ เธอก็ไม่มีวันลืมเช่นกัน และไม่มีทางจะกลับไปจมกับความทุกข์อีกแล้ว “ฉันไม่ใช่เมียคุณ..ถ้าคุณคิดว่าการที่เรามีอะไรกันแล้วฉันจะเป็นเมียคุณ พี่ว่านก็ต้องเป็นสามีของฉันเหมือนกัน” หยาดน้ำค้างคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุด วิธีที่เขาไม่มีทางมายุ่งเกี่ยวกับเธออีก อ้อมแขนที่รัดร่างนิ่มคลายออกโดยอัตโนมัติ หัวใจของคนที่ฟังเต้นเร็ว ดวงตาคมเข้มสีดำเรืองแสงในความมืดที่โรยตัวไปทั่วบริเวณ บ่งบอกอะไรหลายอย่างในแววตา เสียใจ ไม่คาดฝัน ไม่แน่ใจ
จะกี่หมัดก็ไม่หวั่น กี่ยกก็ไม่กลัว เธอจะ Knock Out ด้วยหัวใจติดปลายนวม ภัทรียายินดีสานต่อค่ายมวยและรับผิดชอบหนี้สินรุงรังต่อจากพ่อซึ่งเสียชีวิต แต่ ณ วันนี้หนี้สินสามปีที่ผัดผ่อนมาตลอดทำให้เธอมืดแปดด้าน ไม่ว่าความหวังแสนริบหรี่แค่ไหน เธอก็คว้าไว้อย่างไม่รอช้า ไม่เว้นแม้แต่การเป็นภรรยาหลอกๆ ต่อให้ต้องโดนแม่สามีดูถูกทุกขณะ น้องสาวสามีจ้องเหยียดชาติกำเนิดทุกครั้งที่เจอหน้า ภัทรียาก็ไม่หวั่นเกรงแม้แต่น้อย เพราะเธอคือ... ‘มะปราง ลูกจ่าดาบ ศิษย์จอมทอง’ นักมวยสาวหุ่นกระชากใจหนุ่มๆ หากไม่เพราะกำลังจะถูกแม่จับคลุมถุงชน ธัชธรรมจึงต้องเลือกใช้วิธีสิ้นคิด จ้างนักมวยสาวหมัดหนักที่กำลังร้อนเงินมาเป็นภรรยากำมะลอ จดทะเบียนจริง อยู่ด้วยกันจริง...และทำท่าว่าจะต้องอยู่ด้วยกันอีกนาน รออีกอย่างเดียวเท่านั้น... รอให้สะใภ้กำมะลอยอมเป็นภรรยาตัวจริงของเศรษฐีหนุ่มหล่อ
“บ้าอำนาจชะมัด” หญิงสาวแอบบ่น กระแทกตัวลงนั่งริมสุดของขอบโซฟา ทิ้งระยะห่างจากเขาให้มากที่สุด “นี่แม่คุณ มานั่งใกล้หน่อยสิ นั่งไกลอย่างนั้นแล้วจะบริการฉันได้ยังไง ไม่เห็นเหรออาหารหมดถ้วยแล้ว” ถ้ารู้มาก่อนว่าคนที่จองห้องวีไอพีคือเขาคนนี้ เธอไม่ยอมเป็นพนักงานเสิร์ฟจำเป็นแน่นอน หญิงสาวเขยิบร่างกายเข้ามาอีกนิด ตักอาหารใส่ถ้วย ก่อนจะวางไว้ตรงหน้าเขาเหมือนเดิม “ป้อนด้วยสิ” เขาพูดอย่างอารมณ์ดี “ดิฉันมีหน้าที่คอยให้บริการอำนวยความสะดวกให้กับคุณ ตามที่เห็นสมควรนะคะ การป้อนอาหารเป็นนอกหน้าที่ของดิฉัน” สร้อยระย้าพูดด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเข้ม จ้องมองอีกฝ่ายอย่างไม่พอใจ ชายหนุ่มกระตุกยิ้มกับท่าทีแสนพยศของเธอ ขยับร่างกายเข้ามาประชิดร่างบางอย่างรวดเร็ว โดยที่หญิงสาวไม่ทันตั้งตัว “ว้าย!!..ปล่อยนะ” หญิงสาวร้องเสียงหลง ผลักร่างหนาให้ออกห่าง แกะมือใหญ่ที่รัดเอวของเธอไว้แน่น แต่ยิ่งพยายามเอวของเธอก็ต้องถูกรัดแน่นมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นร่างงามลอยขึ้นเหนือเบาะ เนื่องจากเขาอุ้มร่างของเธอมานั่งบนตัก “พยศนักนะ” ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้าปฏิเสธเขามาก่อน เห็นจะมีเพียงผู้หญิงกลิ่นกายเย้ายวนใจคนนี้ ยิ่งชิดใกล้เลือดในกายของเขาเดือดพล่าน ความต้องการปะทุขึ้นมาทันที เรียวปากใหญ่ปิดสนิทปากนุ่มที่กำลังจะอ้าปากต่อว่า ทำให้เขาสอดแทรกลิ้นร้อนชื้นเข้าไปภายในโพรงปากอย่างง่ายดาย เรียวลิ้นหนาตวัดพัดโบกกับลิ้นนุ่มที่ตื่นกลัวทำอะไรไม่ถูก เนื่องจากจูบนี้เป็นจูบแรกของชีวิตสาว สมองของเธอนั้นเริ่มมีกลุ่มหมอกควันสีขาวเข้ามาปกคลุม ความว่างเปล่ากำลังเข้ามาแทนที่ ไม่มีสตินึกคิด ความหวานนุ่มชวนหอมหวานที่เขาได้สัมผัส กระตุ้นความเป็นชายของเขาให้ตื่นจากการหลับใหล เสียงครางที่ดังทักท้วงในลำคอสาว เสมือนยากระตุ้นให้ความดันโลหิตของเขาเสียดทานกับความต้องการทางเพศ ร้อนรุ่มไปทั้งกาย มือใหญ่ลูบแผ่นหลังบางไปมา ก่อนจะวกมากอบกุมทรวงอกขนาดพอเหมาะกับฝ่ามือของเขา ไม่ใหญ่มากเกินไปจนล้นมือและไม่เล็กจนเสียอารมณ์
เว่ยจื้อโหยวลืมตาตื่นขึ้นมาอีกครั้งพบว่าตนอยู่ในยุคสมัยที่ไม่คุ้นเคยสิ่งรอบกายดูโบราณล้าหลัง โลกโบราณที่ไม่มีในประวัติศาสตร์โลก ยังไม่ทันได้เตรียมใจก็ถูกส่งให้ไปแต่งงานกับชายยากจนที่ท้ายหมู่บ้าน สาเหตุที่เว่ยจื้อโหย่วถูกส่งมาให้แต่งงานกับชายที่ขึ้นชื่อว่ายากจนที่สุดในหมู่บ้านนั้น เพราะนางเกิดไปต้องตาต้องใจเศรษฐีผู้มักมากในกามเข้า เพื่อหาทางหลีกเลี่ยงไม่ให้ถูกบ้านใหญ่ขายไปเป็นอนุภรรยาของเศรษฐีเฒ่า พ่อแม่ของนางจึงยอมแตกหักจากบ้านใหญ่และท่านย่าที่เห็นแก่ตัวและลำเอียงเป็นที่สุด ด้วยเหตุนี้พ่อแม่ของนางจึงตัดสินใจยกนางให้กับอวิ๋นเซียว ชายหนุ่มที่แสนยากจนข้นแค้น ที่เพิ่งเสียบิดามารดาไป อีกทั้งยังทิ้งน้องชายน้องสาวเอาไว้ให้เขาเลี้ยงดู นอกจากนี้ยังมีป้าสะใภ้มหาภัยที่คอยแต่จะมารังแกเอารัดเอาเปรียบสามพี่น้อง สิ่งที่ย่ำแย่ที่สุดไม่ใช่ป้าสะใภ้มหาภัย แต่ มันคืออะไรแต่งงานนางไม่ว่ายังไม่ทันได้เข้าหอสามีหมาดๆ ก็ถูกเกณฑ์ไปเป็นทหารในสงครามระหว่างแคว้น มันไม่มีอะไรเลวร้ายไปมากว่านี้อีกแล้วสำหรับ เว่ยจื้อโหยว หากสามีทางนิตินัยของนางตายในสนามรบ ก็ไม่เท่ากับว่านางเป็นหม้ายสามีตายทั้งที่ยังบริสุทธิ์หรอกหรือ แถมยังต้องเลี้ยงดูน้องชายน้องสาวของอดีตสามีอีก สวรรค์เหตุใดถึงได้ส่งนางมาเกิดใหม่ในที่แบบนี้
อวิ๋นเจินอาศัยอยู่ในตระกูลอวิ๋นมาเป็นเวลา 20 ปี กลับพบว่าเธอเป็นลูกสาวปลอม พ่อแม่บุญธรรมของเธอวางยาเธอเพื่ออยากจะได้เงินมาลงทุน หลังจากที่อวิ๋นเจินรู้เรื่องนี้ เธอก็ถูกไล่กลับไปที่ชนบท จากนั้นเธอก็ค้นพบว่าตัวเองคือลูกสาวแท้ๆ ของตระกูลเฉียวและมีชีวิตที่หรูหราสุด ๆ หลังจากกลับมา เธอได้รับความรักจากครอบครัวและมีชื่อเสียงโด่งดัง น้องสาวจอมปลอมใส่ร้ายอวิ๋นเจิน แต่เธอไม่คาดคิดว่าอวิ๋นเจินจะมีความสามารถต่างๆ เมื่อต้องเผชิญกับการยั่วยุ เธอได้แสดงความสามารถและทักษะต่างๆ มากมายเพื่อจัดการผู้รังแก มีข่าวลือกันว่าอวิ๋นเจินยังคงโสด และชายหนุ่มชื่อดังแห่งเมืองงก็ผลักเธอไปเข้ากำแพง "คุณนายกู้ ถึงตามราเปิดเผยตัวตนได้แล้วนะ"
จางหยู่เสวียน เดิมทีเป็นสตรีปากร้ายและถูกผีพนันเข้าสิงจนไม่ใส่ใจลูกและสามีที่เกิดอุบัติเหตุจนพิการไป สตรีนางนั้นก็เริ่มทอดทิ้งสามีแล้วเลือกที่จะทอดสะพานให้บัณฑิตหนุ่มหน้าตาดีคนหนึ่ง จนทำให้ภรรยาของเขาเกิดความหึงหวงผลักนางตกน้ำจนพบจุดจบที่น่าอดสู ทว่าเมื่อจางหยู่เสวียน นักฆ่าสาว เจ้าของรหัสหมายเลข 13 ในองค์กรนักฆ่าระดับโลกมีเหตุให้ถูกฆ่าตาย เนื่องจากไม่ยอมสังหารคนดี เธอจึงได้รับโอกาสใหม่จากสวรรค์เพื่อตอบแทนความดีครั้งนี้ในการมาเกิดใหม่ในร่างคนอื่นในยุคจีนโบราณ ทว่าเจ้าของร่างเดิมนั้นทำตัวเหลวแหลก ไม่เคยใส่ใจความรู้สึกของครอบครัว จนถึงขนาดคิดขายลูกกิน นักฆ่าสาวที่ข้ามเวลามาจากอนาคตจึงต้องทำทุกทางเพื่อแก้ไขเรื่องราวที่ยุ่งเหยิงนี้ ก่อนที่จะมีจุดจบเลวร้ายไม่ต่างไปจากเจ้าของร่างเดิม ชีวิตใหม่ครั้งนี้ นางจะใช้มันอย่างดีเพื่อดูแลครอบครัวนี้ให้มีความสุข และลบแผลใจแย่ๆ ให้หมดไปจากทุกคนในครอบครัว "ท่านแม่จะทิ้งเราเหรอ!" ไม่รู้เด็ก ๆ ที่วิ่งเล่นกันอยู่ด้านนอกเข้ามาได้ยินที่ประโยคไหน เข้าใจว่าผู้เป็นแม่จะออกไปและไม่กลับมาอีก สองพี่น้องกอดหมับที่ขามารดาคนละข้าง ทิ้งน้ำหนักลงพื้นเต็มที่ หากจะไปพวกเขาจะเกาะหนึบนางไปเช่นนี้ "ท่านแม่อย่าทิ้งข้าเลยนะเจ้า" ซ่งอวี้หลานร้องไห้โฮ น้ำตาทะลักออกจนชายชุดนางชุ่มในเวลาไม่กี่พริบตา ทางด้านซ่งหยวนหมิงก็รู้สึกว่าจะแพ้ไม่ได้ เลยกลั้นใจบีบน้ำตาจนหน้าแดง เห็นลูกทุ่มเทช่วยเขาขนาดนี้ ซ่งอี้หนานก็คุกเข่าลง ประคองมือนางไว้ไม่ปล่อย ใบหน้าคมคายจากมุมมองที่สูงกว่า ทำให้เขาดูคล้ายสุนัขตัวโต "ข้า เอ่อ" จางหยู่เสวียนพูดไม่ออก
นางเจ็บปวดปางตายเมื่อเขาโยนร่างบอบช้ำทิ้งไว้หลังจวนโดยไม่แยแส เมิ่งลี่เฟยน้ำตาไหลพรากทว่ากลับไม่ทำให้คนที่เพิ่งเหยียบย่ำร่างกายเล็กเห็นใจแต่ประการใด"เฝ้านางเอาไว้ให้ดีอย่าให้ออกมาทำเรื่องชั่วอีก"
เสิ่นซือหนิงซ่อนตัวตนไว้ยอมทำทุกอย่างให้ แต่ความจริงใจของเธอกลับถูกสามีทำลายไปหมด และสิ่งที่เธอได้รับนั้นคือข้อตกลงการหย่า ด้วยความผิดหวังเธอจึงหันหลังจากไปและกลายเป็นตัวเองที่แท้จริงอีกครั้ง หลังจากได้เห็นความใกล้ชิดของสามีกับคนรักของเขา เธอก็จากไปด้วยความผิดหวัง จากนั้นเปิดเผยตัวตนที่เป็นนักปรุงน้ำหอมอัจฉริยะระดับนานาชาติ ผู้ก่อตั้งองค์กรข่าวกรองที่มีชื่อเสียง และผู้สืบทอดในโลกแฮ็กเกอร์ อดีตสามีของเธอเลยเสียใจมาก เมื่อเมิ่งซือเฉินรู้ว่าตัวเองทำผิด เขาก็เสียใจมาก หนิง ผมผิดไปแล้ว ให้โอกาสผมอีกครั้งเถอะ ทว่าฮั่วจิ่งชวนขาพิการนั้นกลับลุกขึ้นยืนและจับมือกับเธอว่า "อยากคบกับเธอ นายยังไม่มีค่าพอ"
ลู่เจียหง นักวิทยาศาสตร์ชื่อดังในยุคปัจจุบัน จับผลัดจับพลูลงลิฟต์ก็โผล่ไปยังยุคโบราณ แถมยังอยู่ในชุดเจ้าสาวอีก ถ้าประหลาดแค่นั้นไม่พอคงไม่เป็นไร ถ้าไม่พบว่าตัวเองกำลังถูกตามล่าจากว่าทีสามีที่ยังไม่ทันเข้าหอ งานนี้นางถือคติไม่ยุ่งเกี่ยวต่างคนต่างอยู่ แต่ท่านอ๋องผู้นั้นก็เอาแต่วนเวียนอยู่ข้างตัวนางไม่หยุด แบบนี้นางจะหย่าสำเร็จได้ตอนไหนกัน!!